• ไปยังแอป
  • เลือกจุดหมายปลายทาง
  • เช็คอิน 10 โรงแรมสไตล์บูติกในกรุงเทพฯ ถ่ายรูปสวย มุมไหนก็ปัง!

    Thanisa D.
    Thanisa D.
    อัปเดตล่าสุด 9 มิ.ย. 2021
    โรงแรมถ่ายรูปสวย กรุงเทพ
    เที่ยวทิพย์กันมาเยอะแล้ว วาร์ปมานอนโรงแรมหรู ถ่ายรูปลงไอจีให้เพื่อนอิจฉากันเล่น ๆ ดีกว่า! รู้รึเปล่าว่ากรุงเทพฯ ก็มีโรงแรมบูติกเก๋ ๆ แบบเป็นกันเองที่ถ้าแพลนไปนอนชิล ๆ สักคืนสองคืน ก็เหมือนกับได้ไปเที่ยวไกล ๆ วันหยุดเลย วันนี้เราได้รวบรวม 10 โรงแรมถ่ายรูปสวยในกรุงเทพฯ บอกเลยว่ามีมุมถ่ายรูปเยอะแบบไม่มีอะไรกั้น อีกทั้งยังมีร้านอาหารอร่อย ๆ อยู่ในโรงแรม แต่ถ้ายังไม่จุใจ แค่เดินออกจากที่พักไปนิดเดียวก็จะมีร้านอาหารให้เลือกเต็มไปหมด ไม่แน่ ถ้าอยู่ไปสองสามวันอาจจะไม่อยากกลับบ้านเลยล่ะ! จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย!

    1. บ้านในโฮเต็ล แอนด์ เรสเทอรองต์ (Baannai The Reminiscence Hotel)

    บ้านใน โรงแรม
    โรงแรม บ้านใน
    บ้านในโฮเต็ล แอนด์ เรสเทอรองต์ โรงแรมเล็ก ๆ ในย่านสามเสน ที่รีโนเวตมาจากบ้านเก่าสไตล์โคโลเนียล มีห้องพักที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เลือกอยู่ด้วยกัน 4 ห้อง บรรยากาศก็เหมือนได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านเลย โดยชั้นล่างเป็นร้านอาหารสูตรคุณยาย ที่บอกเลยว่าแต่ละเมนูชื่อน่าทานมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปลาแห้งแตงโม ข้าวมันส้มตำ ขนมจีนสามแกงปักษ์ใต้ พระรามลงสรงหมูกับข้าวผัดเส็ง หมูในร่มทอด ยำดอกไม้ ขนมพระพาย ฯลฯ ส่วนตัวตึกก็รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี เรียกได้ว่า ถ่ายรูปมุมไหนก็ดูสวย สายธรรมชาติต้องชอบ!

    2. บ้านวังหลัง ริเวอร์ไซด์ (Baan Wanglang Riverside)

    Baan Wanglang Riverside
    ขอบคุณภาพจาก Facebook Page: Baan Wanglang Riverside
    โรงแรม วังหลัง
    ขอบคุณภาพจาก Facebook Page: Baan Wanglang Riverside
    บ้านวังหลัง ริเวอร์ไซด์ โรงแรมที่ออกแบบตกแต่งมาให้ฟีลเหมือนอยู่บ้านแห่งนี้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ใกล้ ๆ กับวัดระฆัง ถ้ามองออกไปทางแม่น้ำจะได้เห็นวิวอันน่าอัศจรรย์ของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลคดเคี้ยว รวมถึงทิวทัศน์ของวัดอรุณฯ และวัดพระแก้วที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ นอกจากนี้ยังมีทัศนียภาพอันงดงามของสะพานพระรามแปด โดยเฉพาะในยามค่ำคืน ภายในโรงแรมตกแต่งด้วยไม้แกะสลักและเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบไทย ๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไทยอย่างห้องอาหารต้นมะกอก ซึ่งพร้อมเสิร์ฟอาหารรสเด็ด อย่างยำส้มโอโบราณกุ้งย่าง หมูกรอบคั่วพริกเกลือ หมูผัดกะปิหอม เมี่ยงคะน้า ฯลฯ และยังมีร้านกาแฟอย่างร้าน N10 และรูฟท็อปบาร์ของโรงแรมให้ไปนั่งชิลริมแม่น้ำอีกด้วย คุณจะได้รูปเก๋ ๆ ริมแม่น้ำกลับบ้านไปเต็ม ๆ

    3. ลอยละล่อง (Loy La Long Hotel)

    ลอยละล่อง
    ขอบคุณภาพจาก Facebook Page: Loy La Long Hotel
    ที่พักริมแม่น้ำ
    ขอบคุณภาพจาก Facebook Page: Loy La Long Hotel
    ลอยละล่อง บ้านไม้สองชั้นริมน้ำย่านเยาวราช  ซึ่งเป็นโลเคชั่นถ่ายภาพยนตร์สุดฮิตอย่าง “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” ชานบ้านของที่นี่จะยื่นออกไปริมน้ำ ชวนให้ออกไปนั่งตากลมดูเรือแล่นผ่านหลังบ้าน พร้อมกับชมแสงอาทิตย์ตกกระทบผิวน้ำระยิบระยับ ยิ่งตอนกลางคืน แสงไฟจากอีกฝั่งแม่น้ำคือสวยจนต้องตะลึง! ภายในเรือนตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจ อย่างเปลญวน หมอนอิง และเบาะรองนั่ง มีห้องครัวที่เราสามารถสั่งอาหารและน้ำดื่มจากพนักงานได้แบบเป็นกันเอง และยังมีมุมหนังสือและ DVD ให้ยืมเข้าไปดูในห้องอีกด้วย สำหรับใครที่ชอบตะลุยหาของอร่อย ๆ กิน ก็คงจะถูกอกถูกใจกับการเดินออกไปเลือกซื้อและอิ่มอร่อยกับสตรีทฟู้ดรสเลิศที่เยาวราชอย่างแน่นอน

    4. เดอะ มัสแตง บลู (The Mustang Blu)

    มัสแตง บลู
    ขอบคุณภาพจาก Facebook Page: The Mustang Blu
    โรงแรม มะสตาง บลู
    ขอบคุณภาพจาก Facebook Page: The Mustang Blu
    เดอะ มัสแตง บลู โรงแรมที่มีประวัติความเป็นมายาวนานบนถนนไมตรีจิตต์ ใกล้สถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นโรงแรมที่รีโนเวตมาจากตึกสไตล์โคโลเนียลอายุร่วม 100 ปี ที่ผ่านการใช้งานมาในหลายบทบาท ทั้งโรงพยาบาล ธนาคาร หรือแม้กระทั่งเคยเป็นสถานอาบอบนวดชื่อดังอย่าง “คลีโอพัตรา” อีกด้วย โดยโรงแรมเดอะ มัสแตง บลู ถูกดีไซน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ความเจ็บปวดที่งดงาม” ซึ่งผนวกความเปลือยเปล่าของฝ้าเพดานและกำแพงเก่า ๆ เข้ากับการฉาบปูนและทาสีให้ดูทันสมัย และยังสอดแทรกกิมมิกอย่างเช่นยีราฟสตัฟฟ์บนผนัง ขนาดประตูห้องน้ำของโรงแรมก็เคยเป็นตู้เซฟของธนาคารมาก่อนด้วย นอกจากนี้ เดอะ มัสแตง บลู ยังมีคาเฟ่เล็ก ๆ ให้นักท่องเที่ยวแวะเข้ามาเช็คอินและชิมขนมอร่อย ๆ รับรองว่าได้รูปอัปลงไอจีเพียบ!

    5. เกศรา บูทิก ฮิสทอริก โฮเต็ล (Kesara Boutique Historic Hotel)

    โรงแรมเกศรา
    ขอบคุณภาพจาก www.kessarahotel.com
    เกศรา บูทีก
    ขอบคุณภาพจาก www.kessarahotel.com
    เกศรา บูทิก ฮิสทอริก โฮเต็ล โรงแรมสุดคลาสสิกใจกลางสีลม ที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของบ้านเก่าซึ่งเจ้าของบ้านเป็นถึงคุณหลวง ไม่ว่าประตู หน้าต่าง ชานบ้าน หรือหลังคา ก็ให้กลิ่นอายของความศิวิไลซ์ในอดีต ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ขัดสีแบบโบราณ เก้าอี้หวาย และก็อกน้ำทองเหลือง นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องใช้สมัยใหม่อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน พรรณไม้ไทยรอบอาคารส่งกลิ่นหอมมายังเรือนบ้าน ทั้งต้นโมก ดอกแก้วหิมาลัย และต้นหมาก ส่วนใครที่ไม่ได้มาพักค้างคืนก็สามารถแวะมาจิบ อาฟเตอร์นูน ที จากทางโรงแรมได้เช่นกัน

    6. อำแดง บางกอก ริเวอร์ไซด์ โฮเทล (Amdaeng Bangkok Riverside Hotel)

    โรงแรมอำเดง
    โรงแรมติดแม่น้ำ
    อำแดง บางกอก ริเวอร์ไซด์ โฮเทล โรงแรมสีแดงชาดริมแม่น้ำย่านคลองสาน โดยชื่อโรงแรมมีที่มาจาก “อำแดงคลี่” หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของที่ดินริมเวิ้งน้ำผืนนี้ในสมัยรัชกาลที่ 5 อาคารแนวร่วมสมัยนี้ถูกทาทับด้วยสีแดง ซึ่งโดดเด่นมาแต่ไกลเมื่อมองจากอีกฝั่งแม่น้ำ ดีไซน์ของตึกให้ความรู้สึกผสมผสานระหว่างสไตล์ไทย จีน และยุโรป และมองเห็นวิวแม่น้ำได้รอบทิศ ยิ่งตอนกลางคืนมีเรือแล่นผ่านยิ่งสวยขึ้นไปอีก นอกจากนี้ ร้านอาหาร “NYE” ก็จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับเมนูอาหารสุดครีเอทีฟ อย่างเมนู “ยำเป็ดฉีกใส่ลิ้นจี่ ผักชี และผิวส้ม” และ “พาสต้าน้ำพริกอ่องแบบโบโลเนสและเบคอนกรอบ” ที่มาพร้อมกับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาอันน่าประทับใจ ซึ่งคุณจะไม่มีวันลืม

    7. เซี่ยงไฮ้ แมนชั่น (Shanghai Mansion)

    โรงแรมเซี่ยงไฮ้
    โรงแรม เยาวราช
    เซี่ยงไฮ้ แมนชั่น โรงแรมวินเทจสไตล์จีน ที่ตั้งอยู่ใจกลางถนนเยาวราช สร้างขึ้นด้วยคอนเซ็ปต์โรงน้ำชาจีนสมัยยุค 30’s ที่ผสมดีไซน์แบบฝรั่งเศสเข้าไปด้วย ส่วนดีเทลต่าง ๆ ทั้งโคมไฟ เตียงไม้ สระปลา ถูกจัดวางอย่างลงตัว ไม่ว่าจะหันกล้องไปทางไหนภาพก็จะออกมาเก๋ไก๋ราวกับไปเที่ยวเมืองจีนเลยทีเดียว ในโรงแรมจะมีกลิ่นหอมอบอวลของน้ำมันหอมระเหย และมีสปาสมุนไพรธรรมชาติให้ไปนวดผ่อนคลายอีกด้วย นอกจากนี้ยังมี Jazz Lounge ให้คุณไปนั่งชิลสบาย ๆ พร้อมเพลิดเพลินกับออเดิร์ฟ จานหลัก และเครื่องดื่มฟิวชั่นที่มีให้เลือกมากมาย สายกินคงจะถูกใจไม่น้อย เพราะเพียงก้าวออกไปนอกประตูโรงแรมก็จะถึงแหล่งของกินอันดับหนึ่งของกรุงเทพอย่างถนนเยาวราชนี่เอง!

    8. โฮเทล วันซ์ (Hotel Once Bangkok)

    Once Hotel Bangkok
    โรงแรม Once
    โฮเทล วันซ์ โรงแรมสไตล์โมเดิร์นคลาสสิกย่านเจริญกรุง ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปวันวาน ด้วยโทนสีขาว เทา และดำ เพดานสูงโปร่งให้แสงธรรมชาติลอดเข้ามาด้านใน ตกแต่งด้วยวัสดุหินอ่อนดูสบายตา สิ่งที่พิเศษของที่นี่ก็คือ “Time Capsule Lounge” ที่ออกแบบจำลองมาจากที่ทำการไปรษณีย์กลางบางรัก มีกิจกรรมให้แขกที่เข้าพักได้เขียนจดหมายถึงคนที่อยู่ห่างไกล หรือแม้กระทั่งเขียนไปหาตัวเองในอนาคต ดาดฟ้าของโรงแรมเป็นห้องอาหารที่มาพร้อมกับวิวพระอาทิตย์ตกดินบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ยิ่งตอนกลางคืนที่นี่จะเปิดไฟแบบอลังการมาก ถ่ายรูปสวยยื่นหนึ่งมงลงไปเลย!

    9. บีเฮ้าส์ 49 (B House 49)

    B House กรุงเทพ
    ขอบคุณภาพจาก Facebook Page: Bhouse49.bkk
    บีเฮ้าส์
    ขอบคุณภาพจาก Facebook Page: Bhouse49.bkk
    บีเฮ้าส์ 49 ที่พักสไตล์ห้องใต้หลังคาที่ซ่อนอยู่ในซอยสุขุมวิท 49 รีโนเวตมาจากทาวน์เฮาส์ธรรมดา ๆ มาเป็นที่พักหลากฟังก์ชั่นสไตล์สแกนดิเนเวีย ตกแต่งด้วยสีพื้น ๆ ที่เรียบง่ายแต่สดใส เกสต์เฮ้าส์แห่งนี้ไม่ได้มีรูมเซอร์วิสเหมือนโรงแรมทั่วไป แต่เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวที่ต้องการหาพื้นที่ส่วนตัวเพื่อใช้เวลาด้วยกันในใจกลางกรุงเทพฯ โดยมีห้องหลายแบบไว้รองรับหลากหลายการใช้งาน ทั้งแบบเตียงเยอะ ๆ เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนมาพักด้วยกัน และทั้งห้องสไตล์ครอบครัวที่มีมุมเล็ก ๆ สำหรับเด็ก ถ้าเมื่อไหร่อยากเดินเที่ยวก็มีห้างอย่างเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเทอร์มินอล 21 อยู่ถัดไปอีกนิดเดียว

    10. บางกอก ทรี เฮ้าส์ (Bangkok Tree House)

    บ้านต้นไม้ กรุงเทพ
    ขอบคุณภาพจาก www.bangkoktreehouse.com
    บางกอก ทรี เฮาส์
    ขอบคุณภาพจาก www.bangkoktreehouse.com
    บางกอก ทรี เฮ้าส์ ห้องพัก Eco ในย่านบางกระเจ้า ออกแบบเป็นเหมือนบ้านต้นไม้กลางป่า ฝาบ้านสร้างด้วยไม้ไผ่ วัสดุที่ใช้ก่อสร้างและเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น ที่พักแห่งนี้ยังใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ปลูกผักออร์แกนิกสำหรับบริโภค และมีกระบวนการ Upcycle ขยะอีกด้วย นอกจากมียังมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการที่คาเฟ่สุดฮิป ซึ่งมีอาหารหลากหลายรสชาติ รวมถึงมีอาหารออร์แกนิกสด ๆ จากฟาร์มให้บริการ วันไหนอากาศดี ๆ คุณสามารถยืมจักรยานไปปั่นรอบ ๆ โรงแรม หรือปั่นออกไปเที่ยวตลาดน้ำคลองบางน้ำผึ้งเพื่อหาของอร่อย ๆ กินก็ยังได้
    เห็นแล้วยังว่ากรุงเทพฯ ไม่ได้มีแต่ตึกสูง ๆ ถ้าอยากจะย้ายบ้านซักสองสามวัน หรือแม้กระทั่ง Work from Hotel ในช่วงนี้ ขอแนะนำให้ไปลองพักผ่อนที่ห้องพักสุดเก๋เหล่านี้ แล้วคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่จะทำให้คุณลืมไปเลยว่าคุณยังอยู่ในเมือง!
    ลดทันที 100 บาท สำหรับลูกค้าใหม่ที่จองผ่าน Klook เพียงใส่โค้ด HOTEL100SAVE ในหน้าชำระเงิน!
    ถ้าคุณได้ลองไปพักที่โรงแรมเก๋ ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น หรือไปเจอโรงแรมแปลก ๆ ที่อื่นในเมืองที่อยากจะแนะนำ อย่าลืมแวะมาเล่าต่อให้ฟังด้วยนะ