• ไปยังแอป
  • เลือกจุดหมายปลายทาง
  • คู่มือวิธีจองตั๋วรถไฟจีนความเร็วสูง 2025 ครบจบสำหรับมือใหม่

    Klook Thailand
    Klook Thailand
    อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 2025
    more
    คู่มือวิธีจองตั๋ว รถไฟจีนความเร็วสูง 2025

    คู่มือขั้นตอนที่คุณต้องรู้! สำหรับจองตั๋วรถไฟความเร็วสูงจีนออนไลน์

    กำลังวางแผนเที่ยวรอบประเทศจีนอยู่หรือเปล่า? ถ้าใช่ คุณแทบจะแน่นอนว่าต้องนั่งรถไฟความเร็วสูง (High-Speed Rail – HSR) เดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่ง เพราะนี่คือวิธีเดินทางที่สะดวกและมีประสิทธิภาพที่สุด เรียกได้ว่าช่วยให้เที่ยวรอบจีนได้ง่ายดาย เหมือนที่ชินคันเซ็นทำให้การเที่ยวญี่ปุ่นสะดวกนั่นเอง!
    หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่าการ จองตั๋วรถไฟจีน ไม่ง่ายนัก แต่บทความนี้จะรวมทุกข้อมูลและเคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้คุณซื้อตั๋วได้อย่างราบรื่น

    ทำไมถึงควรเที่ยวจีนด้วยรถไฟ?

    ซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงจีนได้ที่ไหน
    จีนมีเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงที่ใหญ่และคึกคักที่สุดในโลก ระยะทางรวมกว่า 45,000 กิโลเมตร เชื่อมต่อเมืองมากกว่า 550 เมือง รถไฟหัวกระสุนสามารถวิ่งได้สูงสุดถึง 350 กม./ชม. (217 ไมล์/ชม.) ทำให้การเดินทางระหว่างเมืองใหญ่ทั้งรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
    ไม่ว่าจะเดินทางจากมหานครเซี่ยงไฮ้ที่คึกคักไปยังปักกิ่งเมืองหลวงอันเก่าแก่ หรือแวะเที่ยวเมืองรองที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก รถไฟความเร็วสูงก็มักจะเร็วกว่าการบิน สะดวกกว่า และสบายกว่ามาก

    วิธีซื้อตั๋วรถไฟจีน

    วิธีจองออนไลน์

    นี่คือแพลตฟอร์มอย่างเป็นทางการของการรถไฟจีน (China Railway Corporation) ทั้งเว็บไซต์และแอปมือถือ มีข้อมูลตารางรถไฟ การจอง และนโยบายการเดินทางครบถ้วน ข้อเสียคือใช้งานยากสำหรับชาวต่างชาติ เพราะภาษาและวิธีชำระเงินมีข้อจำกัด
    2. เว็บไซต์ท่องเที่ยว เช่น Klook
    Klook ถือเป็นตัวช่วยหลักของนักท่องเที่ยวต่างชาติในการ จองตั๋วรถไฟความเร็วสูงจีน ให้การจองสะดวกขึ้น ยืนยันการจองทันที มีอัปเดตเรียลไทม์เกี่ยวกับตารางรถไฟ และรองรับหลายภาษา รวมถึงการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิต และ e-Wallet เช่น GCash, LINEPay, KakaoPay, WeChat Pay ฯลฯ

    วิธีจองออฟไลน์

    1. ซื้อที่สถานีรถไฟโดยตรง
    China South Train Station
    หากต้องการซื้อตั๋วด้วยตนเอง สามารถไปซื้อได้ที่เคาน์เตอร์สถานีรถไฟทั่วประเทศจีน วิธีนี้เหมาะสำหรับทริปที่วางแผนกะทันหัน แต่ต้องใช้พาสปอร์ตในการจอง และอาจมีข้อจำกัดเรื่องภาษาและการจ่ายเงิน
    Klook Tip: ช่วงเทศกาลใหญ่ๆ อย่าง Golden Week ของจีน ตั๋วรถไฟจีนขายหมดไวมาก แนะนำให้จองออนไลน์ล่วงหน้า
    2. ผ่านเอเจนซี่หรือโรงแรม
    บริษัททัวร์หรือโรงแรมบางแห่งมีบริการช่วยจองตั๋วรถไฟ สามารถให้คำแนะนำหลายภาษาได้ แต่ส่วนใหญ่จะมีค่าบริการเพิ่มเติม

    วิธีจองตั๋วรถไฟความเร็วสูงจีนบน Klook

    1.ดาวน์โหลดแอป Klook หรือเข้าเว็บไซต์ Klook.com

    รถไฟความเร็วสูงจีน Klook App
    หลังจากดาวน์โหลดแอป Klook แล้ว ให้กดไปที่เมนู “Transport” (การเดินทาง) แล้วเลือกตัวเลือก “China High-Speed Rail” หรือกดเลือกจากการ์ดกิจกรรม (Activity Card) ที่ขึ้นโชว์ก็ได้

    2.ค้นหาเส้นทางและวันเดินทาง

    เส้นทางและวันที่เดินทางรถไฟความเร็วสูงจีน บนแอป Klook
    ใส่เส้นทางและวันที่ที่ต้องการเดินทาง จากนั้นกดปุ่ม “ค้นหา” ระบบจะแสดงรายการรถไฟทั้งหมดที่มีในวันนั้นๆ ต้องใส่ใจเป็นพิเศษว่าสถานีต้นทางและปลายทางคือสถานีไหน เพราะในเมืองใหญ่ๆ มักจะมีหลายสถานี Klook Tip: ตั๋วรถไฟจีน จะเปิดขายล่วงหน้า 15 วันก่อนวันเดินทาง สำหรับเส้นทางยอดนิยมหรือช่วงเทศกาล ตั๋วอาจหมดภายในไม่กี่นาที ควรตั้งแจ้งเตือนเพื่อจองทันทีที่ตั๋วออกขาย

    3.เลือกขบวนรถไฟ

    รายละเอียดเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจีน บน Klook

    4. เลือกประเภทที่นั่ง

    ในหน้าผลการค้นหา คุณสามารถดูเวลาเดินทางและเส้นทางของแต่ละขบวนได้ และสามารถกดที่หมายเลขรถไฟเพื่อดูว่าจอดที่สถานีไหนบ้าง เมื่อเลือกได้แล้วก็กดเลือกขบวนที่ตรงกับแผนการเดินทางของคุณ
    Klook Tip: ขบวนรถไฟในจีนมีรหัสขึ้นต้นด้วย G, D หรือ C ซึ่งบ่งบอกประเภทของรถไฟ:
    • G-Trains (Gaotie – 高铁): เร็วที่สุด สูงสุด 350 กม./ชม. เหมาะกับการเดินทางระยะไกล เช่น ปักกิ่ง–เซี่ยงไฮ้ มีที่นั่งหลายคลาสให้เลือก
    • D-Trains (Dongche – 动车): วิ่งช้ากว่า (สูงสุด 250 กม./ชม.) เหมาะกับเส้นทางสั้นหรือเดินทางกลางคืน บางขบวนมีรถนอน
    • C-Trains (Chengji – 城际): ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. ใช้สำหรับการเดินทางระหว่างเมืองใกล้ ๆ เหมาะกับทริปวันเดียวหรือการเดินทางประจำวัน

    4. เลือกประเภทที่นั่ง

    ประเภทที่นั่งรถไฟความเร็วสูงจีน บน Klook
    ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกประเภทที่นั่งที่ต้องการใช้เดินทาง รถไฟความเร็วสูงของจีนมีตัวเลือกหลากหลาย ครอบคลุมทั้งงบประมาณและระดับความสะดวกสบายที่ต่างกัน:
    • ชั้นสอง (Second Class): เป็นตัวเลือกที่ประหยัดและนิยมที่สุดในการนั่งรถไฟหัวกระสุน จัดที่นั่งแบบ 3+2 มาพร้อมโต๊ะพับ พนักวางแขน และปลั๊กไฟ เหมาะสำหรับการเดินทางทั่วไปที่สะดวกและคุ้มค่า
    • ชั้นหนึ่ง (First Class): ให้พื้นที่กว้างกว่าและบรรยากาศเงียบสงบมากขึ้น จัดที่นั่งแบบ 2+2 เบาะใหญ่ขึ้น นั่งสบาย มีพื้นที่วางขามากกว่า และเอนได้มากกว่า
    • ชั้นธุรกิจ (Business Class): ประสบการณ์การเดินทางสุดพรีเมียม! ที่นั่งจัดแบบ 2+1 หรือ 1+1 ลักษณะเหมือนแคปซูล สามารถปรับเอนจนเป็นเตียงนอนได้ มีความเป็นส่วนตัวสูง มาพร้อมจอส่วนตัว อาหารและของว่างฟรี บริการขึ้นรถแบบ Priority และสิทธิ์เข้าใช้เลานจ์ VIP ในสถานีใหญ่ ๆ
    Klook Tip: ไม่เหมือนการเดินทางบนเครื่องบิน ที่นั่ง Business Class บนรถไฟความเร็วสูงจีนนั้นหรูหรากว่าชั้น First Class บนเครื่องบินเสียอีก!
    รถไฟความเร็วสูงปักกิ่ง–เซี่ยงไฮ้ : บริการเก็บสัมภาระ
    ไม่ว่าคุณจะเลือกนั่งชั้นไหน รถไฟก็มีพื้นที่เก็บสัมภาระให้โดยเฉพาะ ชั้นวางเหนือศีรษะสามารถใส่กระเป๋าขนาดเล็กถึงกลางได้ คล้ายกับที่เก็บสัมภาระบนเครื่องบิน

    5. กรอกข้อมูลผู้โดยสาร

    เลือกที่นั่งรถไฟความเร็วสูงจีนและกรอกข้อมูลผู้โดยสาร บน Klook
    ก่อนที่จะทำการชำระเงิน คุณต้องกรอกรายละเอียดผู้โดยสารให้ครบถ้วน โดยต้องกรอกสำหรับผู้โดยสารแต่ละคนตามข้อมูลในพาสปอร์ต เพราะคุณจำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตที่สถานีเพื่อขึ้นรถไฟ (รายละเอียดเพิ่มเติมจะอธิบายในภายหลัง)
    ในขั้นตอนนี้ คุณยังสามารถเลือกที่นั่งตามความชอบได้ เช่น ริมหน้าต่าง หรือ ริมทางเดิน และ Klook จะพยายามจัดที่นั่งให้ตามที่เลือกไว้ หากคุณจองเป็นกลุ่มตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ระบบก็จะพยายามจัดให้นั่งติดกัน โดยอย่างน้อยจะมีหนึ่งคนได้ที่นั่งตรงตามที่เลือก

    6. ชำระเงินเพื่อยืนยันการจอง

    เมื่อกรอกข้อมูลครบแล้ว ให้ทำการชำระเงินด้วยวิธีที่คุณสะดวกที่สุด หลังจากการจองเสร็จสิ้น คุณจะได้รับ ตั๋วรถไฟจีน เข้ามาในแอป Klook ภายในไม่กี่นาที!

    เคล็ดลับในการขึ้นรถไฟที่สถานีอย่างราบรื่น

    เมื่อคุณมี ตั๋วรถไฟจีน อยู่ในมือแล้ว มาดูเคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้คุณเดินทางภายในสถานีรถไฟขนาดใหญ่ของจีนได้สะดวก และขึ้นรถไฟได้อย่างง่ายดาย ต้องบอกไว้ก่อนว่าสถานีรถไฟในจีนมีขนาดใหญ่มากและเต็มไปด้วยผู้คน ดังนั้นการวางแผนล่วงหน้าคือกุญแจสำคัญ!
    สัปดาห์ทองจีน : บรรยากาศผู้คนหนาแน่นที่สถานีรถไฟหงเฉียว เซี่ยงไฮ้ ช่วงวันชาติ
    Hongqiao Station in Shanghai during Golden Week. Credit: 543402634 via XHS
    1. ไปถึงก่อนเวลา: เรื่องนี้สำคัญมาก! สถานีใหญ่ ๆ อย่าง Beijing South และ Shanghai Hongqiao มีขนาดใหญ่มาก ควรไปถึงก่อนเวลาเดินทางอย่างน้อย 60–90 นาที เพื่อให้มีเวลาพอสำหรับการเดินหาทางและผ่านจุดตรวจความปลอดภัย
    2. ตรวจสอบสถานีให้ถูกต้อง: เมืองใหญ่ในจีนมักจะมีสถานีรถไฟความเร็วสูงหลายแห่ง เช่น ปักกิ่งมี Beijing South (北京南), Beijing West (北京西) และ Beijing Railway Station (北京站) ดังนั้นควรตรวจสอบชื่อสถานีบนตั๋วให้ชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงความเครียดก่อนเดินทาง
    3. ผ่านจุดตรวจความปลอดภัย: ระบบรักษาความปลอดภัยที่สถานีรถไฟในจีนคล้ายกับสนามบิน คุณต้องสแกนสัมภาระและเดินผ่านเครื่องสแกนร่างกาย โดยปกติขั้นตอนนี้รวดเร็ว แต่ก็เป็นขั้นตอนที่บังคับทุกครั้ง
    การตรวจความปลอดภัยที่ทางเข้าสถานีรถไฟจีน
    1. พาสปอร์ตคือตั๋วของคุณ: สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ พาสปอร์ตจะเชื่อมกับ e-ticket โดยตรง คุณเพียงแค่สแกนพาสปอร์ตที่ประตูอัตโนมัติ ก็สามารถเข้าสู่สถานีและขึ้นรถไฟได้ทันที หากมีปัญหา เจ้าหน้าที่จะคอยช่วยเหลือเสมอ
    2. จัดการสัมภาระเอง: ผู้โดยสารต้องยกสัมภาระขึ้นรถเอง โดยทั่วไปสามารถนำกระเป๋าเดินทางขนาดพกพา (carry-on) 1 ใบ และกระเป๋าส่วนตัว 1 ใบต่อคน ขึ้นรถได้ กระเป๋าสามารถวางบนชั้นเหนือศีรษะ หรือเก็บไว้ในที่เก็บกระเป๋าด้านท้ายตู้ แต่ควรเตรียมพร้อมยกกระเป๋าด้วยตัวเอง
    ชานชาลารถไฟสถานีปักกิ่งใต้ พร้อมกระเป๋าสัมภาระ

    เส้นทางรถไฟความเร็วสูงยอดนิยมในจีน

    • เมื่อคุณรู้แล้วว่าควร จองตั๋วรถไฟจีน อย่างไรผ่าน Klook และเตรียมตัวขึ้นรถไฟที่สถานีแบบไหน มาดูกันต่อเลยว่ามีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชอบใช้กันมากที่สุด เส้นทางเหล่านี้ไม่เพียงเดินทางสะดวก แต่ยังเต็มไปด้วยประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าประทับใจอีกด้วย:
    • ปักกิ่ง ↔ เซี่ยงไฮ้: เส้นทางสุดคลาสสิก เชื่อมสองเมืองใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ ใช้เวลาประมาณ 4.5–6 ชั่วโมง ครอบคลุมระยะทางกว่า 1,300 กิโลเมตร
    • เซี่ยงไฮ้ ↔ หางโจว: เส้นทางยอดฮิตสำหรับทริปแบบไปเช้า–เย็นกลับ ใช้เวลาเพียง 45–60 นาที ระยะทางประมาณ 169 กม. ไปถึงทะเลสาบซีหู (West Lake) ที่สวยงาม
    • หางโจว ↔ ซูโจว: มักถูกจัดรวมกับการเที่ยวหางโจว ใช้เวลา 1.5–2 ชั่วโมง ระยะทางราว 220 กม. ผ่านเมืองสวนคลาสสิกที่ขึ้นชื่อ
    • เซินเจิ้น ↔ กว่างโจว: การเดินทางสั้น ๆ และสะดวกมาก ใช้เวลาเพียง 30–40 นาที ระยะทาง 140 กม. เหมาะกับการเที่ยวสำรวจมณฑลกวางตุ้งที่มีสีสัน
    • ปักกิ่ง ↔ ซีอาน: อีกหนึ่งเส้นทางยอดนิยม ใช้เวลา 4.5–6 ชั่วโมง เพื่อไปชมสิ่งมหัศจรรย์โลก กองทัพทหารดินเผา
    • กว่างโจว ↔ ฮ่องกง: เส้นทางข้ามพรมแดน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยรถไฟความเร็วสูงฮ่องกง จากสถานี Guangzhou South ไปยัง Hong Kong West Kowloon Station

    บทความเที่ยวจีนเพิ่มเติม

    🇨🇳 สิ่งจำเป็นสำหรับการเที่ยวปักกิ่ง 🇨🇳
    สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวปักกิ่ง
    ทริปแบบไปเช้า–เย็นกลับ (Day trips): กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) | หมู่บ้านน้ำกู๋เป่ย (Gubei Water Town)
    การเดินทางในปักกิ่ง
    การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ใช้ eSIM สำหรับจีน เพื่อให้คุณเชื่อมต่อได้ตลอดการเดินทาง พร้อมค้นหาที่พักที่ดีที่สุดในปักกิ่ง รวมถึงโปรโมชั่นพิเศษจากโรงแรมและแพ็กเกจดีลแบบครบจบในที่เดียว!
    ลดเพิ่ม5%เมื่อจองผ่านแอปครั้งแรก

    Klook คืออะไร?

    Klook คือแพลตฟอร์มชั้นนำของเอเชียสำหรับการจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจร เราคัดสรรประสบการณ์คุณภาพ ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ทัวร์ท้องถิ่น การเดินทางภายในประเทศ ไปจนถึงที่พักหลากสไตล์ ครอบคลุมกว่า 3,400 จุดหมายทั่วโลก
    รองรับการใช้งานใน 15 ภาษา และสามารถชำระเงินได้มากกว่า 40 สกุลเงิน ผ่านช่องทางชำระที่หลากหลาย ทำให้การจองกับ Klook สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
    Klook ก่อตั้งในปี 2014 มีเป้าหมายเพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับนักเดินทางทุกคน ไม่ว่าคุณจะเที่ยวใกล้บ้านหรือออกเดินทางไกล Klook พร้อมพาคุณเชื่อมต่อกับโลกแห่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา

    🧡 ติดตาม Klook ได้ทาง

    more