• ไปยังแอป
  • เลือกจุดหมายปลายทาง
  • สนุกสุดเหวี่ยงกับทริปเที่ยวไต้หวันวันหยุด 72 ชั่วโมง

    Pio
    Pio
    อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 2023
    สนุกสุดเหวี่ยงกับทริปเที่ยวไต้หวันวันหยุด 72 ชั่วโมง

    สนุกสุดเหวี่ยงกับทริปเที่ยวไต้หวันวันหยุด 72 ชั่วโมง

    การท่องเที่ยวในไต้หวันไม่เคยง่ายขนาดนี้มาก่อนเลย

    ประธานาธิบดี เจียง ไค เชก อดีตตึกที่สูงที่สุด Taroko national park และอีกหลายที่ที่มีชื่อเสียงอย่างมากเลยทีเดียวการท่องเที่ยวในไต้หวัน
    หากคุณมีแพลนการท่องเที่ยวสำหรับทริปไต้หวันอยู่ละก็ คุณตัดสินใจถูกแล้วล่ะ เพราะที่นี่ เต็มไปด้วยเมนูอาหารเลิศรสมากมาย ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง และสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นมากมาย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเกาะรูปทรงคล้ายมันเทศแห่งนี้ถึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวมากมาย
    ,
    แต่ถ้าคุณยังไม่แน่ใจและมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับที่เที่ยวไต้หวัน แต่ขอบอกว่าการไปเที่ยวไต้หวันไม่ได้น่ากลัวและมหัศจรรย์ยิ่งกว่าที่คุณคิด สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินมีป้ายบอกทางและตู้ขายตั๋วที่มีภาษาอังกฤษ รวมถึงมีโปสเตอร์แสดงเส้นทางการเปลี่ยนสายรถประจำทางอย่างชัดเจน
    .
    .
    หากคุณยังกังวลกับการเดินทาง ลองใช้ รถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) บอกเลยว่าช่วยคุณได้อย่างแน่นอนรถไฟความเร็วสูงนี้ครอบคลุมพื้นที่การเดินทางในชายฝั่งตะวันตกของไต้หวันทั้งหมด ให้คุณสามารถท่องเที่ยวได้ทั่วเกาะได้อย่างไร้ปัญหา
    ,
    ข้อมูลน่ารู้จาก Klook: รถไฟความเร็วสูงไต้หวัน หรือที่คนท้องถิ่นรู้จักกันดีในชื่อ เกาเถี่ย เดินทางด้วยความเร็วเฉลี่ย 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากไทเปสู่เกาสงซึ่งมีระยะทาง 385.6 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียงแค่ 90 นาที เท่านั้น
    สถานีเชื่อมต่อส่วนใหญ่ของรถไฟความเร็วสูงไต้หวันจะตั้งอยู่นอกเมือง แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะมีการสร้างบริการขนส่งสาธารณะอื่นๆ ไว้คอยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เช่น รถรับส่งฟรี รถไฟ และรถไฟฟ้าใต้ดิน ให้คุณเดินทางไปถึงที่เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองได้อย่างง่ายดาย
    รถไฟความเร็วสูงนี้มีความคล้ายคลึงกับ Japan Rail Pass (JR Pass) อันเลื่องชื่อ ที่นักท่องเที่ยวสามารถประหยัดค่าโดยสารได้โดยการซื้อบัตร THSR สำหรับนักท่องเที่ยวแบบ 3 วันหรือบัตรโดยสารรถไฟแบบร่วม 5 วัน
    ,
    ทริปวันหยุดในไต้หวันครั้งต่อไปของคุณ เพลิดเพลินไปกับการเดินทางที่แสนสะดวกและรวดเร็วระหว่างไทเปและอีก 11 เมืองด้วยรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) ใช้เวลาเพียง 90 นาทีจากตอนเหนือสุดของไทเปสู่ตอนใต้ของเกาสง เป็นขนส่งสาธารณะที่เร็วที่สุดของประเทศ โดยมีประสิทธิภาพถึง 99% และคุณยังจะได้รับส่วนลดสุดพิเศษ หากคุณจองตั๋วรถไฟความเร็วสูงไต้หวันผ่าน Klook
    ในทริปนี้ หากคุณวางแผนที่จะนั่งรถไฟความเร็วสูงหลายเที่ยว งบอาจจะบานปลายโดยไม่รู้ตัว แต่ข้อดีคือมีบัตร THSR หลายแบบที่คุณเลือกใช้ได้ และนี่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าเดินทาง อ่านข้อมูลเกี่ยวกับบัตรโดยสาร THSR ประเภทต่างๆ ด้านล่าง:

    Heading1

    Heading2

    Heading3

    บัตรรถไฟความเร็วสูงไต้หวันสำหรับนักท่องเที่ยวแบบหยืดหยุ่นสำหรับ 2 วัน

    บัตร รถไฟความเร็วสูงไต้หวันสำหรับนักท่องเที่ยวแบบ 3 วัน

    ระยะเวลาที่ใช้ได้

    สองวันในหนึ่งสัปดาห์

    สามวันติดต่อกัน

    วิธีการรับบัตร

    หลังจากจองตั๋วรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน บน Klook แล้ว คุณจะได้รับบัตรกำนัล

    (มีอายุการใช้งาน 90 วัน นับตั้งแต่วันจอง)

    ขั้นตอนที่ 1: แลกบัตรโดยสารรถไฟความเร็วสูงไต้หวันบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ THSR (คลิก "Manage" (จัดการ) และกรอกข้อมูลที่เกี่ยวข้อง)

    ขั้นตอนที่ 2: ระบุเส้นทางการเดินทางและสำรองที่นั่ง

    ขั้นตอนที่ 3: แลกรับบัตรโดยสารรถไฟความเร็วสูงไต้หวันสำหรับนักท่องเที่ยวใบจริงได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว THSR ที่ใดก็ได้ เพียงแสดงหนังสือเดินทางและเอกสารการเข้าเมืองที่ถูกต้อง

    ขั้นตอนที่ 4: ในการขึ้นรถไฟ ให้แสดงบัตรรถไฟความเร็วสูงไต้หวันสำหรับนักท่องเที่ยวที่ประตูทางเข้า

    เคล็ดลับจาก Klook: วางแผนล่วงหน้าและตัดสินใจว่าจะใช้บัตรโดยสารช่วงไหน เพราะคุณต้องแจ้งวันเดินทางตอนไปแลกบัตร อย่าลืมดูตารางการเดินรถ THSR เพื่อวางแผนทริปของคุณให้ลงตัว
    หากคุณวางแผนจะเที่ยวไต้หวันยาวๆ คุณอาจดูคู่มือบัตรโดยสารร่วมแบบ 5 วันของเรา โดยคุณสามารถเดินทางด้วยรถไฟไต้หวันได้ 5 วันติดต่อกันแบบไม่จำกัดเที่ยว และเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงไต้หวันได้ 2 วันแบบไม่จำกัดเที่ยว

    ในระหว่างการท่องเที่ยว จะใช้บัตรโดยสารให้คุ้มค่าที่สุดได้อย่างไร?

    ,
    ทีนี้ก็วางใจเรื่องการเดินทางได้แล้ว คำถามต่อมาคือ คุณควรไปเที่ยวที่ไหนบ้างด้วยรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน
    หากพูดถึงไต้หวันให้ใครฟัง ทุกคนต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันแน่ว่า "อาหารที่นั่น ดีมากกกกก เริ่ดสุดๆ" เราปฎิเสธไม่ได้เลยว่า (สุดท้ายแล้วเราก็หลงรักตลาดอาหารริมทางแปลกๆ ของที่นี่) นอกจากอาหารแล้ว ไต้หวันยังมีอะไรอีกมากมายรอให้คุณไปค้นหาในทริปวันหยุดนี้
    ,
    แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องการวางแผนการเดินทางนะ เราจัดการให้คุณเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นสายรักธรรมชาติ คลั่งไคล้การหลั่งอะดรีนาลีน หรือเป็นนักท่องเที่ยวสายกิน เราได้จัดทำแผนการเดินทางทั้ง 3 แบบไว้ให้คุณเลือกแล้ว (หรือจะเอาแบบมิกซ์แอนด์แมทช์ก็ยังได้เลย) สำหรับทริปไฟไหม้ 72 ชั่วโมงในไต้หวัน

    รวมที่เที่ยวไต้หวัน สำหรับทริป 72 ชั่วโมง

    ไต้หวันสำหรับสายรักธรรมชาติ

    1. อุทยานหยางหมิงซาน (陽明山)

    ,
    อุทยานหยางหมิงซานซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของไทเปนี้มีทั้งสวนสาธารณะ เส้นทางเดินป่า และบ่อน้ำพุร้อน ซึ่งคุ้มค่าแก่การไปเยือน หรือคุณอาจแวะที่หลิวหวางกู จุดชมวิวหุบเขากำมะถัน (Liu Huang Gu Sulfur Valley Geothermal Scenic Area) เพื่อสัมผัสกับบทเรียนภูมิศาสตร์สุดปังในชีวิตจริง
    ความงามของดอกไม้ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาลทำให้หยางหมิงซานสวยงามทุกฤดู และเป้นที่สนใจของเหล่านักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี เตรียมตัวให้พร้อมในการเดินสำรวจอุทยานหยางหมิงซานเพราะระยะทางค่อนข้างไกลนิดหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม คุณจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามและดอกไม้บานตลอดทั้งวันเป็นรางวัล
    ข้อมูลน่ารู้จาก Klook: Zhu Zi Hu (ทะเลสาบไม้ไผ่) เดิมเคยเป็นทะเลสาบที่เกิดจากการที่ลาวาไหลลงมาปิดกั้นแม่น้ำ แต่ต่อมาเกิดการกัดเซาะ น้ำจึงระบายออกไป ตั้งแต่นั้นมาทะเลสาบก็เหือดแห้งและตอนนี้กลายเป็นพื้นที่ปลูกดอกคาลล่าลิลลี่ที่สวยงามซึ่งคุณจะได้เห็นเมื่อมาเยือน

    2. ภูเขาหัวสิงโต (獅頭山)

    ,
    Visiting Lion's Head Mountain and Nanzhuang Old Street in Taiwan - ขอบคุณภาพจาก : Spiritual Travels
    พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนาและเป็นที่ตั้งของเครือข่ายวัดพุทธและลัทธิเต๋า รวมถึงถ้ำสุ่ยเหลียน บนเขาหัวสิงโต ซึ่งได้ชื่อมาจากลักษณะที่คล้ายกับหัวสิงโต ตื่นตาตื่นใจไปกับน้ำสีเงินสะอาดใสราวกับคริสตัลในระหว่างทางที่คุณเดินไปตามเส้นทางของถ้ำสุ่ยเหลียน (Shui Lian Cave)
    จากนั้นเดินสำรวจสะพานสุ่ยเหลียนที่มีอายุเก่าแก่หลายศตวรรษซึ่งสร้างขึ้นโดยใช้ก้อนหินโบราณ (ผสมกับข้าวเหนียว น้ำตาลทรายแดง และมะนาว)
    หากต้องการสัมผัสกับความสงบที่แท้จริงของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ขอแนะนำให้ค้างคืนที่นี่และตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือเจดีย์ ทัศนียภาพที่งดงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้ภูเขาหัวสิงโตเป็นสถานที่พักผ่อนจากความวุ่นวายของเมืองได้เป็นอย่างดี
    เคล็ดลับจาก Klook: หลีกหนีความพลุกพล่านในช่วงสุดสัปดาห์และใส่ภูเขาหัวสิงโตไว้ในแผนการเดินทางในช่วงวันกลางสัปดาห์ของคุณ

    3. ทะเลสาบสุริยันจันทรา (日月潭)

    สถานที่ท่องเที่ยว และที่เที่ยวไต้หวัน
    สถานที่ท่องเที่ยว และที่เที่ยวไต้หวัน
    ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน โดยทางทิศตะวันออกจะเป็นรูปพระอาทิตย์และทางทิศตะวันตกเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว พื้นที่โดยรอบทะเลสาบเป็นที่อยู่ของชนเผ่าพื้นเมืองของไต้หวัน ซึ่งเมืองเล็กๆ จะแบ่งออกเป็น 4 เขต:
    • สุ่ยเซ่อ (水社)
    • เหวิ่นหวู่จาว (文武朝)
    • อี้ต้าเชา (伊达邵)
    • ซวนกวงสือ (玄光寺)
    ไปเดินเล่นรอบเมืองอีต๋าเช่า (Itashao มีความหมายว่า "บ้านเกิดของเรา" ในภาษาของชนเผ่าท้องถิ่น) และเพลิดเพลินไปกับความสงบและสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ กระโดดขึ้นกระเช้าลอยฟ้าของทะเลสาบสุริยันจันทรา (หรือที่เรียกว่ารถกระเช้า) และชมทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบจากมุมสูง
    แต่ทะเลสาบสุริยันจันทรามีอะไรมากกว่าวิวสวยๆ มาลองทำอะไรสนุกๆ ที่หมู่บ้านวัฒนธรรม อะบอริจิน ฟอร์โมซาน (Formosan Aboriginal Culture Village) สวนสนุกสุดพิเศษที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนวัฒนธรรมที่จัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมและชนพื้นเมืองของทะเลสาบสุริยันจันทรา
    และส่วนที่สองคือสวนสนุกที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นหวาดเสียวน่าตื่นเต้น ไม่ว่าคุณจะเลือกทำอะไร เรามั่นใจว่าทั้งครอบครัวจะเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมที่ทะเลสาบสุริยันจันทราแน่นอน
    ข้อมูลน่ารู้จาก Klook: ป่าที่อยู่ติดกับทะเลสาบสุริยันจันทราเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดูนกหลากหลายพันธุ์ (เช่น นกกระทาป่าไผ่) ที่อาศัยอยู่ในระดับความสูงปานกลาง จากทะเลสาบสุริยันจันทรา คุณยังสามารถไปเที่ยวชมเมืองจี๋จี๋และสะพานลอยฟ้า (Jiji Township and Sky Bridge) ที่อยู่ใกล้เคียงได้อีกด้วย สัมผัสประสบการณ์ขี่จักรยานที่ผ่อนคลายและชิมเค้กสับปะรดแสนอร่อย

    4. จุดชมวิวอุทยานแห่งชาติอาหลี่ซาน

    สถานที่ท่องเที่ยว และที่เที่ยวไต้หวัน
    สถานที่ท่องเที่ยว และที่เที่ยวไต้หวัน
    จุดชมวิวอุทยานแห่งชาติอาหลี่ซาน (Alishan National Scenic Area) ที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขาเจี่ยอี้ เป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดหากมาเที่ยวไต้หวัน อาหลี่ซานตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าทึบขนาด 37,000 เฮกตาร์ เป็นพื้นที่ที่ให้ความสงบร่มรื่นได้เป็นอย่างดี ผู้มาเยือนจะได้หลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองด้วยการดื่มด่ำกับภูมิทัศน์อันงดงาม
    ,
    หลายคนตั้งตารอรถไฟสายอาหลี่ซานที่ออกเดินทางจากสถานีรถไฟความเร็วสูงเจียอี้ (Chiayi THSR) ในทุกๆ เช้า เพราะรถไฟสายนี้จะได้จอดพักที่เฟิงฉีหู (Feng Qi Hu) ที่ซึ่งคุณจะได้ลิ้มลองข้าวกล่องบนรถไฟอันเลื่องชื่อ
    และหากคุณชื่นชอบการดื่มชา เพียงเดินทางต่อไปเที่ยวชมไร่ชาเซิงเล่อ/ฟาร์มคาเฟ่ (Sheng Le Tea Plantation) และลองเก็บใบชาด้วยตัวคุณเอง (แน่นอนว่าคุณจะได้สวมหมวกฟางและหิ้วตะกร้าสานด้วย ปังสุดๆ)
    สถานที่ท่องเที่ยว และที่เที่ยวไต้หวัน
    สถานที่ท่องเที่ยว และที่เที่ยวไต้หวัน
    หลังจากนั้นถึงเวลาเผาพลาญคาร์โบไฮเดรตที่กินเข้าไปด้วยการออกไปเดินตามเส้นทางต่างๆ ให้ได้มากที่สุด เพื่อสำรวจดินแดนอาหลี่ซานให้คุ้มค่า เส้นทางต่างๆ เหล่านี้มีป้ายบอกทางไว้อย่างชัดเจน ซึ่งมีประโยชน์อย่างมาก
    อาหลี่ซานจะคึกคักมากเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลดอกซากุระบาน ซึ่งอยู่ระหว่างเดือนมีนาคมและเมษายนและช่วงฤดูใบไม้ร่วง การได้ชมความงามของดอกไม้บานนั้นทำเอาเกือบลืมหายใจเลยจริงๆ
    เคล็ดลับจาก Klook: คนในพื้นที่แนะนำอาหารเฉพาะสำหรับอาหลี่ซานไว้นั่นคือ ปลาเทราต์น้ำจืดนึ่งในซอสถั่วดำและเต้าเจี้ยวที่ร้านซานปิง (Shan Bin Restaurant) อร่อยจัง

    สถานที่ท่องเที่ยวไต้หวัน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการหลั่งอะดรีนาลีน

    1. หลงต้ง (Long Dong)

    ,
    หลงต้งคือหน้าผาอันสวยงามที่ซ่อนตัวอยู่ทางตอนเหนือของไต้หวัน มีความยาว 2 กิโลเมตร อยู่ใกล้กับมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ หลงต้งได้ชื่อมาจากรูปร่างของชายฝั่งที่มีลักษณะคล้ายกับลำตัวของมังกร
    จุดหมายปลายทางของการปีนเขาที่สามารถไปได้ตลอดทั้งปี ไม่มีที่ใดเหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง กับกิจกรรม Extreme ไปมากกว่าที่นี่อีกแล้ว ไต่ระดับผาหินทรายสีทองและสีเทาที่แข็งแกร่ง และสัมผัสถึงสายลมแสนสงบที่พัดผ่านใบหน้าของคุณ ก่อนจะหันไปมองทิวทัศน์อันสวยงามตามแนวชายฝั่ง การปีนเขาที่นี่ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัว แต่อาจจะเข้าถึงหน้าผาบางแห่งไม่ได้ ขึ้นอยู่กับกระแสน้ำและสภาพอากาศ ดังนั้นควรเตรียมตัวให้พร้อม
    มาเติมเต็มประสบการณ์ในหลงต้งด้วยการกระโดดลงไปในอ่าวหลงต้ง ที่คุณสามารถดำน้ำตื้นผ่านแนวประการังที่สวยงามและรายล้อมไปด้วยสัตว์ทะเลที่แปลกใหม่หลากหลายชนิด ลองดำน้ำลึกลงไปอีกนิด คุณจะได้เห็นเม่นทะเลแน่นอน แต่ระวังปลาปักเป้าด้วยนะ
    เคล็ดลับจาก Klook: ตัวต่อชอบมาสร้างรังตามส่วนยื่นต่างๆ ของหน้าผาในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน มีโอกาสสูงที่จะโดนต่อต่อยหากปีนหน้าผา ดังนั้นพยายามเลี่ยงการไปหลงต้งในช่วงนั้นหน่อยนะ แต่ถ้าไม่กลัว ก็ปีนด้วยความระมัดระวังมากที่สุดล่ะ

    2. สะพานต้าฮั่น (Da Han Bridge)

    ,
    สะพานต้าฮั่นต้ังอยู่ใจกลางเมืองเถาหยวน ซึ่งเป็นบริเวณที่แม่น้ำต้าฮั่นไหลผ่าน สะพานสีแดงที่สะดุดตา มีความสูงเท่าตึก 24 ชั้น การมองลงมาจากสะพานจึงต้องใช้ความกล้าอย่างมาก ไม่เหมาะกับคนใจไม่กล้าอย่างแน่นอน
    เวลาที่ดีที่สุดในการเดินเล่นที่สะพานต้าฮั่นคือช่วงฤดูใบไม้ร่วง เมื่อต้นเมเปิ้ลแต่งแต้มสีทองและแดงให้กับภูมิทัศน์ที่ปกติจะเป็นสีเขียวไปทั่วทั้งบริเวณ หากคุณชื่นชอบผีเสื้อ ให้เลือกไปช่วงเดือนพฤษภาคม เพราะเป็นเวลาที่เหล่าผีเสื้อปีกกว้างของไต้หวันจะโบยบินให้ได้ชม
    สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการหลั่งอะดรีนาลีน คุณลองจินตนาการภาพของตัวคุณกระโดดจากสะพานต้าฮั่นลงสู่ป่าเขียวขจีอันน่าทึ่งดูสิ แน่นอนว่าคุณทำได้จริงที่นี่ ที่บันจี้คลับ คุณสามารถดำดิ่งสู่ป่าอันเขียวชอุ่มและชมทิวทัศน์อันงดงามของเถาหยวนได้จากอีกมุมมองหนึ่ง เชื่อเราสิว่าคุณจะรักที่แห่งนี้แน่นอน
    เคล็ดลับจาก Klook: สามารถเดินทางเข้าสะพานต้าฮั่นได้ด้วย รถยนต์ สกูตเตอร์ และมอเตอร์ไซต์ เท่านั้น เราแนะนำให้คุณเช่าเหมารถ หรือเช่ารถมาจะดีกว่า

    3. อุทยานแห่งชาติเซว่ป้า (Shei Pa National Park)

    ,
    อุทยานแห่งชาติเซว่ป้าตั้งอยู่บนพื้นที่ 76,850 เฮกเตอร์ ครอบคลุมยอดเขาที่โดดเด่นที่สุดของไต้หวัน นั่นคือ ภูเขาหิมะ (Snow Mountain) และภูเขาต้าปาเชียน (Dapachien Mountain) แต่เส้นทางยังไม่หยุดแค่นี้ ด้วยยอดเขา 49 ยอดที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,000 เมตร นักเดินป่าจึงสามารถเลือกเส้นทางเดินได้ตามต้องการ
    หากต้องการสัมผัสประสบการณ์การเดินป่าทั้งหมด โดยทั่วไปจะใช้เวลาเดินเท้าสองวันสองคืน ในการเดินทางครั้งนี้ คุณจะมีโอกาสได้ชมร่องรอยของธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน และหากมีความอดทนมากพอที่จะไปถึงยอดเขาหิมะ คุณจะได้พบกับเส้นทางเดินสันเขาศักดิ์สิทธิ์ (Holy Ridge) ยาว 15 กิโลเมตร ที่ทอดยาวจากเหนือจรดใต้เชื่อมระหว่างภูเขาหิมะและภูเขาต้าปาเชียน แม้ภูมิประเทศจะสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจตลอดเส้นทาง แต่ทางเดินเขาก็ท้าทายนักเดินทางไม่ใช่เล่น
    เซว่ป้ายังมีชื่อเสียงของการเป็นแหล่งกำเนิดสินทรัพย์ที่มีเอกลักษณ์ที่สุด นั่นก็คืออย่างปลาแซลมอนพันธุ์หายาก แม้มันจะไม่ใช่ปลาแซลมอนชนิดเดียวบนโลก แต่เป็นแซลมอนสายพันธุ์เดียวที่อาศัยอยู่ใกล้เขตร้อน

    4. สนามเวคบอร์ดโลตัส เวคพาร์ค

    สวนน้ำแห่งแรกของไต้หวันที่อุทิศให้กับการเล่นเวคบอร์ดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น พื้นหลังที่เป็นสระบัว สระน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นล้อมรอบด้วยเจดีย์และวัดที่งดงามหลายแห่ง หากคุณไปไต้หวันเพื่อการผจญภัยทางน้ำ แสดงว่าคุณมาถูกที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพหรือมือสมัครเล่น สนามเวคบอร์ดโลตัส เวคพาร์ค มีอุปกรณ์การเล่นเวคบอร์ดชั้นนำระดับนานาชาติ เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดกลับไป สวนสนุกแห่งนี้ยังมีเคเบิ้ลแบบห้าหอคอยเพียงแห่งเดียวของไต้หวัน รวมถึงระบบหอคอยสองแห่งที่มีความเร็วต่ำกว่าสำหรับมือใหม่ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของวัดขงจื้อ (largest Confucius Temple) ที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวันอีกด้วย เป็นที่ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
    ข้อมูลน่ารู้จาก Klook: ว่ากันว่า หากไปเยี่ยมชมเจดีย์แล้วอยากได้รับความโชคดีกลับไปด้วย ต้องเดินเข้าทางเจดีย์มังกรและออกทางเจดีย์เสือ

    เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง สำหรับสายกิน

    1. ตลาดกลางคืนเหราเหอ (Rao He Night Market)

    ,
    ตลาดกลางคืนเหราเหอเป็นหนึ่งในตลาดกลางคืนที่เก่าแก่ที่สุดในไทเป จึงเป็นสถานที่ที่ต้องห้ามพลาด ตลาดริมถนนยาว 600 เมตร เต็มไปด้วยอาหารริมทางสุดแปลก ของว่าง และซุ้มเกมส์ต่างๆ พ่อค้าแม่ค้าเริ่มตั้งแผงประมาณ 5 โมงเย็น ดังนั้นเวลาที่ดีที่สุดในการไปเที่ยวคือราวๆ 1 ทุ่ม 
    นอกจากอาหารอร่อยรสเลิศแล้ว ความบันเทิงของตลาดเหราเหอก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ซื้อของจนกว่าจะเป็นลมกันไปข้างหนึ่ง หรือลองเล่นเกมส์เรโทรพินบอล (เกมส์ลูกหินและหมุดเหล็ก) ที่จะทำให้คุณคิดถึงอดีต
    เคล็ดลับจาก Klook: สำหรับกรุ๊ปทัวร์ มักชอบไปทางขอบตะวันออกของตลาด เราแนะนำให้คุณเดินผ่านกลุ่มคนเหล่านี้เพื่อบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น
    อาหาร 5 อย่างที่ห้ามพลาด: 
    • ซาลาเปาอบโอ่ง
    • อกไก่ทอดขนาดยักษ์
    • ปลาหมึกยักษ์ทอดกรอบ
    • เนื้อย่างหั่นเต๋า
    • ไส้กรอกไต้หวัน

    2. ตลาดกลางคืนฟ่งเจี่ย (Feng Chia Night Market)

    ,
    ตลาดกลางคืนฟ่งเจี่ยมีพื้นที่ยาวกว่า 1 กิโลเมตร เป็นตัวแม่ของตลาดกลางคืนทั้งหมด ตั้งอยู่บนถนนฟ่งเจี่ย แนะนำนักท่องเที่ยวที่มาตลาดให้เช่าจักรยานจากสถานี iBike (ด้านนอกของสี่แยกหลัก) เพื่อท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ดี ไม่มีอะไรเสียหายที่เราจะเบิร์นคาร์บออกไปบ้าง เพื่อจะได้มีพื้นที่เหลือสำหรับอาหารข้างทาง เห็นด้วยใช่ไหม
    เช่นเดียวกับตลาดเหราเหอ ที่นี่คุณจะได้เพลิดเพลินกับเกมส์อาร์เคดและร้านค้าเล็กๆ มากมาย หลังจากฟาดของหวานแบบจุกๆ ที่จะทำให้คุณยิ้มแก้มปริและอิ่มแบบยาวๆ จนกว่าจะถึงทริปครั้งถัดไป
    ข้อมูลน่ารู้จาก Klook: ในช่วงสุดสัปดาห์ มีผู้คนแวะเวียนมาที่ตลาดแห่งนี้มากถึง 30,000 คน เยอะมากเลยนะนั่น
    อาหาร 5 อย่างที่ห้ามพลาด: 
    • ทาโกะยากิปลาหมึกยักษ์
    • ไส้กรอกไต้หวัน & ข้าวปั้นสไตล์ไต้หวัน
    • ออส่วน
    • บัวลอยเผือก
    • ชานมจากร้านจัสที

    3. ตลาดกลางคืนต้าตง

    ,
    ตลาดกลางคืนต้าตงเปิดเฉพาะวันจันทร์ อังคาร และศุกร์ คุณจะได้เห็นร้านรวงมากมายเต็มพื้นที่ โชว์ทั้งรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวของอาหารริมทางยอดนิยมตลอดกาลของไต้หวัน
    นอกจากนี้ยังมีการจัดการประมูลกลางแจ้งจากพี่น้องคู่หนึ่ง (จากที่พวกเราได้ยินมาน่ะนะ) และมีผู้ชมมากมายล้อมรอบ ตื่นตาตื่นใจกับวิธีที่สองคนนี้นำเสนอสินค้า
    ข้อมูลน่ารู้จาก Klook: เป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไต้หวัน และมักมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกุง (NKCU) แวะเวียนมาไม่ขาดสาย คืนวันศุกร์อาจจะแออัดสักหน่อย
    อาหาร 5 อย่างที่ห้ามพลาด: 
    • เต้าหู้เหม็น
    • ซุปเส้นหมี่หอยนางรม
    • ปอเปี๊ยะปิ้งสไตล์ไต้หวัน
    • หมึกกระดองยักษ์ทอดกรอบ
    • นมมะละกอ

    4. ตลาดกลางคืนหรุ่ยเฟง (Rui Feng Night Market)

    ตลาดกลางคืนหลุ่ยเฟงเป็นหนึ่งในตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน เป็นตลาดที่เปิดประสบการณ์แบบไต้หวันแท้ๆ เราแนะนำให้คุณหาเครื่องดื่มจิบไปเรื่อยๆ ขณะเดินเที่ยวในยามราตรี (เพราะคืนนี้ยังอีกยาวไกล) อาจจะลองดื่มชานมสดจากร้านเตียนเสี่ยวเอ้อที่ทำจากนมที่ผลิตในเกาสงก็ได้
    ด้วยความที่ตลาดหรุ่ยเฟงไม่ติดกับถนนที่รถยนต์หรือสกูตเตอร์ผ่านไปผ่านมา จึงไม่ค่อยมีปัญหาด้านความปลอดภัยเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม ดูแลของมีค่าให้ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลาด้วยล่ะ
    ข้อมูลน่ารู้จาก Klook: แผงลอยหลายแห่งในตลาดกลางคืนหรุ่ยเฟงมีประวัติยาวนานกว่าสองศตวรรษ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมในระหว่างการเดินทางดูสิ
    อาหาร 5 อย่างที่ห้ามพลาด: 
    • ไก่ย่างหิน
    • ขนมไข่นกกระทา
    • โมจิสด
    • นมสดเผือก
    • ขนมปังปิ้งราดไข่มุก (เมนูนี้ว้าวมาก)
    ,
    แล้วคุณจะรออะไรอยู่อีก ไต้หวันเป็นประเทศที่สวยงามและมีสิ่งดีๆ มากมายที่รอให้คุณไปสำรวจ อย่าลืมพกของใช้จำเป็นในระหว่างการเดินทางเพื่อให้คุณเชื่อมต่อกับทุกคนได้เสมอ และหากคุณต้องการสำรวจเส้นทางที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ลองดูบริการเช่าเหมารถ และรถเช่า บน Klook ไม่มีเวลาไหนจะดีกว่าตอนนี้อีกแล้ว แพ็คกระเป๋าแล้วออกไปทำกิจกรรมสนุกๆ กับทริปวันหยุดในไต้หวันของคุณกันเลย
    Banner 2
    📱ไม่พลาดทุกโปรเด็ด ติดตามคลูกได้ทุกช่องทาง
    Facebook | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthfb
    Instagram | @klooktravel_th 👉🏼 bit.ly/kookthig
    Twitter | @klookth 👉🏼 bit.ly/klooktwitter
    TikTok | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthtt
    Youtube | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthyt
    👤สอบถามรายละเอียดก่อนจอง
    Line Official Account | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthoa
    💬 ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าหลังการขาย