• ไปยังแอป
  • เลือกจุดหมายปลายทาง
  • ทริปโตเกียว - ภูเขาไฟฟูจิ 3 วัน 2 คืน | ฟูจิคิวไฮแลนด์ คาวากุจิโกะ และอื่นๆ อีกมากมาย🎢🏞️

    Klook Thailand
    อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 2024
    คุณสามารถจอง และสัมผัสกับสิ่งที่ดีที่สุด รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม บริการรถเช่า ซิมการ์ด และอื่นๆ อีกมากมายบน Klook สมัครตอนนี้เลย! 🧡
    รับส่วนลด 10% ลดสูงสุด 100.- สำหรับการจองแอปครั้งแรกของคุณเมื่อคุณใช้รหัสโปรโมชั่น <TH10APP> เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไข
    ดาวน์โหลดแอป Klook ของคุณตอนนี้เลย!iOS | Android

    ทริปพักผ่อนจากโตเกียว - ภูเขาไฟฟูจิ

    แม้ว่าโตเกียวจะมีกิจกรรมให้ทำมากมายไม่รู้จบ แต่เราตัดสินใจหนีจากเมืองหลวงที่มีชีวิตชีวาและมุ่งหน้าไปยังภูมิภาคทะเลสาบทั้งห้าของฟูจิ (ฟูจิโกโกะ) เพื่อสูดอากาศที่เย็นกว่าและรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ในจังหวัดยามานาชิและติดกับชิซูโอกะ คุณสามารถเดินทางไปยังฟูจิโกโกะได้อย่างง่ายดายโดยรถไฟภายในเวลาประมาณสองชั่วโมง ทำให้เป็นสถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบแม้มีเวลาเพียงวันเดียว แม้ว่าจะมีกิจกรรมให้ทำมากมายและวิวที่น่าทึ่งให้ชม ก็อาจไม่เพียงพอสำหรับหนึ่งวัน!
    เมื่อเดินผ่านถนนแคบๆ ในชนบทของญี่ปุ่น จะค้นพบร้านกาแฟในท้องถิ่น และมองเห็นแมวตัวอ้วนๆ ตลอดทาง เราก็รู้ทันทีว่าทริปนี้ไม่สามารถจำกัดไว้เพียงวันเดียวได้ ด้วยความสุขง่ายๆ เหล่านี้ เรายังได้เรียนรู้วิธีทำโซบะ นั่งรถไฟเหาะทำลายสถิติโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นภาพพื้นหลังในการสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ และแม้แต่การทำเครื่องแก้วของเราเองเพื่อนำกลับบ้าน และอื่นๆ อีกมากมายที่เราไม่เพียงแค่ใช้พื้นที่เก็บข้อมูลในโทรศัพท์จนเต็มเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพความทรงจำที่น่าประทับใจมากๆ อีกด้วย! ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาแผนการเดินทางเพื่อให้การเดินทางของคุณนั้นได้รับประสบการณ์สูงสุด ลองดูวิธีที่เราได้จัดวางแผนการเดินทางรอบๆ ภูเขาฟูจิที่โด่งดังและสร้างแรงบันดาลใจต่างๆ ในทริปนี้ดู!

    วิธีเดินทางไปภูเขาไฟฟูจิจากโตเกียว

    การเดินทางไปภูเขาไฟฟูจิมีหลายวิธีโดยคุณสามารถเลือกใช้บริการรถบัส จองรถเช่าส่วนตัว เช่ารถ หรือนั่งรถไฟก็ได้ วิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับเราคือรถไฟ Fuji Excursion ซึ่งเป็นรถไฟด่วนพิเศษที่จะพาคุณจากสถานี JR ชินจูกุไปจนถึงสถานีสุดท้ายในสถานีคาวากุจิโกะ
    คุณสามารถเลือกซื้อตั๋วรถไฟ Fuji Excursion ได้โดยตรงผ่าน ครื่องจำหน่ายตั๋ว Shinkansen & Express ในสถานี หรือทางออนไลน์ผ่านแอป Klook คุณสามารถจองผ่านแอปเพื่อใช้สกุลเงินท้องถิ่น (เช่น กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเครดิต/เดบิต) และเก็บเงินเยนไว้เพื่อของว่างและสิ่งของอื่นๆ โดยทำตามขั้นตอนด้านล่าง เพียงใส่ชื่อสถานี"ชินจูกุ" ลงใน "โอสึกิ" (คุณอาจใส่ "คาวากุจิโกะ" ก็ได้ แต่สำหรับแผนการเดินทางนี้ เราจะเริ่มต้นด้วยโอสึกิ)
    Go Japan! แพ็กเกจ Value Pack สำหรับเที่ยวญี่ปุ่น

    วิธีการเดินทางรอบๆ บริเวณทะเลสาบฟูจิทั้ง 5 แห่ง

    ก่อนที่จะออกเดินทางสำรวจและไปทำกิจกรรมต่างๆ ที่วางแผนไว้ทั้งหมด ขอแนะนำให้รับบัตร Mt. Fuji Pass ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วในสถานีโอสึกิก่อน หากคุณมุ่งหน้าไปที่สถานีคาวากุจิโกะแทน ก็สามารถรับบัตรที่นั้นได้เช่นกัน บัตรผ่านภูเขาไฟฟูจิเป็นกุญแจสำคัญในการเดินทางรอบๆ ทะเลสาบฟูจิทั้ง 5 แห่ง (เช่น การเข้าถึง โอสึกิไปยังคาวากุจิโกะด้วยรถไฟและรถบัสฟูจิคิว) นอกจากนี้ยังเป็นบัตรผ่านไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ เช่น Fuji-Q Highland, Mt. Fuji Panoramic กระเช้าลอยฟ้า และเรือท่องเที่ยวที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (หรือที่รู้จักในชื่อ 'เรือท่องเที่ยวคาวากุจิโกะ') - บัตรผ่านนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเท่านี้เท่านั้น นี่เป็นเพียงสิ่งที่สามารถทำได้ในแผนการเดินทางนี้เท่านั้น เมื่อคุณจองบัตรผ่านนี้ คุณจะมีตัวเลือกในการเลือกระยะเวลาใช้งานได้ เช่น 1, 2 หรือ 3 วัน
    เฉพาะในสถานีคาวากุจิโกะ คุณจะพบกับรถบัสหลายสายที่สามารถพาคุณไปได้ทุกที่ที่คุณต้องการและรองรับ Mt. Fuji Pass คุณสามารถตรวจสอบเส้นทางรถประจำทางและป้ายจอดก่อนการเดินทางได้ที่เว็บไซต์คาวากุจิโกะ นอกจากนี้ยังมีแท็กซี่และรถยนต์ให้เช่า หากคุณต้องการลดเวลาการเดินทางและเพลิดเพลินกับการขับรถชมวิวทิวทัศน์ในจังหวัดยามานาชิ
    จองบัตร Klook Pass โตเกียว คลิกเลย!

    ที่พักใกล้ภูเขาไฟฟูจิ

    Highland Resort Hotel & Spa

    โรงแรมใกล้ภูเขาไฟฟูจิ โรงแรมนี้ถือเป็นโรงแรมที่สะดวกที่สุด (นอกเหนือจากการมองเห็นวิวฟูจิแบบไม่มีอะไรมาบดบังแล้ว)! เนื่องจากแผนการเดินทางของเรารวม Fuji-Q Highland และ Fujiyama Onsen เราจึงตัดสินใจเลือก Highland Resort Hotel & Spa แห่งนี้
    การพักที่ Highland Resort Hotel & Spa ทำให้เราสามารถเข้าถึงกิจกรรมทั้งหมดที่วางแผนไว้ได้! นอกจากจะอยู่ติดกับ Fuji-Q Highland, Fujiyama Onsen และ Fujiyama Museum แล้ว ยังมีรถรับส่งแบบวนรอบ Fujikyu ให้บริการฟรี สำหรับแขกที่มาใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของ Fujikyu ดังนั้นหากคุณต้องมาหรือไปที่สถานีคาวากุจิโกะหรือสถานี Mt. Fuji คุณสามารถใช้บริการรถบัสรับส่งนี้ไปยังโรงแรมและไปยังสถานที่อื่นๆ ของFujikyu ได้ (เช่น Fujisan World Heritage Center, Highland Station Inn ฯลฯ)

    PICA Fujiyama

    หากคุณกำลังมองหาสถานที่เงียบสงบ ขอแนะนำการตั้งแคมป์ เนื่องจากยามานาชิเป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ตั้งแคมป์ที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนในพื้นที่และผู้มาเยือน คุณจึงสามารถพบกับสถานที่ตั้งแคมป์ที่สวยงามและรีสอร์ทกลางแจ้ง เช่น PICA Fujiyama แห่งนี้
    สิ่งที่คุณจะต้องชื่นชอบเกี่ยวกับรีสอร์ทกลางแจ้งคือ มีอุปกรณ์สำหรับการตั้งแคมป์ไว้ให้คุณตั้งแต่เครื่องนอน อุปกรณ์ปิ้งย่าง และแม้กระทั่งกล้องส่องทางไกลให้เช่า อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบโรงแรม เช่น ฝักบัว สบู่ ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ สิ่งที่คุณต้องทำก็แค่เพลิดเพลิน อากาศบริสุทธิ์ ความเขียวขจี พร้อมวิวทิวทัศน์ภูเขาไฟฟูจิ! นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถโน้มน้าวเพื่อนที่ไม่ตั้งแคมป์ให้เข้าร่วมได้ง่ายขึ้น!
    หากคุณวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การขับรถชมวิวทิวทัศน์ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่ง โดย PICA มีแพ็คเกจแกลมปิ้งที่รวมบริการรถเช่า ดังนั้นคุณจึงสามารถรับรถเช่าของคุณในโตเกียว จากนั้นตรงไปที่ยามานาชิได้อย่างง่ายดาย !

    แผนการเดินทาง 3 วัน 2 คืนจากโตเกียวไปยังภูเขาไฟฟูจิ

    วันที่ 1

    เริ่มต้นวันใหม่แต่เช้า เพื่อจะได้เตรียมสัมภาระให้พร้อมสำหรับการเดินทางและรับประทานอาหารเช้าให้อิ่ม เพราะจะต้องนั่งรถไฟจากสถานีชินจูกุในโตเกียวเกือบสองชั่วโมง ซึ่งเวลาที่เราจองไว้คือตอน 09.30 น. เที่ยวภูเขาไฟฟูจิ เพื่อใช้เวลาวันแรกของเราให้คุ้มค่าที่สุด อย่างไรก็ตาม หากคุณพลาดมื้อแรกของวัน คุณสามารถซื้ออาหารระหว่างเดินทางและรับประทานอาหารบนรถไฟได้ตลอดเวลา
    เนื่องจากเราพักที่ Keio Plaza Hotel การเดินไปสถานีชินจูกุจึงใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเท่านั้น เป็นเรื่องจริงที่มีคนบอกว่าสถานีชินจูกุนั้นหนาแน่นมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน ดังนั้นคุณจึงควรมองหาเครื่องขายตั๋วที่มีโลโก้สีเขียวที่มีข้อความว่า "ชินคันเซ็นและตั๋วด่วน" ด้วย เนื่องจากเราจองตั๋วรถไฟ Fuji Excursion ล่วงหน้า สิ่งที่เราต้องทำคือมองหาการแลก QR Code บนหน้าจอ จากนั้นสแกน QR Code จากการจองออนไลน์ และรอให้ตั๋วของเราพิมพ์ออกมา ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้บริการตามหมายเลขรถและที่นั่งที่กำหนด

    กิจกรรมเป่าแก้วภูเขาไฟฟูจิจิ๋ว

    หลังจากรับบัตร Mt. Fuji Pass ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วในสถานีโอสึกิแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มกิจกรรมแรกของทริปนี้กันแล้ว! กิจกรรมการเป่าแก้วที่รวมไว้อยู่ในแผนการเดินทาง เพราะจะทำให้คุณได้สร้างสรรค์ภูเขาไฟฟูจิในเวอร์ชันกระจกจิ๋วของเราเองซึ่งเราสามารถนำกลับบ้านเป้นที่ระลึกได้
    โดยแต่ละคนใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ นี่เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่คุณจะได้เข้าสู่ความสงบและมีสมาธิ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราหลายคนต้องการ นอกจากความเร่งรีบในชีวิตประจำวัน! เราได้กำหนดเวลาในการสัมผัสประสบการณ์การเป่าแก้วไว้ในวันแรก เนื่องจากคุณจะต้องทิ้งผลงานของคุณไว้เป็นเวลาหนึ่งวัน เพื่อหลอมหรือทำให้เย็นลงจนคงรูป คุณสามารถเลือกว่าจะกลับไปรับในวันถัดไปหรือให้จัดส่งไปที่โรงแรมของคุณก็ได้ ซึ่งจะใช้เวลาภายใน 1-2 วัน เนื่องจากเราจะไปคาวากุจิโกะหลังจากนั้น เราจึงเลือกจัดส่งไปยังโรงแรม
    หากต้องการไปกิจกรรมเป่าแก้ว คุณสามารถนั่งรถบัสจากสถานีโอสึกิไปยังชิราอิชิกลาสสตูดิโอ ขึ้นรถบัสฟูจิคิวยามานาชิที่มุ่งหน้าไปยัง “ฮาไมบะ” หรือ “คามิมากิ” แล้วลงที่ป้ายรถบัสสึจิ

    เรียนรู้วิธีการทำโซบะ

    ต่อไปคือกิจกรรมการทำโซบะ เพื่อเป็นของฝากจากภูเขาไฟฟูจิด้วยฝีมือของคุณเอง! เราได้ทำการจองคลาสสุดท้ายไว้ตอน 15.30 น. เพื่อให้มีเวลาเดินทางจากโอสึกิที่มากเพียงพอ 
    คุณสามารถไปเรียนทำโซบะได้ด้วยการเดินเพียง 12 นาทีจากสถานีคาวากุจิโกะ และคุณจะได้เดินเล่นไปตามถนนแคบๆ และชมบ้านเรือนที่มีเสน่ห์ในชนบทของญี่ปุ่น
    เช่นเดียวกับกิจกรรมเป่าแก้ว การทำโซบะก็ช่วยให้คุณผ่อนคลายอย่างมากเช่นกัน เราใช้เวลาปั้นแป้งเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่เหมาะสม จากนั้นจึงหั่นแป้งด้วยตนเอง (ความท้าทายคือการทำให้แน่ใจว่าเส้นบะหมี่ไม่หนาหรือบางเกินไป)! บรรยากาศก็สมบูรณ์แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระอาทิตย์กำลังส่องแสง หรือสายลมฤดูร้อนจากหน้าต่างที่เปิดอยู่ พร้อมด้วยดนตรีแจ๊สเบาๆ ที่เล่นเป็นแบ็คกราวด์ นับเป็นบรรยากาศที่ดีที่ได้สัมผัสระหว่างการเดินทาง
    หลังจากเตรียมโซบะแล้ว ก็จะปรุงและเสิร์ฟพร้อมกับซอสและเครื่องเทศยี่ห้อต่างๆ หลังจากสิ้นสุดกิจกรรมวันแรกนี้ ก็ถึงเวลารับประทานอาหารค่ำที่อิ่มเอิบและเอร็ดอร่อยกันแล้ว
    ขณะที่เราเดินทางกลับไปยังสถานีคาวากุจิโกะ ระหว่างทางจะมีร้าน Lawson อันโด่งดัง ซึ่งมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ซึ่งคุณสามารถแวะถ่ายภาพเพื่อเช็คอินที่นี่ได้ หรือจะแวะทานอาหารว่างและเติมของว่างที่คุณสามารถหาได้เฉพาะในร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นเท่านั้น! นอกจากนี้ยังมี 7‐11 อยู่ตรงข้ามหากคุณต้องการลองสมูทตี้ที่เป็นเมนูยอดฮิตอยู่ในตอนนี้
    ที่สถานีคาวากุจิโกะ คุณสามารถรอรถบัสของ Fujikyu เพื่อไปโรงแรมที่ Highland Resort Hotel & Spa เนื่องจากได้จองบริการจัดส่งสัมภาระ กระเป๋าของเราก็ถึงที่โรงแรมแล้ว ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาในการขนสัมภาระให้วุ่นวาย และสิ่งที่เราต้องทำก็แค่การเช็คอินเท่านั้น
    หากมีเวลาเหลือก็สามารถสำรวจบริเวณใกล้โรงแรมได้ ซึ่งมีร้านอาหารหลายแห่งในบริเวณใกล้เคียงและร้าน Don Quijote อีกด้วยเช่นกัน

    วันที่ 2

    เริ่มต้นวันที่สองอย่างสนุกสนาน ด้วยการเดินทางไป Fuji-Q Highland เป็นสถานที่แรก! โดยจะใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมงที่นี่ พร้อมเล่นเครื่องเล่นให้มากที่สุดและลองชิมอาหารที่น่ารับประทานมากมาย ทั้งแผงขายของและแม้แต่ศูนย์อาหาร!

    เพลิดเพลินไปกับรถไฟเหาะสุดหวาดเสียวและอาหารแสนอร่อยที่ Fuji-Q Highland

    Fuji-Q Highland ที่ที่จะใช้เวลาเกือบทั้งวันที่นี่ ซึ่งคุณจะรู้สึกอยากใช้เวลาไม่เพียงแต่สำหรับการเล่นเครื่องเล่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรับประทานอาหารและชมวิวที่นี่อีกด้วย!
    ขนมยอกนิยมที่นี่ได้แก่ มันฝรั่งทอร์นาโด (มันฝรั่งหั่นเป็นชิ้นวางซ้อนกันบนแท่งไม้) ลูกอมสตรอว์เบอร์รี่ (สตรอเบอร์รี่หวานบนแท่งไม้) และขนมปัง 10 เยน (ขนมปังอบชีส) จริงๆ แล้ว หากคุณเวียนหัวได้ง่าย อาหารที่นี่ก็สามารถช่วยคุณฆ่าเวลาในขณะที่คุณรอเพื่อนที่ชอบอะดรีนาลีนเล่นเครื่องเล่นได้
    คุณจะรู้สึกเหมือนมาไม่ถึง Fuji-Q Highland หากคุณไม่ได้เล่น King of Coasters – FUJIYAMA ในปี 1996 เครื่องเล่นนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นรถไฟเหาะที่สูงที่สุดในโลกที่ความสูง 79 เมตร โดยมีความสูงในแนวดิ่งถึง 70 เมตร!
    อีกหนึ่งเครื่องเล่นที่เป้นที่ชื่นชอบคือ Zokkon เป็นการขี่มอเตอร์ไซค์ในธีมล้ำสมัยที่มีการเลี้ยวที่สูงชัน โหมดถอยหลัง และมีดนตรีประกอบที่สนุกสนานจริงๆ! เครื่องนี้ได้รับการรับรองว่าตื่นเต้นและบ้าระห่ำไม่แพ้ฟูจิยามะเลย นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นอื่นๆ เช่น Tondemina - Super Pendulum ที่คุณจะถูกเหวี่ยงจากด้านหนึ่งไปอีกด้าน ซึ่งเป็นการหมุนแบบ 360 องศา!
    อย่าลืมแวะไปที่ "NARUTO X BORUTO Hidden Leaf Village"! ภายในมีพิพิธภัณฑ์ที่คุณจะได้พบกับฉากจาก "NARUTO Shippūden" (อย่าลืมนำเสื้อคลุมแสงอุษามาด้วยเมื่อคุณถ่ายรูป!) คุณจะได้พบกับโมเดลขนาดเท่าจริงของตัวละครที่คุณชื่นชอบ อาร์เคด และเกม 3 มิติ ร้านอาหาร สตูดิโอถ่ายภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย!
    ⓒ2002MK - 2007SP ⓒ2002MK - 2017โบรูโตะ
    ⓒ2002MK - 2007SP ⓒ2002MK - 2017โบรูโตะ
    ⓒ2002MK - 2007SP ⓒ2002MK - 2017โบรูโตะ
    หากคุณไม่ใช่คนประเภทชอบนั่งรถไฟเหาะหรือมีเด็กเล็กไปด้วย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เงียบสงบอื่นๆ ให้เลือก เช่น Thomas' Treasure Hunt, Nia และ Animal Coaster เป็นต้น คุณยังสามารถชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาไฟฟูจิได้โดยไม่ต้องนั่งรถ Fujiyama เพียงแค่มุ่งหน้าไปยัง Fujiyama Tower ซึ่งมีสไลเดอร์ที่ความสูง 120 เมตร ที่จะหมุนวนลงมาจากด้านบนสุดของหอคอย!
    แม้ว่าคุณจะไม่อยากเล่นสไลเดอร์ แต่ Fujiyama Tower ก็คุ้มค่าแก่การเยี่ยมชม เพื่อดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาไฟฟูจิ คุณยังจะได้เห็นเครื่องเล่นที่เคลื่อนตัวไปมาบนรถไฟเหาะฟูจิยามะจากจุดชมวิวอีกด้วย!

    ผ่อนคลายในออนเซ็นแบบดั้งเดิม

    และแล้วก็ถึงเวลาต้องผ่อนคลายอย่างเต็มที่กันแล้ว ไม่ใช่แค่จากการได้ใช้เวลาในชีวิตไปกับเครื่องเล่น Fuji-Q เท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกอย่างที่เราทำในโตเกียวก่อนหน้านี้ด้วย คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่าการแช่ออนเซ็นแบบดั้งเดิมใกล้ภูเขาไฟฟูจิอีกแล้ว
    เนื่องจากเราพักที่ Highland Resort Hotel & Spa เราจึงสามารถเข้าใช้บริการ Fujiyama Onsen ได้ฟรี โรงแรมมีทางเดินเชื่อมเป็นของตัวเองอีกด้วย เราแค่ต้องแสดงคีย์การ์ดโรงแรมที่แผนกต้อนรับเพื่อลงทะเบียนเท่านั้น

    วันที่ 3

    เพื่อให้ทริปภูเขาไฟฟูจินั้นน่าประทับใจที่สุด เราจึงได้ทำกิจกรรมเพิ่มอีกหนึ่งกิจกรรมก่อนเดินทางกลับโตเกียว ตั้งแต่การเป่าแก้วของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใคร การทำโซบะสำหรับมื้อเย็นเอง ไปจนถึงการนั่งรถไฟเหาะที่น่าหวาดเสียวที่สุด ถึงเวลาที่จะดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์อันน่าทึ่งของภูเขาไฟฟูจิจากจุดชมวิวกันแล้ว
    จองรถเช่ากับ Klook!

    ชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม

    เส้นทางที่จะเดินทางไปทะเลสาบคาวากุจิโกะนั้น มีกระเช้าลอยฟ้าและเรือท่องเที่ยวอยู่นั้นด้วยเช่นกัน การเดินทางวันนี้จะใช้บริการรถบัสนำเที่ยวคาวากุจิโกะ (สายสีแดง) คุณสามารถนั่งรถบัสรับส่งฟรีของ Fujikyu จากโรงแรมไปยังสถานีคาวากุจิโกะ จากนั้นรอรถบัสนำเที่ยวเพื่อเริ่มต้นการเดินทาง
    สิ่งที่เราต้องการสำหรับการนั่งรถบัสและการเข้าชมทั้งเรือท่องเที่ยวทะเลสาบคาวากุจิโกะและกระเช้าลอยฟ้าชมวิวภูเขาไฟฟูจิคือ บัตรผ่านภูเขาไฟฟูจิ นั้นเอง!
    เหตุผลที่กำหนดเวลาทั้งเรือท่องเที่ยวและกระเช้าลอยฟ้าไว้เข้าด้วยกันเพราะว่าทั้งสองแห่งอยู่ในระยะที่สามารถเดินถึงกันได้ นอกจากนี้ยังมี Fujiyama Cookie ร้านคุกกี้ชื่อดังที่ผลิตคุกกี้รูปฟูจิทำมือที่มีรสชาติต่างๆ เช่น เอิร์ลเกรย์ วานิลลา สตรอเบอร์รี่ มัทฉะ และช็อคโกแลต!

    ถึงเวลาออกการเดินทางไปฟูจิโกโกะแล้ว!

    ตอนนี้เมื่อคุณเข้าใจถึงแผนการเดินทางภูเขาไฟฟูจิแบบ 3 วัน 2 คืนแล้ว ก็ถึงเวลาจองสิ่งที่จำเป็นเกี่ยวกับญี่ปุ่นของคุณผ่าน Klook กันแล้ว!
    🍣 สิ่งจำเป็นของญี่ปุ่น🍣
    🚅รถไฟและบริการรับส่งสนามบิน
    📌ข้อมูลมือถือและบัตรโดยสารรถไฟใต้ดิน
    🏯 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น 🏯

    ไม่พลาดทุกโปรเด็ด ติดตามคลูกได้ทุกช่องทาง

    Facebook | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthfb
    Instagram | @klooktravel_th 👉🏼 bit.ly/kookthig
    Twitter | @klookth 👉🏼 bit.ly/klooktwitter
    TikTok | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthtt
    Youtube | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthyt

    👤 สอบถามรายละเอียดก่อนจอง

    Line Official Account | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthoa

    💬 ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าหลังการขาย

    🔍แนะนำให้อ่าน

    กิจกรรมที่น่าสนใจ
    [อัพเดทบ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่นปี 2024] | 15 บ่อน้ำพุร้อนยอดนิยมของญี่ปุ่น♨️
    เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการมาแช่บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น! ญี่ปุ่นอุดมไปด้วยแหล่งน้ำพุร้อน และมีรีสอร์ทน้ำพุร้อนหลายแห่งตั้งแต่เหนือจรดใต้ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ในลิสต์อัพเดทบ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่นนี้ เราขอแนะนำบ่อน้ำพุร้อนยอดนิยมของญี่ปุ่น 15 แห่ง ตั้งแต่บ่อน้ำพุร้อนโนโบริเบ็ตสึ บ่อน้ำพุร้อนอาตามิ บ่อน้ำพุร้อนกินซัน ไปจนถึงบ่อน้ำพุร้อนยูฟุอินในฮอกไกโด ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหนในญี่ปุ่น คุณก็จะได้พบกับแหล่งน้ำพุร้อนที่ใกล้ๆ เริ่มต้นทริปที่ Klook ก่อนไปญี่ปุ่นแช่น้ำพุร้อนกัน!
    สารบัญบทความ
    สารบัญบทความ