เยี่ยมชมวัดดังในเชียงใหม่ ตะลึงกับความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบล้านนา กราบไหว้และสักการะพระธาตุและพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่
หากพูดถึงจังหวัดเชียงใหม่ เราก็คงนึกถึงการขึ้นเขา เที่ยวดอย สัมผัสอากาศเย็น แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ ซึ่งสะท้อนศิลปวัฒนธรรมและประเพณีพื้นบ้านของจังหวัดเชียงใหม่ และยังมีหลายแห่งมากๆ ให้เราได้เยี่ยมชมนั่นก็คือ วัดในเชียงใหม่นั่นเอง ทั้งสถาปัตยกรรม เจดีย์ พระพุทธรูปและจิตรกรรมที่ทั้งสวยงามและทรงคุณค่า บ่งบอกถึงศิลปะล้านนาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางวัดนั้นเก่าแก่มาก มีอายุมากกว่า 1,000 ปี เช่น วัดพระธาตุดอยคำ ที่มีอายุเก่าแก่ถึง 1,300 ปี และวัดอื่นๆ อีกมากมายที่ถูกบูรณะมาทุกสมัย ทั้งนี้เพื่อคงไว้ซึ่งอารยธรรมของล้านนา ทำให้เมืองเชียงใหม่นั้นเป็นเมืองแห่งวัดสวยและดังที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังประดิษฐานพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ มีคุณค่าทางจิตใจกับคนเชียงใหม่มาก จึงไม่แปลกใจที่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมาสัมผัสความงดงามของสถาปัตยกรรมของวัดและมากราบไหว้พระพุทธรูป เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
วัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นพระอารามหลวง ชั้นโทที่ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพ สร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 19 ในสมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราช ซึ่งเป็นเจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่องค์ที่ 6 ในวัดแห่งนี้ได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุไว้ในเจดีย์ทรงเชียงแสนนี้ ซึ่งถูกอัญเชิญมาจากเมืองศรีสัชนาลัย ก่อนที่จะขึ้นไปถึงพระธาตุ เราจะพบกับบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน ประมาณ 300 ขั้น สำหรับใครที่ไม่อยากเดินขึ้นบันได มีบริการรถรางไฟฟ้า เพื่อขึ้นไปสู่พระธาตุดอยสุเทพได้ เชื่อกันว่าหากใครที่ได้มาสักการะและอธิษฐานขอพรกับพระธาตุดอยสุเทพ จะประสบความสำเร็จ ขอสิ่งใดก็จะสมปรารถนา แคล้วคลาดจากอุปสรรคต่างๆ ไปได้ วิธีการสักการะพระธาตุก็คือให้เตรียมข้าวตอก ดอกไม้และธูปเทียน ให้เดินเวียนขวา 3 รอบ พร้อมกล่าวคำนมัสการพระธาตุ
แต่เดิมวัดพระสิงห์มีชื่อว่า "วัดลีเชียงพระ" เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้ตลาดกลางเมือง คำว่า "ลี" นั้นเป็นภาษาล้านนา แปลว่า ตลาด พญาผายูเป็นผู้สร้างวัดแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1888 เพื่อเป็นที่ประทับของพระมหาอัคญะจุฬเถระที่ทรงอาราธนาจากเมืองหริภุญไชย ส่วนวัดพระสิงห์ นั้นมาจากพระพุทธสิหิงค์หรือพระสิงห์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่พญาแสนเมืองมาอัญเชิญมาประดิษฐานยังวัดแห่งนี้ ภายในวัดมีพระอุโบสถที่ตกแต่งแบบศิลปะล้านนาและเจดีย์ทรงกลมแบบล้านนา นอกจากนี้ยังมีหอไตรที่ประดับไปด้วยรูปปูนปั้นเทวดา วัดพระสิงห์นั้นเป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะโรง ผู้ที่เกิดปีมะโรงจึงแห่กันมานมัสการวัดนี้ เขาว่ากันว่าจะทำให้อายุมั่นขวัญยืน มีความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆ เรื่อง
วัดเจดีย์หลวงวรวิหารเป็นพระอารามหลวง สร้างขึ้นในรัชสมัยพญาแสนเมืองมา พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย เดิม เคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกตมาประดิษฐานเป็นเวลานานถึง 80 ปี ปัจจุบันภายในเจดีย์หลวงประดิษฐานพระประธานพระอัฎฐารส พระพุทธรูปปางประธานอภัย ซึ่งเป็นศิลปะแบบเชียงใหม่ตอนต้น ที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะอินเดีย ซึ่งเจดีย์แห่งนี้เป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ ไฮไลท์ของเจดีย์หลวงก็คือ บันไดนาคเลื้อยตรงด้านหน้าประตูทางเข้าวิหาร ซึ่งตัวนาคจะใช้หางเกี่ยวขึ้นไปเป็นซุ้มประตูวิหาร และช้าง 8 เชือก รอบพระธาตุเจดีย์หลวง ดูงดงามอลังการยิ่งนัก
วัดอุโมงค์เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ที่สร้างขึ้นในสมัยพญามังรายราวปี พ.ศ.1839 ต่อมาพญากือนาทรงสร้างอุโมงค์นี้ขึ้นมาเพื่อให้พระมหาเถระจันทร์ใช้เป็นที่วิปัสสนากรรมฐาน จึงทำให้กำแพงภายในมีทางเดินที่สามารถเดินทะลุกันได้ ภายในอุโมงค์ยังมีจิตรกรรมผาผนังที่เก่าแก่มาก จนเลือนลางไปเกือบหมดแล้ว แต่กรมศิลปากรก็มาทำการสำรวจ เพื่ออนุรักษ์จิตรกรรมแห่งนี้ไว้ให้มีสภาพที่ดีที่สุด อีกทั้งภายในวัดอุโมงค์ยังมีเจดีย์ทรงระฆัง ซึ่งเป็นศิลปะล้านนาสมัยแรกๆ ที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 19 บริเวณวัดเป็นสวนพุทธธรรม มีต้นไม้พันธุ์ไม้นานาชนิด ทำให้บริเวณวัดมีความร่มรื่น ด้านหลังของวัดเป็นสวนป่าที่เหมาะกับการนั่งวิปัสสนา ซึ่งเป็นเขตอภัยทาน สามารถเดินเล่นชมนกได้
วัดโลกโมฬีสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2070 โดยพระเกษเกล้า พระองค์ทรงโปรดให้ยกบ้านหัวเวียงให้เป็นวัด เมื่อพระเกษเกล้า ฯ สวรรคตได้นำอัฐิมาบรรจุที่เจดีย์ของวัดนี้ด้วย ภายในวัดมีพระวิหารไม้ที่ด้วยลวดลายแกะสลักแบบวิจิตรบรรคง มีประตูทางเข้าวัดขนาดใหญ่ก่อด้วยอิฐมีลักษณะโค้งมน ซึ่งมีช่องประตูตรงกับพระวิหารไม้ ทำให้ดูโดดเด่น อีกทั้งยังมีเจดีย์ที่มีอายุเก่าแก่ถึง 500 ปี มีประติมากรรมรูปเทวดาประดับอยู่ตามมุมของเจดีย์ ภายในวิหารของวัดแห่งนี้ประดิษฐานพระพุทธรูปางสมาธิ นามว่า “พระพุทธสันติจิรบรมโลกนาถ” และได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนพระเมาลีของพระพุทธรูปเอาไว้
วัดพระธาตุดอยคำเป็นวัดที่เก่าแก่และสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ เดิมมีชื่อว่า "วัดสุวรรณบรรพต" อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ สร้างในสมัยพระนางจามเทวีกษัตริย์แห่งหริภุญชัย โดยพระโอรสทั้ง 2 พระองค์เป็นผู้สร้างในปี พ.ศ.1230 ประกอบด้วยเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ศาลาการเปรียญกุฏิสงฆ์ และพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,400 ปี นามว่า "หลวงพ่อทันใจ" ซึ่งโด่งดังในเรื่องของการขอพรเรื่องโชคลาภและเงินทอง และพระพุทธรูปสำคัญอีกสององค์คือ พระรอดหลวงและพระสามหมอ อีกทั้งวัดพระธาตุดอยคำโอบล้อมด้วยป่าเขาและธรรมชาติ บนจุดสูงสุดของวัดยังมีจุดชมวิวตรงระเบียงวัด ทำให้เราสามารถเห็นทิวทัศน์ของเมืองเชียงใหม่แบบพาโนราม่า
“วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน” หรือ “วัดบ้านเด่น” ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แตง ในอดีตวัดแห่งนี้เป็นเพียงวัดเล็กๆ ในหมู่บ้าน แต่ด้วยแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ในปี พ.ศ.2437 ครูบาเทือง นาถสีโล เจ้าอาวาสได้ทำการบูรณะวัดขึ้นมาใหม่ ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นพุทธศิลป์อันทรงคุณค่าแห่งล้านนาของเมืองเชียงใหม่ ภายในวัดประกอบด้วย อุโบสถ หอไตรหอกลอง พระวิหาร พระสถูปเจดีย์ วิหารเสาอินทขิล และกุฏิไม้สักทองทรงล้านนา ซึ่งสถาปัตยกรรมในวัดบ้านเด่นเป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนาแบบประยุกต์ ที่สำคัญวัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับนมัสการพระธาตุประจำปีเกิดทั้ง 12 ราศีอีกด้วย
วัดเจดีย์เจ็ดยอด หรือ วัดโพธารามวิหาร สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในวัดแห่งนี้ก็คือ เจดีย์ที่มีลักษณะคล้ายกับมหาวิหารโพธิที่พุทธคยาในประเทศอินเดีย ที่ฐานเจดีย์ประดับประดาไปด้วยปูนปั้นรูปเทวดา และยังมีอีกหนึ่งเจดีย์ที่สำคัญนั่นก็คือ สถูปเจดีย์พระเจ้าติโลกราช ประวัติความเป็นมาของสถูปนี้ก็คือ เมื่อพระเจ้าติโลกราชสวรรคตในปี พ.ศ.2030 พระยอดเชียงราย ราชนัดดาได้สืบราชสมบัติแทน และโปรดให้สร้างสถูปนี้เพื่อบรรจุอัฐิของพระอัยกาธิราชนั่นเอง ที่สำคัญวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 8 ของโลก ซึ่งเป็นครั้งแรกของไทยอีกด้วย
พระเจ้ากือนาธรรมิกราช ได้ทรงพระราชทานอุทยานสวนดอกไม้ พร้อมกับสร้างวัด และพระราชทานนามวัดนี้ว่า “วัดบุปผาราม” ซึ่งหมายถึง วัดแห่งสวนดอกไม้ ต่อมานิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า “วัดสวนดอก” นั่นเอง ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นพระอารามหลวง สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นที่จำพรรษาของพระมหาเถระสุมน ซึ่งเป็นผู้ประดิษฐานพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ในแผ่นดินล้านนา และสร้างองค์พระเจดีย์ในวัดแห่งนี่ขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ในวัดแห่งนี้ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ 2 องค์ ได้แก่ พระเจ้าเก้าตื้อ เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะองค์ใหญ่ และพระพุทธปฏิมาค่าคิง ซึ่งเป็นพระประธานในพระวิหารหลวง นอกจากนี้แล้ววัดสวนดอกยังเป็นสถานที่จัดประเพณีประจำปี เช่น ประเพณีทำบุญสลากภัต ประเพณีตั้งธรรมหลวงหรือฟังเทศน์มหาชาติ
วัดเชียงมั่นเป็นวัดที่เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งในเมืองเชียงใหม่ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1839 พญามังราย มี "พระเสตังคมณี" หรือ เรียกอีกชื่อว่า "พระแก้วขาว" และพระศิลาซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางปราบช้างนาฬาคีรี ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร ซึ่งชาวเชียงใหม่ให้ความเคารพเป็นอย่างมาก ภายในวัดมีเจดีย์ช้างล้อม ซึ่งเป็นเจดีย์ประธานประจำวัด ซึ่งสร้างตามแบบศิลปะล้านนา อีกทั้งยังมีหอไตรกลางน้ำ สร้างขึ้นสำหรับเก็บรักษาพระไตรปิฎกและคัมภีร์ต่างๆ