คารุอิซาวะ
รีวิวเที่ยว คารุอิซาวะ
ที่เที่ยวใกล้ คารุอิซาวะ
คำถามพบบ่อยเมื่อไป คารุอิซาวะ
ช่วงเวลาไหนที่ดีที่สุดในการไปเที่ยวคารุอิซาวะ?
ช่วงเวลาไหนที่ดีที่สุดในการไปเที่ยวคารุอิซาวะ?
ฉันควรเตรียมอะไรบ้างสำหรับการเดินทางไปคารุอิซาวะ คิตาซากุ?
ฉันควรเตรียมอะไรบ้างสำหรับการเดินทางไปคารุอิซาวะ คิตาซากุ?
ฉันควรใช้เวลาเท่าไหร่ในการเที่ยวในคารุอิซาวะ?
ฉันควรใช้เวลาเท่าไหร่ในการเที่ยวในคารุอิซาวะ?
คารุอิซาวะเหมาะกับนักท่องเที่ยวกลุ่มไหน?
คารุอิซาวะเหมาะกับนักท่องเที่ยวกลุ่มไหน?
สถานที่ช้อปปิ้งหลักในคารุอิซาวะคือที่ไหน?
สถานที่ช้อปปิ้งหลักในคารุอิซาวะคือที่ไหน?
มีร้านอาหารหรือคาเฟ่แนะนำบ้างหรือไม่?
มีร้านอาหารหรือคาเฟ่แนะนำบ้างหรือไม่?
เวลาทำการและค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในคารุอิซาวะ คิตาซากุเป็นอย่างไร?
เวลาทำการและค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในคารุอิซาวะ คิตาซากุเป็นอย่างไร?
มีตัวเลือกที่จอดรถที่พิพิธภัณฑ์ในคารุอิซาวะ คิตาซากุหรือไม่?
มีตัวเลือกที่จอดรถที่พิพิธภัณฑ์ในคารุอิซาวะ คิตาซากุหรือไม่?
พิพิธภัณฑ์ในคารุอิซาวะ คิตาซากุเหมาะสำหรับครอบครัวหรือไม่?
พิพิธภัณฑ์ในคารุอิซาวะ คิตาซากุเหมาะสำหรับครอบครัวหรือไม่?
ก่อนไป คารุอิซาวะ ต้องรู้อะไรบ้าง?
คารุอิซาวะ: สวรรค์แห่งการพักผ่อนใกล้โตเกียว
เมื่อพูดถึงการหลีกหนีความวุ่นวายและอากาศร้อนอบอ้าวของโตเกียว "คารุอิซาวะ" (Karuizawa) คือชื่อแรกๆ ที่ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาตินึกถึง เมืองตากอากาศหรูแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) และได้สร้างชื่อเสียงในฐานะจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อน ด้วยสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี แม้ในฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน
คารุอิซาวะไม่ได้มีดีแค่ธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังมีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์จากการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและญี่ปุ่น ที่นี่เต็มไปด้วยกิจกรรมหลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์ของนักช้อปปิ้ง กิจกรรมกลางแจ้งท่ามกลางป่าสน หรือการเล่นสกีในฤดูหนาว บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจทุกแง่มุมของเมืองตากอากาศที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้ ก่อนจะไปสำรวจสถานที่ต่างๆ การทำความเข้าใจพื้นฐานของเมืองนี้จะทำให้การท่องเที่ยวของคุณมีความหมายมากยิ่งขึ้น
ที่ตั้งและสิ่งที่น่าสนใจของคารุอิซาวะ
คารุอิซาวะตั้งอยู่ในจังหวัดนะงะโนะ ประเทศญี่ปุ่น บนที่ราบสูงเชิงเขาอาซามะ (Mount Asama) ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บนที่สูง ประมาณ 1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้คารุอิซาวะมีภูมิอากาศที่เย็นสบายอย่างน่าทึ่ง ในฤดูร้อน อุณหภูมิที่นี่จะเย็นกว่าโตเกียวอย่างเห็นได้ชัด ทำให้กลายเป็น "แหล่งหลบภัยความร้อน" (Summer Retreat) ที่ได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งของประเทศ
ความน่าสนใจของที่นี่คือทิวทัศน์ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ป่าสนเขียวชอุ่ม ลำธารใสสะอาด และน้ำตกที่งดงามอย่างน้ำตกชิราอิโตะสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและผ่อนคลาย
ประวัติศาสตร์ของคารุอิซาวะ
ในอดีต คารุอิซาวะเคยเป็นเพียงเมืองเล็กๆ ที่เป็นจุดพักค้างแรมบนเส้นทางสายนะกะเซ็นโด (Nakasendo) ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางโบราณที่เชื่อมต่อระหว่างเกียวโตและเอโดะ โตเกียวในปัจจุบัน
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเกิดขึ้นในยุคเมจิ (ปลายศตวรรษที่ 19) เมื่อมิชชันนารีชาวแคนาดาชื่อ อเล็กซานเดอร์ ครอฟต์ ชอว์ (Alexander Croft Shaw) ได้ค้นพบสถานที่แห่งนี้และหลงใหลในบรรยากาศที่คล้ายคลึงกับบ้านเกิดของเขา เขาได้สร้างวิลล่าตากอากาศขึ้น และแนะนำให้ชาวต่างชาติคนอื่นๆ รู้จัก คารุอิซาวะจึงเริ่มพัฒนาเป็นแหล่งตากอากาศสำหรับชาวต่างชาติและกลุ่มชนชั้นสูงของญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว นี่คือเหตุผลที่สถาปัตยกรรมหลายแห่งในเมืองนี้ โดยเฉพาะโบสถ์และบ้านพักเก่าแก่ มีกลิ่นอายแบบตะวันตกอย่างชัดเจน
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในคารุอิซาวะ
1. บ่อน้ำคุโมบะ (Kumoba Pond)
บ่อน้ำคุโมบะเป็นสระน้ำธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยต้นไม้สูงและป่าเมเปิล ผิวน้ำสะท้อนภาพสีเขียวในฤดูร้อนและสีแดงทองในฤดูใบไม้ร่วง ทำให้เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของคารุอิซาวะ เส้นทางรอบบ่อเดินง่ายและเงียบสงบ เหมาะกับการเดินเล่นในยามเช้าหรือช่วงบ่ายแก่ ๆ นักท่องเที่ยวมักมาถ่ายภาพเงาสะท้อนของต้นไม้ในน้ำซึ่งให้ภาพสวยเหมือนภาพวาด
2. น้ำตกชิราอิโตะ (Shiraito Falls)
น้ำตกชิราอิโตะเป็นน้ำตกแผ่นบางที่มีสายน้ำไหลพรั่งพรูลงมาจากหน้าผาหิน ความพิเศษคือสายน้ำจำนวนนับร้อยสายไหลเรียงกันคล้ายเส้นด้ายสีขาวชื่อ "Shiraito" จึงแปลได้ว่า "เส้นไหมสีขาว" บรรยากาศร่มรื่นและเย็นสบาย เหมาะสำหรับเดินเล่นคลายร้อน โดยเฉพาะฤดูใบไม้ร่วงที่มีใบไม้สีสดตัดกับสีของน้ำตกอย่างสวยงาม
3. ถนนคนเดินเก่าคารุอิซาวะกินซ่า (Old Karuizawa Ginza Street)
ถนนคนเดินสายหลักของเมือง เต็มไปด้วยร้านเบเกอรี่ คาเฟ่ ร้านของฝาก และร้านเครื่องประดับเล็ก ๆ อาคารไม้สไตล์ยุโรปผสมญี่ปุ่นให้ความรู้สึกอบอุ่น เดินเล่นได้ทั้งวัน มีร้านขนมพื้นเมือง เช่น ชีสเค้กและแยมผลไม้ขึ้นชื่อ เหมาะสำหรับพักจิบกาแฟและชมบรรยากาศรีสอร์ตภูเขาแบบญี่ปุ่น
4. เอาต์เล็ตคารุอิซาวะ พรินซ์ ช้อปปิ้ง พลาซ่า (Karuizawa Prince Shopping Plaza)
เอาต์เล็ตขนาดใหญ่ติดกับสถานีคารุอิซาวะ เดินทางสะดวกมาก ที่นี่รวมแบรนด์ดังทั้งญี่ปุ่นและต่างประเทศ มีคาเฟ่และร้านอาหารท่ามกลางสวนและบ่อน้ำขนาดใหญ่ ช่วงฤดูหนาวจะประดับไฟสวยงาม เป็นที่เที่ยวและพักผ่อนสำหรับครอบครัวและคู่รัก
5. พื้นที่ฮอชิโนะและฮารุนิเระ เทอเรซ (Hoshino Area & Harunire Terrace)
เขตฮอชิโนะคือโซนธรรมชาติของคารุอิซาวะที่รายล้อมด้วยป่าและธารน้ำ มี "Harunire Terrace" ซึ่งเป็นโซนร้านอาหารและคาเฟ่บนระเบียงไม้ที่ต่อเชื่อมกันใต้ร่มไม้สูง นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่น ชิมอาหารท้องถิ่น หรือแวะออนเซ็น "Tombō no Yu" เพื่อพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ เหมาะกับการใช้เวลาช่วงเย็นอย่างช้า ๆ
6. โบสถ์คารุอิซาวะโคเกน และสโตนเชิร์ช (Karuizawa Kogen Church & Stone Church)
โบสถ์ทั้งสองแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความสงบของคารุอิซาวะ โบสถ์โคเกนตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ ส่วนสโตนเชิร์ชสร้างจากหินและกระจกโค้งทับซ้อนกันจนเกิดแสงและเงาที่งดงาม เป็นสถานที่ยอดนิยมในการจัดงานแต่งงานและถ่ายภาพ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่มีการประดับไฟกลางคืนให้บรรยากาศโรแมนติก
7. สวนออนิโอชิดาชิ (Onioshidashi Park)
สวนหินลาวาที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟอาซามะเมื่อหลายร้อยปีก่อน พื้นที่เต็มไปด้วยก้อนหินลาวารูปทรงแปลกตาและวิวภูเขาที่กว้างใหญ่ มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่จัดไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยว เหมาะกับคนชอบถ่ายภาพวิวภูเขาและเรียนรู้ธรรมชาติทางธรณีวิทยา
8. สวนคารุอิซาวะ ทาเลียสซิน (Karuizawa Taliesin)
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่รวมทะเลสาบ สวนดอกไม้ พิพิธภัณฑ์ และบ้านสไตล์อังกฤษไว้ในที่เดียว เป็นสถานที่พักผ่อนที่สงบและสวยงามโดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือพายชมวิวรอบทะเลสาบ หรือเดินชมสวนกุหลาบและนิทรรศการศิลปะขนาดเล็ก
9. พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยเซซอน (Sezon Museum of Modern Art)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่จัดแสดงผลงานศิลปินญี่ปุ่นและต่างชาติในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ แวดล้อมด้วยสวนไม้และสระน้ำ ภายในเงียบสงบและจัดแสงอย่างประณีต เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบศิลปะและต้องการใช้เวลาพักใจจากความวุ่นวาย
10. น้ำตกเซงะทะคิ (Sengataki Falls)
น้ำตกเซงะทะคิอยู่ในเขตป่าร่มรื่นทางตะวันตกของคารุอิซาวะ เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ไหลผ่านโขดหินสวยงาม สามารถเดินเท้าผ่านเส้นทางป่าธรรมชาติไปถึงได้ ระหว่างทางมีเสียงนกร้องและกลิ่นไม้สดใหม่ เหมาะสำหรับคนชอบธรรมชาติและการเดินป่าระยะสั้น
11. พิพิธภัณฑ์รถไฟอุซุอิพาส (Usui Pass Railway Heritage Park)
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงรถไฟเก่าและอุโมงค์ทางรถไฟบนภูเขา อดีตเป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมคารุอิซาวะกับจังหวัดกุมมะ ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและนั่งรถไฟขนาดเล็กได้ เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้สนใจประวัติศาสตร์การคมนาคม
12. ลานสกีพรินซ์ สโนว์ รีสอร์ต (Karuizawa Prince Snow Resort)
ลานสกีของสกีรีสอร์ทคารุอิซาวะปรินซ์โฮเทลขนาดกลางที่อยู่ใกล้สถานีคารุอิซาวะ สามารถเดินถึงได้ภายในไม่กี่นาที เป็นสถานที่เล่นสกีเหมาะสำหรับมือใหม่และครอบครัว มีบริการเช่าอุปกรณ์ครบ มีทั้งลานสโนว์บอร์ดและลานหัดสกีสำหรับเด็ก หลังเล่นสกีสามารถเดินต่อไปช้อปปิ้งที่เอาต์เล็ตข้าง ๆ ได้ทันที
กิจกรรมและแหล่งท่องเที่ยวในคารุอิซาวะ
คารุอิซาวะมีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม
1. สวรรค์ของนักช้อปปิ้ง
นี่คือกิจกรรมไฮไลท์ที่ดึงดูดผู้คนมหาศาลมายังคารุอิซาวะ
คารุอิซาวะ ปรินซ์ ช้อปปิ้งพลาซ่า (Karuizawa Prince Shopping Plaza): นี่คือเอาท์เล็ตมอลล์ขนาดมหึมาที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟคารุอิซาวะ ที่นี่รวบรวมแบรนด์เนมชั้นนำจากทั่วโลก ร้านค้าไลฟ์สไตล์ แบรนด์กีฬา และร้านอาหารไว้อย่างครบครัน ท่ามกลางบรรยากาศที่เปิดโล่ง สบายตา มีพื้นที่สีเขียวและทะเลสาบขนาดเล็ก ทำให้การช้อปปิ้งที่นี่เป็นการพักผ่อนไปในตัว
คิว-คารุอิซาวะ กินซ่า (Kyu-Karuizawa Ginza): ถนนสายช้อปปิ้งเก่าแก่ที่เป็นหัวใจของเมือง ถนนสายนี้ให้บรรยากาศที่แตกต่างจากเอาท์เล็ตอย่างสิ้นเชิง สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าสไตล์ยุโรป ร้านเบเกอรีหอมกรุ่น (โดยเฉพาะร้าน John Lennon's favorite French Bakery) ร้านกาแฟ คาเฟ่ ร้านขายแยมผลไม้และน้ำผึ้งท้องถิ่น (ซึ่งเป็นของฝากขึ้นชื่อ) และร้านค้างานฝีมือ การเดินเล่นบนถนนสายนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในเมืองเล็กๆ ในยุโรป
ฮารุนิเระ เทอเรส (Harunire Terrace): ตั้งอยู่ในย่านฮอชิโนะ (Hoshino Area) ที่นี่เป็นแหล่งช้อปปิ้งสไตล์โมเดิร์นที่ออกแบบมาอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ ตั้งอยู่ริมลำธารใสสะอาด ประกอบด้วยร้านค้าดีไซน์เก๋ คาเฟ่ และร้านอาหารชั้นดีที่สร้างจากไม้ ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายและมีระดับ
2. กิจกรรมกลางแจ้ง
ด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ คารุอิซาวะจึงเป็นที่นิยมสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งในทุกฤดูกาล
ฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิ/ร่วง: กิจกรรมยอดนิยมที่สุดคือ การปั่นจักรยาน การเช่าจักรยาน (มีทั้งแบบธรรมดาและจักรยานไฟฟ้า) แล้วปั่นไปตามเส้นทางป่าสนที่ร่มรื่น ผ่านวิลล่าหรู และแวะชมสถานที่ต่างๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการซึมซับบรรยากาศของเมือง นอกจากนี้ยังมี การเดินป่า (Hiking) ไปตามเส้นทางธรรมชาติ และ เทนนิส ซึ่งเป็นกีฬายอดนิยมมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก
ฤดูหนาว: เมื่อหิมะมาเยือน คารุอิซาวะจะเปลี่ยนเป็นเมืองแห่งฤดูหนาว มีลานสกี (Karuizawa Prince Hotel Ski Resort) ที่เดินทางสะดวกมาก ตั้งอยู่ติดกับเอาท์เล็ตและสถานีรถไฟ และยังมีลานสเก็ตน้ำแข็งให้เพลิดเพลินอีกด้วย
การเดินทางไปคารุอิซาวะ (Karuizawa) จากโตเกียว และการสัญจรภายในเมืองนั้นสะดวกสบายอย่างมาก นี่คือคำแนะนำอย่างละเอียดที่จะช่วยให้คุณวางแผนการเดินทางได้อย่างสมบูรณ์
การเดินทางจากโตเกียวไปยังคารุอิซาวะ
1. รถไฟชินคันเซ็น (วิธีที่แนะนำและเร็วที่สุด)นี่คือวิธีที่สะดวกสบาย รวดเร็ว และเป็นที่นิยมที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว
รถไฟ: JR Hokuriku Shinkansen (สายโฮคุริคุ ชินคันเซ็น)
ประเภทขบวน:
Hakutaka (ฮาคุตากะ): จอดบางสถานี (รวมถึงคารุอิซาวะ) เป็นขบวนที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมใช้
Asama (อาซามะ): จอดเกือบทุกสถานี จะใช้เวลามากกว่า Hakutaka เล็กน้อย
ข้อควรระวัง: ขบวน Kagayaki (คากายากิ) เป็นขบวนที่เร็วที่สุด แต่มักจะไม่จอดที่สถานีคารุอิซาวะ)
สถานีต้นทางในโตเกียว:
สถานี Tokyo (Tokyo Station): เป็นจุดเริ่มต้นสายหลัก มีรถออกบ่อยที่สุด
สถานี Ueno (Ueno Station): เป็นอีกหนึ่งสถานีที่ชินคันเซ็นสายนี้จอดรับ
สถานีปลายทาง: สถานี Karuizawa (Karuizawa Station)
ระยะเวลาเดินทาง: ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ถึง 1 ชั่วโมง 20 นาที (ขึ้นอยู่กับขบวน)
ค่าใช้จ่าย: ประมาณ 5,500 - 6,000 เยน (สำหรับที่นั่งแบบ Non-reserved)
ข้อแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว (สำคัญมาก):
JR TOKYO Wide Pass: หากคุณวางแผนเที่ยวแบบ 3 วันในโตเกียวและรอบๆ (เช่น ไปคาวากุจิโกะ, นิกโก้, หรือคารุอิซาวะ) พาสนี้ (ราคาประมาณ 15,000 เยน) คุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะแค่ค่ารถไฟไป-กลับคารุอิซาวะ (ประมาณ 12,000 เยน) ก็เกือบจะคุ้มค่าพาสแล้ว
JR Pass (All Japan): หากคุณมีพาสนี้อยู่แล้ว สามารถใช้เดินทางได้เลยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
2. รถบัสทางไกล (Highway Bus) (วิธีที่ประหยัดที่สุด)
เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดงบประมาณ แต่ต้องใช้เวลาเดินทางนานกว่า
จุดขึ้นรถในโตเกียว: ส่วนใหญ่จะออกจาก Busta Shinjuku (สถานีขนส่งชินจูกุ) หรือ Ikebukuro
จุดลงรถ: สถานี Karuizawa (โดยมากจะจอดที่ทางออกทิศเหนือ)
ระยะเวลาเดินทาง: ประมาณ 3 - 3.5 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรอย่างมาก)
ค่าใช้จ่าย: ประมาณ 2,500 - 4,000 เยน (ราคาผันแปรตามฤดูกาลและบริษัทรถบัส)
ข้อควรพิจารณา: เหมาะสำหรับคนที่ไม่รีบ แต่ไม่แนะนำอย่างยิ่งหากเดินทางช่วงวันหยุดยาวหรือสุดสัปดาห์ เพราะการจราจรขาออกจากโตเกียวอาจติดขัดหนัก
3. การขับรถยนต์ส่วนตัว (วิธีที่ยืดหยุ่นที่สุด)
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแวะเที่ยวระหว่างทาง หรือวางแผนไปเที่ยวที่อื่นต่อ เช่น คุซัทสึออนเซ็น (Kusatsu Onsen)
เส้นทาง: ใช้ทางด่วน Kan-Etsu Expressway ต่อด้วย Joshin-Etsu Expressway
ระยะเวลาเดินทาง: ประมาณ 2.5 - 3 ชั่วโมง (หากการจราจรไม่ติดขัด)
ค่าใช้จ่าย: ค่าเช่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน (Expressway Tolls) ซึ่งค่อนข้างสูง (ประมาณ 5,000 - 7,000 เยนต่อเที่ยว)
ข้อควรพิจารณา:
ที่จอดรถในคารุอิซาวะ โดยเฉพาะย่านคิว-คารุอิซาวะ กินซ่า อาจหาได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูงในช่วงพีค
สำคัญมาก (ฤดูหนาว): หากขับรถไปช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม - มีนาคม) จำเป็นอย่างยิ่งที่รถจะต้องมี "ยางสำหรับหิมะ" (Snow Tires) หรือโซ่ล้อ เพราะมีหิมะตกและถนนลื่น
การเดินทางภายในเมืองคารุอิซาวะ
คารุอิซาวะเป็นเมืองที่สถานที่ท่องเที่ยวค่อนข้างกระจายตัว การเดินเท้าอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ นี่คือวิธีสัญจรยอดนิยม:
1. การเช่าจักรยาน (วิธีที่ยอดนิยมและได้บรรยากาศที่สุด)
คารุอิซาวะมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องเส้นทางปั่นจักรยานที่ร่มรื่น อากาศเย็นสบาย ทำให้การปั่นจักรยานเป็นกิจกรรมที่ห้ามพลาด
สถานที่เช่า: มีร้านให้เช่าจักรยานจำนวนมากบริเวณ "ทางออกทิศเหนือ" (North Exit) ของสถานี Karuizawa
ประเภทจักรยาน:
จักรยานธรรมดา (Mamachari): เหมาะสำหรับการปั่นในพื้นที่ราบ เช่น ไปคิว-คารุอิซาวะ กินซ่า
จักรยานไฟฟ้า (Electric-assist Bike): แนะนำอย่างยิ่ง หากคุณวางแผนจะไปย่านฮอชิโนะ (Hoshino Area) หรือโบสถ์ต่างๆ ซึ่งมีทางขึ้นเนิน จักรยานไฟฟ้าจะช่วยประหยัดแรงได้มหาศาล
ค่าใช้จ่าย: ราคาแตกต่างกันไป เริ่มต้นที่ประมาณ 1,000 เยนสำหรับไม่กี่ชั่วโมง หรือ 2,000 - 3,000 เยนสำหรับเต็มวัน (สำหรับจักรยานไฟฟ้า)
ข้อดี: ได้สัมผัสบรรยากาศของเมืองอย่างเต็มที่ ยืดหยุ่น แวะจอดถ่ายรูปได้ง่าย
ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับวันที่ฝนตก และไม่สามารถใช้ปั่นไปสถานที่ไกลมากๆ เช่น น้ำตกชิราอิโตะ ได้
2. รถบัสท้องถิ่น (Local Bus)
เหมาะสำหรับการเดินทางไปยังจุดที่อยู่ห่างไกลออกไป หรือในวันที่อากาศไม่ดี
ป้ายรถ: ป้ายรถบัสหลักจะอยู่ที่ "ทางออกทิศเหนือ" (North Exit) ของสถานี Karuizawa
เส้นทางสำคัญ:
สายไปน้ำตกชิราอิโตะ (Shiraito Falls): เป็นรถบัสสายที่วิ่งระหว่าง Karuizawa Station - Kyu-Karuizawa - Shiraito Falls (บางคันอาจวิ่งต่อไปถึง Kusatsu Onsen)
สายไปย่านฮอชิโนะ (Hoshino Area): มีรถบัสของ Seibu หรือรถชัทเทิลบัสของ Hoshino Resort (อาจมีค่าบริการ) วิ่งไป Naka-Karuizawa และ Hoshino Area
Karuizawa Loop Bus: รถบัสวนรอบเมือง จอดตามจุดท่องเที่ยวหลัก
ข้อควรพิจารณา: รถบัสอาจมีรอบวิ่งไม่บ่อยนัก (โดยเฉพาะสายที่ไปน้ำตก) ควรตรวจสอบตารางเวลาล่วงหน้า
3. แท็กซี่ (Taxi)
สะดวก รวดเร็ว แต่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุด
จุดจอด: มีจุดจอดแท็กซี่ทั้งทางออกทิศเหนือและทิศใต้ของสถานี Karuizawa
เหมาะสำหรับ: การเดินทางเร่งด่วน, การเดินทางพร้อมสัมภาระเยอะ, การเดินทางเป็นกลุ่ม 3-4 คน (ช่วยหารค่าใช้จ่าย), หรือเมื่ออากาศไม่ดี
ค่าใช้จ่าย (ประมาณ): จากสถานีไปย่านฮอชิโนะ (Hoshino Area) อาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000 - 3,000 เยน
4. การเดินเท้า (Walking)
เหมาะสำหรับการสำรวจใน "พื้นที่เฉพาะจุด" แต่ไม่เหมาะกับการเดินทางข้ามโซน
พื้นที่ที่เดินได้สะดวก:
สถานี Karuizawa <-> Karuizawa Prince Shopping Plaza: เดินถึงกันได้ง่ายมาก (อยู่ติดกับทางออกทิศใต้)
สถานี Karuizawa -> คิว-คารุอิซาวะ กินซ่า (Kyu-Karuizawa Ginza): สามารถเดินได้ ใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที เป็นการเดินเล่นที่เพลินดี
พื้นที่ที่เดินไม่สะดวก (ไกลเกินไป): สถานี Karuizawa ไปยัง Hoshino Area หรือ น้ำตกชิราอิโตะ (ไม่แนะนำให้เดินเด็ดขาด)
อาหารท้องถิ่นของคารุอิซาวะ (Local Food of Karuizawa)
คารุอิซาวะเป็นเมืองรีสอร์ตภูเขาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนางาโนะ ซึ่งขึ้นชื่อทั้งเรื่องอากาศบริสุทธิ์ ผลิตผลสดใหม่จากไร่ และคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่นที่กระจายอยู่ทั่วเมือง วิถีการกินของที่นี่สะท้อนทั้งความพิถีพิถันแบบญี่ปุ่นและกลิ่นอายตะวันตกที่หลอมรวมกันมาตั้งแต่สมัยที่คารุอิซาวะเป็นสถานที่พักตากอากาศของชาวต่างชาติในยุคเมจิ
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนมักประทับใจกับอาหารเช้าแบบโฮมเมดจากวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น ขนมปังอบสดใหม่ แยมผลไม้จากไร่สตรอว์เบอร์รี่ หรือโยเกิร์ตนมสดจากฟาร์มใกล้ภูเขาอาซามะ ซึ่งมีรสเข้มและหอมกว่านมทั่วไปเพราะวัวเลี้ยงในอากาศเย็นบริสุทธิ์ หนึ่งในสิ่งที่ถือเป็น "รสชาติของคารุอิซาวะ" คือ แยมผลไม้ (Fruit Jam) ที่ทำจากผลไม้ในฤดูกาล เช่น บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ และแอปเปิล ร้าน "Sawaya Jam" เป็นชื่อที่คนญี่ปุ่นรู้จักดีและมักซื้อเป็นของฝาก นอกจากแยมแล้ว ยังมีน้ำผลไม้และซอสสลัดจากผลไม้สดจำหน่ายในย่าน Old Karuizawa Ginza ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชิมฟรีก่อนเลือกซื้อได้
อาหารอีกประเภทที่สะท้อนความเป็นเมืองรีสอร์ตคือ เบเกอรี่และขนมอบสไตล์ยุโรป คาเฟ่เก่าแก่หลายแห่งในคารุอิซาวะก่อตั้งโดยชาวตะวันตก เช่น ร้าน Bakery & Restaurant Sawamura ที่ขึ้นชื่อเรื่องขนมปังฝรั่งเศส เนย และซุปผักแบบโฮมเมด ส่วนร้าน Mikado Coffee เสิร์ฟกาแฟคั่วสดพร้อมไอศกรีมเอสเพรสโซ่ชื่อดังที่เรียกว่า "Mocha Soft" ซึ่งกลายเป็นของหวานสัญลักษณ์ของเมือง
เมนูที่ไม่ควรพลาดในฤดูหนาวคือ สตูว์และชีสฟองดู (Cheese Fondue) เพราะคารุอิซาวะมีฟาร์มโคนมและผลิตชีสคุณภาพดีจากนมท้องถิ่น ร้านอาหารแนวอัลไพน์และยุโรปจึงเสิร์ฟเมนูอบร้อน เช่น สตูว์เนื้อวากิวกับไวน์แดง หรือชีสฟองดูที่รับประทานคู่กับขนมปังและมันฝรั่งอบ รสเข้มกลมกล่อม เหมาะกับอากาศเย็นของภูเขา อีกจานหนึ่งที่ได้รับความนิยมคือ โซบะ (Soba) เส้นบัควีตที่ทำจากแป้งโซบะของจังหวัดนางาโนะ ซึ่งถือเป็นแหล่งปลูกบัควีตชั้นดีในญี่ปุ่น เส้นของคารุอิซาวะจะเหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอมถั่วอ่อน ๆ นิยมกินแบบเย็นในฤดูร้อน หรือแบบราดน้ำซุปอุ่นในฤดูหนาว ร้านยอดนิยมคือ Kawakami-an ที่ใช้วัตถุดิบจากฟาร์มใกล้เคียงและมีบรรยากาศเรียบง่ายท่ามกลางป่า
ดูกิจกรรมอื่น ๆ บน Klook
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่น
- 1 ภูเขาไฟฟูจิ
- 2 อาราชิยาม่า
- 3 สวนนารา
- 4 สวน Shikisai no Oka
- 5 สวนสัตว์ Asahiyama
- 6 สันทรายแห่งอามาโนฮาชิดาเตะ
- 7 Yufuin Floral Village
- 8 หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
- 9 วัดคินคะคุจิ
- 10 ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ
- 11 วัดคิโยะมิซุ
- 12 อาซากูซะ
- 13 โตเกียวดิสนีย์แลนด์
- 14 ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ เจแปน
- 15 Warner Bros. Studio Tour. The making of Harry Potter
- 16 ตึกชิบูย่า สกาย
- 17 โตเกียวสกายทรี
- 18 พิพิธภัณฑ์จิบลิ
- 19 อุเมะดะ สกาย บิลดิ้ง
- 20 โตเกียวดิสนีย์ซี