เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการมาแช่บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น! ญี่ปุ่นอุดมไปด้วยแหล่งน้ำพุร้อน และมีรีสอร์ทน้ำพุร้อนหลายแห่งตั้งแต่เหนือจรดใต้ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ในลิสต์อัพเดทบ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่นนี้ เราขอแนะนำบ่อน้ำพุร้อนยอดนิยมของญี่ปุ่น 15 แห่ง ตั้งแต่บ่อน้ำพุร้อนโนโบริเบ็ตสึ บ่อน้ำพุร้อนอาตามิ บ่อน้ำพุร้อนกินซัน ไปจนถึงบ่อน้ำพุร้อนยูฟุอินในฮอกไกโด ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหนในญี่ปุ่น คุณก็จะได้พบกับแหล่งน้ำพุร้อนที่ใกล้ๆ เริ่มต้นทริปที่ Klook ก่อนไปญี่ปุ่นแช่น้ำพุร้อนกัน!
คุณสามารถจอง และสัมผัสกับสิ่งที่ดีที่สุด รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม บริการรถเช่า ซิมการ์ด และอื่นๆ อีกมากมายบน Klook สมัครตอนนี้เลย! 🧡
รับส่วนลด 5% สำหรับการจองแอปครั้งแรกของคุณเมื่อคุณใช้รหัสโปรโมชั่น<BETTERONAPP> เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไข
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #1 คุซัทสึออนเซ็น (Kusatsu Onsen) ที่กุมมะ
"บ่อน้ำพุร้อนคุซัทสึ" หนึ่งใน "สามบ่อน้ำพุร้อนโบราณในญี่ปุ่น" มีปริมาณน้ำพุร้อนมากที่สุดในญี่ปุ่น มีน้ำพุร้อนมากกว่า 32,300 ลิตรพุ่งออกมาทุกนาที ค่า pH อยู่ระหว่าง 1.7 ถึง 2.1 และ มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อและทางการแพทย์ เป็นน้ำพุที่มีประสิทธิภาพและตั้งอยู่ใจกลางถนนบ่อน้ำพุร้อน มี "ยูบาตะ" ที่เป็นเอกลักษณ์ที่สามารถปรับอุณหภูมิของน้ำได้ "Time Bath" เป็นวิธีการบำบัดน้ำพุร้อนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะผ่าน “Tank Rubbing” และ “Chanting” ไม่เพียงแต่ช่วยลดระยะเวลารอคอยในการแช่ตัว ไม่น่าแปลกใจเลยที่ที่นี่ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ใน "100 บ่อน้ำพุร้อนในญี่ปุ่น" ติดต่อกันเป็นปีที่ 19
"Kusatsu Onsen Adaya Hotel" อยู่ห่างจาก "Yubatake" เพียง 800 เมตร ซึ่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่มีกลิ่นอายของความทันสมัย เจ้าของมีความกระตือรือร้นและเอาใจใส่ โดยให้การบริการที่อบอุ่นอย่างเต็มที่ และแบ่งปันทุกอย่างเกี่ยวกับคุซัทสึ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเดินไปยัง "อุทยานแห่งชาติโจชิเนสึโคเก็น (Joshinetsu Kogen National Park)" และ "คุซัทสึอนเซ็นสกีรีสอร์ท (Kusatsu Onsen Ski Resort)" ได้อีกด้วย ซึ่งคุณไม่เพียงแต่จะได้แช่น้ำพุร้อนเท่านั้นแต่ยังสามารถเล่นสกีได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์เป็นสองเท่าจากที่นี้
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #2 เกโระออนเซ็น (Gero Onsen) ที่กิฟุ
“เกโระออนเซ็น” หนึ่งใน “สามบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น” เป็นเมืองบ่อน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ในเขตฮิดะ ทาคายามะ ของจังหวัดกิฟุ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี เป็นน้ำร้อนตามธรรมชาติ ซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 84°C พุ่งออกมาจากพื้นดิน ค่า pH อยู่ที่ 9.2 ซึ่งมีความเป็นด่างอ่อน น้ำใส ไม่มีสี ส่วนผสมเรียบง่าย ไม่มีกลิ่นกำมะถัน แต่มีกลิ่นอ่อนๆ นุ่มนวล เหมือนกับสบู่ธรรมชาติ ผิวจะรู้สึกเนียนและชุ่มชื้น ผลจากแช่ยังช่วยในการรักษาและได้รับความสนใจจากแพทย์และการวิจัยอีกด้วย
โรงแรมสไตล์ครอบครัว "เกโร ออนเซน มัตซึมิกัน (Gero Onsen Mutsumikan)" ในเมืองน้ำพุร้อนอยู่ห่างจากสถานีเกโระ โดยใช้เวลาเดินเพียง 2 นาที มีการคมนาคมที่สะดวก ห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นที่สะอาด สบาย และยังตกแต่งด้วยภาพวาดและภาพประกอบของญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการเสิร์ฟอาหาร การบริการและความเอาใจใส่ของพนักงาน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนญี่ปุ่น ดังนั้นค่าที่พักจึงค่อนข้างสูง
Go Japan! แพ็กเกจ Value Pack สำหรับเที่ยวญี่ปุ่น
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #3 ฮานะ เบปปุ
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #3 ฮานะ เบปปุ
เมืองเบปปุในจังหวัดโออิตะ มีจำนวนและปริมาณน้ำพุร้อนมากที่สุดในญี่ปุ่น ดังนั้น "บ่อน้ำพุร้อนที่ฮานะ เบปปุ" จึงเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่เป็นตัวแทนบ่อน้ำพุร้อนอีกแปดแห่ง ได้แก่ บ่อน้ำพุร้อนอุมิจิโกกุ บ่อน้ำพุร้อนชิโนเกะจิโกกุ บ่อน้ำพุร้อนทัตสึมากิจิโกกุ บ่อน้ำพุร้อนชิราอิเกะจิโกกุ บ่อน้ำพุร้อนโอนิอิชิโบสุจิโกกุ บ่อน้ำพุร้อนโอนิยามะจิโกกุ บ่อน้ำพุร้อนคามาโดะจิโกกุ และบ่อน้ำพุร้อนเมียวบัง โดยแต่ละแห่งมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันถึง 7 ประการ รวมถึง "บ่อน้ำพุสีเลือด" อันโด่งดังที่มีลักษณะคล้ายเลือด
“ฮานะเบปปุเรียวกัง” ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยว “สถานีเบปปุ” เพียง 500 เมตร ซึ่งมีทำเลที่ตั้งดีเยี่ยม ห้องพักมีเสื่อทาทามิแบบญี่ปุ่นและแบบปกติสไตล์ญี่ปุ่น หากคุณต้องการเดินทางไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนในเบปปุ ที่พักที่นี่ถือว่าดีมากๆ
จองบัตร Klook Pass โตเกียว คลิกเลย!
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #4 โดโกะออนเซ็น (Dogo onsen) ที่เอฮิเมะ
"โดโกะออนเซ็น" เป็นหนึ่งใน "สามบ่อน้ำพุร้อนโบราณที่สำคัญของญี่ปุ่น" มีชื่อเสียงมากขึ้นเนื่องจากผลงานเรื่อง "Boss" ของนักเขียนนัตสึเมะ โซเซกิ ซึ่งมีบ่อน้ำพุร้อนที่ปรากฏในแอนิเมชั่น "Kamigakure Shoujo" ซึ่งอ้างอิงจากประวัติความเป็นมาของบ่อน้ำพุร้อนนี้ที่ย้อนกลับไปถึงเรื่องราวเมื่อสามพันปีก่อน "โดโกะออนเซ็น ฮงคัง" ตั้งอยู่ใจกลางของเมืองบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ ถูกกำหนดให้เป็นโรงอาบน้ำสาธารณะแห่งแรกในฐานะทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นและได้รับรางวัลสามดาวจาก Michelin Green Guide JAPON ที่คะแนนสูงสุดคือ ห้องน้ำ 2 ห้อง "Rei no Yu" และ "Kami no Yu" ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและแน่นอนว่า ถนนบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น อ่างอาบน้ำกลางแจ้ง อ่างล้างมือและอ่างแช่เท้า
"โดโกะออนเซ็นยาชิโยะ (Dogo Onsen Yachiyo)" อยู่ห่างจากโดโกะออนเซ็น 500 เมตร คุณสามารถเดินไปยัง "พิพิธภัณฑ์กระจกสีโดโกะ" ได้ภายใน 10 นาที ห้องพักทุกห้องมีขนาดกว้างขวาง สว่างสดใส และหรูหรา พร้อมเสื่อทาทามิและเตียงสไตล์ตะวันตกที่ทันสมัย โดยมีฉากกั้นห้องนอนและพื้นที่รับประทานอาหาร นอกจากนี้ในแต่ละห้องยังมีอ่างน้ำพุร้อนกลางแจ้ง
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #5 ฮาโกเน่ออนเซ็น (Hakone Onsen) ที่คานากาว่า
ข้อดีของการแช่น้ำพุร้อนในฮาโกเน่คือ คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสาบอาชิและภูเขาไฟฟูจิอัที่สวยงาม พร้อมวิวทิวทัศน์ดอกไม้จะบานในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ต้นเมเปิลสีแดงในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะในฤดูหนาวสวยงาม นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของโตเกียวห่างจากชินจูกุเพียงหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ซึ่งมีประวัติความเป็นมาของบ่อน้ำพุร้อนถึง 1,300 ปี และมีความนิยมมาอย่างยาวนาน ในตอนแรกมีบ่อน้ำร้อนืั้งหมด 17 แห่ง บ่อน้ำพุร้อนชื่อดังหรือที่รู้จักกันในชื่อ “บ่อน้ำพุร้อนฮาโกเน่เซเว่นทีน” ปัจจุบันมีบ่อน้ำพุร้อนอีก 3 บ่อ ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า “บ่อน้ำพุร้อนฮาโกเน่20” ที่นี่มีคุณสมบัติของน้ำพุหลากหลายชนิดโดยน้ำพุที่นี้เป็นเกลือไฮโดรคาร์บอน เป็นที่รู้จักกันว่า "บ่อน้ำพุร้อนเพื่อผิวสวย" จึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง
เราขอแนะนำ "ฮาโกเน่ รีทรีต เฟอเร (Hakone Retreat före)" ซึ่งมีคุณภาพสูงและเป็นการส่วนตัว ตั้งอยู่ในเทือกเขาเซนโงกุฮาระให้ความรู้สึกเหมือนสวรรค์ โรงแรมสไตล์นอร์ดิกที่ผสมผสานเข้ากับธรรมชาติ ที่ที่คุณสามารถยืนอยู่บนระเบียงกลางแจ้งและสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่ คุณจะรู้สึกสบายและผ่อนคลาย นอกจานี้คุณยังสามารถเข้าถึงโรงอาบน้ำขนาดใหญ่ผ่านทางเดินไม้ใกล้ป่าที่ยาวประมาณ 200 เมตร พลาดไม่ได้กับห้องพักสไตล์นอร์ดิกที่สว่างสดใสตามธรรมชาติและยังมีเตาฟืนในห้องอีกด้วย!
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #6 โนโบริเบ็ทสึอนเซ็น (Noboribetsu Onsen) ที่ฮอกไกโด
วิวทิวทัศน์ธรรมชาติโดยรอบของ "โนโบริเบ็ตสึออนเซ็น" อันโด่งดังของฮอกไกโด ได้แก่ ภูเขา ทะเลสาบ มหาสมุทร ฯลฯ บริเวณใกล้เคียงคือ ทะเลสาบคุทาระซึ่งมีคุณภาพน้ำที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น มีต้นเมเปิลสีแดงที่มีเสน่ห์ในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะสีขาวในฤดูหนาว ซึ่งค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ในด้านทรัพยากรสำหรับการท่องเที่ยว โนโบริเบ็ตสึออนเซ็น มาจากภาษาไอนุ แปลว่าแม่น้ำสีขาวขุ่น เชื่อกันว่าถูกค้นพบโดยชาวไอนุ มีน้ำพุอยู่ 9 ชนิด มีอุณหภูมิตั้งแต่ 45-90°C เป็นบ่อน้ำในออนเซ็นรีสอร์ทชื่อดังในฮอกไกโด แหล่งที่มาของน้ำพุทั้งหมดมาจาก "หุบเขานรก" ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ยังคงเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่และสามารถเดินจากเมืองน้ำพุร้อนได้
"ไดอิจิ ทาคิโมโตะคัง (Dai-ichi Takimotokan)" ระดับ 4 ดาว ตั้งอยู่ในเมืองโนโบริเบ็ตสึออนเซ็น ขับรถเพียง 1 นาทีจาก "หุบเขานรก" ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นโรงแรมบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุด โดยมีบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ขนาด 1,500 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำสไลเดอร์น้ำแบบหมุนได้ ห้องพักเป็นสไตล์ญี่ปุ่นมีเสื่อทาทามิ นอกจากนี้ยังมีห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นแบบธรรมดาอีกด้วย
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #7 อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen) ที่เฮียวโกะ
ตามที่มีการกล่าวถึงบ่อน้ำพุร้อนโบราณของญี่ปุ่นสองแห่งข้างต้น "อาริมะออนเซ็น" ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน "บ่อน้ำพุร้อนโบราณสามแห่งในญี่ปุ่น" ซึ่งสามารถเดินทางไปถึงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าคุณจะออกจากโกเบหรือโอซาก้า ดังนั้น หากคุณจะต้องเดินทางในคันไซ ที่นี่เหมาะมากกับการพักผ่อน บ่อน้ำพุร้อนในท้องถิ่นมีทั้งหมด 7 ประเภท บ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงคือ "น้ำพุร้อนทอง" และ "น้ำพุร้อนเงิน" ซึ่งประกอบด้วยเกลือ และมีสีน้ำตาล โดยมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและให้ความชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังช่วยระบบเผาผลาญและช่วยให้เลือดไหลเวียนอีกด้วย
"อาริมะ ออนเซน โมะโตะยุ โคเซงกะกุ (Arima Onsen Motoyu Kosenkaku)" อยู่ห่างจาก "อาริมะออนเซ็น" 100 เมตร ซึ่งบริเวณนี้เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังใช้เวลาขับรถ 6 นาทีไปยังบริเวณจุดชมวิวภูเขาร็อคโค ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการชมวิวในตอนกลางคืน ซึ่งทางโรงแรมเองก็สามารถมองเห็นวิวภูเขาเช่นกัน ภายในมีห้องอาบน้ำสาธารณะ 2 แห่ง ได้แก่ "อ่างหิน" ที่มีน้ำไหลมาจากแหล่งกำเนิด และอ่างอาบน้ำสำหรับชมวิวที่สวยงาม แช่ตัวและเพลิดเพลินไปกับน้ำลาวาที่หายากของโลก โดยมีห้องพักทั้งหมดอีก 11 หลัง
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #8 อิบุสุกิออนเซ็น (Ibusuki Onsen) ที่คาโกชิมะ
มีบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่งทางตอนใต้สุดของคาโกชิมะ เรียกรวมกันว่า "บ่อน้ำพุร้อนอิบุสุกิ" มีอ่างอาบน้ำกลางแจ้ง พร้อมวิวทิวทัศน์ของภูเขาและทะเล นอกจากนี้ยังมีการบำบัดด้วยการอาบทรายที่เป็นเอกลักษณ์ ใน "อิบุสุกิออนเซ็น" ซึ่งคุณสามารถสวมเสื้อผ้าบางๆ ชุดยูกาตะผ้าฝ้ายช่วยให้ทรายร้อนอุ่นปกคลุมร่างกายและลำคอซึ่งสามารถช่วยส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตและการเผาผลาญ นอกจากนี้ยังมี "เกาะชิบายาชิ" ที่อยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งอิบุซึกิ มีสันทรายระหว่างที่นี่กับแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะปรากฏเฉพาะในช่วงกลางวันตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงมีนาคมอีกด้วย
ในส่วนของที่พัก เราขอแนะนำ "อิบุสุกิ ชิราซุยคัง (Ibusuki Shirasuikan)" ที่นี่คือโรงแรมบ่อน้ำพุร้อนที่สืบทอดวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน มีสวนสไตล์ญี่ปุ่น 2 แห่ง คือ "สวนชิราซุย" และ "สวนโทโยซัตสึ" ซึ่งมีความหรูหราและเป็นอิสระโดยเฉพาะ "บ่อน้ำพุร้อนเก็นโรคุ" และ "บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง" และ "บ่อน้ำพุร้อนอบไอน้ำทราย" เป็นที่ชื่นชอบของแขก นอกจากนี้ห้องพักต่างๆ ก็ได้รับการตั้งชื่อว่า "Rikyu", "Isokoden", "Hanakan" และ "Satsumakoden" อยู่ภายในอีกด้วย
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #9 วาคุระออนเซ็น(Wakura Onsen) ที่อิชิคาวะ
“บ่อน้ำพุร้อนวาคุระ” มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่เมื่อ 1,200 ปีที่แล้ว เป็นบ่อน้ำพุร้อนจากทะเลที่หายากและเป็นบ่อน้ำพุร้อนแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่โผล่ออกมาจากทะเลในภูมิภาคโฮคุริกุ ดังนั้น น้ำแร่จึงมีปริมาณเกลือสูงมีความใสและไม่มีสี โดยมีอุณหภูมิสูงถึง 92°C จึงอบอุ่นต่อร่างกายมาก ช่วยส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตและผ่อนคลายกล้ามเนื้อและยังใช้ดื่มได้อีกด้วย
จองรถเช่ากับ Klook!
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #10 คิโนะซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen) ที่เฮียวโกะ
เครดิตภาพ: องค์การการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
คิโนะซากิออนเซ็นเป็นเมืองน้ำพุร้อนโบราณทางตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโงะ มีห้องอาบน้ำพุร้อนสาธารณะ 7 แห่งกระจายอยู่ทั่วเมือง ตราบใดที่คุณซื้อบัตรผ่าน คุณสามารถเข้าห้องอาบน้ำพุร้อนสาธารณะทั้งหมดได้ฟรี ถนนบ่อน้ำพุร้อนมีความแปลกตา มีทั้งแม่น้ำ สะพานเล็กๆ และต้นวิลโลว์ ที่สามารถเดินเล่นได้หลังจากแช่น้ำพุร้อนแล้วรู้สึกผ่อนคลาย!
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #11 ยุฟุอินออนเซ็น (Yufuin Onsen) ที่โออิตะ
เครดิตภาพ: องค์การการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
บ่อน้ำร้อนยูฟุอินตั้งอยู่ในเมืองยูฟุ จังหวัดโออิตะ มีบ่อน้ำพุร้อนมากเป็นอันดับสองในญี่ปุ่น! น้ำพุร้อนส่วนใหญ่เป็นน้ำพุที่มีความอ่อนโยนและไม่ระคายเคือง กล่าวกันว่ามีฤทธิ์ในการให้ความชุ่มชื้นต่อร่างกาย ซึ่งสามารถฟื้นฟูความเหนื่อยล้าและทำให้ผิวสวยขึ้น บรรเทาอาการประสาท ปวดกล้ามเนื้อ และโรคข้ออักเสบได้อีกด้วย
เครดิตภาพ: องค์การการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
ถนนบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ ยังคงรักษาบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงอดีตด้วยหอศิลป์และร้านค้าทันสมัย ที่พักส่วนใหญ่มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่และอ่างอาบน้ำแบบเปิดโล่ง เนื่องจากยูฟุอินถูกล้อมรอบด้วยภูเขา "หมอกยามเช้า" จึงจะปรากฏขึ้นในตอนเช้าของฤดูหนาว ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์ราวกับแดนสวรรค์ นอกจากนี้ ยังมี "ทะเลสาบเกล็ดทองคำ" อันโด่งดังอยู่ใกล้ๆ ซึ่งสะท้อนแสงสีทองราวกับเกล็ดปลาภายใต้พระอาทิตย์ตกดิน!
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #12 คุโรกะวะอนเซ็น (Kurokawa Onsen) ที่คุมาโมโตะ
เครดิตภาพ: IG@bpoolsup
น้ำพุร้อนคุโรคาวะตั้งอยู่ทางเหนือของภูเขาอะโซะ ในจังหวัดคุมาโมโตะ มีน้ำพุร้อนมากกว่า 20 แห่ง รวมถึงน้ำพุร้อนในถ้ำ น้ำพุร้อนที่อยู่ติดกับน้ำตก และน้ำพุร้อนจากภูเขาและจากไม้ ตราบใดที่คุณซื้อบัตรผ่านบ่อน้ำพุร้อน "ตั๋วพาสยูเมะกุริ เทะกาตะ (Yumeguri Tegata Spa Pass)" คุณก็สามารถแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนแห่งใดก็ได้จากทั้งหมด 3 แห่ง น้ำพุร้อนคุโรคาวะอยู่ในหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอก ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ภูเขาอันงดงาม และวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่ยังชวนให้ฝันและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #13 อาตามิออนเซ็น (Atami Onsen) ที่ชิซึโอกะ
เครดิตภาพ: องค์การการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
บ่อน้ำพุร้อนอาตามิตั้งอยู่ในคาบสมุทรอิซุ จังหวัดชิซึโอกะ ขับรถเพียงประมาณ 50 นาทีจากโตเกียว! อาตามิอยู่ใกล้ทะเล นอกจากแช่น้ำพุร้อนแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับแสงแดดและชายหาด รวมถึงอาหารญี่ปุ่นที่สดใหม่และอร่อยได้อีกด้วย ที่นี่เป็นรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่ต้องไปพักผ่อนสักครั้ง! สถานีอาตามิยังมีบ่อแช่เท้าแบบเปิดโล่งและในร่มหลายแห่ง รวมถึงบ่อแช่เท้าที่ตั้งชื่อตามโทคุกาวะ อิเอยาสึ หรือที่เรียกว่าบ่อแช่เท้าอิเอยาสึโนะยุ
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #14 กินซันออนเซ็น (Ginzan Onsen) ที่ยามากาตะ
เครดิตภาพ: IG@supertastermel
บ่อน้ำพุร้อนกินซัน ตั้งอยู่ในจังหวัดยามากาตะ ถนนบ่อน้ำพุร้อนแถวนี้ยังคงอนุรักษ์อาคารเก่าแก่ในยุคไทโชะฉากถนนบ่อน้ำพุร้อนแบบดั้งเดิมที่ทำให้ที่นี่เป็นถนนบ่อน้ำพุร้อนยอดนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีความโรแมนติกและน่าหลงใหลภายใต้หิมะที่ตกลงมาในช่วงฤดูหนาว คุณภาพน้ำพุร้อนคือน้ำพุร้อนที่มีโซเดียมคลอไรด์ซัลเฟต ซึ่งว่ากันว่าสามารถรักษาบาดแผล แผลไหม้ และโรคผิวหนังเรื้อรังได้
บ่อน้ำพุร้อนญี่ปุ่น #15 โอคุฮิดะออนเซ็น (Okuhida Onsen) ที่กิฟุ
ตั้งอยู่ในพื้นที่ของบ่อน้ำพุร้อนยอดนิยม "หมู่บ้านโอคุฮิดะออนเซ็น" ในจังหวัดกิฟุทางตอนกลางของญี่ปุ่น ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงคามิโคจิ และใช้เวลาขับรถประมาณหนึ่งชั่วโมงจากทาคายามะ หมู่บ้านโอคุฮิดะออนเซ็นมีบ่ออาบน้ำกลางแจ้งมากกว่า 100 บ่อ ล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือที่มีชื่อเสียงซึ่งมีความสูงมากกว่า 3,000 เมตร ทัศนียภาพสวยงามตลอดทั้งปี ขอแนะนำอย่างยิ่งให้มาเยี่ยมชมในช่วงฤดูใบไม้แดง และฤดูหนาว!
คำแนะนำเกี่ยวกับโรงแรม/ ประสบการณ์บ่อน้ำพุร้อนอื่นๆ ในญี่ปุ่น
1. อิโตะออนเซนโยกิคัง (Ito Onsen Yukikan)
อิโตะออนเซนโยกิคัง อยู่ห่างจากสถานี JR อิโตะ เพียง 900 เมตร และห้องพักก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นอกจากน้ำพุร้อนแล้ว โรงแรมยังมีห้องนวด สปา และแกลเลอรีของขวัญพิเศษอีกด้วย มีวัดอาซาโกะจิ ศาลเจ้าโอโตนาชิ และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งสะดวกต่อการเดินเที่ยวชมเป็นอย่างมาก!
2. ยูโนโมโตะออนเซ็น (Yunomoto Onsen) ที่ฮอกไกโด
ยูโนโมโตะออนเซ็นอยู่ติดกับอุทยานธรรมชาติประจำจังหวัด มีพื้นที่พักผ่อนฟรี ห้องอาบน้ำภายใน ห้องอาบน้ำแบบเปิดโล่งและซาวน่า บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติคุณภาพสูงพุ่งออกมาจากภูเขา ทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับน้ำพุร้อนภายใต้ธรรมชาติ ว่ากันว่าบ่อน้ำแร่กำมะถันเย็นธรรมดาสามารถรักษาโรคประสาทและโรคไขข้ออักเสบได้ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสันทนาการอื่นๆ เช่น ทะเลสาบคัตสึระ คัตสึระสกีรีสอร์ท และที่ตั้งแคมป์ในบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้คุณสามารถแช่บ่อน้ำพุร้อนเพื่อผ่อนคลายและรู้สึกสบายตัวได้อีกด้วย!
🍣 สิ่งจำเป็นของญี่ปุ่น🍣
🚅รถไฟและบริการรับส่งสนามบิน
📌ข้อมูลมือถือและบัตรโดยสารรถไฟใต้ดิน
🏯 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น 🏯
ไม่พลาดทุกโปรเด็ด ติดตามคลูกได้ทุกช่องทาง
Facebook | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthfb
Instagram | @klooktravel_th 👉🏼 bit.ly/kookthig
Twitter | @klookth 👉🏼 bit.ly/klooktwitter
TikTok | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthtt
Youtube | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthyt
👤 สอบถามรายละเอียดก่อนจอง
Line Official Account | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthoa
