หากคุณกำลังมองหาวิธีสัมผัสบรรยากาศหิมะฤดูหนาวญี่ปุ่นที่ทั้งอบอุ่น โรแมนติก และเปี่ยมมนต์เสน่ห์ เทศกาล Otaru Snow Light Path Festival คือหนึ่งในงานที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในฮอกไกโด ด้วยการประดับประดาโคมไฟหิมะและเทียนนับพันดวงบนริมน้ำคลองโอตารุ ผสานเข้ากับอาคารโกดังเก่าสุดคลาสสิก ทำให้ทั้งเมืองโอตารุกลายเป็นฉากภาพถ่ายยามค่ำคืนที่สวยตรึงใจที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จักประวัติ วิธีเที่ยว ไฮไลต์ จุดถ่ายรูปสวย การเดินทาง และเคล็ดลับไปงานแบบครบถ้วน
คลองโอตารุในฤดูหนาว ประดับไฟสวยงามท่ามกลางหิมะในช่วงเทศกาล Otaru Snow Light Path Festival
ประวัติและความสำคัญของเทศกาล Otaru Snow Light Path Festival
ก่อนจะไปสัมผัสความโรแมนติกของงาน ควรทำความเข้าใจประวัติเล็กน้อยของ Otaru Snow Light Path Festival (หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “Otaru Yuki Akari no Michi”) เทศกาลนี้เริ่มขึ้นเพื่อฟื้นฟูเมืองและดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว ผู้คนในโอตารุร่วมมือกันประดับเมืองด้วยโคมไฟหิมะและเทียนเล็ก ๆ ที่สร้างสรรค์โดยชาวบ้านและอาสาสมัคร จุดกำเนิดที่เรียบง่ายนี้ทำให้เทศกาลมีเสน่ห์เฉพาะตัว เพราะไม่ใช่แค่การจัดงานเชิงท่องเที่ยว แต่เป็นความร่วมมือระหว่างคนในเมืองที่อยากให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสความอบอุ่นท่ามกลางอากาศหนาวจัด
การจัดงานมักอยู่ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเวลาที่โอตารุมีหิมะตกมากที่สุดและอากาศหนาวเย็นจนเทียนไม่ละลายง่าย ทำให้โคมไฟหิมะสามารถโชว์ความงดงามได้ยาวนานตลอดคืน บรรยากาศที่เกิดขึ้น เป็นการผสมผสานระหว่างงานศิลปะจากธรรมชาติและแสงเทียนที่มนุษย์สร้างขึ้นได้อย่างลงตัว
ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดใน Otaru Snow Light Path Festival
เทศกาลนี้มีพื้นที่จัดงานกระจายหลายส่วนทั่วเมือง แต่ละโซนก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป หากคุณมาเป็นครั้งแรก นี่คือโซนที่ต้องไม่พลาด พร้อมเกริ่นนำให้เห็นภาพรวมแบบง่าย ๆ ก่อนแบ่งหัวข้อย่อย
พื้นที่จัดงานทั้งสามโซนเด่น ได้แก่ คลองโอตารุ (Otaru Canal Zone), เขตเทมียะ (Temiya Line Zone) และย่านเมืองเก่า ซึ่งทุกพื้นที่ถูกประดับด้วยโคมไฟหิมะและรูปปั้นหิมะอย่างประณีต ไฮไลต์แต่ละจุดมีทั้งการลอยเทียนในลูกบอลน้ำแข็ง การแกะสลักหิมะ การประดับโคมไฟบนเส้นทางรางรถไฟเก่า รวมถึงกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ ที่จัดขึ้นเฉพาะปี
โซนคลองโอตารุ (Otaru Canal Zone)
โซนคลองโอตารุถือเป็นภาพจำของเทศกาลนี้ ผู้คนมักมารวมตัวกันบริเวณริมคลองเพื่อเก็บภาพแสงไฟที่สะท้อนบนผิวน้ำท่ามกลางหิมะ การตกแต่งประกอบด้วยโคมลอยน้ำแข็งที่จุดไฟอยู่ภายใน พร้อมฉากหลังเป็นอาคารโกดังอิฐแดงโบราณที่มีแสงไฟส้มสว่างนวลตา ทำให้เกิดฉากสุดโรแมนติกเหมือนได้หลุดเข้าไปในเมืองยุโรปแบบญี่ปุ่น
โซนทางรถไฟสายเก่าเทมียะ (Temiya Line Zone)
เส้นทางรถไฟร้างเก่าแก่ถูกเปลี่ยนให้เป็นทางเดินศิลป์หิมะยาวหลายร้อยเมตร จุดเด่นคือโคมไฟหิมะแบบทำมือที่ชาวเมืองและอาสาสมัครตั้งใจแกะสลักเป็นรูปต่าง ๆ เช่น หัวใจ ดอกไม้ หรือสัตว์น่ารัก ๆ ทำให้โซนนี้มีบรรยากาศอบอุ่นแทรกด้วยความสร้างสรรค์
ลานกิจกรรมและโซนเมืองเก่า
ย่านเมืองเก่ายังมีส่วนนำเสนองานศิลป์หิมะและกิจกรรมท้องถิ่น เช่น การสาธิตแกะสลักหิมะ การขายของที่ระลึก และซุ้มอาหารท้องถิ่น บรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่รายล้อมด้วยร้านค้าไม้โบราณทำให้โซนนี้เหมาะสำหรับการเดินเล่นถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง
ช่วงเวลาจัดงานและสภาพอากาศที่ควรรู้ก่อนมาเที่ยว
ก่อนออกเดินทาง ควรเตรียมตัวเรื่องสภาพอากาศเป็นอันดับแรก เพราะโอตารุในเดือนกุมภาพันธ์อาจมีอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ถึง -10°C หรือมากกว่านั้นในบางวัน ช่วงเวลาจัดงานมักอยู่ระหว่างประมาณวันที่ 10–17 กุมภาพันธ์ของทุกปี ตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์ตกไปจนถึงประมาณ 21.00 น. บรรยากาศจะสวยที่สุดหลังพลบค่ำเมื่อแสงไฟเริ่มสว่างชัดเจน
การสวมเสื้อผ้าแบบหลายชั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงรองเท้ากันลื่น ถุงมือหนา หมวกไหมพรม และฮีตเทค การเตรียมตัวดีจะทำให้คุณเดินเพลินได้หลายชั่วโมงโดยไม่หนาวจนเกินไป นอกจากนี้ การพก Power Bank ถือว่าสำคัญมาก เพราะอากาศหนาวทำให้แบตโทรศัพท์ลดลงเร็วกว่าปกติ
วิธีเดินทางไปงาน Otaru Snow Light Path Festival
การเดินทางไปโอตารุไม่ยุ่งยาก เพราะมีรถไฟ JR จากซัปโปโรที่วิ่งบ่อยทุก 15–20 นาที ใช้เวลาเพียงประมาณ 30–40 นาทีเท่านั้น ผู้ที่ต้องการเที่ยวแบบสะดวกสามารถเดินทางด้วย JR Hakodate Main Line ซึ่งเชื่อมระหว่างซัปโปโร–โอตารุโดยตรง เมื่อถึงสถานี Otaru ก็สามารถเดินไปยังคลองและโซนเทศกาลได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากการจัดงานทุกโซนอยู่ใกล้ศูนย์กลางเมือง
สำหรับคนที่ต้องการเที่ยวแบบ One-Day Trip จากซัปโปโร แนะนำให้เดินทางมาถึงโอตารุก่อนพลบค่ำเพื่อมีเวลาทานอาหารหรือนั่งคาเฟ่ก่อนเริ่มเดินชมไฟ การเดินในอากาศหนาวควรมีช่วงพักให้ร่างกายอบอุ่นเป็นระยะๆ
จุดถ่ายรูปที่สวยที่สุด ไม่ควรพลาด!
เสน่ห์สำคัญของเทศกาลนี้อยู่ที่มุมถ่ายภาพอันหลากหลาย แต่ละจุดจะเผยเอกลักษณ์ของเมืองโอตารุออกมาแตกต่างกัน ก่อนจะไปดูจุดย่อย ขอแนะนำภาพรวมว่าต้องเตรียมอะไร เมื่อถ่ายเวลากลางคืนควรตั้งค่ากล้องหรือโทรศัพท์ให้สอดคล้องกับแสงเทียน และควรระวังลื่นไถลเวลาเดินบนพื้นหิมะ
มุมยอดนิยมริมคลองโอตารุ
มุมมองจากสะพาน Asakusa Bridge คือมุมที่นักท่องเที่ยวถ่ายเยอะที่สุด สามารถเก็บภาพทั้งโคมไฟหิมะ คลอง อาคารโกดัง และแสงสะท้อนบนผิวน้ำในช็อตเดียว จนกลายเป็นภาพโปรโมตเทศกาลเกือบทุกปี
โคมไฟลูกบอลน้ำแข็งลอยน้ำ
อีกหนึ่งมุมที่ห้ามพลาดคือโคมไฟน้ำแข็งทรงกลมที่จุดเทียนไว้ด้านใน ลอยอยู่บนลำคลองหลายจุด บรรยากาศผสมความอบอุ่นและความละมุนของแสงเทียนเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
เส้นทางเทียนยาวบนรางรถไฟสายเก่า
สำหรับคนที่ชอบภาพแนวละมุนสายโรแมนติก เส้นทางเดินบนรางรถไฟเก่าที่ตกแต่งด้วยเทียนและโคมไฟหิมะนับร้อยถือเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยมากในยามค่ำ ซึ่งมีลวดลายโคมไฟแตกต่างกันไปในแต่ละปี
ของกินและคาเฟ่น่าลองใกล้งานเทศกาล
การเดินชมไฟนาน ๆ ในอากาศหนาวควรหยุดพักเติมพลังด้วยอาหารอุ่น ๆ โอตารุเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสด โดยเฉพาะซูชิ และขนมหวานพรีเมียมเช่น LeTAO ที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดี ย่านคลองและเมืองเก่าเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาล
เมนูที่ควรลอง ได้แก่ ซูชิเซ็ต ซีฟู้ดด้ง ชูครีมชีส LeTAO ช็อกโกแลตร้อน และราเม็งน้ำซุปเข้มข้นแบบฮอกไกโด นอกจากนี้ยังมีร้านขายสาเกท้องถิ่นที่ให้ลิ้มลองรสชาติเพื่อคลายหนาวอีกด้วย
เคล็ดลับเที่ยว Otaru Snow Light Path Festival ให้ฟินกว่าเดิม
การเที่ยวเทศกาลให้สนุกเต็มที่ควรเตรียมตัวล่วงหน้าเล็กน้อย เพราะสภาพอากาศและจำนวนคนช่วงเทศกาลอาจทำให้การเดินเที่ยวมีความท้าทายมากกว่าปกติ ดังนั้นจึงรวบรวมเคล็ดลับสำคัญเพื่อให้คุณได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด
ไปวันธรรมดาจะคนน้อยกว่า
ช่วงสุดสัปดาห์คนจะหนาแน่นมาก โดยเฉพาะริมคลองโอตารุ หากต้องการถ่ายภาพโล่ง ๆ หรือเดินสะดวก แนะนำไปวันธรรมดา
อย่าลืมกันลื่น!
พื้นหิมะอาจกลายเป็นน้ำแข็งในบางช่วงเวลา รองเท้าบูทพื้นยางกันลื่นจะช่วยให้เดินอย่างมั่นใจ
พกเครื่องทำความร้อนพกพา (Hot Pack)
ช่วยให้อุ่นมือและแก้มเวลาต้องถ่ายรูปกลางแจ้งนาน ๆ
ชาร์จแบตให้เต็มและเตรียม Power Bank
อากาศหนาวทำให้แบตลดลงเร็วมาก
เดินตามเส้นทางหลักเพื่อไม่ให้หลงในความมืด
แม้งานจะมีแสงไฟตลอดทาง แต่บางจุดค่อนข้างมืด ควรเดินตามเส้นทางที่มีคนเดินเป็นหลัก
เที่ยวต่อรอบโอตารุและซัปโปโรหลังชมเทศกาล
หลังชมงานแสงไฟ คุณยังสามารถเที่ยวต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งหรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เพื่อทำให้ทริปในฮอกไกโดของคุณสมบูรณ์แบบ บริเวณใกล้งานมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่สามารถเดินไปได้ง่ายหลังจบงาน
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Otaru Music Box Museum)
เป็นอาคารคลาสสิกที่เต็มไปด้วยกล่องดนตรีหลากหลายรูปแบบเหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝาก
ช่วงคริสต์มาสที่พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ จัดแสดงกล่องดนตรีและของตกแต่งในบรรยากาศเทศกาล
ถนนซาคาอิมาจิ (Sakaimachi Street)
ถนนช้อปปิ้งเก่าแก่ที่มีร้านค้า ของฝาก อาหารทะเล และคาเฟ่สวย ๆ ให้เลือกมากมาย
กลับซัปโปโรเพื่อชมเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival)
หากมาช่วงเดียวกัน คุณสามารถเดินทางต่อฉับไวจากโอตารุไปซัปโปโรเพื่อชมงานหิมะระดับโลกได้ภายในวันเดียว
สรุปทำไมคุณควรมา Otaru Snow Light Path Festival สักครั้งในชีวิต
เทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุไม่ใช่แค่งานประดับไฟธรรมดา แต่เป็นการร่วมแรงร่วมใจของผู้คนทั้งเมืองที่อยากแบ่งปันความอบอุ่นให้ผู้มาเยือน ได้สัมผัสช่วงเวลาพิเศษที่ผสมผสานระหว่างแสงเทียน ศิลปะหิมะ และวิถีชีวิตเรียบง่ายแบบฮอกไกโด ด้วยบรรยากาศโรแมนติกสุดประทับใจ ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในเทศกาลฤดูหนาวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น
ไม่ว่าคุณจะมาเป็นคู่ เพื่อน หรือครอบครัว ทุกคนจะได้สัมผัสความประทับใจจากแสงไฟที่สะท้อนบนผิวน้ำและหิมะอย่างอ่อนโยน จนกลายเป็นความทรงจำที่อบอุ่นที่สุดท่ามกลางฤดูหนาวอันหนาวจัดของฮอกไกโด
Klook คืออะไร?
Klook คือแพลตฟอร์มชั้นนำของเอเชียสำหรับการจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจร
เราคัดสรรประสบการณ์คุณภาพ ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ทัวร์ท้องถิ่น การเดินทางภายในประเทศ ไปจนถึงที่พักหลากสไตล์ ครอบคลุมกว่า 3,400 จุดหมายทั่วโลก
รองรับการใช้งานใน 15 ภาษา และสามารถชำระเงินได้มากกว่า 40 สกุลเงิน ผ่านช่องทางชำระที่หลากหลาย ทำให้การจองกับ Klook สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
Klook ก่อตั้งในปี 2014 มีเป้าหมายเพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับนักเดินทางทุกคน ไม่ว่าคุณจะเที่ยวใกล้บ้านหรือออกเดินทางไกล Klook พร้อมพาคุณเชื่อมต่อกับโลกแห่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
🧡 ติดตาม Klook ได้ทาง
- Facebook: @klookth
- Instagram: @klooktravel_th
- TikTok: @klookth
- YouTube: @klookTH
- LINE Official Account: @klookth
