• ไปยังแอป
  • เลือกจุดหมายปลายทาง
  • แพลนเที่ยวจางเจียเจี้ยในจีน 3 วันจัดเต็ม! เที่ยวครบทั้งภูเขาอวตาร ถ้ำเทียนเหมิน และไฮไลต์ห้ามพลาด

    Klook Thailand
    Klook Thailand
    อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 2025
    more
    แพลนเที่ยวจางเจียเจี้ยในจีน 3 วันจัดเต็ม!

    สัมผัสโลกอวตารของจริงที่จางเจียเจี้ย เสาหินยักษ์ สะพานกระจก และวิวสุดอลังการ

    จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie) คือหนึ่งในจุดหมายในฝันที่อยากไปมานาน และในที่สุดก็ได้ไปเยือน! วิวตรงหน้าเรียกได้ว่าสวยเกินบรรยาย แต่บอกเลยว่าการวางแผนเที่ยวจางเจียเจี้ยไม่ง่ายอย่างที่คิด
    แผนเที่ยวจางเจียเจี้ย จุดชมวิวหยวนเจียเจี้ย
    เพราะทั้งอุทยานป่าแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park), ภูเขาเทียนเหมิน (Tianmen Mountain) และสะพานกระจกแกรนด์แคนยอน ต่างก็อยู่คนละโซน ต้องซื้อตั๋วแยก แถมการหาข้อมูลเรื่องเส้นทางเข้าชม จุดขึ้นกระเช้า หรือวิธีเดินทางให้คุ้มและไม่งงนั้น ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยทีเดียว
     ภูเขาฮัลเลลูยา (Hallelujah Mountain) จากภาพยนตร์ Avatar
    จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie) โด่งดังจากเสาหินทรายสูงตระหง่านราวกับลอยได้ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับ ภูเขาฮัลเลลูยา (Hallelujah Mountain) จากภาพยนตร์ Avatar
    แต่ที่นี่ยังมีอะไรให้ค้นหาอีกมาก ทั้งเส้นทางเดินเขาในสายหมอก ทางเดินกระจกสุดหวาดเสียว สะพานแขวนกลางหุบเขา และถ้ำโบราณสุดตระการตา ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเสพวิว สายแอดเวนเจอร์ หรือสายถ่ายรูป บทความนี้จะช่วยให้คุณเที่ยวจางเจียเจี้ยได้ครบ จบใน 3 วัน โดยไม่ต้องเสียเวลาปวดหัวหาข้อมูลเอง

    โค้ดส่วนลดเที่ยวจีน สูงสุด 550.-

    China's Wonders พิชิตมรดกโลกในจีน

    สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปเที่ยวจางเจียเจี้ย

    🗓️ จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie) ไม่ใช่ที่เที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ

    พื้นที่ของจางเจียเจี้ยกว้างมาก และจุดท่องเที่ยวหลักอย่าง อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie), ภูเขาเทียนเหมิน (Tianmen), และ แกรนด์แคนยอน ต่างตั้งอยู่ห่างกันคนละทิศคนละทาง แถมแต่ละที่ก็มีสถานที่น่าสนใจให้ชมเยอะมาก จึงต้องใช้เวลาในการเที่ยวมากกว่าหนึ่งวันแน่นอน
    หากจะเดินทางไปจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie) ส่วนใหญ่ต้องนั่งรถไฟความเร็วสูงจากเมืองใหญ่ เช่น ฉางซา (Changsha), ฉงชิ่ง (Chongqing) หรือกว่างโจว (Guangzhou) ซึ่งใช้เวลาราว ๆ 4 - 5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เลือก
    ภาพรวมเส้นทางท่องเที่ยวจางเจียเจี้ย

    🎟 อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ภูเขาเทียนเหมิน และแกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย คือคนละสถานที่กัน

    แม้ทั้งหมดจะถูกรวมเรียกในชื่อเดียวว่า “จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie)” แต่จริง ๆ แล้วทั้งสามแห่งนี้ตั้งอยู่คนละโซน มีทางเข้าแยกกัน ซื้อตั๋วต่างหาก และต้องวางแผนการเดินทางแยกกันชัดเจน

    ไปเที่ยวจางเจียเจี้ย พักที่ไหนดี อู่หลิงหยวน หรือ จางเจียเจี้ย?

    แผนเที่ยวจางเจียเจี้ย ประเทศจีน อู๋หลิงหยวนและจางเจียเจี้ย
    จุดนี้หลายคนอาจสับสน เพราะแม้อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park) จะเป็นไฮไลต์หลัก แต่เมืองที่ใกล้กับทางเข้าอุทยานกลับไม่ใช่ “จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie)” อย่างที่หลายคนเข้าใจ หากแต่เป็น “อู่หลิงหยวน (Wulingyuan)”
    • อู่หลิงหยวน (Wulingyuan): อยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย และแกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย เหมาะกับการเที่ยวชมเสาหินอวตารและสะพานกระจก
    • จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie): ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาเทียนเหมิน (Tianmen Mountain)
    สำหรับทริปนี้ เราเลือกพัก 2 คืนที่ อู่หลิงหยวน (Wulingyuan) และอีก 2 คืนที่ จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie) โดยมาถึงดึกในคืนแรกและเข้าที่พักที่ Wulingyuan ทันที เพื่อให้เช้าวันถัดไปสามารถเริ่มเที่ยวอุทยานได้เลย
    การแบ่งที่พักระหว่างสองพื้นที่เเบบนี้ ช่วยให้มีเวลา 3 วันเต็มๆ สำหรับการเที่ยวอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie), สะพานกระจกแกรนด์แคนยอน, และภูเขาเทียนเหมิน (Tianmen) โดยไม่ต้องรีบร้อน แถมยังช่วยลดเวลานั่งรถไป - กลับได้เยอะมากด้วย!

    ต้องซื้อตั๋วอะไรบ้างในการไปเที่ยวจางเจียเจี้ย?

    การวางแผนเที่ยวจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie) อาจดูงงๆ อยู่บ้าง เพราะแต่ละจุดเที่ยวมีทางเข้าและตั๋วแยกกัน มาดูสรุปง่ายๆ ของตั๋วที่ต้องใช้กันดีกว่า!

    1) ตั๋วเข้าอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park)

    แผนเที่ยวจางเจียเจี้ย ประเทศจีน ไฮไลต์ห้ามพลาดที่อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย
    ถ้าอยากเที่ยวให้ครบไฮไลต์หลักในเขตชมวิวธรรมชาติอู่หลิงหยวน (Wulingyuan Scenic Area) แนะนำให้ซื้อตั๋วแบบ Zhangjiajie Forest Park + Three Cableways and One Elevator หรือที่เรียกว่า ตั๋วแบบหลายเที่ยว (Multi-trip) ซึ่งครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวหลักทั้งหมดในอุทยานฯ ได้แก่:
    • ยวนเจียเจี้ย (Yuanjiajie ) จุดชมวิวที่โด่งดังที่สุด เห็นเสาหินที่เป็นแรงบันดาลใจให้ ภูเขาฮัลเลลูยา (Hallelujah Mountain) จากภาพยนตร์ Avatar
    • เทียนจื่อซาน (Tianzi Mountain) ภูเขาที่มีวิวพาโนรามาแบบ 360 องศา มองเห็นทะเลหมอกและยอดเขานับไม่ถ้วน
    • หยางเจียเจี้ย (Yangjiajie) โซนที่คนนิยมไปเดินเขา ชมหน้าผาแปลกตาและธรรมชาติที่สมบูรณ์
    • ลำธารเเส้ทอง (Golden Whip Stream) เส้นทางเดินเลียบลำธารในหุบเขา ร่มรื่น เงียบสงบ เหมาะกับการเดินเล่นชมธรรมชาติ
    ตั๋วนี้ใช้ได้ต่อเนื่อง 4 วัน รวมบริการรถในอุทยานแบบไม่จำกัดรอบ และนั่งกระเช้าเทียนจื่อซาน (Tianzi Mountain Cableway), กระเช้าหยางเจียเจี้ย (Yangjiajie Cableway), กระเช้าหวงซือจ้าย (Huangshizhai Cableway) รวมถึงลิฟต์ไป่หลง (Bailong Elevator) ที่สูงที่สุดในโลกได้ไม่จำกัดครั้ง
    ส่วนตัวเคยใช้ตั๋วนี้ขึ้น - ลงกระเช้าหยางเจียเจี้ย (Yangjiajie Cableway) เพื่อถ่ายรูปวิวโดยเฉพาะ และยังรอจนได้ขึ้นตู้ที่คนน้อยเพื่อถ่ายรูปสวยๆ ด้วย ตั๋วนี้ให้อิสระในการเที่ยวมาก เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องจ่ายเงินเพิ่มทุกครั้งที่อยากขึ้นกระเช้าหรือลิฟต์

    2) ตั๋วสะพานกระจกจางเจียเจี้ย / แกรนด์แคนยอน (Zhangjiajie Glass Bridge / Grand Canyon)

    แผนเที่ยวจางเจียเจี้ย ไฮไลต์แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย
    สถานที่แห่งนี้อยู่ใน แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Grand Canyon Scenic Area) ซึ่ง ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย แต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งที่ได้รับความนิยมสูงมาก ตั๋วนี้รวมค่าเข้า สะพานกระจกจางเจียเจี้ย สะพานกระจกที่เคยสร้างสถิติ “ยาวที่สุดและสูงที่สุดในโลก” ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปยอดฮิต นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกเพิ่ม กิจกรรมเดินเขาในแกรนด์แคนยอน ที่มีทั้งน้ำตก ลำธาร และเส้นทางเดินชมธรรมชาติให้เลือก
    ⏰ ตั๋วจะระบุช่วงเวลาเข้าชม และจำกัดจำนวนคนต่อวัน แนะนำให้ จองล่วงหน้า เพื่อให้ได้ช่วงเวลาที่ต้องการ และหลีกเลี่ยงการรอคิวนาน

    3) ตั๋วภูเขาเทียนเหมิน (Tianmen Mountain)

     แผนเที่ยวจางเจียเจี้ย จุดไฮไลต์ห้ามพลาดบนเขาเทียนเหมิน
    ภูเขาเทียนเหมิน (Tianmen) ตั้งอยู่ในตัวเมือง จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie City) และ ใช้ตั๋วแยกต่างหากจากอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยเมื่อลงทะเบียนจองตั๋ว ต้องเลือกเส้นทางระหว่าง Route A, B หรือ C แม้ทั้ง 3 เส้นทางจะพาไปยังสถานที่เดียวกัน เช่น ระเบียงกระจก ทางเดินเลียบหน้าผา และประตูสวรรค์ (Heaven’s Gate) แต่จะแตกต่างกันตรง ลำดับของการเข้าชม เพื่อช่วยกระจายจำนวนผู้เข้าชมในแต่ละช่วงเวลา
    Klook Tip: กระเช้าของภูเขาเทียนเหมิน (Tianmen) เป็นหนึ่งในกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลก แนะนำให้ลองนั่ง! โดยเฉพาะ Route A หรือ B ที่มักขายหมดเร็วมาก ควรจองล่วงหน้าจะดีที่สุด

    ไฮไลต์แพลนที่เที่ยวจางเจียเจี้ย 3 วัน

    วัน

    ไฮไลต์

    วันที่ 1: อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย

    🚡 ลิฟต์ไป่หลง
    🌄 หยวนเจียเจี้ย
    🌄 หยางเจียเจี้ย
    🏞️ ภูเขาเทียนจื่อซาน

    วันที่ 2: แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย หรือ เที่ยวต่อในอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย

    ตัวเลือกที่ 1: แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย

    🌉 สะพานกระจกจางเจียเจี้ย
    🌿 เส้นทางเดินแกรนด์แคนยอน

    ตัวเลือกที่ 2: อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย

    ⛰️ จุดชมวิวหวงซื่อจ้าย
    🚶‍♂️ เส้นทางเดินลำธารแส้ทอง

    วันที่ 3: ภูเขาเทียนเหมิน

    🚠 กระเช้าเทียนเหมิน
    🩻 ทางเดินกระจก
    ⛰️ ถ้ำเทียนเหมิน “ประตูสวรรค์”
    🚌 ถนน 99 โค้ง

    วันที่ 1 เที่ยวโซนบนของอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย

    อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยมีประตูทางเข้า 5 แห่ง แต่ส่วนใหญ่จะนิยมใช้เพียง 2 ทางนี้:
    • ประตูทิศตะวันออก: เป็นทางเข้าหลัก เหมาะสำหรับเดินทางไป หยวนเจียเจี้ย (Yuanjiajie), หยางเจียเจี้ย (Yangjiajie) และ ภูเขาเทียนจื่อ (Tianzi Mountain)
    • ประตูทิศใต้: อยู่ใกล้กับ ลำธารจินเปี้ยน (Golden Whip Stream) และ หวงซือจ้าย (Huangshizhai)
    แพลนเที่ยววันที่ 1 ตามนี้เลย: เริ่มต้นที่ประตูทิศตะวันออก (East Gate) > ขึ้นลิฟต์ไป่หลง (Bailong Elevator) > หยวนเจียเจี้ย (Yuanjiajie) > หยางเจียเจี้ย (Yangjiajie) > ภูเขาเทียนจื่อ (Tianzi Mountain) > กระเช้าเทียนจื่อ (Tianzi Cableway) > กลับออกทางประตูทิศตะวันออก
    ประตูฝั่งตะวันออกของอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย
    ประตูฝั่งตะวันออกของอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย
    การเดินทางของวันนี้เริ่มจาก ประตูทิศตะวันออก ของ อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับโลกแห่ง “ภูเขาลอยฟ้า” ในภาพยนตร์ Avatar ของ James Cameron
    อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย บริการรถรับส่งฟรีภายในอุทยาน
    ในอุทยานมี รถชัตเทิลบัสฟรี ให้บริการตลอดวัน เชื่อมต่อระหว่างโซนสำคัญ เช่น หยวนเจียเจี้ย (Yuanjiajie), เทียนจื่อซาน (Tianzi Mountain) และ หยางเจียเจี้ย (Yangjiajie) สามารถขึ้น-ลงตามจุดจอดได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องแสดงพาสปอร์ตหรือทำเรื่องเพิ่มเติม

    ลิฟต์ไป่หลง (Bailong Elevator)

    แผนเที่ยวอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ประเทศจีน ลิฟต์ไป๋หลง
    เริ่มต้นทริปด้วยการขึ้น ลิฟต์ไป่หลง (Bailong Elevator) ลิฟต์กระจกที่สร้างแนบอยู่กับหน้าผาสูงชัน ได้รับการบันทึกว่าเป็น ลิฟต์กลางแจ้งที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงกว่า 326 เมตร ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาทีในการพาขึ้นสู่ยอดเขา ลิฟต์นี้จะนำเราจากด้านล่างของอุทยานขึ้นไปยังโซน หยวนเจียเจี้ย (Yuanjiajie) ซึ่งเป็นจุดหมายแรกของวัน

    จุดชมวิวหยวนเจียเจี้ย (Yuanjiajie)

    แผนเที่ยวอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ประเทศจีน จุดชมวิวหยวนเจียเจี้ย
    หลังจากขึ้นลิฟต์ไป่หลง (Bailong Elevator) จะต้องนั่งรถชัตเทิลอีกเล็กน้อย เพื่อเข้าสู่ หยวนเจียเจี้ย (Yuanjiajie) หนึ่งในจุดที่มีคนมาเที่ยวมากที่สุดในอุทยาน
    อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย สะพาน No.1 Bridge Under Heaven
    ที่นี่เป็นที่ตั้งของ ภูเขาฮัลเลลูยา (Hallelujah Mountain) ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับภูเขาลอยฟ้าในภาพยนตร์ Avatar รวมถึง สะพานหนึ่งเดียวใต้หล้า (No.1 Bridge Under Heaven) ซึ่งเป็นสะพานหินธรรมชาติที่สวยงาม (ในภาพอาจไม่เห็นชัด แต่มีช่องโค้งอยู่!)
    บริเวณนี้มีจุดชมวิวสวย ๆ หลายจุด แต่ก็เป็นโซนที่คนเยอะที่สุดของวันเช่นกัน โดยเฉพาะตรงจุดถ่ายรูปหลักๆ ถ้าเป็นไปได้ควรมาแต่เช้า หรือเดินไปตามเส้นทางรอบนอกเพื่อหามุมสงบๆ ชมวิว

    หยางเจียเจี้ย (Yangjiajie)

    อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ประเทศจีน กระเช้าที่หยางเจียเจี้ย
    จากนั้นมุ่งหน้าไปยัง โซนหยางเจียเจี้ย (Yangjiajie) ซึ่งเป็นส่วนที่เงียบสงบกว่า และยังคงความเป็นธรรมชาติแบบดิบ ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนได้ออกนอกเส้นทางหลักของนักท่องเที่ยวทั่วไป
    ไฮไลต์ของที่นี่คือกระเช้าเทียนจื่อ (Tianzi Cableway) ที่จะพาคุณลอยข้ามหน้าผาสูงชันและหุบเขาเขียวชอุ่ม พร้อมวิวทิวทัศน์สุดอลังการตลอดเส้นทาง
    แนะนำให้นั่งกระเช้าลงไปก่อน แล้วค่อยขึ้นกลับมาอีกรอบ นอกจากจะได้ชมวิวในมุมที่ต่างกันแล้ว ยังสามารถต่อเส้นทางไปยัง ภูเขาเทียนจื่อ (Tianzi Mountain) ได้สะดวกอีกด้วย
    Klook Tip: เพราะซื้อตั๋ว Multi-Trip Pass เลยสามารถนั่งกระเช้าหยางเจียเจี้ย ขึ้น-ลงได้หลายรอบ เก็บวิวได้เเบบเต็มอิ่ม แถมยังรอขึ้นกระเช้าที่คนน้อยๆ เพื่อถ่ายรูปสวยๆ ได้สบายๆ คุ้มค่ามากจริงๆ!
    ก่อนออกจาก หยางเจียเจี้ย (Yangjiajie) อย่าลืมแวะชม แนวกำแพงหินธรรมชาติ (Natural Great Wall) แนวสันเขาหินแหลม ๆ ที่ทอดยาวคล้ายกับกำแพงหินโบราณซึ่งพาดผ่านภูเขาไปอย่างน่าทึ่ง จุดนี้ถือเป็นหนึ่งใน จุดชมวิวที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดของโซนนี้ และคุ้มค่ากับการเดินเท้าสั้น ๆ เพื่อขึ้นไปชม

    เทียนจื่อซาน (Tianzi Mountain)

    จากนั้นนั่งรถชัตเทิลของอุทยานหรือจะเดินขึ้นไปยัง ภูเขาเทียนจื่อ (Tianzi Mountain) ที่มีชื่อเสียงเรื่องวิวพาโนรามาแบบ 360 องศา มองเห็นทิวเสาหินทรายสูงเรียงรายสุดลูกหูลูกตา ถ้าโชคดีอากาศเป็นใจ อาจได้เห็น หมอกลอยต่ำคลอเคลียยอดเขา จนดูเหมือนภูเขาลอยได้ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย
    อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ประเทศจีน รับประทานอาหารที่เขาเทียนจื่อ
    🍴 Klook Tip: แม้จะมีร้านอาหารและแผงขายของกินกระจายอยู่ตามจุดท่องเที่ยวอย่าง หยวนเจียเจี้ย (Yuanjiajie) และ หยางเจียเจี้ย (Yangjiajie) แต่จุดที่เหมาะสำหรับพักกินข้าวมากที่สุด คือบริเวณใกล้ ๆ จุดจอดรถชัตเทิลบัสของภูเขาเทียนจื่อ (Tianzi Mountain)
    ที่นี่มีของกินให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารจานด่วน ขนม ของทานเล่น และเครื่องดื่ม มีที่นั่งให้พักเยอะ เหมาะสำหรับเติมพลังหลังเดินเที่ยว หรือรอขึ้นกระเช้าลงเขาแบบสบาย ๆ
     แผนเที่ยวอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ประเทศจีน เขาเทียนจื่อ
    ภูเขาเทียนจื่อ (Tianzi Mountain) ถือเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของจางเจียเจี้ย ด้วยทิวเสาหินทรายสูงเสียดฟ้าที่เรียงตัวทอดยาวไปจนสุดสายตา ราวกับแนวขอบฟ้าธรรมชาติที่น่าทึ่ง
    บริเวณนี้มีจุดชมวิวสำคัญอย่าง สวนเหอลง (Helong Park) และ ยอดเขาอวี้ปี่ (Yubi Peak) ซึ่งในวันที่มีหมอกลอยต่ำ ภูเขาหลายชั้นจะดูเหมือนลอยอยู่เหนือก้อนเมฆ ให้บรรยากาศลึกลับและงดงามราวกับฉากในเทพนิยาย
    อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ป่าเสาหินเขาเทียนจื่อ
    ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่ชอบที่สุดของทั้งวัน ไม่ใช่แค่เพราะวิวสวยอลังการ แต่เพราะมีหลายจุดชมวิวให้เลือก ทำให้นักท่องเที่ยวกระจายตัว ไม่ต้องแย่งกันถ่ายรูปหรือยืนเบียดกันมาก สามารถยืนชมวิวได้อย่างสงบและเต็มอิ่ม
    หลังจากนั้นให้นั่งรถชัตเทิลบัสต่อไปยังสถานีกระเช้าภูเขาเทียนจื่อ (Tianzi Mountain Cable Car Station) แล้วลงเขาด้วยกระเช้า เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์สวย ๆ ตลอดเส้นทางที่กลับลงไปด้านล่าง

    เมืองอู่หลิงหยวน (Wulingyuan)

    อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ประเทศจีน เมืองอู๋หลิงหยวน
    จากนั้นกลับเข้าสู่ตัวเมือง อู่หลิงหยวน (Wulingyuan) เพื่อพักผ่อนและเติมพลังด้วยอาหารเย็นแบบจัดเต็มหลังจากเดินทางมาทั้งวัน แต่ถ้ายังมีแรงเหลือ แนะนำให้ไปชมการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น Charming Xiangxi ที่ถ่ายทอดความงดงามของการเต้นรำและดนตรีพื้นเมืองของชนเผ่า เหมียว (Miao) และ ถูเจีย (Tujia) อย่างน่าประทับใจ ปิดท้ายวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

    วันที่ 2 เที่ยวแกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย หรือ โซนด้านล่างของอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย

    สำหรับวันที่สองของการเที่ยวจางเจียเจี้ย มีให้เลือก 2 เส้นทางหลักที่น่าสนใจ ซึ่งอยู่คนละพื้นที่และใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเดินชม จึงควรเลือกเพียงหนึ่งตัวเลือกตามจังหวะการเดินทางและสไตล์ที่ชอบ:
    • 🥾 ตัวเลือกที่ 1: แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Grand Canyon) + สะพานกระจกจางเจียเจี้ย เหมาะสำหรับสายลุยที่อยากสัมผัสความหวาดเสียวของ สะพานกระจกชื่อดัง ที่เคยได้รับการบันทึกสถิติโลก เป็นจุดถ่ายรูปที่น่าตื่นตาตื่นใจ แนะนำให้เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้า แล้วต่อด้วยการเดินเลาะเส้นทางในหุบเขาใหญ่ ซึ่งใช้เวลาราว 2–3 ชั่วโมง
    • 🌿 ตัวเลือกที่ 2: ลำธารแส้ทอง (Golden Whip Steam) + เขาหวงซือจ้าย (Huangshizhai) เหมาะสำหรับสายธรรมชาติที่อยากใช้เวลาช้า ๆ ชมป่าเขาแบบสบาย ๆ เส้นทางเดินเลียบลำธารแส้ทอง (Golden Whip Steam) จะพาไปสัมผัสบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ ก่อนจะขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดเขาหวงซือจ้าย (Huangshizhai) ที่สามารถมองเห็นภูเขาสลับซับซ้อนในมุมสูงได้แบบเต็มตา
    สำหรับทริปนี้ เราเลือกที่จะ ไม่ไปฝั่งแกรนด์แคนยอนและสะพานกระจก แต่ใช้เวลาแบบสบาย ๆ ในโซน อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park) แทน เพื่อเดินชมธรรมชาติและเก็บบรรยากาศเงียบสงบให้เต็มที่

    ตัวเลือกที่ 1: แกรนด์แคนยอนจางเจียเจี้ย + สะพานกระจกจางเจียเจี้ย

    สะพานกระจกจางเจียเจี้ย
    สะพานกระจกจางเจียเจี้ย หนึ่งในสะพานพื้นกระจกที่ ยาวและสูงที่สุดในโลก พาดผ่านหุบเขาลึกกว่า 300 เมตร บอกเลยว่าไม่เหมาะกับคนใจไม่กล้า แต่ถ้าใจถึง... วิวด้านบนคุ้มค่าทุกก้าวแน่นอน!

    ตัวเลือกที่ 2: โซนด้านล่างของอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย

    โซนล่างของอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย
    เริ่มต้นวันแบบสบาย ๆ ที่ ประตูทิศใต้ (South Gate) ของอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ซึ่งเป็นทางเข้าใกล้กับ ลำธารแส้ทอง (Golden Whip Stream) และ กระเช้าหวงซือจ้าย (Huangshizhai Cableway) เส้นทางนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้เวลาผ่อนคลาย ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบและอากาศบริสุทธิ์

    หวงซือจ้าย (Huangshizhai)

    โซนล่างของอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย จุดชมวิวหวงซื่อจ้าย
    หากเลือกใช้เวลาทั้งวันในอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย แนะนำให้เริ่มที่ หวงซือจ้าย (Huangshizhai) โดยสามารถนั่ง กระเช้าหวงซือจ้าย (Huangshizhai Cableway) ขึ้นไปยังยอดเขา ซึ่งด้านบนจะมีเส้นทางเดินแบบวนรอบ และจุดชมวิวหลายจุดที่ให้คุณได้เห็นทิวทัศน์พาโนรามาอันสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของอุทยาน
    เส้นทางวนรอบบนยอดเขานี้มีระยะทางประมาณ 3–4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินแบบชิล ๆ ราว 1.5 ถึง 2 ชั่วโมง เหมาะสำหรับใครที่อยากซึมซับธรรมชาติอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเร่งรีบ
    โซนล่างของอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย หวงซื่อจ้าย
    บรรยากาศบนยอดเขาหวงซือจ้ายค่อนข้างเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน เส้นทางเดินก็กว้าง เดินง่าย และรายล้อมไปด้วยวิวธรรมชาติสวยงามตลอดทาง ที่นี่จึงเหมาะมากสำหรับใครที่อยากใช้เวลาทั้งวันแบบสบาย ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ และสามารถเที่ยวต่อกับ ลำธารแส้ทอง (Golden Whip Stream) ได้อย่างลงตัว เป็นแผนที่เน้นความสงบและสดชื่นได้แบบเต็มวันเลยค่ะ

    ลำธารแส้ทอง (Golden Whip Stream)

    โซนล่างของอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ลำธารแส้ทอง
    ลำธารแส้ทอง (Golden Whip Stream) เป็นเส้นทางเดินเลียบลำธารที่มีความยาวประมาณ 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินแบบชิล ๆ ประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง เส้นทางนี้เดินเลียบไปตาม ธารน้ำใสที่คดเคี้ยว ท่ามกลางหน้าผาหินทรายสูงชันและป่าที่เขียวชอุ่มตลอดปี ถือเป็นหนึ่งในโซนที่ สวยและสงบที่สุด ของอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ด้วยทางเดินที่ค่อนข้างราบ ร่มรื่น และเป็นพื้นที่ที่มักจะพบกับฝูงลิงแสม แวะมาทักทายเป็นระยะ ๆ
    โซนล่างของอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ทางเดินลำธารแส้ทองคำ
    เนื่องจากปลายทางของเส้นทางลำธารแส้ทองอยู่ใกล้กับ ประตูทิศตะวันออก (East Gate) มากกว่า จึงแนะนำให้ ออกจากอุทยานทางประตูทิศตะวันออก (East Gate) แทนที่จะเดินย้อนกลับไปยังประตูทิศใต้ บริเวณใกล้จุดสิ้นสุดเส้นทางจะมี รถชัตเทิลบัสให้บริการ สามารถนั่งต่อไปยังทางออกได้สะดวก ไม่ต้องเดินย้อนเส้นทางเดิม

    วันที่ 3 เที่ยวภูเขาเทียนเหมิน และประตูสวรรค์

    แผนเที่ยวจางเจียเจี้ย ประเทศจีน จุดจำหน่ายตั๋วกระเช้า เขาเทียนเหมิน
    ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทาง A, B หรือ C ทุกคนจะเริ่มต้นที่จุดเดียวกันคือ อาคารจำหน่ายตั๋วกระเช้าเทียนเหมิน (Ticket Office of the Cableway) ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองจางเจียเจี้ย
    ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับขึ้น กระเช้าเทียนเหมินซาน (Tianmen Mountain Cableway) ไปยังยอดเขา และเป็นจุดรับตั๋วหลักของทุกเส้นทางเที่ยวบนเขา
    แผนเที่ยวจางเจียเจี้ย การรับตั๋วจริงสำหรับเขาเทียนเหมิน
    💡 Klook Tip: อย่าลืมพก พาสปอร์ต และเวาเชอร์การจองจาก Klook (จะเป็นแบบพิมพ์หรือบนมือถือก็ได้) เมื่อต้องการขึ้นเที่ยว เทียนเหมินซาน (Tianmen Mountain)
    คุณจำเป็นต้องใช้เอกสารทั้งสองอย่างนี้ในการ แลกรับตั๋วจริงที่อาคารจำหน่ายตั๋วกกระเช้า (Ticket Office of the Cableway) ก่อนเข้าสู่พื้นที่บนเขา
    แผนเที่ยวจางเจียเจี้ย ประเทศจีน ทางเข้าขึ้นกระเช้าเทียนเหมินซาน
    ทางขึ้นกระเช้าสำหรับเส้นทาง B
    ครั้งนี้เราเลือกเดินทางตาม เส้นทาง B ตามคำแนะนำของเพื่อนที่เคยมาเที่ยวมาก่อน และบอกเลยว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีมาก! เส้นทางนี้ถือเป็นการเดินแบบ ย้อนกลับจากเส้นทางยอดนิยมอย่าง เส้นทาง A ทำให้คนไม่เยอะเท่า และบรรยากาศสงบกว่าชัดเจน
    เริ่มต้นด้วยการนั่งรถบัสระยะสั้นไปยังสถานีกระเช้าอีกแห่งหนึ่ง ก่อนจะขึ้นไปถึง ถ้ำประตูสวรรค์ (Tianmen Cave) ตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนยังไม่เยอะ ทำให้ได้ใช้เวลากับหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของเทียนเหมินซานอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

    ถ้ำเทียนเหมิน (Tianmen Cave)

    บันไดสู่สวรรค์
    การจะไปถึงถ้ำเทียนเหมิน ต้องเดินขึ้นบันไดสูงชัน 999 ขั้น ซึ่งหลายคนเรียกว่า “บันไดสู่สวรรค์” อาจเหนื่อยนิดหน่อย แต่วิวด้านบนสวยคุ้มเหนื่อยแน่นอน!
     แผนเที่ยวจางเจียเจี้ย บันได 999 ขั้นสู่ถ้ำเทียนเหมิน
    เเน่นอน คุณสามารถนั่งบันไดเลื่อนไฟฟ้าขึ้นไปยังถ้ำเทียนเหมิน (Tianmen Cave) ด้ โดยไม่ต้องเดินขึ้นบันได 999 ขั้น! ระบบบันไดเลื่อนนี้ถูกสร้างไว้ภายในภูเขา และจะพาคุณขึ้นไปถึงถ้ำโดยตรงจากจุดจอดรถบัสที่ฐานบันได เหมาะมากสำหรับคนที่มีเวลาจำกัด ไม่อยากออกแรงเดิน หรือเดินทางมากับผู้สูงอายุ
    แผนเที่ยวจางเจียเจี้ย ทางเดินบนเขาเทียนเหมิน
    เมื่อคุณขึ้นไปถึงยอดเขาเทียนเหมิน จะมีเส้นทางเดินวนรอบยอดเขาที่เต็มไปด้วยจุดชมวิวสวยๆ ตลอดทาง เส้นทางนี้ปูพื้นอย่างดี เดินง่ายพอสมควร พาเดินผ่านป่าที่เขียวชอุ่ม ทางเลียบหน้าผา และ ทางเดินกระจก ที่ยื่นออกไปจากขอบเขา
    ทางเดินกระจกเหล่านี้อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่กลัวความสูง แต่บอกเลยว่ามอบวิวสุดตื่นเต้นและมุมถ่ายรูปสวยๆ ที่ห้ามพลาด ใช้เวลาเดินวนรอบประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความเร็วในการเดินและจำนวนจุดที่คุณแวะพักถ่ายรูปหรือชมวิวระหว่างทาง
    💨 Klook Tip: อากาศบนยอดเขาเทียนเหมินคาดเดาได้ยากมาก เรียกได้ว่ามีโอกาส 50/50 เลยว่าจะเจอท้องฟ้าใสหรือหมอกหนาทึบ แม้แต่ช่วงหน้าร้อน อุณหภูมิด้านบนก็ยังหนาวเย็น แนะนำให้เตรียมเสื้อกันลมหรือแจ็กเก็ตไปด้วย เพื่อความสบายเวลาที่เดินสำรวจเส้นทาง

    กระเช้าเทียนเหมิน (Tianmen Cableway)

    กระเช้าเทียนเหมิน (Tianmen Cableway)
    ดื่มด่ำกับวิวพาโนรามาสุดตระการตา ก่อนนั่งกระเช้ากลับลงสู่ตัวเมือง ถ้ามีไฟลต์กลับในวันเดียวกัน ไม่ต้องห่วง เพราะสนามบินอยู่ห่างออกไปแค่ไม่กี่นาที
    ขึ้นกระเช้าเทียนเหมิน (Tianmen Cableway) หนึ่งในกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลก ที่จะพาคุณขึ้นสู่ยอดเขาพร้อมวิวสุดอลังการตลอดเส้นทาง ถึงด้านบนแล้ว อย่าลืมลองเดินบน ทางเดินกระจก (Glass Skywalk) ที่เลียบไปตามหน้าผา ทั้งตื่นเต้น ทั้งหวาดเสียว เเละยังได้รูปสวยๆ กลับไปเพียบ!
    แผนเที่ยวจางเจียเจี้ย ประเทศจีน มื้อหม้อไฟร้อน
    หลังจากใช้เวลาทั้งวันสำรวจภูเขาเทียนเหมิน (Tianmen Mountain) ไม่มีอะไรฟินไปกว่าการได้กลับมาในเมืองจางเจียเจี้ย แล้วจัดหม้อไฟร้อน ๆ สักมื้อ! ในเมืองมีร้านโลคัลให้เลือกเพียบ ให้คุณอิ่มอร่อยกับผักสด เนื้อคุณภาพดี และน้ำซุปเผ็ดร้อน ช่วยคลายหนาวจากอากาศบนเขาได้เป็นอย่างดี
    ถ้าขาของคุณเริ่มปวดเมื่อย กับการเดินขึ้นบันได 999 ขั้น ลองแวะไปนวดเท้าหรือนวดตัวสักชั่วโมงสองชั่วโมง ที่นี่มีร้านนวดราคาเป็นมิตรอยู่รอบ ๆ ใจกลางเมือง ถือเป็นวิธีปิดทริปจางเจียเจี้ยแบบสบาย ๆ ช่วยให้ทั้งร่างกายและใจผ่อนคลายก่อนกลับบ้าน

    ไปที่ยวจางเจียเจี้ย เดินทางยังไง?

    แผนเที่ยวจางเจียเจี้ย สถานีรถไฟความเร็วสูง Zhangjiajie West
    จางเจียเจี้ยมีสนามบิน Zhangjiajie Hehua International Airport (DYG) แต่ส่วนใหญ่จะให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศ และมีเที่ยวบินระหว่างประเทศค่อนข้างจำกัด
    สำหรับนักเดินทางจากต่างประเทศ วิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดคือการนั่งรถไฟความเร็วสูงจากเมืองใหญ่ เช่น ฉางซา หรือ ฉงชิ่ง ซึ่งทั้งสองเมืองนี้มีเที่ยวบินเชื่อมต่อจากต่างประเทศจำนวนมาก และมีรถไฟความเร็วสูงไปถึง สถานี Zhangjiajie West Railway Station ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากสถานีถึงใจกลางเมืองประมาณ 30–40 นาที

    City

    Travel Time

    ฉางซา

    🚄 ประมาณ 4–5 ชั่วโมง โดยรถไฟความเร็วสูง

    จุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศที่สะดวกที่สุดในการเดินทางสู่จางเจียเจี้ย

    ฉงชิ่ง

    🚄 ประมาณ 5 ชั่วโมงโดยรถไฟความเร็วสูง

    เหมาะสำหรับเดินทางเข้ามาจากจีนฝั่งตะวันตกหรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    โดยทริปนี้ เราบินมาลงที่สนามบิน Changsha Huanghua International Airport (CSX) แล้วต่อรถไฟความเร็วสูงไปจางเจียเจี้ย ถือว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกและราบรื่นมาก เป็นเส้นทางยอดนิยมสำหรับนักเดินทางต่างชาติที่จะเดินทางไปจางเจียเจี้ย

    🚉 เลือกลงสถานีไหนในจางเจียเจี้ยดี (Zhangjiajie)?

    เวลาจองตั๋วรถไฟ แนะนำให้เลือก Zhangjiajie West Railway Station เพราะที่นี่เป็นสถานีหลักสำหรับรถไฟความเร็วสูงที่ให้บริการในพื้นที่ รถไฟความเร็วสูงจากเมืองใหญ่ เช่น ฉางซา กว่างโจว ฉงชิ่ง และกุ้ยหยาง จะมาจอดที่สถานีนี้เป็นหลัก
    ⚠️ อย่าสับสนกับ Zhangjiajie Railway Station ซึ่งเป็นสถานีเก่า ให้บริการเฉพาะรถไฟแบบธรรมดาที่ใช้เวลานานกว่า ถ้าอยากเดินทางสะดวกและรวดเร็ว แนะนำให้เลือก Zhangjiajie West เท่านั้น
    จาก Zhangjiajie West นั่งรถประมาณ 30 นาที ก็ถึงใจกลางเมืองและเขาเทียนเหมิน มีทั้งแท็กซี่และรถบัสสาธารณะคอยให้บริการอยู่หน้าสถานี เดินทางต่อได้แบบสบาย ๆ

    เที่ยวจางเจียเจี้ย เดือนไหนดี?

    🌸 ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค. - พ.ค.) อากาศเย็นสบาย กำลังดี ไม่ร้อนเกินไป ไฮไลท์คือวิวภูเขาที่มักมี หมอกบางลอยคลอเคลียตามยอดเขา ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในเทพนิยาย เหมาะกับสายถ่ายรูปและคนที่อยากสัมผัสความสงบของธรรมชาติ
    🍂 ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย. - พ.ย.) เป็นอีกช่วงที่สวยมาก เพราะป่าไม้จะ เปลี่ยนสีเป็นสีทอง แดง ส้ม ตัดกับสีหินทราย และท้องฟ้าที่มักแจ่มใส อุณหภูมิช่วงนี้ก็ไม่ร้อน ไม่หนาว เหมาะทั้งเดินป่า ปีนเขา หรือขึ้นกระเช้าชมวิว
    ⚠️ ข้อควรระวัง หลีกเลี่ยงการไปช่วง Golden Week ของจีน (สัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม) เพราะเป็นวันหยุดยาวระดับประเทศ นักท่องเที่ยวชาวจีนจะเดินทางไปเที่ยวเยอะมาก ทำให้ที่พัก ตั๋วรถ และแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ คนแน่นและราคาสูงขึ้น
    จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie) เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ ไม่ว่าจะวางแผนมาดีแค่ไหน ก็ยากที่จะเที่ยวครบทุกจุดภายในไม่กี่วัน เคล็ดลับคือ ปรับแผนการเดินทางให้เหมาะกับสิ่งที่อยากเห็นมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการยืนบน สะพานกระจก สุดหวาดเสียว, เดินเขาท่ามกลางหมอกใน เทียนจื่อซาน (Tianzi Mountain), หรือเดินเล่นชิล ๆ ตามเส้นทางธรรมชาติอย่าง ลำธารแส้ทองคำ (Golden Whip Stream)
    ไม่ต้องเครียดว่าจะต้องเก็บครบทุกที่ แค่ใช้เวลาให้เต็มที่ ชมวิวสวย ๆ และปล่อยให้ธรรมชาติสร้างความประทับใจให้ในทุกย่างก้าว

    คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

    1) ควรเที่ยวจางเจียเจี้ยกี่วันถึงจะพอ?

    ถ้าอยากเที่ยวครบไฮไลต์แบบไม่เร่งเกินไป แนะนำอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน จะได้มีเวลาเที่ยว อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย, เขาเทียนเหมิน และยังสามารถไป แกรนด์แคนยอน + สะพานกระจก ได้ด้วย เเต่ถ้าคุณชอบเดินเขาหรืออยากเที่ยวแบบช้า ๆ ชิล ๆ ลองเผื่อเวลาเป็น 4–5 วัน

    2) จำเป็นต้องมีไกด์เวลาเที่ยวอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยไหม?

    ไม่จำเป็น! สามารถเที่ยวในอุทยานได้เอง แต่ควรเตรียมตัววางแผนล่วงหน้า เพราะพื้นที่อุทยานกว้างมาก มีทางเข้าหลายทางและมีเส้นทางรถชัตเทิล การมีแผนเที่ยวคร่าว ๆ หรือใช้แอปนำทาง (เช่น Gaode หรือ AMap) จะช่วยให้เที่ยวได้ง่ายขึ้น เเต่ถ้าอยากฟังเรื่องราวเชิงลึกหรืออยากเที่ยวแบบไม่ต้องคิดอะไรเองเลย การจ้างไกด์ท้องถิ่นก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน

    3) ไปภูเขาเทียนเหมินกับอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยในวันเดียวได้ไหม?

    ทางเทคนิคทำได้ แต่ ไม่แนะนำ เพราะทั้งสองที่ใหญ่และมีอะไรให้ดูเยอะ ควรเผื่อเวลาอย่างน้อยครึ่งวันถึงเต็มวันต่อที่ เเต่ถ้าจะเที่ยวให้ครบในวันเดียว จะเร่งมากและพลาดช่วงเวลาสวย ๆ ไปหลายอย่าง

    4) จางเจียเจี้ยรับบัตรเครดิตต่างประเทศไหม?

    ส่วนใหญ่ ไม่รับ โดยเฉพาะตามร้านอาหารเล็ก ๆ หรือจุดท่องเที่ยว เพราะที่จีนเน้นใช้ WeChat Pay และ Alipay แนะนำให้โหลดแอปและสมัครใช้งานล่วงหน้าก่อนไป จะสะดวกกว่ามาก (บางโรงแรมใหญ่หรือสนามบินอาจรับบัตรเครดิต แต่ก็ไม่เสมอไป)
    ดูคู่มือ แอปพลิเคชันสำคัญที่ควรดาวน์โหลดก่อนเดินทางไปจีนครั้งแรก เพื่อช่วยให้การเดินทางของคุณสะดวกและราบรื่นยิ่งขึ้น:

    5) ควรใส่อะไรเมื่อไปเที่ยวจางเจียเจี้ย?

    แนะนำให้สวมรองเท้าสำหรับเดินที่สบายและยึดเกาะพื้นได้ดี เพราะต้องเดินและขึ้นบันไดค่อนข้างมาก สภาพอากาศอาจเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ควรเตรียมเสื้อกันฝนเเบบบาง และอุปกรณ์กันแดด โดยเฉพาะหากเดินทางในช่วงหน้าร้อน

    ค้นหาแรงบันดาลใจท่องเที่ยวจีนเพิ่มเติมได้ที่นี่

    Klook คืออะไร?

    Klook คือแพลตฟอร์มชั้นนำของเอเชียสำหรับการจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจร เราคัดสรรประสบการณ์คุณภาพ ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ทัวร์ท้องถิ่น การเดินทางภายในประเทศ ไปจนถึงที่พักหลากสไตล์ ครอบคลุมกว่า 3,400 จุดหมายทั่วโลก
    รองรับการใช้งานใน 15 ภาษา และสามารถชำระเงินได้มากกว่า 40 สกุลเงิน ผ่านช่องทางชำระที่หลากหลาย ทำให้การจองกับ Klook สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
    Klook ก่อตั้งในปี 2014 มีเป้าหมายเพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับนักเดินทางทุกคน ไม่ว่าคุณจะเที่ยวใกล้บ้านหรือออกเดินทางไกล Klook พร้อมพาคุณเชื่อมต่อกับโลกแห่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
    ลดเพิ่ม5%เมื่อจองผ่านแอปครั้งแรก

    🧡 ติดตาม Klook ได้ทาง

    more