ยินดีต้อนรับสู่สวรรค์เขตร้อนอย่างโอกินาว่า (Okinawa) ดินแดนที่เต็มไปด้วยชายหาดขาวสะอาด น้ำทะเลใส และวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา! โอกินาว่าตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น หมู่เกาะแห่งนี้มีชายหาดหลากหลายสไตล์ให้เลือกพักผ่อน เดินเล่นริมทะเล พายเรือในน้ำทะเลสีฟ้าใส หรือเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์สุดตระการตา
สภาพอากาศในโอกินาว่า (Okinawa) ช่วงกลางวันจะค่อนข้างร้อน เหมาะกับการทำกิจกรรมริมชายหาด ส่วนตอนกลางคืนอากาศจะเย็นลงเล็กน้อย ช่วยให้ผ่อนคลายยิ่งขึ้น
พร้อมจะออกสำรวจความงดงามของที่นี่แล้วหรือยัง? มีกิจกรรมให้เลือกทำมากมายตั้งแต่การดำน้ำตื้นในทะเลสวยใส ไปจนถึงการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นแสนอร่อย นี่คือ 10 กิจกรรมแนะนำเมื่อมาเที่ยวโอกินาว่าที่คุณไม่ควรพลาด!
ชวนเที่ยวโอกินาว่า สวรรค์เขตร้อนของญี่ปุ่น
ยินดีต้อนรับสู่โอกินาว่า (Okinawa) ดินแดนที่เต็มไปด้วยชายหาดขาวสะอาด น้ำทะเลใส และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีชีวิตชีวา!
โอกินาว่าตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น เป็นหมู่เกาะที่ประกอบด้วยเกาะเล็กใหญ่กว่า 160 เกาะ (ที่มีคนอาศัยอยู่จริงประมาณ 40 เกาะ) โดยเกาะหลักคือ เกาะโอกินาว่า (Okinawa Main Island) ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางไปเที่ยว
โอกินาว่าอยู่ที่ไหน?
อยู่ทางตอนใต้สุดของญี่ปุ่น ห่างจากเกาะหลัก (ฮอนชู, คิวชู) โดยต้องนั่งเครื่องบินประมาณ 2–2.5 ชั่วโมงจากโตเกียว โอซาก้า หรือฟุกุโอกะ มีสนามบินหลักคือ Naha Airport (OKA) อยู่ในเมืองนาฮา (Naha)
เที่ยวโอกินาว่าเดือนไหนดี?
- มี.ค.–พ.ค. (ฤดูใบไม้ผลิ): อากาศอบอุ่น เทศกาลดอกไม้ / กีฬาทางน้ำเริ่มคึกคัก
- มิ.ย.–ก.ย. (ฤดูร้อน): ไฮซีซั่นทะเล-ดำน้ำ แต่ระวังช่วงไต้ฝุ่น (ส.ค.–ก.ย.)
- ต.ค.–ธ.ค. (ฤดูใบไม้ร่วง): คนไม่แน่น อากาศเย็นสบาย กิจกรรมกลางแจ้งเพียบ
- ม.ค.–มี.ค. (ฤดูหนาว): ดูวาฬอพยพจากอะแลสกา ไฮไลต์ประจำปี
กลางวันอากาศร้อนสบายเหมาะกับเล่นน้ำ กลางคืนเย็นลงเล็กน้อย เหมาะกับเดินเล่นชิลริมทะเลหรือไปเดินเที่ยวตลาดท้องถิ่น
การเดินทางในโอกินาว่า ทำไมการเช่ารถถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด?
โอกินาว่า (Okinawa) เป็นหมู่เกาะที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งชายหาดสวย ทะเลสีฟ้าใส และวิถีชีวิตท้องถิ่นที่เงียบสงบ แต่สิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวควรรู้ก่อนวางแผนเที่ยวคือ การเดินทางบนเกาะหลัก (Okinawa Main Island) มีความแตกต่างจากการเดินทางในโตเกียวหรือโอซาก้าอยู่มาก
- ระบบขนส่งสาธารณะมีจำกัด ภายในเมืองนาฮา (Naha) มีโมโนเรล (Yui Rail) และรถเมล์ แต่ถ้าอยากออกนอกเมืองไปที่เที่ยวดัง เช่น หมู่บ้านออนนะ (Onna Village), หมู่บ้านฮิงาชิ (Higashi), หรือชายหาดต่างๆ รอบเกาะ จะไม่สะดวกเพราะรถมีน้อยและใช้เวลานาน
- เช่ารถขับเองคือคำตอบ! การเช่ารถช่วยให้คุณจัดแผนเที่ยวได้ตามใจ อยากแวะที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องรอบรถหรือรอคิว และยังสามารถขับเลียบชายฝั่งเพื่อชมวิวทะเลสวยๆ ได้อีกด้วย
- เหมาะสำหรับครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ถ้ามากันหลายคน การเช่ารถถือว่าคุ้มค่า แชร์ค่าเช่ากันได้ แถมใส่สัมภาระเยอะๆ ได้สบายๆ
💡 Klook Tip: แนะนำจองรถเช่าล่วงหน้าพร้อมประกันแบบ Full Package รับ-คืนรถที่สนามบินนาฮา (Naha Airport) เพื่อความสะดวก และอย่าลืมเตรียมใบขับขี่สากล (IDP) มาด้วยนะ!
1. ดำน้ำตื้นที่หมู่เกาะเครามะ (Kerama Island Snorkeling)
มีครูฝึกมืออาชีพคอยดูแลและแนะนำคุณตลอดการดำน้ำตื้น Image credits: @dive.life.okinawa on Instagram
หากพูดถึงโอกินาว่า (Okinawa) หนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือความงดงามของหมู่เกาะเครามะ (Kerama) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัด ประกอบด้วยเกาะเล็กใหญ่รวม 22 เกาะ ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ ชายหาดสะอาดตา และทะเลใสสีฟ้าสวย อันเป็นเอกลักษณ์ที่รู้จักกันในชื่อ เครามะบลู
(Kerama Blue) อย่าพลาดโอกาสลงไปสัมผัสโลกใต้น้ำ ด้วยการดำน้ำตื้นชมแนวปะการัง พบกับฝูงปลาสีสันสดใส เต่าทะเล และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลนานาชนิด
2. ดำน้ำลึกและดำน้ำตื้นที่ถ้ำสีฟ้า หมู่บ้านออนนะ (Onna Village Blue Cave Scuba and Snorkeling)
โอกินาว่า (Okinawa) ไม่ได้ถูกขนานนามว่าเป็นสวรรค์แห่งหมู่เกาะเพียงเพราะชายหาดสวยงามเท่านั้น! แต่ยังมีจุดดำน้ำที่น่าทึ่งอย่าง “ถ้ำสีฟ้า” ในหมู่บ้านออนนะ ที่ได้ชื่อตามแสงสีน้ำเงินสดใสซึ่งสะท้อนจากผนังถ้ำใต้ทะเลในช่วงกลางวัน แสงแดดจะส่องผ่านผืนน้ำเข้าไปในถ้ำ ทำให้เกิดประกายแสงฟ้างดงามจนต้องหยุดมอง ภายในถ้ำยังเป็นบ้านของสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด ทั้งปลานางฟ้า (Angel fish) กระเบนอินทรี (Eagle rays) และอีกมากมาย ที่สามารถพบเจอได้ระหว่างการดำน้ำ
โค้ดส่วนลดเที่ยวญี่ปุ่น สูงสุด 400.-
3. ขับโกคาร์ทตะลุยถนนในโอกินาว่า (Okinawa Street Go Karting)
อย่าลืมแต่งตัวให้เข้าธีมด้วยนะ! Image credits: @okita_tea on Instagram
สนุกสนานไปกับบรรยากาศดีๆ ด้วยการขับโกคาร์ทบนถนนใจกลางเมืองโอกินาว่า! สัมผัสประสบการณ์เหมือนอยู่ในวิดีโอเกม ขับรถโกคาร์ทดีไซน์พิเศษพร้อมกลุ่มเพื่อน วิ่งผ่านสถานที่ต่างๆ บนเกาะแบบสนุกสุดเหวี่ยง โดยสามารถเช่าขับได้ตั้งแต่ 1 ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งนั่นเพียงพอสำหรับการสำรวจเมืองรอบๆ อย่างเต็มอิ่มแล้ว แถมมีไกด์คอยนำทางให้ ไม่ต้องกลัวหลง
⭐ Klook Tip: ลองแต่งตัวเป็นตัวละครจากเกมที่ชอบ เพื่อเพิ่มความสนุกเข้าไปอีกขั้น!
4. ทัวร์ล่องเรือดูปลาวาฬฤดูหนาว ในโอกินาว่า
ช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม เป็นฤดูที่วาฬอพยพจากอะแลสกามายังญี่ปุ่น
ถ้ามีแพลนมาโอกินาว่า (Okinawa) ช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม บอกเลยว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะมากสำหรับการดูวาฬ! วาฬหลังค่อม (Humpback whales) จำนวนมากจะว่ายผ่านชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะ โดยทัวร์นี้จะพาออกเดินทางจากเมืองนาฮาหรือชาตัน (Naha or Chatan) มุ่งหน้าไปยังหมู่เกาะเครามะ (Kerama) เพื่อชมเหล่ายักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเล การเดินทางใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกลางทะเล เหมาะสำหรับทุกช่วงวัยทั้งครอบครัวที่อยากออกผจญภัยใกล้ชิดธรรมชาติ
5. เล่นเซิร์ฟที่โอกินาว่า
ฝึกสกิลเซิร์ฟที่โอกินาว่า Image Credits @islandbreakokinawa on Instagram
ได้เวลาลงทะเลฝึกเซิร์ฟที่ชายหาดโอกินาว่าแล้ว! สำหรับใครที่อยากลองเล่นเซิร์ฟครั้งแรก โอกินาว่าคือจุดเริ่มต้นที่เหมาะมาก เพราะคลื่นที่นี่เป็นมิตรกับมือใหม่ แถมยังมีครูฝึกที่ได้รับใบรับรองจากสมาคมเซิร์ฟนานาชาติ (ISA:International Surfing Association) และสมาคมเซิร์ฟญี่ปุ่น (NSA:Nippon Surfing Association) คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจตลอดการเล่น นอกจากจะได้สนุกกับกิจกรรมแล้ว วิวทะเลและชายฝั่งที่สวยงามราวกับภาพวาดก็ถือเป็นโบนัสพิเศษอีกด้วย
6. ผจญภัยขับ ATV ที่อิโตมัน หมู่บ้านฮิงาชิ และโยทิมัน (Itoman, Higashi Village, and Yomitan)
Image Credits to @okinawa_dokidokitours on Instagram
พักจากการเที่ยวชายหาดโอกินาว่า แล้วมาสำรวจธรรมชาติในเกาะด้านในกับการผจญภัยขับรถ ATV ที่อิโตมัน (Itoman), หมู่บ้านฮิงาชิ (Higashi Village) และโยทิมัน (Yotiman)! เส้เส้นทางนี้จะพาผ่านภูเขาสูงชัน เส้นทางขรุขระ ที่รับรองว่าสะใจสายลุยแน่นอน จากนั้นจะขับลุยเข้าไปในป่าเขียวขจี ก่อนปิดท้ายด้วยการพักผ่อนชิลๆ ที่ฟาร์มกาแฟกลางธรรมชาติ
7. สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วยบริการเช่าชุดยูกาตะและกิโมโน (Yukata and Kimono
หากมีแพลนไปเที่ยวศาลเจ้านามิโนะอุเอะ (Naminoue) ถนนโคคุไซ (Kokusai) และปราสาทชูริ (Shuri) ลองเพิ่มความพิเศษให้กับทริปด้วยการเช่าชุดยูกาตะหรือกิโมโน เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างเต็มที่! ชุดเช่าจะมาพร้อมอุปกรณ์ครบเซต ทั้งสายรัด (โอบิ) ถุงเท้าแบบญี่ปุ่น (ทาบิ) รองเท้า (โซริ) กระเป๋า และบริการเกล้าผมเบื้องต้น หากต้องการเพิ่มความเป๊ะ ยังสามารถจองบริการแต่งหน้าและทำผมได้เพิ่มเติมอีกด้วย มีให้เลือกมากกว่า 500 แบบ รับรองว่ามีสไตล์ที่ใช่สำหรับทุกคนแน่นอน หลังจากเที่ยวเสร็จแล้ว ก็สามารถเดินไปรับประทานอาหารโอกินาว่าแบบดั้งเดิมได้ในลุคกิโมโนสุดคลาสสิกอีกด้วย!
8. กิจกรรมเดินชมใต้ทะเลที่หมู่บ้านออนนะ (Onna Village Marine Walk)
หากคุณกำลังมองหากิจกรรมอื่นๆ นอกจากดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก หรือเที่ยวชายหาดในโอกินาว่า ลองมาสัมผัสประสบการณ์ “เดินใต้ทะเล (Marine Walk)” ที่หมู่บ้านออนนะ! โดยใช้หมวกดำน้ำพิเศษที่ช่วยให้เดินอยู่ใต้น้ำใสได้โดยไม่ต้องให้ใบหน้าเปียกหรือต้องลืมตาในน้ำ เหมาะมากสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดการว่ายน้ำ สามารถชมปะการังสีสันสดใสและให้อาหารปลาทะเลแบบใกล้ชิดได้อย่างง่ายดาย กิจกรรมนี้เหมาะสำหรับครอบครัว โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กก็สามารถสนุกไปด้วยกันได้
9. พายคายัคกลางป่าชายเลนและกิจกรรมตกปลา
พายคายัคกลางป่าชายเลนที่โอกินาว่า Image Credits to @activityjapan on Instagram
คุณอยากออกผจญภัยแบบใกล้ชิดธรรมชาติของโอกินาว่าไหม? แนะนำให้ลองพายเรือคายัคกลางป่าชายเลน! ล่องเรือผ่านต้นไม้สูงใหญ่ เส้นทางน้ำคดเคี้ยว และสัตว์ป่านานาชนิด น้ำในพื้นที่นี้จะนิ่งและกระแสน้ำเบา เหมาะสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือคนที่เคยพายมาแล้ว ระหว่างทางอาจได้เห็นนกสีสดใส ปู หรือแม้แต่ลิง หลังจากพายเรือเสร็จ ยังได้ไปต่อที่ท่าเรือตกปลา สัมผัสอีกกิจกรรยอดนิยมของคนญี่ปุ่น พร้อมมีเวลาให้ถึง 2 ชั่วโมงให้ลองตกปลาอย่างเต็มที่อีกด้วย
10. สนุกสุดเหวี่ยงไปกับกีฬาทางน้ำที่โอกินาว่า
Klook Pass Okinawa
อยากเที่ยวสนุกแต่ยังประหยัดงบได้ใช่ไหม? ลองจอง Klook Pass Okinawa ที่ให้คุณเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบนเกาะโอกินาว่าได้ในราคาสุดคุ้ม ประหยัดได้มากถึง 33% เมื่อเทียบกับการซื้อตั๋วแยกแต่ละกิจกรรม ที่พิเศษคือ พาสนี้สามารถใช้กับกิจกรรมได้ถึง 4 อย่าง รวมถึงหลายกิจกรรมที่แนะนำไว้ด้านบน และยังเลือกวันและสถานที่เที่ยวได้เองตามใจ เพราะพาสนี้มีอายุการใช้งานถึง 30 วันนับจากวันที่ซื้อ
Klook คืออะไร?
Klook คือแพลตฟอร์มชั้นนำของเอเชียสำหรับการจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจร
เราคัดสรรประสบการณ์คุณภาพ ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ทัวร์ท้องถิ่น การเดินทางภายในประเทศ ไปจนถึงที่พักหลากสไตล์ ครอบคลุมกว่า 3,400 จุดหมายทั่วโลก
รองรับการใช้งานใน 15 ภาษา และสามารถชำระเงินได้มากกว่า 40 สกุลเงิน ผ่านช่องทางชำระที่หลากหลาย ทำให้การจองกับ Klook สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
Klook ก่อตั้งในปี 2014 มีเป้าหมายเพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับนักเดินทางทุกคน ไม่ว่าคุณจะเที่ยวใกล้บ้านหรือออกเดินทางไกล Klook พร้อมพาคุณเชื่อมต่อกับโลกแห่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
🧡 ติดตาม Klook ได้ทาง
- Facebook: @klookth
- Instagram: @klooktravel_th
- TikTok: @klookth
- YouTube: @klookTH
- LINE Official Account: @klookth
