7 สถานที่ "สุดว้าว" ระหว่างโรดทริปจากลาสเวกัสไปยังฟีนิกซ์

เปิดเพลงดังๆ แล้วมาสนุกกับโรดทริปสุดร็อคจากลาสเวกัสถึงฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนากันเลย! หากคุณกำลังสงสัยว่ามีอะไรบน “ถนนสายที่เหงาที่สุดในอเมริกา” ก็เตรียมตัวคุณให้พร้อม เพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณจะได้สัมผัสกับความสุดยอดและน่าทึ่งของธรรมชาติ

เริ่มต้นการเดินทางอันสุดปังครั้งนี้ ในการไปสำรวจธรรมชาติ ตั้งแต่ภูมิประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาลของแกรนด์แคนยอนและหุบเขาหินสีทรายแอนเทอโลป แคนยอน ไปจนถึงรูต 66 ถนนในตำนานและปลายทางที่น่าประทับใจอื่นๆ อีกมากมายระหว่างทาง

ดังนั้น หากคุณชอบสถานที่เหล่านี้ ต้องลองขับรถไปเที่ยวในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ดูให้ได้สักครั้ง ห้ามพลาด จด 7 สถานที่ท่องเที่ยวระหว่างขับรถจากลาสเวกัสไปยังฟีนิกซ์นี้ไว้ แล้วต้องตามไปลองกันให้ได้สักครั้ง

ดูไว้ แล้วไปตำกัน!

เมืองลาสเวกัส (Las vegas) อยู่ห่างจากรัฐแอริโซนาประมาณ 300 ไมล์ ใช้เวลาขับรถจากซินซิตี้หรือนครบาปไปยังหุบเขาแห่งพระอาทิตย์ (ซึ่งก็คือเมืองฟีนิกซ์) ประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่งโดยใช้ถนนสาย 93 ระหว่างทาง คุณก็จะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าตื่นเต้นทั้ง 7 แห่งที่จะทำให้ทริปนี้น่าสนใจ!

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ออกเดินทางกันเลยดีกว่า!

คุณจะสนุกกับการเที่ยวเขื่อน เมื่อมาเที่ยวที่เขื่อนฮูเวอร์! ฉายา “เขื่อนที่ดีที่สุดในโลก” จากสถาปัตยกรรมของเขื่อนแห่งนี้ไม่ได้ได้มาเล่นๆ เขื่อนนี้ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่มนุษย์รังสรรค์ขึ้นมา มีความสูงเท่ากับตึก 60 ชั้น และกว้างถึง 1,244 ฟุต บอกเลยว่าไม่ว่าคุณหรือนักท่องเที่ยวคนไหนได้ไปสัมผัสก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันทึ่งมาก! เขื่อนขนาดใหญ่นี้ใช้แรงงานกว่า 21,000 ชีวิตสร้างขึ้น ตั้งแต่ปี 1931-1935 เพื่อช่วยควบคุมปัญหาน้ำท่วมจากแม่น้ำโคโลราโด จนถึงในปัจจุบัน เขื่อนแห่งนี้ก็ยังใช้การได้ดีอยู่

ระหว่างขับรถท่องเที่ยวจากลาสเวกัส (Las vegas) ไปเมืองฟีนิกซ์และแวะเที่ยวเขื่อนฮูเวอร์ คุณก็จะมีโอกาสได้เห็นทะเลสาบมี้ด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่เกิดจากเขื่อนฮูเวอร์และเป็นทะเลสาบที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

จุดแวะเที่ยวถัดไประหว่างการขับรถเที่ยวจากลาสเวกัส (Las vegas) ไปเมืองฟีนิกซ์นี้ไม่ใช่ที่ไหนไกล แกรนด์แคนยอนนั่นเอง ซึ่งเป็นช่องเขาที่สวยที่สุดในโลก ที่นี่มีมีหินสวยงามที่ถูกกัดเซาะเป็นรูปร่างต่างๆ เป็นเวลากว่าหกล้านปีก่อน นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สวยงามจับตาที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโคโลราโดแห่งนี้ นอกจากนั้นคุณจะเห็นหินทราย หินดินดาน และหินปูนสีสนิมทุกขนาดและรูปทรงจาก Mather Point Overlook จุดชมวิวที่เดินทางได้สะดวกที่สุดและ Eagle Point ตรง West Rim

แต่ถ้าคุณอยากขับรถเที่ยวต่อ คุณสามารถใช้ถนน Hermit เพื่อไปสัมผัสกับถนนทะเลทรายที่เต็มไปด้วยลำธารและทัศนียภาพอันน่าทึ่งได้อีกด้วย

จาก South Rim ของแกรนด์แคนยอน ขับไปทางทิศเหนือเพื่อไปยังแอนเทอโลป แคนยอน และคุณจะได้เจอกับหินทรายที่มีคนถ่ายรูปมากที่สุดในโลก และเป็นที่คุ้นตากันดีของเหล่านักท่องเที่ยว ระหว่างทางจากลาสเวกัส (Las vegas) ไปเมืองฟีนิกซ์ คุณคงไม่อยากพลาดสิ่งมหัศจรรย์จากธรรมชาตินี้ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสทัศนียภาพที่งดงามดั่งต้องมนต์ของผนังหินสีทองเรียบเนียนที่มีแสงอ่อนๆ ที่ส่องลงมาจากด้านบน ที่นี่แหละที่คุณจะได้สัมผัสกับความทึ่งแบบเต็มตา

คุณสามารถจอดรถที่ทางเข้าของทางด่วน 98 ก่อนเข้าแอนเทอโลป แคนยอนและมุ่งหน้าไปจุดใดจุดหนึ่งได้ ไม่ว่าจะเป็น แอนเทอโลป แคนยอนด้านบน ทางเข้าบนพื้นที่เดินเข้าได้ง่าย และแอนเทอโลปด้านล่างที่ต้องปีนบันไดหลายขั้น

มาถึงตอนนี้ คุณก็คงอยากสัมผัสอารยธรรมสักหน่อย ข่าวดีก็คือ คุณมาถึงครึ่งทางของโรดทริปสุดร็อคครั้งนี้แล้ว! ในตอนบนของตัวเมืองเซโดนา คุณสามารถทานของอร่อยๆ ในร้านอาหารต่างๆ เดินเล่นเพื่อผ่อนคลาย และคลายเครียดที่โรงแรม และรีสอร์ทสุดหรู หรือจะเลือกซื้อคริสตัลและงานฝีมือของชนเผ่านาวาโฮดั้งเดิมเพื่อเป็นของที่ระลึกได้ด้วย เป็นการผ่อนคลายหลังจากขับรถมานานหลายชั่วโมงได้อย่างดี!

หากคุณอยากเดินป่า เซโดนา เมืองทะเลทรายแห่งนี้ก็มีเส้นทางเดินมากมายใกล้ๆ เช่น สะพานปีศาจ และระหว่างทางคุณจะได้พบกับปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่และทุ่งกระบองเพชร

มีสถานที่ไม่กี่แห่งในสหรัฐอเมริกา ที่คุณจะได้เห็นหุบเหวหินแดงปกคลุมด้วยหิมะ และโชคดีที่เมืองแฟลกสแตฟฟ์ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองที่มีสิ่งนี้ เมืองแฟลกสแตฟฟ์อยู่ไม่ไกลจากเมืองฟีนิกซ์ รายล้อมไปด้วยภูเขา ทะเลทราย และต้นสนที่จะทำให้คุณรู้สึกเย็นใจหลังจากขับรถเที่ยวกลางแดดมาทั้งวัน ผู้ที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งและผู้ที่ชอบเล่นกีฬาสโนว์บอร์ดก็สามารถเดินป่าและเล่นสโนว์บอร์ดที่ซานฟรานซิสโกพีคส์ (ภูเขาที่สูงที่สุดในรัฐแอริโซนา) และ Arizona Snowbowl Ski Resort ได้ด้วย

และสำหรับแฟนหนังเรื่อง Cars ของดิสนีย์ ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคุณ! เมืองแฟลกสแตฟฟ์ยังจุดแวะเที่ยวที่สำคัญบนรูต 66 ถนนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ดังนั้น เชื่อได้เลยว่าคุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์มากมายที่เมืองแห่งนี้

ร้องเพลง “Take it Easy” ของวง Eagles ระหว่างขับรถบนรูต 66 เพื่อเข้าสู่เมืองวินสโลว์ที่มีมนต์เสน่ห์ คุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ของชนเผ่าอเมริกันพื้นเมืองอันน่าทึ่งบนถนนสายนี้ด้วย คนชอบเที่ยวสายวัฒนธรรม บอกเลยว่าถนนเส้นนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสวัฒนธรรมอย่างจุใจ ตั้งแต่บ้านหลุมและศิลปะสกัดหินที่เป็นมรดกของชาวโฮปี้ ในอุทยานแห่งรัฐฮัมโมโลวี ไปจนถึงเครื่องปั้นดินเผาสไตล์ซาโพเท็ค เครื่องประดับ และพรมถักมือสไตล์นาฮาโว ซึ่งเป็นผลงานของทายาทชนเผ่าที่ La Posada

ระหว่างที่อยู่ที่นั่น คุณก็สามารถดื่มด่ำกับเครื่องดื่มเย็นๆ และอิ่มอร่อยกับเบอร์เกอร์ ที่ร้านอาหาร RelicRoad Brewing Company อิ่มอร่อยกับ Canyon Diablo (13.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ) สเต็กเกซาดิยา (14.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ) และเมนูอื่นๆ อีกมากมายในร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในบริเวณนั้น ให้อิ่มท้องกันไปเลย!

ปิดท้ายโรดทริปจากลาสเวกัส (Las vegas) ถึงฟีนิกซ์ด้วยการเที่ยวทะเลสาบฮาวาซู โอเอซิสกลางเมืองทะเลทรายแห่งนี้มีแดดจ้า 365 วันต่อปีและชายหาดอุ่นสบายมากมาย เป็นปลายทางยอดนิยมสำหรับกิจกรรมทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาเวกบอร์ด สกีน้ำ คายัก หรือตกปลาที่คุณชอบ คุณก็สามารถระเบิดความมันส์ได้ที่ “สนามเด็กเล่นแห่งรัฐแอริโซน่าหรือ Arizona’s Playground” 

หลังจากคุณกลับมาบนถนนอีกครั้ง ก็สามารถขับรถไปเมืองฟีนิกซ์ได้ใน 3 ชั่วโมง!

ถึงแม้ว่าคุณสามารถขับรถจากเมืองลาสเวกัสไปยังเมืองฟีนิกซ์ได้ภายในหนึ่งวันแต่จะสนุกกว่าหากทำเป็นทริปวันหยุดกับครอบครัวและหรือเพื่อนๆหากคุณต้องการดื่มด่ำกับการขับรถชมวิวให้มากที่สุดคุณก็จะต้องมีที่พักสักคืนสองคืน

โชคดีที่มีที่พักมากมายให้คุณเข้าพัก! ที่พักในช่วงกลางคืนที่ดีที่สุดระหว่างการขับรถเที่ยวครั้งนี้คือที่พักในเมืองเซโดนาและเมืองแฟลกสแตฟฟ์ ซึ่งมีที่พักหลายรูปแบบ ตั้งแต่ที่พักราคาสบายกระเป๋าไปจนถึงที่พักหรูหรา เพียงแค่เลือกดูใน Klook และค้นพบที่พักสุดยอดมากมาย!

ทีนี้ ทริปจากลาสเวกัสไปแอริโซนาน่าดึงดูดใจมากใช่ไหมล่ะ ถึงเวลาเก็บกระเป๋าแล้ว และเราจะมาพบกับคุณใหม่ในการผจญภัยครั้งถัดไป!