ลี่เจียง มนต์เสน่ห์แห่งเวนิสตะวันออก เที่ยวเมืองเก่าสุดคลาสสิกด้วยตัวเอง หรือทัวร์ พร้อมแพลนครบ!
ลี่เจียง (Lijiang) เมืองที่ตั้งอยู่ในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ไม่ได้เป็นเพียงแค่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นดั่งอัญมณีล้ำค่าที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาและสายน้ำ ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เวนิสแห่งตะวันออก" ด้วยลำคลองที่ไหลรินผ่านใจกลางเมืองเก่า บ้านเรือนไม้โบราณ และสะพานหินเล็กๆ ที่ทอดตัวข้ามคลอง ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกที่งดงามที่สุดของจีน และยังคงรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาวน่าซี (Naxi) ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ
หากคุณกำลังวางแผน เที่ยวลี่เจียง ไม่ว่าจะ เที่ยวลี่เจียงด้วยตัวเอง หรือมองหา ทัวร์ลี่เจียง 4 วัน 3 คืน หรือแม้กระทั่งอยากรู้ว่า เที่ยวลี่เจียง เดือนไหนดี บทความนี้คือคู่มือฉบับสมบูรณ์ที่จะพาคุณไปสัมผัสทุกซอกทุกมุมของลี่เจียง ตั้งแต่ประวัติศาสตร์อันยาวนาน ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด และเคล็ดลับการเดินทางที่จะทำให้ทริปของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด!
ทำไมต้อง "ลี่เจียง" ดินแดนแห่งมนต์ขลังที่ใครๆ ก็หลงรัก?
ลี่เจียงเป็นเมืองที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากที่อื่น ด้วยความผสมผสานระหว่างธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ วัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง และสถาปัตยกรรมที่งดงาม ที่นี่มีทุกสิ่งสำหรับนักเดินทางทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม ธรรมชาติ หรือแม้แต่การช้อปปิ้งและลิ้มรสอาหารท้องถิ่น
ประวัติศาสตร์เมืองโบราณลี่เจียง มรดกโลกที่มีลมหายใจ
เมืองโบราณลี่เจียง หรือ ต้าเหยียนกู่เจิ้น (Dayan Ancient Town) ไม่ใช่แค่ฉากหลังที่สวยงาม แต่เป็นสถานที่ที่มีชีวิตชีวาซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์กว่า 800 ปี เมืองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ โดยชาวน่าซี ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีวัฒนธรรมและภาษาเป็นของตัวเอง
จุดเด่นของเมืองเก่าคือผังเมืองที่ไร้กำแพง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนเมืองโบราณอื่นๆ ในจีน โดยชาวน่าซีเชื่อว่าการสร้างกำแพงจะทำให้มังกรที่คุ้มครองเมืองถูกกักขังไว้ ทำให้ไม่สามารถนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่เมืองได้ ด้วยเหตุนี้ ต้าเหยียนกู่เจิ้นจึงเป็นเมืองเปิดที่เชื้อเชิญให้ผู้คนเข้ามาสัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตดั้งเดิม
ในปี 1997 เมืองโบราณลี่เจียงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ถนนหินกรวด ลำธารที่ไหลผ่าน และบ้านเรือนไม้แบบดั้งเดิมที่ยังคงได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ทำให้คุณรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีต
เที่ยวลี่เจียง เดือนไหนดี?
การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการ เที่ยวลี่เจียง เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ของเมืองนี้ได้อย่างเต็มที่
- ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม): เป็นช่วงที่อากาศกำลังสบาย ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป ดอกไม้เริ่มผลิบาน ธรรมชาติสดใส เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
- ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม): อากาศค่อนข้างอบอ้าวและมีฝนตกชุก อาจพบเจอผู้คนหนาแน่นเนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดฤดูร้อนของจีน แต่ธรรมชาติจะเขียวขจีสวยงาม
- ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน): เป็นช่วงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการ เที่ยวลี่เจียง อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าสดใส ต้นไม้เปลี่ยนเป็นสีทองแดงทั่วทั้งเมือง เป็นช่วงที่เหมาะกับการถ่ายภาพและเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์
- ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์): อากาศหนาวเย็นมาก และบางครั้งอาจมีหิมะตก ทำให้คุณได้เห็นลี่เจียงในบรรยากาศที่แตกต่างออกไป แต่ควรเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวให้พร้อม
โดยสรุปแล้ว หากต้องการประสบการณ์ที่ดีที่สุด ขอแนะนำ ฤดูใบไม้ร่วง รองลงมาคือ ฤดูใบไม้ผลิ
ส่วนลด 10% สำหรับจองทัวร์ในจีน
ลี่เจียง ที่เที่ยว ห้ามพลาด! ตะลุยเมืองเก่าและธรรมชาติสุดอลังการ
มาถึงไฮไลท์ ที่เที่ยวลี่เจียง ซึ่งมีมากมายหลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเลือก เที่ยวลี่เจียงด้วยตัวเอง หรือไปกับ ทัวร์ลี่เจียง ก็สามารถปรับแพลนให้เข้ากับสไตล์ของคุณได้
1. เมืองโบราณลี่เจียง (Dayan Ancient Town)
แน่นอนว่านี่คือจุดศูนย์กลางของทุกสิ่งในลี่เจียง คุณสามารถใช้เวลาเดินเล่นในตรอกซอกซอยต่างๆ ได้ทั้งวันโดยไม่เบื่อ ชมสถาปัตยกรรมไม้แบบดั้งเดิม ชมลำธารใสที่ไหลผ่าน ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนที่ประดับไฟสวยงาม และเลือกซื้อของที่ระลึกหัตถกรรมพื้นเมือง
- สี่เหลี่ยมซื่อฟาง (Sifang Street): เป็นจัตุรัสหลักใจกลางเมือง ที่นี่มีชีวิตชีวามากที่สุดในยามค่ำคืน ผู้คนจะออกมารวมตัวกันเต้นรำตามจังหวะดนตรีพื้นเมือง
- กังหันน้ำขนาดใหญ่: สัญลักษณ์สำคัญของเมืองโบราณลี่เจียง ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าเมือง เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสำรวจเมือง
- บาร์สตรีท: หากคุณชื่นชอบแสงสียามค่ำคืน บาร์สตรีทในลี่เจียงมีให้เลือกมากมาย มีทั้งดนตรีสดและบรรยากาศสนุกสนาน เหมาะแก่การนั่งจิบเครื่องดื่มและชมวิถีชีวิตยามค่ำคืน
- สะพานว่านกู่ (Wangu Pavilion): ตั้งอยู่บนเนินเขาด้านหลังเมืองโบราณ เป็นจุดชมวิวเมืองเก่าลี่เจียงจากมุมสูงที่สวยงามที่สุด โดยเฉพาะยามพระอาทิตย์ตกดิน
2. สระน้ำมังกรดำ (Black Dragon Pool Park / Yuquan Park)
อยู่ห่างจากเมืองเก่าไม่ไกล เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สวยงามและเงียบสงบ จุดเด่นคือสระน้ำใสราวกับกระจกที่สะท้อนภาพภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) ได้อย่างงดงาม ในอุทยานยังมีศาลาสะพานหิน และวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง ทำให้เป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามและเหมาะแก่การเดินเล่นชมธรรมชาติ
3. ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)
เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในมณฑลยูนนาน และเป็นสัญลักษณ์ของลี่เจียง ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น
- กระเช้าไฟฟ้า Glacier Park: ขึ้นสู่ความสูง 4,506 เมตร เพื่อชมวิวธารน้ำแข็งและทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของภูเขาหิมะ สัมผัสอากาศหนาวเย็นและท้าทายความสูง (ควรเตรียมเสื้อกันหนาวหนาๆ และออกซิเจนกระป๋องไปด้วย)
- Impression Lijiang: การแสดงกลางแจ้งสุดอลังการที่จัดแสดงโดย Zhang Yimou ผู้กำกับโอลิมปิกปักกิ่ง บอกเล่าเรื่องราววัฒนธรรมของชนเผ่าพื้นเมือง โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะมังกรหยกที่ยิ่งใหญ่
- หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley): ลำธารที่ไหลลงมาจากภูเขาหิมะ มีสีฟ้าเทอร์ควอยซ์สวยงามราวกับน้ำนม ตัดกับโขดหินสีขาว เหมาะแก่การถ่ายรูปและเดินเล่น
4. หมู่บ้านซู่เหอ (Shuhe Ancient Town)
เป็นอีกหนึ่งเมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเก่าลี่เจียงประมาณ 4 กิโลเมตร ซู่เหอมีความเงียบสงบและเป็นธรรมชาติมากกว่าต้าเหยียนกู่เจิ้น บรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายและสัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวน่าซี
5. หมู่บ้านไป๋ซา (Baisha Village)
หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้เป็นที่ตั้งของจิตรกรรมฝาผนังไป๋ซา (Baisha Murals) ที่มีอายุกว่า 500 ปี จิตรกรรมเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของศิลปะพุทธและเต๋า ผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่น แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางศิลปะในอดีต
แพลนเที่ยวลี่เจียง กี่วันดี?
คำถามยอดฮิตสำหรับนักเดินทางคือ เที่ยวลี่เจียง กี่วัน ดีถึงจะคุ้มค่า? โดยทั่วไปแล้ว แพลนยอดนิยมคือ ทัวร์ลี่เจียง 4 วัน 3 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน ก็เพียงพอสำหรับการเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ แต่หากคุณมีเวลามากขึ้น สามารถเพิ่มวันเพื่อเที่ยวรอบนอกลี่เจียงได้อีกด้วย เช่น
แพลนตัวอย่าง: เที่ยวลี่เจียง 4 วัน 3 คืน
วันที่ 1: เดินทางถึงลี่เจียง สัมผัสเมืองเก่าต้าเหยียนกู่เจิ้น
- เดินทางถึงสนามบินลี่เจียงซานอี้ (Lijiang Sanyi Airport) และเดินทางเข้าสู่ที่พักในเมืองเก่าลี่เจียง
- ช่วงบ่าย: เริ่มต้นสำรวจ เมืองโบราณลี่เจียง (Dayan Ancient Town) เดินเล่นในซอยเล็กซอยน้อย แวะร้านค้า ร้านกาแฟ
- ช่วงเย็น: ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สะพานว่านกู่ (Wangu Pavilion) จากนั้นเดินเล่นที่สี่เหลี่ยมซื่อฟาง ชมการแสดงของชาวน่าซี และรับประทานอาหารเย็นในเมืองเก่า
วันที่ 2: ตะลุยภูเขาหิมะมังกรหยก และหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน
- ช่วงเช้า: เดินทางไปยังภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) ขึ้นกระเช้าไฟฟ้า Glacier Park เพื่อชมวิวธารน้ำแข็ง
- ช่วงบ่าย: ชมการแสดง Impression Lijiang (แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้า) และเดินเล่นชมความงามของหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley)
- ช่วงเย็น: เดินทางกลับเข้าเมืองลี่เจียง พักผ่อน
วันที่ 3: สัมผัสความสงบที่หมู่บ้านซู่เหอ และสระน้ำมังกรดำ
- ช่วงเช้า: เดินทางไปยังหมู่บ้านซู่เหอ (Shuhe Ancient Town) เดินเล่นชมหมู่บ้าน เลือกซื้อของที่ระลึก และจิบชาในบรรยากาศสบายๆ
- ช่วงบ่าย: เยี่ยมชมสระน้ำมังกรดำ (Black Dragon Pool Park) ถ่ายรูปกับวิวภูเขาหิมะมังกรหยกสะท้อนน้ำ
- ช่วงเย็น: กลับมาเดินเล่น ช้อปปิ้ง หรือหามื้อค่ำพิเศษในเมืองเก่าลี่เจียง
วันที่ 4: เก็บตก ช้อปปิ้ง และเดินทางกลับ
- ช่วงเช้า: เลือกซื้อของฝากที่ยังไม่ได้ซื้อ หรือไปเยือนสถานที่ที่คุณประทับใจอีกครั้ง
- ช่วงบ่าย: เดินทางไปยังสนามบินลี่เจียงซานอี้ เพื่อเดินทางกลับ
เคล็ดลับเที่ยวลี่เจียงด้วยตัวเอง สู่ประสบการณ์ที่ไร้กังวล
การ เที่ยวลี่เจียงด้วยตัวเอง ไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณมีการเตรียมตัวที่ดี
- การเดินทางจากไทยสู่ลี่เจียง:
- เครื่องบิน: วิธีที่สะดวกที่สุดคือการ บินตรงจากไทยไปยังคุนหมิง (สนามบินนานาชาติคุนหมิงฉางสุ่ย) จากนั้น ต่อเครื่องบินภายในประเทศจากคุนหมิงไปยังลี่เจียง (สนามบินลี่เจียงซานอี้) ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง หรือเลือก นั่งรถไฟความเร็วสูงจากคุนหมิงไปลี่เจียง ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
- การเดินทางในลี่เจียง: ภายในเมืองเก่าลี่เจียง คุณสามารถ เดินเท้า ชมความงามได้อย่างทั่วถึง หรือ เช่าจักรยาน เพื่อสำรวจรอบนอกเมืองได้ ในส่วนที่ไกลออกไป เช่น การเดินทางไปภูเขาหิมะมังกรหยก หรือหมู่บ้านซู่เหอ คุณสามารถ เรียกรถแท็กซี่ หรือ นั่งรถไฟฟ้าท่องเที่ยว (ซึ่งอาจเป็นบริการของทัวร์หรือสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง) เพื่อความสะดวกสบาย
- ที่พัก: ในเมืองเก่าลี่เจียงมีที่พักให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่เกสต์เฮาส์ราคาประหยัดไปจนถึงโรงแรมหรู การพักในเมืองเก่าจะทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืนได้อย่างเต็มที่
- แผนที่และแอปพลิเคชัน:
- สิ่งสำคัญคือ Google Maps อาจใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพในประเทศจีน (บางฟังก์ชันอาจถูกบล็อก)
- แนะนำให้ดาวน์โหลดแอปแผนที่ของจีนโดยเฉพาะ เช่น Baidu Map (百度地图) หรือ Gaode Map (高德地图) ซึ่งมีความแม่นยำและข้อมูลครบถ้วนสำหรับสถานที่ในจีน
- อีกทางเลือกคือ Maps.me ซึ่งเป็นแอปแผนที่ออฟไลน์ที่สามารถดาวน์โหลดแผนที่ล่วงหน้าได้ ทำให้ใช้งานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต
- สภาพอากาศและการแต่งกาย: เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับฤดูที่คุณไป โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวควรเตรียมเสื้อกันหนาวหนาๆ หมวก ถุงมือ และผ้าพันคอ หากไปภูเขาหิมะมังกรหยก ควรเตรียมเสื้อกันหนาวเป็นพิเศษและอาจพิจารณาเช่าเสื้อโค้ทหนาๆ ที่ทางเข้าอุทยาน
- สุขภาพ: ความสูงของลี่เจียงอาจทำให้บางคนมีอาการแพ้ความสูงเล็กน้อย ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ และหากจะขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยก ควรพกออกซิเจนกระป๋องติดตัวไปด้วย
- ภาษา: แม้ว่าภาษาอังกฤษจะไม่ใช่ภาษาที่ใช้กันแพร่หลายในลี่เจียง แต่คนท้องถิ่นก็คุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวมากขึ้น การใช้แอปแปลภาษา หรือเตรียมประโยคภาษาจีนง่ายๆ ติดตัวไว้จะช่วยให้การสื่อสารง่ายขึ้น (คุณอาจสนใจศึกษาเรื่อง ลี่เจียง ภาษาจีน เพิ่มเติม)
- อินเทอร์เน็ต: ควรซื้อซิมการ์ดท้องถิ่น หรือเช่า Pocket Wifi เพื่อความสะดวกในการใช้งานอินเทอร์เน็ต ควรติดตั้ง VPN (Virtual Private Network) ก่อนเดินทาง เพื่อให้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ถูกบล็อกในจีน เช่น Google, Facebook, Line ได้
สรุป: ลี่เจียง ดินแดนที่ต้องไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต
ลี่เจียงไม่ได้เป็นเพียงแค่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นประสบการณ์ที่รอคอยให้คุณไปค้นพบ ด้วยความงดงามของ เมืองโบราณลี่เจียง ที่เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง และธรรมชาติอันน่าทึ่ง ไม่ว่าคุณจะเลือก เที่ยวลี่เจียงด้วยตัวเอง หรือไปกับ ทัวร์ลี่เจียง ก็มั่นใจได้ว่าทริปนี้จะเต็มไปด้วยความทรงจำที่น่าประทับใจ
เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเวนิสตะวันออกของจีน ณ ลี่เจียง กันเถอะ! หากคุณกำลังวางแผน เที่ยวลี่เจียง 2568 หรือปีไหนๆ ก็ตาม ขอให้เป็นทริปที่ยอดเยี่ยมและเต็มไปด้วยความสุข!
บทความแนะนำ
Klook คืออะไร?
Klook คือแพลตฟอร์มชั้นนำของเอเชียสำหรับการจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจร
เราคัดสรรประสบการณ์คุณภาพ ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ทัวร์ท้องถิ่น การเดินทางภายในประเทศ ไปจนถึงที่พักหลากสไตล์ ครอบคลุมกว่า 3,400 จุดหมายทั่วโลก
รองรับการใช้งานใน 15 ภาษา และสามารถชำระเงินได้มากกว่า 40 สกุลเงิน ผ่านช่องทางชำระที่หลากหลาย ทำให้การจองกับ Klook สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
Klook ก่อตั้งในปี 2014 มีเป้าหมายเพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับนักเดินทางทุกคน ไม่ว่าคุณจะเที่ยวใกล้บ้านหรือออกเดินทางไกล Klook พร้อมพาคุณเชื่อมต่อกับโลกแห่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
🧡 ติดตาม Klook ได้ทาง
- Facebook: @klookth
- Instagram: @klooktravel_th
- TikTok: @klookth
- YouTube: @klookTH
- LINE Official Account: @klookth



































