กำลังหาที่เที่ยวจีนครั้งแรกใช่ไหม? ✨ ปักกิ่งคือจุดหมายที่ครบทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความทันสมัยในเมืองเดียว
ในบทความนี้เรารวบรวม แผนเที่ยวปักกิ่ง 5 วัน 4 คืน (2025) ครบจบ:
- 📍 ไฮไลต์ที่เที่ยวปักกิ่งห้ามพลาด
- 🥟 ร้านอาหารท้องถิ่นและเมนูดัง
- 🚇 วิธีเดินทาง และทริคใช้ง่าย ๆ สำหรับมือใหม่
ในฐานะเมืองหลวงของประเทศจีน ปักกิ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญอย่างพระราชวังต้องห้าม กำแพงเมืองจีน และวัดสวรรค์ ที่สะท้อนถึงอดีตรุ่งเรืองของราชวงศ์จีน ขณะเดียวกันก็ยังเป็นมหานครที่ทันสมัย มีตึกดีไซน์ล้ำ แหล่งช้อปปิ้งสุดคึกคัก และวัฒนธรรมอาหารกับศิลปะที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
เราเพิ่งกลับจากทริปปักกิ่งที่น่าประทับใจแบบสุด ๆ ยังคิดถึงอาหาร สถานที่เที่ยว และมุมลับต่าง ๆ ที่ได้ค้นพบอยู่เลย!
แผนเที่ยว 5 วันนี้ รวบรวมทุกไฮไลต์ของเมือง ทั้งแลนด์มาร์กชื่อดัง ร้านอาหารท้องถิ่นรสเด็ด และเคล็ดลับดี ๆ ที่จะทำให้การเดินทางสนุกและง่ายขึ้น พร้อมแล้วไปเริ่มทริปปักกิ่งแบบจัดเต็มกันเลย!
ภาพรวมแผนเที่ยวปักกิ่ง 🗺️
วันที่ 1 | จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen) | พระราชวังต้องห้าม | สวนจิ่งซาน (Jingshan) |
วันที่ 2 | ทัวร์กำแพงเมืองจีน (ด่านมู่เถียนยวี่ : Mutianyu) แบบไปเช้าเย็นกลับ | เป็ดปักกิ่ง |
วันที่ 3 | Popland Beijing (สวนสนุก Popmart City Park) หรือ teamLab Massless Art Space (Beijing EPSON) | สวนเป่ยไห่ (Beihai) | วัดสวรรค์ |
วันที่ 4 | พระราชวังฤดูร้อน | หูท่งอูตาโก่ว (Wudaokou Hutong) | หูท่งอู่โตวอิ๋ง (Wudouying Hutong) |
วันที่ 5 | ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ปักกิ่ง (Universal Studios Beijing) |
โค้ดส่วนลด 10% สำหรับจองทัวร์ในจีน
วันที่ 1: ย้อนรอยประวัติศาสตร์ในปักกิ่ง
เริ่มต้นทริปเที่ยวปักกิ่งด้วยการสัมผัสกลิ่นอายประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของเมืองหลวงจีน วันนี้จะพาไปเยือนสถานที่สำคัญระดับตำนานที่สะท้อนความรุ่งเรืองของปักกิ่งในอดีต
จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square)
เริ่มวันด้วยการเดินเล่นที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน หนึ่งในจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจทางประวัติศาสตร์ของประเทศจีน พื้นที่กว้างใหญ่แห่งนี้รายล้อมด้วยสถาบันทางการเมืองและวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ
ภายในจัตุรัสมีจุดที่น่าสนใจ เช่น สุสานประธานเหมา เจ๋อตง สถานที่ให้ผู้คนเข้ากราบเคารพผู้นำผู้ก่อตั้งจีนยุคใหม่ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน แหล่งรวมโบราณวัตถุและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ครอบคลุมหลายพันปี
- ค่าเข้าชม: ฟรี
- เวลาเปิด-ปิด: 05.00 – 22.00 น
พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City)
อยู่ตรงข้ามกับจัตุรัสเทียนอันเหมิน คือพระราชวังต้องห้าม หนึ่งในมรดกโลกของยูเนสโก (UNESCO) ที่เคยเป็นที่พำนักของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงและชิงรวมถึง 24 พระองค์
เมื่อเดินผ่านประตูอู่เหมิน (Meridian Gate) จะพบกับลานกว้างขวาง หออันโอ่อ่า และงานแกะสลักวิจิตรตระการตาที่สะท้อนความรุ่งเรืองในยุคจักรพรรดิ สำรวจเขตนอกพระราชวัง (Outer Court) ที่ใช้จัดการราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะหอความกลมเกลียวสูงสุด (Hall of Supreme Harmony) ซึ่งเป็นอาคารหลักที่งดงามด้วยผนังสีแดง หลังคาทอง และลวดลายมังกรสื่อถึงอำนาจและเกียรติยศ
เดินลึกเข้าไปในเขตใน (Inner Court) เพื่อชมพื้นที่ที่จักรพรรดิและพระมเหสีเคยพำนัก อาทิ พระราชวังแห่งความบริสุทธิ์สวรรค์ (Palace of Heavenly Purity) และหอเอกภาพ (Hall of Union) ที่เผยให้เห็นวิถีชีวิตของราชวงศ์ในอดีต ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับใครที่อยากสัมผัสเสน่ห์ของประวัติศาสตร์จีนในยุคจักรพรรดิอย่างแท้จริง
แนะนำให้เช่าชุดหูฟังบรรยาย หรือเลือกทัวร์พร้อมไกด์เพื่อเข้าใจเรื่องราวเบื้องหลัง ทั้งชีวิตของจักรพรรดิ เหล่าสนม และความลับในวังให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ที่สำคัญควรจองตั๋วล่วงหน้า เพราะมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมต่อวัน
- ค่าเข้าชม: เริ่มต้นที่ ¥84
- เวลาเปิด-ปิด: เมษายน – ตุลาคม: 08.30 – 17.00 น. | พฤศจิกายน – มีนาคม: 08.30 – 16.30 น.
สวนจิ่งซาน (Jingshan Park)
ปิดท้ายวันด้วยการเดินขึ้นเขาเบา ๆ ที่สวนจิ่งซาน (Jingshan Park) เนินเขาสูงที่มองเห็นวิวพาโนรามาของพระราชวังต้องห้ามได้อย่างงดงาม ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของพระราชวัง เนินเขาแห่งนี้เป็นเนินดินที่สร้างขึ้นจากดินที่ขุดมาทำคูน้ำรอบพระราชวัง
เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขา บริเวณศาลาหว่านชุน (Wanchun Pavilion) จะพบกับวิวมุมสูงที่สวยตระการตา โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตก ซึ่งหลังคาสีทองของพระราชวังต้องห้ามจะเปล่งประกายท่ามกลางแสงสุดท้ายของวัน เป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม ให้เห็นทั้งทัศนียภาพของเมืองเก่าอย่างสวนเป่ยไห่ (Beihai Park) ไปจนถึงเส้นขอบฟ้าของตึกสูงในเมืองใหม่
- ค่าเข้าชม: ¥2
- เวลาเปิด-ปิด: เมษายน – ตุลาคม: 06.30 – 21.00 น. | พฤศจิกายน – มีนาคม: 06.30 – 20.00 น.
วันที่ 2: กำแพงเมืองจีน & ดินเนอร์เป็ดปักกิ่ง
มาเที่ยวปักกิ่งทั้งที จะพลาดกำแพงเมืองจีนไปได้อย่างไร วันนี้เตรียมตัวออกเดินทางไปยังหนึ่งในสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศ ที่ทั้งยิ่งใหญ่และน่าประทับใจไม่รู้ลืม!
กำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่ (Mutianyu Great Wall)
ออกทริปแบบไปเช้าเย็นกลับสู่ด่านมู่เถียนยวี่ หนึ่งในจุดชมกำแพงเมืองจีนที่สวยที่สุด พร้อมหอคอยโบราณที่ได้รับการบูรณะอย่างดีเยี่ยม!
ด่านมู่เถียนยวี่ (Mutianyu Great Wall) ขึ้นชื่อเรื่องทัศนียภาพงดงามและความเงียบสงบ เมื่อเทียบกับจุดยอดนิยมอย่างปาต้าหลิ่ง จึงเหมาะมากสำหรับใครที่อยากสัมผัสเสน่ห์ของกำแพงเมืองจีนแบบไม่ต้องเบียดเสียดคน
หากต้องการขึ้นเขาแบบสบาย ๆ และชมวิวไปด้วย แนะนำให้นั่งกระเช้าปิด (closed cable car) ที่จะพาขึ้นสู่ยอดกำแพงพร้อมวิวพาโนรามาของเทือกเขาโดยรอบ ให้ได้ชมธรรมชาติระหว่างทางแบบอบอุ่น
แต่ถ้าอยากเพิ่มความตื่นเต้น ลองเลือกกระเช้าเปิด (open cable car) ที่ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง พร้อมลมพัดเย็น ๆ และมุมมองแบบไม่มีสิ่งกีดขวาง
หลังเดินชมกำแพงเสร็จแล้ว อย่าลืมเติมความสนุกด้วยการลื่นลงเขาด้วย toboggan slide สไลเดอร์สุดมันส์ที่ควบคุมความเร็วเองได้ บอกเลยว่าทั้งตื่นเต้นและวิวสวย!
- ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ ¥40 | เด็กและผู้สูงอายุ ¥20 | เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี: เข้าฟรี
- เวลาเปิด-ปิด: ช่วงไฮซีซั่น: 07.30 – 18.30 น. | ช่วงโลว์ซีซั่น: 08.00 – 17.30 น.
ดินเนอร์เป็ดปักกิ่ง (Peking Duck)
หลังจากเดินเที่ยวมาทั้งวัน ได้เวลาตอบแทนตัวเองด้วยเมนูซิกเนเจอร์ของปักกิ่ง — เป็ดปักกิ่ง! เป็ดหนังกรอบเนื้อนุ่มจานนี้เสิร์ฟพร้อมแป้งบาง ซอสถั่วหวาน แตงกวาหั่น และต้นหอม ให้ห่อรวมกันเป็นคำพอดี ๆ รสชาติเข้ากันอย่างลงตัว เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองนี้ ถ้าอยากลิ้มลองรสชาติแบบต้นตำรับ ลองแวะร้านดัง Ziguangyuan (紫光园) ที่ขึ้นชื่อเรื่องเป็ดปักกิ่งในสไตล์ดั้งเดิม รับรองไม่ผิดหวัง!
วันที่ 3: ศิลปะร่วมสมัย & ป๊อปคัลเจอร์
เที่ยวปักกิ่งวันนี้จะพาไปเปิดโลกศิลปะยุคใหม่ของปักกิ่ง ผ่านนิทรรศการอินเทอร์แอคทีฟและคอลเลกชันสุดสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยสีสันและจินตนาการ
ตัวเลือก A: Popland Beijing (Pop Mart City Park)
Popland Beijing หรือที่รู้จักกันในชื่อ Pop Mart City Park คือจุดหมายสุดสนุกที่คนรักของสะสมและงานอาร์ตแนวป๊อปไม่ควรพลาด! สวนธีมแห่งนี้ถูกออกแบบให้เต็มไปด้วยความสดใส สนุกสนาน และเหมาะกับทุกเพศทุกวัย
ที่นี่แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ที่ตกแต่งตามธีมของตัวการ์ตูนยอดนิยมจาก POP MART เช่น Molly ตัวจิ๋วน่ารัก และ Labubu จอมซนขวัญใจแฟน ๆ
ไม่ว่าจะเป็นนักสะสมตัวจริง หรือแค่แวะมาเสพบรรยากาศสร้างสรรค์ Popland ก็จะพาเข้าสู่โลกของป๊อปคัลเจอร์ที่เต็มไปด้วยความสนุก ความทรงจำ และแรงบันดาลใจ
นอกจากนี้ยังมีมุมให้เลือกซื้อของที่ระลึกสุดยูนิก หรือจะแค่เดินเล่นถ่ายรูปในบรรยากาศแฟนตาซีก็เพลินไม่แพ้กัน
- ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ ¥150 | เด็ก ¥130
- เวลาเปิด-ปิด: 10.00 – 20.00 น.
ตัวเลือก B: teamLab Massless Art Space (Beijing EPSON)
ถ้าแนวของสะสมไม่ใช่สไตล์ ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปสู่โลกแห่งศิลปะดิจิทัลที่ล้ำสมัยกับ Beijing EPSON teamLab Massless Art Space พิพิธภัณฑ์อินเทอร์แอคทีฟที่พาออกนอกกรอบของศิลปะแบบเดิม ๆ
ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าไป จะได้สัมผัสกับโลกที่เส้นแบ่งระหว่างศิลปะ เทคโนโลยี และธรรมชาติแทบไม่มีอยู่จริง พื้นที่ทั้งหมดออกแบบให้เป็นประสบการณ์ที่เคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ทั้งแสง สี เสียง และภาพเคลื่อนไหวที่ผสานกันอย่างน่าตื่นตา
จุดเด่นคือ ผู้เข้าชมสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับงานศิลป์ได้จริง เช่น การแตะหรือเคลื่อนไหวในพื้นที่จะทำให้ผลงานตอบสนองและเปลี่ยนแปลงไปตามการมีอยู่ของผู้ชม สร้างความรู้สึกร่วมและการเชื่อมโยงกับศิลปะอย่างลึกซึ้ง
- เวลาเปิด-ปิด: วันธรรมดา: 10.30 – 19.00 น. | วันหยุด/เสาร์อาทิตย์: 10.30 – 20.00 น.
สวนเป่ยไห่ (Beihai Park)
ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของพระราชวังต้องห้าม สวนเป่ยไห่ถือเป็นหนึ่งในสวนหลวงเก่าแก่และได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดของจีน หลังจากเดินชมวิวทะเลสาบอันสงบเงียบและเจดีย์ขาว (White Dagoba) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสวนแล้ว อย่าลืมแวะเดินเล่นบริเวณโดยรอบ ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา
ถนนสายเล็ก ๆ รอบสวนเรียงรายไปด้วยร้านขายของที่ระลึก แผงของว่างท้องถิ่น และร้านอาหารลับ ๆ ที่เสิร์ฟทุกอย่างตั้งแต่เป็ดปักกิ่งสูตรดั้งเดิม ไปจนถึงเมนูฟิวชันสุดครีเอต ไม่ว่าจะกำลังมองหาของแฮนด์เมดติดไม้ติดมือกลับบ้าน หรือแค่อยากลองชิมเจียนปิ่ง (เครปจีน) สักชิ้น พื้นที่รอบสวนเป่ยไห่ก็ให้ทั้งกลิ่นอายวัฒนธรรม อาหารอร่อย และบรรยากาศสนุก ๆ ครบในที่เดียว
หอบูชาฟ้า (Temple of Heaven)
หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของที่เที่ยวปักกิ่ง หอบูชาฟ้าตั้งอยู่ใจกลางเมือง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง เพื่อใช้เป็นสถานที่ที่จักรพรรดิทำพิธีอธิษฐานขอให้พืชผลอุดมสมบูรณ์
ตัวอาคารหลักอย่าง หออธิษฐานขอพืชผลสมบูรณ์ (Hall of Prayer for Good Harvests) และ แท่นบูชาทรงกลม (Circular Mound Altar) ถือเป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่งดงาม ทั้งในแง่ของการออกแบบและความหมายเชิงวัฒนธรรม
โดยรอบวัดยังเป็นสวนกว้างที่เหมาะกับการเดินเล่นพักผ่อน และหากโชคดี อาจได้เห็นชาวปักกิ่งออกมาทำกิจกรรมแบบดั้งเดิม เช่น รำไท้เก๊ก เขียนพู่กันจีน หรือเล่นว่าว ซึ่งเป็นภาพสะท้อนชีวิตประจำวันของคนท้องถิ่นได้อย่างดี
- ค่าเข้าชม: เริ่มต้นที่ ¥54
- เวลาเปิด-ปิด: 08.00 – 17.00 น.
วันที่ 4: สัมผัสความสงบและจิตวิญญาณ
วันนี้จะพาไปดื่มด่ำกับธรรมชาติ สถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิม และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เตรียมตัวสำหรับวันสบาย ๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง
พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace)
พระราชวังฤดูร้อนคือสวนหลวงที่งดงามตระการตา เป็นสถานที่พักผ่อนของราชวงศ์ในอดีต และเป็นจุดหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองได้อย่างสมบูรณ์แบบ เต็มไปด้วยความร่มรื่นและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์
ระหว่างเดินชมภายในพื้นที่กว้างใหญ่ของสวน จะพบกับทะเลสาบคุนหมิง (Kunming Lake) ที่สามารถนั่งเรือชิล ๆ ชมวิวรอบ ๆ ได้ เพลิดเพลินไปกับสะพานจีนแบบดั้งเดิม ศาลาริมน้ำ และทิวทัศน์ที่สงบเงียบ
นอกจากนี้ยังมีระเบียงยาวลวดลายวิจิตร วัดเก่า และสวนเขียวชอุ่มที่เคยเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนพระองค์ของจักรพรรดิ การมาเยือนที่นี่จึงได้ทั้งสัมผัสธรรมชาติ สถาปัตยกรรมจีนแบบคลาสสิก และศิลปะที่กลมกลืนกันอย่างลงตัว
- ค่าเข้าชม: เริ่มต้นที่ ¥94
- เวลาเปิด-ปิด: เมษายน – ตุลาคม: 06.30 – 18.00 น. | พฤศจิกายน – มีนาคม: 07.00 – 17.00 น.
หูท่งอูตาโก่ว (Wudaokou Hutong)
หลังจากเที่ยวพระราชวังฤดูร้อนแล้ว ลองแวะเดินเล่นที่หูท่งอูตาโก่ว (Wudaokou Hutong) ย่านฮิปที่ยังคงกลิ่นอายปักกิ่งยุคเก่าแต่ผสมผสานชีวิตนักศึกษาได้อย่างมีเสน่ห์ ที่นี่ต่างจากหูท่งสายท่องเที่ยวอื่น ๆ เพราะให้ความรู้สึกเรียล เป็นชุมชนที่มีชีวิตชีวามากกว่า ระหว่างทางจะพบกับคาเฟ่เก๋ ๆ งานศิลปะบนกำแพง และบาร์เล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้านอิฐเทาสไตล์จีนโบราณ ให้ความรู้สึกอบอุ่นแต่มีชีวิตชีวา
ถ้าเริ่มหิว แนะนำให้แวะร้านเกี๊ยวจินกู่หยวน (Jinguyuan Dumpling Restaurant) ร้านเล็ก ๆ ที่คนท้องถิ่นนิยม มีเกี๊ยวทำสดไส้หลากหลาย ทั้งหมูและกุ้ยช่าย ซีฟู้ด หรือแบบมังสวิรัติ รสชาติอร่อย ราคาสบายกระเป๋า และเหมาะมากสำหรับเติมพลังก่อนจะเดินเที่ยวต่อ หรือลองช้อปปิ้งในร้านเสื้อผ้าและร้านหนังสือสุดเท่ในย่านนี้
มื้อเย็นอย่าพลาด Miss Fu in Chengdu ร้านชาบูสไตล์เสฉวนที่เสิร์ฟ Mala Chuan Chuan หม้อไฟเสียบไม้ที่มีทั้งเนื้อและผักต้มในน้ำซุปเผ็ดร้อนแบบเสฉวน รสชาติจัดจ้าน บรรยากาศคึกคัก และเป็นประสบการณ์กินสนุก ๆ ที่ทำให้ปิดท้ายวันได้แบบคนท้องถิ่นตัวจริง
หูท่งอู่โตวอิ๋ง (Wudaoying Hutong)
ห่างจากหูท่งอูตาโก่วเพียงไม่กี่สถานีรถไฟใต้ดิน หูท่งอู่โตวอิ๋งคือหนึ่งในหูท่งที่ชิคที่สุดของปักกิ่ง เต็มไปด้วยกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมแบบเก่า ผสมผสานกับคาเฟ่ฮิป ร้านบูติก และสตูดิโอศิลปะสร้างสรรค์
ตรอกสายนี้เหมาะกับการเดินเล่นช้า ๆ เพื่อซึมซับอีกมุมหนึ่งของเมืองที่อบอวลด้วยความสร้างสรรค์ จะจิบกาแฟคราฟต์ เดินเลือกของแฮนด์เมด หรือแวะถ่ายรูปกับหน้าร้านและภาพวาดผนังสุดคัลเลอร์ฟูลก็เพลินได้หมด บรรยากาศที่นี่เงียบสงบและผ่อนคลาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินเล่นช่วงบ่าย หลังจากเที่ยวสถานที่สำคัญในช่วงเช้าอย่างเต็มที่
วันที่ 5: ปิดท้ายทริปแบบเร้าใจที่ Universal Beijing Resort
ส่งท้ายทริปด้วยวันที่เต็มไปด้วยความสนุกและความตื่นเต้นที่ Universal Beijing Resort (Universal Studios Beijing) สวนสนุกระดับโลกที่รวมทุกความบันเทิงไว้ในที่เดียว
ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ ปักกิ่ง (Universal Beijing Resort)
Universal Beijing Resort หรือ Universal Studios Beijing คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับสายแอดเวนเจอร์และคนรักภาพยนตร์ สวนสนุกขนาดใหญ่แห่งนี้เนรมิตโลกของภาพยนตร์ดังระดับโลกให้มีชีวิตจริง ด้วยเครื่องเล่นสุดมันส์ การแสดงระดับเวิลด์คลาส และโซนต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ เตรียมพบกับโลกของ Harry Potter, Jurassic World, Transformers, Minions และอีกมากมาย ผ่านเครื่องเล่นที่เสมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังจริง ๆ
ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ Kung Fu Panda Land of Awesomeness สวนสนุกธีมกังฟูแพนด้าแห่งแรกของโลก! เต็มไปด้วยบรรยากาศจีนแฟนตาซี และกิจกรรมสนุก ๆ สำหรับทุกเพศทุกวัย
มื้อกลางวัน & ของว่างในสวนสนุก
ที่ Universal Beijing Resort การกินก็สนุกไม่แพ้การเล่น! เพราะร้านอาหารและซุ้มของว่างต่าง ๆ ถูกออกแบบให้เข้ากับธีมภาพยนตร์แต่ละเรื่องอย่างเต็มที่ ให้ทุกมื้อกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ที่โซน The Wizarding World of Harry Potter อย่าลืมลอง Butterbeer เครื่องดื่มสุดคลาสสิกที่เหล่านักเรียนฮอกวอตส์โปรดปราน สดชื่นและเข้ากับบรรยากาศเวทมนตร์สุด ๆ
ไม่ว่าจะเป็นของกินเล่นระหว่างเดินเล่น หรือจะนั่งพักทานอาหารแบบจัดเต็ม ร้านอาหารธีมภาพยนตร์เหล่านี้ก็ช่วยเติมเต็มความสนุกให้ทริปได้ทั้งรสชาติและอารมณ์
- ค่าเข้าชม: เริ่มต้นที่ ¥395
- เวลาเปิด-ปิด: 09.00 – 20.00 น.
วางแผนเที่ยวปักกิ่งครั้งแรก
1) ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวปักกิ่ง
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวปักกิ่งคือ ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) และ ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) เพราะอากาศสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส เหมาะกับการเดินเที่ยวชมสถานที่กลางแจ้งโดยไม่ต้องเจอกับความหนาวจัดหรือร้อนระอุ
ฤดูใบไม้ผลิ อากาศสดชื่น ท้องฟ้าโปร่ง เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับเที่ยวชมแลนด์มาร์กสำคัญอย่างพระราชวังต้องห้าม กำแพงเมืองจีน และพระราชวังฤดูร้อน สวนต่าง ๆ ก็เต็มไปด้วยดอกไม้บานสะพรั่ง โดยเฉพาะดอกซากุระที่ทำให้เมืองดูสวยงามเป็นพิเศษ
ฤดูใบไม้ร่วง ก็สวยไม่แพ้กัน อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าใส เหมาะกับการชมวิวและถ่ายรูปธรรมชาติ ปักกิ่งในช่วงนี้จะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี ไล่เฉดแดง ส้ม เหลือง โดยเฉพาะที่สวนจิ่งซานและกำแพงเมืองจีน ที่สวยจนต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายทุกมุม
ช่วงที่ควรหลีกเลี่ยง คือช่วงเทศกาลตรุษจีน (ประมาณสัปดาห์แรกของกุมภาพันธ์) และสัปดาห์วันชาติจีนหรือ Golden Week (สัปดาห์แรกของตุลาคม) เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวที่ผู้คนเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้แหล่งท่องเที่ยวแออัดเป็นพิเศษ
2) วิธีการเดินทางสู่ปักกิ่ง
โดยเครื่องบิน
ปักกิ่งเป็นหนึ่งในประตูสู่ประเทศจีนที่สำคัญระดับโลก โดยมีสนามบินหลัก 2 แห่ง คือ สนามบินนานาชาติปักกิ่งแคปิตอล (PEK) และสนามบินนานาชาติปักกิ่งต้าซิง (PKX) ทั้งสองแห่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ระบบขนส่งที่สะดวก และเชื่อมต่อกับจุดหมายปลายทางทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
- หากเดินทางด้วย เที่ยวบินระหว่างประเทศ แนะนำให้ลงที่ PEK ซึ่งมีสายการบินนานาชาติเชื่อมต่อมากกว่า
- หากบินภายในประเทศหรือในภูมิภาค PKX จะให้ประสบการณ์การเดินทางที่ทันสมัยและราบรื่น
- ถ้าต้องการความสะดวกในการเดินทางเข้าเมือง PEK อยู่ใกล้ตัวเมืองมากกว่า
- แต่หากต้องการ การต่อรถไฟความเร็วสูงที่รวดเร็ว และการเดินทางแบบไร้รอยต่อ PKX จะตอบโจทย์ได้ดี
ไม่ว่าจะลงที่สนามบินไหน ระบบขนส่งสาธารณะของปักกิ่งก็ครอบคลุมและสะดวก สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่าย
โดยรถไฟความเร็วสูง
เครือข่ายรถไฟความเร็วสูงของจีนถือว่าทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทำให้สามารถเดินทางมายังปักกิ่งจากเมืองใหญ่ต่าง ๆ เช่น เซี่ยงไฮ้ ซีอาน กวางโจว และอื่น ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว สถานีรถไฟหลักที่ให้บริการรถไฟความเร็วสูงในปักกิ่ง ได้แก่: สถานีรถไฟปักกิ่งใต้ (Beijing South Railway Station / 北京南站) และสถานีรถไฟปักกิ่งตะวันตก (Beijing West Railway Station / 北京西站)
3) บริการรถรับส่งส่วนตัวในปักกิ่ง
สำหรับการเดินทางไกล เช่น ไปสนามบินหรือสถานีรถไฟ การจองรถรับส่งส่วนตัวล่วงหน้าเป็นตัวเลือกที่สะดวกที่สุด เพราะช่วยหลีกเลี่ยงความยุ่งยากจากรถไฟใต้ดินที่แน่นขนัด หาแท็กซี่ยาก หรือกระเป๋าเดินทางเยอะ โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน
ในการเดินทางครั้งนี้ ได้จองรถตู้ MPV สำหรับ 4 คนไว้ล่วงหน้า บอกเลยว่าสบายมาก โดยเฉพาะหลังจากช้อปปิ้งมาตลอดทั้งทริป รถมีพื้นที่กว้างขวางสำหรับกระเป๋าทั้งหมด การเดินทางไปสนามบินจึงราบรื่นและไร้ความเครียด
4) เชื่อมต่อเน็ตง่าย ๆ ด้วย eSIM
ถ้ากังวลเรื่องการใช้งานโซเชียลในจีนเพราะติด "Great Firewall" มีข่าวดี! เพียงใช้ eSIM จาก Klook ก็สามารถใช้งาน Instagram, WhatsApp, Google และแอปอื่น ๆ ได้แบบไม่ต้องพึ่ง VPN ให้ยุ่งยาก
5) แอปที่ขาดไม่ได้เมื่อไปเที่ยวปักกิ่ง
ไม่ว่าจะชมวิวสุดล้ำในเซี่ยงไฮ้ หรือเดินหลงเสน่ห์ในตรอกเก่าของปักกิ่ง มีสิ่งหนึ่งที่รับรองว่าจะสังเกตได้เร็วมาก ที่นี่ทุกอย่าง “รันบนแอป!” นี่คือ 10 แอปที่ใช้งานจริงและแนะนำอย่างยิ่ง เพราะช่วยประหยัดทั้งเวลาและลดความวุ่นวายได้เยอะมากระหว่างทริป
🇨🇳 สิ่งจำเป็นสำหรับการเที่ยวปักกิ่ง 🇨🇳
กิจกรรมแนะนำเมื่อมาเยือนปักกิ่ง
- สถานที่ท่องเที่ยว: พระราชวังต้องห้าม | Beijing Happy Valley | พระราชวังฤดูร้อน | หอบูชาฟ้า | กำแพงเมืองจีน & กระเช้าลอยฟ้า | Universal Studios Beijing
- ทริปไปเช้าเย็นกลับ: กำแพงเมืองจีน | หมู่บ้านน้ำกูเป่ย (Gubei Water Town)
การเดินทางภายในเมือง
หากเที่ยวปักกิ่งอย่าลืมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เชื่อมต่อง่ายด้วย eSIM สำหรับจีน และค้นหาที่พักที่ดีที่สุดในปักกิ่ง พร้อมดีลโรงแรมสุดพิเศษและแพ็กเกจโปรโมชั่นแบบคุ้มค่า!
📌 FAQ คำถามที่พบบ่อย (เที่ยวปักกิ่ง 2025)
Q: เที่ยวปักกิ่งกี่วันดี?
A: หากมาเที่ยวครั้งแรก แนะนำอย่างน้อย 5 วัน จะได้ครบทั้งแลนด์มาร์กสำคัญ
Q: ปักกิ่งมีที่เที่ยวอะไรห้ามพลาด?
A: ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ กำแพงเมืองจีน, พระราชวังต้องห้าม, จัตุรัสเทียนอันเหมิน, พระราชวังฤดูร้อน, Temple of Heaven และสวนสนุก Universal Studios Beijing
Q: ช่วงไหนเหมาะกับการเที่ยวปักกิ่งที่สุด?
A: ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.–พ.ค.) และฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.–พ.ย.) อากาศเย็นสบาย ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม ส่วนฤดูหนาว (ธ.ค.–ก.พ.) เหมาะกับคนที่ชอบหิมะ แต่จะหนาวมาก
Q: อาหารขึ้นชื่อของปักกิ่งคืออะไร?
A: ต้องลอง เป็ดปักกิ่ง หนังกรอบห่อแป้งบางกับซอสถั่วหวาน, เกี๊ยวจีน (Jiaozi), เครปเจียนปิ่ง (Jianbing) และหม้อไฟเสฉวน
Q: การเดินทางในปักกิ่งสะดวกไหม?
A: สะดวกมาก เพราะมีระบบรถไฟใต้ดินครอบคลุม แท็กซี่ และ Didi (แอปเรียกรถ) นอกจากนี้ยังมีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมเมืองใหญ่ เช่น เซี่ยงไฮ้ ซีอาน กวางโจว
Q: ปักกิ่งใช้งบประมาณเท่าไหร่สำหรับทริป 5 วัน?
A: โดยเฉลี่ยงบเริ่มต้นที่ 15,000–25,000 บาท ต่อคน (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน) ครอบคลุมค่าที่พัก, อาหาร, ค่าเข้าชม และการเดินทาง
Q: อินเทอร์เน็ตที่จีนใช้งานโซเชียลได้ไหม?
A: ถ้าใช้ซิมทั่วไปจะติด Great Firewall แต่ถ้าใช้ eSIM จาก Klook จะเล่น Facebook, Google, Instagram, WhatsApp ได้โดยไม่ต้องใช้ VPN
Q: ต้องขอวีซ่าก่อนเข้าปักกิ่งไหม?
A: ไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวไทยอีกต่อไปแล้วค่ะ เนื่องจาก จีนและไทยบรรลุข้อตกลงยกเว้นวีซ่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2024 ซึ่งทำให้คนไทยสามารถ เข้าจีนเพื่อท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 30 วัน โดย ไม่ต้องทำวีซ่าล่วงหน้า
Q: Universal Studios Beijing ต่างจากที่อื่นยังไง?
A: ไฮไลต์คือ Kung Fu Panda Land of Awesomeness มีเฉพาะที่ปักกิ่งเท่านั้น และโซน Harry Potter ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
Q: การช้อปปิ้งที่ปักกิ่งมีที่ไหนน่าไป?
A: แนะนำ Wangfujing Street สำหรับสตรีทฟู้ดและช้อปปิ้ง, Sanlitun Taikoo Li สำหรับแฟชั่นแบรนด์ดัง และ ตลาดหงเฉียว (Hongqiao Pearl Market) สำหรับของฝากและไข่มุก
ไอเดียทริปเที่ยวจีนเพิ่มเติม
Klook คืออะไร?
Klook คือแพลตฟอร์มชั้นนำของเอเชียสำหรับการจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจร
เราคัดสรรประสบการณ์คุณภาพ ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ทัวร์ท้องถิ่น การเดินทางภายในประเทศ ไปจนถึงที่พักหลากสไตล์ ครอบคลุมกว่า 3,400 จุดหมายทั่วโลก
รองรับการใช้งานใน 15 ภาษา และสามารถชำระเงินได้มากกว่า 40 สกุลเงิน ผ่านช่องทางชำระที่หลากหลาย ทำให้การจองกับ Klook สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
Klook ก่อตั้งในปี 2014 มีเป้าหมายเพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับนักเดินทางทุกคน ไม่ว่าคุณจะเที่ยวใกล้บ้านหรือออกเดินทางไกล Klook พร้อมพาคุณเชื่อมต่อกับโลกแห่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
🧡 ติดตาม Klook ได้ทาง
- Facebook: @klookth
- Instagram: @klooktravel_th
- TikTok: @klookth
- YouTube: @klookTH
- LINE Official Account: @klookth




































































