เดินทางเที่ยวโตเกียวด้วยแผนการเดินทาง 5 วัน 4 คืน
ผู้ที่เคยเดินทางมาที่โตเกียว จะรู้ดีว่าในโตเกียวมีกิจกรรมต่างๆ ให้เพลิดเพลินแบบไม่มีวันหมด โตเกียวเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาที่สุดของญี่ปุ่น คุณสามารถเที่ยวชมสวนสนุกและวัดดั้งเดิมได้ในวันเดียวกัน หรือขึ้นไปบนยอดตึกสูงเพื่อชมวิวที่สวยงาม แช่ออนเซ็น หรือแม้แต่นั่งรถไฟหัวกระสุน คุณก็สามารถทำทุกอย่างได้ที่เมืองนี้!
คุณสามารถจอง และสัมผัสกับสิ่งที่ดีที่สุด รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม บริการรถเช่า ซิมการ์ด และอื่นๆ อีกมากมายบน Klook สมัครตอนนี้เลย! 🧡
รับส่วนลด 10% ลดสูงสุด 100.- สำหรับการจองแอปครั้งแรกของคุณเมื่อคุณใช้รหัสโปรโมชั่น <TH10APP> เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไข
หากคุณวางแผนท่องเที่ยวโตเกียวเป็นครั้งแรก ลองดูแผนการเดินทาง 5 วัน 4 คืนสำหรับทริปโตเกียวที่เราแนะนำ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต อาหารแนะนำ และเคล็ดลับการเดินทาง! เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสำหรับวันหยุดพักผ่อนในโตเกียวของคุณ
เคล็ดลับจาก Klook: หากคุณไม่อยากอยู่โตเกียวอย่างเดียว ลองใช้บัตร JR Pass สำหรับการเดินทางทั่วญี่ปุ่น!
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น:
บัตรโดยสารประเภทอื่นๆ
Klook Pass ในญี่ปุ่น
การเดินทางจากสนามบิน
แผนการเดินทาง 5 วัน 4 คืนในโตเกียว
วันที่ 1: เดินทางสำรวจรอบเมือง
แนะนำเส้นทาง:
- ชิโมคาติซาวะ (Shimokitazawa)
- ฮาราจูกุ – สวนสาธารณะโยโยกิ (Harajuku – Yoyogi Park)
- เมืองอินางิ – โยมิอุริแลนด์ และสวนดอกไม้ฮานะบิโยริ (Inagi City – Yomiuriland and Hana - Biyori Flower Park)
- ชินจูกุ (Shinjuku)
- ชิบูย่า – หอสังเกตการณ์ชิบูย่าสกาย (Shibuya – Shibuya Sky Observation Deck)
แนะนำให้วันแรกเป็นวันแห่งการพักผ่อน เนื่องจากคุณอาจจะรู้สึกเหนื่อยจากการเดินทางที่ยาวนานจากไทย การเดินทางสำรวจเมืองแบบสบายๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นการท่องเที่ยวในโตเกียว! หนึ่งในสถานที่แนะนำในการพักผ่อนในเมืองคือชิโมคิตะซาวะ (Shimokatizawa) บริเวณที่มีความทันสมัยและผ่อนคลายในโตเกียว เรียงรายไปด้วยร้านขายของวินเทจ ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ ไลฟ์เฮาส์ แกลเลอรี่ ร้านหนังสือ และอิซากายะ
เรื่องน่ารู้: ชิโมคิตะซาวะ เป็นที่รู้จักในนาม "เขตแห่งแกงกะหรี่" ของญี่ปุ่น เขตนี้ยังเป็นเจ้าภาพจัดเทศกาลแกงกะหรี่ประจำปีทุกเดือนตุลาคมอีกด้วย หากคุณมาเยือนบริเวณนี้ในช่วงเวลาอาหารกลางวันแนะนำให้แวะรับประทานอาหารที่ร้านแกงกะหรี่สักแห่ง นอกจากนี้ยังมีแม้กระทั่งร้านอาหารที่เสิร์ฟแกงกะหรี่ด้วยเจลาโต้ปรุงรสและเครื่องเทศอีกด้วย!
สถานที่ต่อไปแนะนำให้แวะที่ฮาราจูกุ (Harajuku) หนึ่งในสถานที่ที่มีวัยรุ่นมากมาย ความมีชีวิตชีวา และความสนุกสนานของโตเกียว เดินทางเพียง 15 นาทีด้วยรถไฟจากชิโมคิตะซาวะ ที่นี่มีตั้งแต่ร้านบูติกแฟชั่นไปจนถึงร้านขายของที่ระลึกแนวคาวาอี้ คาเฟ่น่ารัก และร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งคุณสามารถทำกิจกรรมได้มากมายในบริเวณนี้ โดยเฉพาะการเดินสำรวจฮาราจูกุได้โดยจองทัวร์เดินเที่ยวชมกับ Klook !
หากคุณชื่นชอบของหวาน อย่าพลาดโอกาสที่จะได้เพลิดเพลินไปกับขนมหวานและของว่างริมถนนอันโด่งดังของฮาราจูกุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครปไอศกรีมยอดนิยมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสายไหมขนาดมหึมา หลังจากทานของว่างแล้ว สามารถเผาผลาญแคลอรีด้วยการเดินเล่นในสวนสาธารณะโยโยงิ (Yoyogi Park) หนึ่งในสวนสาธารณะในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว ซึ่งตั้งอยู่ในย่านฮาราจูกุ
หากช่วงบ่ายคุณต้องการเดินทางออกไปนอกเมือง เพื่อเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่แตกต่างจากในเมืองนั้น สถานที่ที่แนะนำคือเมืองอินางิ (Inagi City) ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองโตเกียวเพียงครึ่งชั่วโมง เมืองอินางิยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ก็เหมาะสำหรับการเดินทางเพื่อเที่ยวชมเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ
เมื่อไปถึงเมืองอินางิ แนะนำให้มุ่งหน้าไปยังโยมิอุริแลนด์ (Yomiuriland) สวนสนุกที่น่าตื่นเต้นที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่า 40 แห่ง ตั้งแต่รถไฟเหาะที่น่าหวาดเสียวไปจนถึงเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับเด็ก โยมิอุริแลนด์ (Yomiuriland) มีความสวยงามมากในฤดูหนาว โดยเฉพาะในเวลากลางคืนเนื่องจากมีการจัดแสดงแสงไฟระยิบระยับ พร้อมสีสันสุดตระการตา!
สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่บริเวณนี่คือ สวนดอกไม้ฮานะ บิโยริ HANA・BIYORI สวนแห่งนี้เหมือนบ้านดอกไม้นานาชนิด ที่นี่คุณสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงศิลปะดิจิทัลและทางเดินที่ประดับประดาไปด้วยโคมไฟแขวนที่ทำจากกระถางดอกไม้กว่า 300 ชนิด! 🌸 สถานที่นี้ยังมี Starbucks ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการตกแต่งร้านที่มีลักษณะคล้ายสวนพฤกษศาสตร์ที่เขียวชอุ่ม พร้อมด้วยดอกไม้และแสงแดดธรรมชาติ
สำหรับมื้อเย็น ขอแนะนำให้คุณไปที่ชินจูกุ ซึ่งถนนในชินจูกุจะมีชีวิตชีวามากในตอนกลางคืนและเป็นที่ตั้งของร้านอาหารนับพันแห่ง ที่นี่คุณสามารถเลือกอาหารได้ทุกประเภท ตั้งแต่ซูชิไปจนถึงราเมนทงคัตสึ ชาบูชาบู บาร์บีคิวสไตล์ญี่ปุ่น และอื่นๆ อีกมากมาย ช่วงราคาของร้านอาหารในบริเวณนี้ก็จะแตกต่างกันไป ที่นี่คุณจึงสามารถหาของอร่อยในราคาไม่แพงได้อย่างแน่นอน
ลิสต์ร้านอาหารยอดนิยมบางแห่งในชินจูกุ:
- อิจิรัน ราเมน (Ichiran Ramen)
- ฮิมาวาริซูชิ (Himawari Sushi)
- เทมปุระ สึนะฮาจิ (Tempura Tsunahachi)
- สึเคเมน โกโนคามิ เซซาคุโชะ (Tsukemen Gonokami Seisakusho)
- นาเบโซ ชินจูกุ เมจิ โดริ (Nabezo Shinjuku Meiji Dori)
- ทงคัตสึ ฮามาคุสึ (Tonkatsu Hamakutsu)
- Kyourakutei (ร้านโซบะที่ได้รับรางวัลหนึ่งดาวมิชลิน)
- Nakajima (หนึ่งในร้านอาหารที่ได้ดาวมิชลินที่ถูกที่สุดในโตเกียว)
หากคุณต้องการดื่มเครื่องดื่มเพื่อผ่อนคลายหลังจากการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยในวันแรก แนะนำให้มุ่งหน้าไปที่โกลเด้นไก (Golden Gai) ย่านเล็กๆ ที่มีชีวิตชีวาในย่านหนึ่งของชินจูกุ โกลเด้นไกเป็นที่ตั้งของบาร์และร้านอาหารเล็กๆ มากมาย เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสัมผัสประสบการณ์ชีวิตยามค่ำคืนของโตเกียวอย่างแท้จริง
ปิดท้ายค่ำคืนของคุณด้วยการเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์จากความสูงของจุดชมวิวชิบูย่าสกาย! วิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนแบบพาโนรามา 360 องศา จากหอดูดาวแห่งนี้จะทำให้คุณประทับใจ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มีความโดดเด่นในการมองเห็นโลเคชั่นยอดฮิตต่างๆ เช่น โตเกียวสกายทรี, แยกชิบูย่า, รปปงหงิ ฮิลส์ และอื่นๆ อีกมากมาย และยังสามารถแวะที่ส่วน Sky Gallery เพื่อเพลิดเพลินกับงานศิลปะดิจิทัลที่มีเสน่ห์ได้อีกด้วย ✨
จองบัตร Klook Pass โตเกียว คลิกเลย!
วันที่ 2: ท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม
ท่องเที่ยวโตเกียวใน 2 รูปแบบ ใน 1 วัน เริ่มต้นจากการเที่ยวชมประเพณีและวัฒนธรรมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีภายในเมือง จากนั้นออกเดินทางเที่ยวชมอีกด้านของความทันสมัยและล้ำยุคของเมือง ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์หรือศิลปะสมัยใหม่ โตเกียวก็เป็นตัวเลือกที่นำเสนอทั้งสองด้านได้อย่างกลมกลืนและมีชีวิตชีวา สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่คุณสามารถเพิ่มลงในแผนการเดินทางวันที่ 2 ของคุณได้มีดังนี้:
ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) : ศาลเจ้าเมจิในโตเกียวสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่จักรพรรดิองค์แรกในยุคใหม่ของญี่ปุ่น เป็นสถานที่ที่ต้องไปเยี่ยมชมเมื่อมาถึงโตเกียว สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งนี้ประกอบด้วยบริเวณวัดที่กว้างขวางพร้อมทางเดินที่เงียบสงบ พื้นที่ที่มีต้นไม้กว่า 100,000 ต้น อาคารวัดโบราณ และพิพิธภัณฑ์เมจิจิงกุที่เพิ่งเปิดใหม่
อาซากุสะ (Asakusa) : หากต้องการเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของกรุงโตเกียวในอดีต แนะนำให้มุ่งหน้าไปที่อาซากุสะ ที่มีชื่อเสียงจากวัดเซ็นโซจิและถนนช้อปปิ้งนากามิเสะ (บริเวณที่เรียงรายไปด้วยแผงขายขนมท้องถิ่นและของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว) อาซากุสะสามารถเดินทางไปได้ง่ายและมีความสนุกสนานในการเที่ยวชมมากมาย หากคุณโชคดี คุณอาจได้เพลิดเพลินกับการเฉลิมฉลองกิจกรรมทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมต่างๆ และไม่ควรพลาดการเช่าชุดกิโมโนที่คุณสามารถสวมใส่ขณะเที่ยวชมอาซากุสะ!
สวนชินจูกุเกียวเอ็นเป็น (Shinjuku Gyoen National Park) : สวนชินจูกุเกียวเอ็นเป็นหนึ่งในสวนที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในโตเกียว ซึ่งมีผู้คนมาเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้ เพื่อการเดินเล่นแบบสบายๆ ปิกนิกใต้ต้นไม้ หรือเพียงเพื่อใช้เวลาอยู่ห่างจากถนนอันพลุกพล่านในเมือง หากคุณเดินทางในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วง แนะนำให้นำเสื่อและขนมมาเพื่อปิกนิกใต้ต้นซากุระหรือล้อมรอบด้วยใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง
teamLab Planets TOKYO Toyosu : หากคุณสนใจการท่องเที่ยวแนวศิลปะดิจิทัล จะต้องสนุกที่ teamLab Planets TOKYO Toyosu อย่างแน่นอน! พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลสุดล้ำสมัยแห่งนี้เต็มไปด้วยงานศิลปะที่จัดวางอย่างน่าตื่นตา ซึ่งคุ้มค่าแก่การเดินทางตลอดพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร การใช้เวลาอยู่ที่นี่จะรู้สึกเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงานศิลปะอันน่าหลงใหลที่สามารถโต้ตอบ และเปลี่ยนรูปร่างได้รอบตัวคุณ✨
โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) : หากคุณชอบชมวิวจากตึกสูง โตเกียวทาวเวอร์คืออีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยี่ยมชมเมื่อคุณมาถึงโตเกียว จุดชมวิวโตเกียวทาวเวอร์มีความสูง 333 เมตร ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว ทำให้มองเห็นทัศนียภาพของกรุงโตเกียวจากมุมสูง คุณยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากระยะไกลในวันที่อากาศแจ่มใสได้อีกด้วย! นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองจากจุดชมวิว Roppongi Hills หรือTokyo Skytree
อากิฮาบาระ (Akihabara) : หากคุณเป็นแฟนการ์ตูนอะนิเมะ มังงะ หรือเกมญี่ปุ่น บริเวณนี้มีชื่อเรียกว่า 'เมืองแห่งไฟฟ้า' ! อากิฮาบาระมีชื่อเสียงในด้านร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาร์เคด ร้านกาแฟ และร้านอาหารตามธีมต่างๆ มากมาย บริเวณนี้ได้รับความนิยมในฐานะแหล่งซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ วิดีโอเกม มังงะ และอะนิเมะในราคาพิเศษ เพิ่มประสบการณ์ที่สนุกสนานและน่าจดจำด้วยการสำรวจถนนของอากิฮาบาระด้วยโกคาร์ท!
Go Japan! แพ็กเกจ Value Pack สำหรับเที่ยวญี่ปุ่น
วันที่ 3: ใช้เวลาในดินแดนมหัศจรรย์ที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์
เครดิตภาพ: @jessicachaw
หากคุณเป็นแฟนของดิสนีย์หรือสวนสนุก แนะนำให้คุณใช้เวลาสักวันที่โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ทที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยที่โตเกียวจะมีสวนสนุกดิสนีย์สองแห่ง ได้แก่ โตเกียวดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์ซี สวนสนุกทั้งสองแห่งมีเสน่ห์ในตัวเองที่แตกต่างกัน รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและเครื่องเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
หากต้องการสัมผัสประสบการณ์สวนสนุกดิสนีย์สุดคลาสสิก ดิสนีย์แลนด์คือคำตอบสำหรับคุณ อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่มากขึ้น ดิสนีย์ซีก็อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่า ถ้าเป็นไปได้ขอแนะนำให้เที่ยวชมดิสนีย์ทั้งสองแห่ง! 🏰
วันที่ 4: ทริปหนึ่งวันไปยังภูเขาไฟฟูจิ
ภูเขาไฟฟูจิเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดในญี่ปุ่นและอยู่ในลิสต์ที่หลายคนอยากเดินทางมา หากคุณกำลังวางแผนการเดินทางไปโตเกียวคุณควรพิจารณาทัวร์วันเดย์ทัวร์ภูเขาไฟฟูจิที่แสนสะดวก หากคุณเป็นคนชอบการผจญภัยและชอบเดินทางคนเดียว คุณสามารถเยี่ยมชมภูเขาไฟฟูจิโดยรถไฟ รถบัส หรือรถยนต์ได้! ด้วยการเดินทางรูปแบบดังกล่าว จะใช้เวลาเพียง 2 ถึง 3 ชั่วโมง ในการเดินทางไปยังภูเขาไฟฟูจิ
หากต้องการเพลิดเพลินกับประสบการณ์การเดินทางสุดประทับใจ แนะนำให้จองทัวร์ภูเขาไฟฟูจิและฮาโกเน่หนึ่งวันจากโตเกียว กับ Klook! แพ็คเกจทริปวันเดย์นี้รวมการแวะที่สถานีภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5, โกเท็มบะพรีเมียมเอาท์เล็ต, ฮาโกเน่, กระเช้าลอยฟ้าฮาโกเน่ และการล่องเรือโจรสลัดที่ฮาโกเน่แล้ว
เคล็ดลับจาก Klook: หากคุณต้องการเดินทางสำรวจเมืองบนภูเขาอย่างฮาโกเน่ด้วยตัวเอง ขอแนะนำให้คุณซื้อบัตรฮาโกเน่ฟรีพาส ซึ่งจะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างไม่จำกัดด้วยยานพาหนะถึง 8 ประเภท! ไม่เพียงแต่ครอบคลุม รถไฟ รถบัส รถเคเบิล และเรือในฮาโกเน่ คุณยังสามารถใช้สิทธิประโยชน์จากส่วนลดสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่า 70 แห่ง ทั่วฮาโกเน่
วันที่ 5: ช้อปปิ้งและเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ
เริ่มต้นวันสุดท้ายของคุณในโตเกียวอย่างสนุกสนานที่ตลาดปลาโทโยสุ (ตลาดปลาแห่งใหม่แทนที่ตลาดปลาสึกิจิ) ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ มีอาคารที่จำหน่ายอาหารทะเล ผลไม้ และผักโดยเฉพาะ ที่นี่คุณสามารถชมการประมูลปลาในตอนเช้าได้อีกด้วย
การประมูลปลามากุโร่ในทุกวันจะมีขึ้นระหว่างเวลา 5.30 น. ถึง 6.30 น. ของทุกเช้า หากคุณชอบอาหารทะเล สามารถเพลิดเพลินกับร้านอาหารในตลาดที่มีอาหารที่หลากหลาย ตั้งแต่ซูชิสดใหม่ไปจนถึงราเมน อย่าลืมแวะมาแต่เช้าตรู่เพราะร้านอาหารเหล่านี้ส่วนใหญ่จะปิดทำการเวลา 14.00 น.
หลังจากเที่ยวชมตลาดปลาแล้ว นั่งรถไฟประมาณ 20 นาที ไปยังโอไดบะ (Odaiba) อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางแสนสนุกที่ตั้งอยู่บนเกาะในอ่าวโตเกียว ย่านริมทะเลที่น่าสดชื่นแห่งนี้ มีกิจกรรมความบันเทิงที่หลากหลายสำหรับทุกวัยให้มาสัมผัส
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่นี่
- สะพานเรนโบว์ ที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะ ซึ่งเชื่อมต่อโอไดบะกับส่วนอื่นๆ ของโตเกียว (สวยงามเป็นพิเศษ เมื่อมีแสงไฟส่องสว่างในเวลากลางคืน!)
- ผ่อนคลายบนเรือวอเตอร์บัสระหว่างอาซากุสะและโอไดบะ
- teamLab Planets TOKYO Toyosu พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลที่น่าตื่นตาตื่นใจ
- ชิงช้าสวรรค์ยักษ์มีความสูงถึง 115 เมตร
- มิไรคัง พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมแห่งชาติของญี่ปุ่น
- รูปปั้นกันดั้ม ยูนิคอร์นอันยิ่งใหญ่
- Tokyo Joypolis สวนสนุกในร่มที่มีเครื่องเล่นมากมาย
- Aqua City Odaiba คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่มีร้านค้าและความบันเทิงมากกว่า 100 แห่ง
หากคุณไม่มีเวลาไปช้อปปิ้งมากนักในช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้ สามารถไปช้อปปิ้งได้ในวันสุดท้ายที่โตเกียว ซึ่งมีย่านช้อปปิ้งยอดนิยมหลายแห่งที่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ร้านบูติกแปลกตา ร้านวินเทจ และร้านค้าปลีกระดับไฮเอนด์มากมาย ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณกำลังมองหา หาข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้าที่คุณต้องการและวางแผนการช้อปปิ้งตามความต้องการของคุณได้ง่ายๆ! หากยังไม่แน่ใจและอยากเดินเล่นรอบๆ ไม่ควรพลาดกับย่านชิบูย่าชินจูกุ ฮาราจูกุ อิเคบุคุโระและกินซ่า
🍣 สิ่งจำเป็นของญี่ปุ่น🍣
🚅รถไฟและบริการรับส่งสนามบิน
📌ข้อมูลมือถือและบัตรโดยสารรถไฟใต้ดิน
🏯 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น 🏯
ไม่พลาดทุกโปรเด็ด ติดตามคลูกได้ทุกช่องทาง
Facebook | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthfb
Instagram | @klooktravel_th 👉🏼 bit.ly/kookthig
Twitter | @klookth 👉🏼 bit.ly/klooktwitter
TikTok | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthtt
Youtube | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthyt
👤 สอบถามรายละเอียดก่อนจอง
Line Official Account | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthoa
