ไปเที่ยวฟูจิครั้งแรกอาจจะสับสนว่าจะเลือกใช้พาสเที่ยวฟูจิแบบไหนดีใช่ไหม? บทความนี้ช่วยคุณได้! เราจะมา เปรียบเทียบ 3 พาสยอดฮิต สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวรอบภูเขาไฟฟูจิปี 2025 ได้แก่ Mt. Fuji Pass, JR Tokyo Wide Pass และ Fuji Hakone Pass แบบละเอียดสุด ๆ อ่านจบแล้วคุณจะรู้ทันทีว่า เที่ยวฟูจิพาสไหนดี ที่เหมาะกับแผนเที่ยวของคุณ พร้อมลุยทริปแบบสบายกระเป๋า!
การเดินทางรอบภูเขาไฟฟูจิ ครอบคลุมหลายพื้นที่สำคัญ เช่น ทะเลสาบคาวากุจิโกะ, สถานีฟูจิซัง, ฮาโกเน่ และเส้นทางรถไฟหรือบัสที่วิ่งผ่านเมืองหลักใน จังหวัดยามานาชิ และ คานากาว่า แต่ด้วยความที่มี พาสเที่ยวฟูจิ ให้เลือกหลายแบบ หลายคนจึงลังเลว่าจะเลือกพาสไหนดีให้เหมาะกับเส้นทางเที่ยวและงบประมาณของตัวเอง
บทความนี้รวบรวม จุดเด่น จุดด้อย และความคุ้มค่า ของแต่ละพาส เปรียบเทียบครบ ทั้งในแง่ของ เส้นทางที่ครอบคลุม, จุดถ่ายรูปวิวฟูจิ, ความสะดวกในการใช้งาน และราคา เพื่อให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น และจัดทริป เที่ยวรอบภูเขาไฟฟูจิ ได้อย่างมั่นใจและไร้กังวล!
แนะนำพาสยอดนิยมสำหรับเที่ยวรอบภูเขาไฟฟูจิ
รอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ทะเลสาบคาวากุจิโกะ, แหล่งออนเซ็นในฮาโกเน่, หมู่บ้านโบราณ หรือจุดชมวิวใกล้ชิดยอดเขา ซึ่งการเดินทางไปยังสถานที่เหล่านี้จะง่ายขึ้นและคุ้มค่ากว่ามาก หากเลือกใช้ พาสเที่ยวฟูจิ ที่ออกแบบมาสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ
การใช้พาสเหล่านี้ไม่เพียงช่วย ประหยัดค่าเดินทาง แต่ยังเพิ่มความสะดวก เช่น ไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋วทุกครั้งก่อนขึ้นรถไฟหรือรถบัส และสามารถจัดทริปแบบยืดหยุ่นได้ตามใจ โดยพาสที่ครอบคลุมพื้นที่รอบภูเขาไฟฟูจิ มีให้เลือกหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็มีจุดเด่นต่างกัน ทั้งเรื่อง ระยะเวลาใช้งาน, เส้นทางที่ครอบคลุม, และ กิจกรรมที่รวมอยู่ในพาส
บางพาสเหมาะกับคนที่อยากเที่ยวหลายเมืองรอบโตเกียว, บางพาสเจาะลึกแค่โซนคาวากุจิโกะหรือฮาโกเน่ สำหรับคนที่มีเวลาจำกัด โดยด้านล่างนี้คือ 3 พาสยอดนิยม ที่นักเดินทางเลือกใช้มากที่สุดเมื่อวางแผนเที่ยวรอบ Mt. Fuji:
1. Fuji Hakone Pass เที่ยวทั้งภูเขาไฟฟูจิและฮาโกเน่ในพาสเดียว
Fuji Hakone Pass คือพาสสุดคุ้มสำหรับนักเดินทางที่ต้องการ สัมผัสความงดงามของภูเขาไฟฟูจิ ควบคู่กับ บรรยากาศธรรมชาติและออนเซ็นชื่อดังของฮาโกเน่ (Hakone) ในทริปเดียว พาสนี้สามารถใช้งานได้นานถึง 3 วัน ครอบคลุมการเดินทางหลักทั้งหมด ทั้ง รถไฟ รถบัส เรือ และกระเช้าลอยฟ้า โดยเฉพาะบนเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมของเครือ Odakyu และ Fujikyu Railway ทำให้วางแผนเดินทางจาก โตเกียว > ฮาโกเน่ > คาวากุจิโกะ ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องซื้อตั๋วแยกหลายใบ
สิ่งที่ครอบคลุมในพาสนี้
Fuji Hakone Pass ครอบคลุมทั้งการเดินทางจากโตเกียวสู่ฮาโกเน่ และขยับไปยังโซนรอบภูเขาไฟฟูจิอย่างคาวากุจิโกะได้แบบไร้รอยต่อ โดยสามารถใช้ รถไฟ Odakyu (เที่ยวเดียว) จากสถานี Shinjuku ไปยัง Odawara หรือ Hakone-Yumoto ได้ จากนั้นภายในเขตฮาโกเน่สามารถใช้ รถบัส Hakone Tozan, เคเบิลคาร์, Hakone Ropeway และ ล่องเรือโจรสลัดในทะเลสาบอาชิ ได้ไม่จำกัด รวมถึงเดินทางสู่โซนฟูจิด้วย รถไฟ Fujikyu Railway หรือ รถบัส Fujikyu ไปยัง Kawaguchiko, Mt. Fuji Station หรือเชื่อมต่อกับ Otsuki Station ได้อย่างสะดวก
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด
เมื่อถือบัตร Fuji Hakone Pass คุณสามารถสนุกกับการท่องเที่ยวสถานที่ยอดนิยมรอบภูเขาไฟฟูจิและฮาโกเน่ได้อย่างครบครัน เริ่มตั้งแต่การล่องเรือโจรสลัดในทะเลสาบอาชิ (Lake Ashi), ขึ้นกระเช้า Hakone Ropeway ชมวิวภูเขาฟูจิสุดอลังการ, เดินชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Hakone Open-Air Museum, ผ่อนคลายที่ออนเซ็นชื่อดังใน Gora หรือ Yunessun Spa Resort และแวะจุดชมวิวคาวากุจิโกะหรือศาลเจ้า Chureito Pagoda ที่เป็นไฮไลต์สำหรับการชมฟูจิแบบเต็มตา
นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปยัง สถานีฟูจิซัง (Fujisan Station) เพื่อเชื่อมต่อรถบัสไปยัง 5th Station หรือวางแผนเที่ยวแบบพักผ่อนชิล ๆ ในเมืองรีสอร์ตที่เต็มไปด้วยธรรมชาติแสนสวยของญี่ปุ่นตะวันตกได้อย่างลงตัว
จุดเด่นของ Fuji Hakone Pass
คือสามารถวางแผนทริปแบบ “วงกลม” ได้ ไม่ต้องกลับทางเดิม เพิ่มความยืดหยุ่นในการท่องเที่ยว เหมาะกับคนที่มีเวลาเที่ยว 2–3 วัน และอยากเก็บครบทั้งสองโซนในทริปเดียว ถือว่าเป็นพาสที่ครบเครื่องและคุ้มค่าอย่างมากสำหรับคนที่อยากเที่ยวรอบ ฟูจิ + ฮาโกเน่
2. JR Tokyo Wide Pass เที่ยวรอบโตเกียวแบบไม่จำกัด 3 วัน
JR Tokyo Wide Pass คือพาสยอดฮิตที่เหมาะมากกับนักท่องเที่ยวที่อยากใช้โตเกียวเป็นฐาน แล้วออกไป เที่ยวเมืองรอบโตเกียวแบบไปเช้าเย็นกลับ เช่น คาวากุจิโกะ, คารุอิซาวะ, อิคะโฮะ, หรือแม้แต่นิกโก้
ใครที่วางแผนจะเที่ยว ภูเขาไฟฟูจิ, อยากไปเดินเล่นที่ คาวากุจิโกะ, หรือช้อปแบรนด์ในบรรยากาศเมืองตากอากาศที่ คารุอิซาวะ พาสนี้ตอบโจทย์สุด เพราะไม่ต้องซื้อตั๋วแยกทุกครั้ง เปลี่ยนแผนเที่ยวในแต่ละวันได้อย่างอิสระ เหมาะมากกับคนที่ชอบความยืดหยุ่นหรือมีวันเดินทางไม่แน่นอน
พาสนี้ครอบคลุมหลายเส้นทางรอบโตเกียว จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากสำหรับนักเดินทางที่อยากเห็นญี่ปุ่นหลายมุมภายในทริปเดียว
จุดเด่นของ JR Tokyo Wide Pass
คือสามารถขึ้นลง รถไฟ JR ทุกสายได้แบบไม่จำกัดภายใน 3 วันติดต่อกัน รวมถึงรถไฟด่วน Narita Express, Tokyo Monorail, และ ชินคันเซ็นสายสั้น จึงสะดวกทั้งขาเข้าเมืองจากสนามบิน และการเดินทางออกนอกเมืองแบบหลากหลาย
สิ่งที่ครอบคลุมในพาสนี้
ใช้ได้กับเครือข่ายรถไฟของ JR East ทั้งรถไฟชินคันเซ็น รถไฟด่วนพิเศษ และรถไฟท้องถิ่นในพื้นที่ที่กำหนด บัตรนี้สามารถใช้โดยสาร Tokyo Monorail ที่เชื่อมต่อสนามบินฮาเนดะ เข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างสะดวก รวมถึงรถไฟสาย Izu Kyuko, Fujikyu Railway (เส้นทางไปยังคาวากุจิโกะ), Joshin Dentetsu และสาย Saitama New Urban Transit ซึ่งเชื่อมจากสถานี Ōmiya ไปยังพิพิธภัณฑ์รถไฟ นอกจากนี้ยังครอบคลุมเส้นทาง Tokyo Waterfront Area Rapid Transit หรือสาย Rinkai ที่เชื่อมโยงย่านริมอ่าวของโตเกียว
ผู้ถือบัตรยังสามารถจองที่นั่งแบบ Reserved Seat บนรถไฟด่วนพิเศษชั้นธรรมดา (ชั้นสอง) ที่ให้บริการระหว่าง JR East และ Tobu Railway ได้แก่ สาย Nikko, Kinugawa และ SPACIA Kinugawa อีกทั้งยังสามารถใช้กับรถไฟชินคันเซ็นบางสายได้ เช่น Hokuriku Shinkansen, Joetsu Shinkansen และ Tohoku Shinkansen (ในช่วงที่ระบุไว้)
สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด
บัตร JR Tokyo Wide Pass ช่วยให้คุณเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางยอดนิยมรอบโตเกียวได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวชมวัดเก่าแก่และธรรมชาติที่นิกโก้ (Nikko), แช่ออนเซ็นและชมวิวทะเลสวยๆ ที่อิซุ (Izu), หรือเล่นสกีและสโนว์บอร์ดในฤดูหนาวที่กาล่ายูซาว่า (GALA Yuzawa) ได้แบบไร้กังวลเรื่องค่าเดินทาง เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวหลากหลายนอกโตเกียวได้อย่างเต็มที่
3. Mt. Fuji Pass พาสเที่ยวรอบคาวากุจิโกะแบบจัดเต็ม
Mt. Fuji Pass เป็นพาสเดินทางที่ออกแบบมาสำหรับคนที่อยาก เที่ยวรอบภูเขาไฟฟูจิแบบใกล้ชิด โดยเน้นเฉพาะโซน ทะเลสาบคาวากุจิโกะ พาสนี้สามารถใช้ขึ้น รถไฟ Fujikyu และ รถบัสท้องถิ่นรอบทะเลสาบ ได้แบบไม่จำกัดเที่ยว อีกทั้งยังสามารถใช้เข้าหรือรับส่วนลดจากสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น Chureito Pagoda, Tenjozan Park, พิพิธภัณฑ์ศิลปะ, และ หมู่บ้านโบราณ Iyashi no Sato
นอกจากนี้ยังครอบคลุมการเดินทางไปยังสถานที่ยอดนิยมอย่าง กระเช้าลอยฟ้า Mt. Fuji Panoramic Ropeway ที่มองเห็นวิวฟูจิแบบเต็มตา และ สวนสนุก Fuji-Q Highland สำหรับสายแอดเวนเจอร์ที่อยากเพิ่มความตื่นเต้นให้กับทริป
สำหรับคนที่วางแผนจะพักในพื้นที่คาวากุจิโกะ และอยากเที่ยวแบบชิล ๆ ไม่ย้ายเมืองบ่อย พาสนี้จะช่วยให้เดินทางสะดวก ประหยัดค่าโดยสาร และไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋วทุกจุดที่ไป มีให้เลือกใช้งานได้ทั้งแบบ 1, 2 หรือ 3 วัน ยืดหยุ่นตามแผนเที่ยว และเหมาะกับผู้ที่อยากโฟกัสเฉพาะวิวสวย ๆ และวัฒนธรรมท้องถิ่นของรอบภูเขาไฟฟูจิ
ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถบัสชมวิวรอบทะเลสาบ แวะคาเฟ่ หรือไปจุดถ่ายรูปยอดนิยม Mt. Fuji Pass ก็คือพาสที่คุ้มค่าสำหรับสายเที่ยวฟูจิแบบเจาะลึก
เปรียบเทียบพาสเที่ยวรอบฟูจิแบบละเอียด เลือกให้เหมาะกับแผนของคุณ
หลังจากที่ได้รู้จักรายละเอียดของแต่ละพาสยอดนิยมสำหรับการเที่ยวรอบภูเขาไฟฟูจิไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงเริ่มมีตัวเลือกในใจ แต่ถ้ายังลังเลว่าจะเลือกใช้พาสไหนดี บทความนี้สรุปให้ชัดในแบบเปรียบเทียบ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายและคุ้มค่ากับทริปมากที่สุด
แต่ละพาสมีจุดเด่นแตกต่างกันไป:
Fuji Hakone Pass เหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวฟูจิและฮาโกเน่ภายใน 2 - 3 วันแบบครบทุกจุดหลัก
JR Tokyo Wide Pass เหมาะกับคนที่อยากใช้โตเกียวเป็นศูนย์กลาง แล้วเดินทางไปหลายเมืองรอบนอก
Mt. Fuji Pass ตอบโจทย์มากสำหรับสายชิลที่อยากเจาะลึกเที่ยวรอบคาวากุจิโกะโดยไม่ต้องเร่งรีบ
การเลือกพาสที่ใช่ ไม่ได้อยู่ที่ราคาถูกที่สุด แต่ขึ้นอยู่กับว่าเส้นทางนั้นตรงกับแผนเที่ยวของคุณหรือไม่ และสามารถช่วยประหยัดค่าเดินทาง พร้อมเพิ่มความสะดวกให้ทริปได้แค่ไหน หากเลือกถูก เที่ยวรอบฟูจิของคุณจะง่าย สนุก และคุ้มกว่าที่คิดแน่นอน
ตารางเปรียบเทียบพาสเที่ยวรอบฟูจิ
หากคุณกำลังวางแผน เที่ยวฟูจิ และยังลังเลว่าจะเลือกพาสเดินทางญี่ปุ่นแบบไหนให้คุ้มที่สุด ตารางนี้จะช่วยให้เห็นภาพรวมชัดเจนว่าพาสไหนตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และเส้นทางของคุณมากที่สุด
Pass | Fuji Hakone Pass | JR Tokyo Wide Pass | Mt. Fuji Pass |
ระยะเวลาใช้งาน | 3 วัน | 3 วัน | 1–3 วัน |
ราคาประมาณ (เยน) | ~8,000 เยน | ~10,180 เยน | ~5,500 เยน |
ครอบคลุมพื้นที่ | โซน ภูเขาไฟฟูจิ + ฮาโกเน่ | โตเกียว - ฟูจิ - คารุอิซาวะ - นิกโก้ | เฉพาะโซน ทะเลสาบคาวากุจิโกะ |
เหมาะสำหรับ | ผู้ที่อยากเที่ยว 2 โซนธรรมชาติหลักในทริปเดียว ทั้งวิวภูเขาไฟฟูจิ และแหล่งออนเซ็นฮาโกเน่ | ผู้ที่ต้องการใช้ โตเกียวเป็นศูนย์กลาง แล้วออกไปเที่ยวรอบนอกแบบไปเช้าเย็นกลับ | ผู้ที่พักแถวฟูจิ ต้องการเที่ยวรอบๆ ทะเลสาบและแหล่งชมวิวแบบใกล้ชิด ไม่เน้นเปลี่ยนเมือง |
การเดินทางจากโตเกียว | นั่งรถไฟ Odakyu จากสถานี Shinjuku | ใช้รถไฟ JR จาก Tokyo หรือ Ueno | เดินทางไปด้วย บัส หรือรถไฟ JR แล้วใช้พาสในพื้นที่ได้เลย |
จุดเด่นของวิว | ล่องเรือโจรสลัดชมวิวฟูจิบนทะเลสาบอาชิ, ขึ้น Hakone Ropeway เห็นฟูจิจากมุมสูง, ชมวิวภูเขาไฟกับใบไม้เปลี่ยนสีหรือหิมะใน Hakone Open-Air Museum | วิวฟูจิจากรถไฟสาย Fujikyu, ชมธรรมชาติฤดูหนาวที่ GALA Yuzawa, สวนดอกไม้ที่ Hitachi Seaside Park, วิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ Karuizawa | วิวภูเขาไฟฟูจิแบบใกล้ชิดรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ, จุดชมวิว Chureito Pagoda, กระเช้าลอยฟ้า Mt. Fuji Panoramic Ropeway, สวน Oishi Park |
เลือกพาสเที่ยวฟูจิให้ตรงใจ เที่ยวคุ้ม ไม่ต้องคิดเยอะ
การเลือกพาสเดินทางที่เหมาะกับแผนเที่ยวรอบภูเขาไฟฟูจิ คือกุญแจสู่ทริปที่ทั้งคุ้มค่าและสะดวก พาสแต่ละแบบมีจุดเด่นแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ครอบคลุม ระยะเวลาใช้งาน หรือสิทธิพิเศษที่มาพร้อมกัน
หากอยากเที่ยวให้ครบทั้งฟูจิและฮาโกเน่ในทริปเดียว ต้องลอง "Fuji Hakone Pass" ที่ครอบคลุมเส้นทางหลากหลาย ทั้งรถไฟ บัส เรือ และกระเช้า ใช้ได้ 3 วันเต็ม เหมาะกับคนที่มีเวลาและอยากเที่ยวเชิงลึก
ส่วนใครที่อยากเดินทางแบบยืดหยุ่น ออกไปเที่ยวหลายเมืองรอบโตเกียว เช่น คาวากุจิโกะ คารุอิซาวะ หรืออิคาโฮะ "JR Tokyo Wide Pass" ก็ตอบโจทย์ที่สุด เพราะใช้ได้กับรถไฟ JR หลายสาย เดินทางสะดวกแม้จากสนามบิน
แต่ถ้าแผนคุณเน้นเที่ยวโซน คาวากุจิโกะ อย่างเดียวแบบใกล้ชิด "Mt. Fuji Pass" คือคำตอบ ทั้งนั่งรถบัสรอบทะเลสาบ เข้าพิพิธภัณฑ์ และแวะคาเฟ่วิวฟูจิได้แบบจบในพาสเดียว
สุดท้าย พาสไหนดีที่สุด? คำตอบขึ้นอยู่กับ "จุดหมาย" และ "สไตล์เที่ยว" ของแต่ละคน เลือกให้ตรงใจ แล้วออกเดินทางไปเก็บทุกมุมสวยรอบฟูจิได้อย่างคุ้มค่าที่สุด!