ตื่นตาตื่นใจไปกับสถาปัตยกรรมอันงดงามของวัดในบาหลี ชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของทะเล ภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในบาหลี และวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามกับทริปเที่ยววัดบาหลี
อีกหนึ่งเกาะในประเทศอินโดนีเซีย ที่ถือเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ไปพร้อมๆ กับชื่นชมธรรมชาติ นั่นก็คือ "บาหลี" นั่นเอง นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้ว เกาะบาหลียังเต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์ ที่สะท้อนออกมาในสถาปัตยกรรมอันงาม ที่เราสามารถเห็นได้จากการไปเที่ยววัดในบาหลี เนื่องจากศิลปะของบาหลีนั้นโดดเด่น เนื่องจากศิลปะของบาหลีเกิดจากการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมประเพณีอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นจีน พุทธ อินเดีย ฮินดู ชวา และโลกตะวันตกรวมกับวัฒนธรรมประเพณีของตนเอง จนทำให้ศิลปะของบาหลีกลายเป็นศิลปะแบบผสมผสานที่ลงตัว ดังจะเห็นได้จากสถาปัตยกรรมของวัดในบาหลี ที่มีความประณีตบรรจง สวยงามและโดดเด่นจนยากที่จะหาใครเหมือน Klook จึงอยากจะพาทุกคนไปเที่ยววัดในบาหลีกัน เพื่อซึมซับวัฒนธรรมประเพณี และประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ในเกาะบาหลีแห่งนี้
วัดทานาล็อต หรือ วัดปุรา ชื่อของวัดแห่งนี้มาจากคำว่า “ทานา” ซึ่งหมายถึง โลก ส่วนคำว่า “ลอต” หมายถึง ทะเล จึงมีความเชื่อว่าวัดแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของการบรรจบระหว่างธรรมชาติและจักรวาล วัดทานาห์ลอตตั้งอยู่บนชายหาดริมทะเล 1 ใน 7 ของเกาะบาหลี ซึ่งวัดแห่งนี้ถูกสร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 โดยนักบวชฮินดูที่ชื่อว่า ดัง ฮยัง นิราร์ธา แต่ตามตำนานกล่าวว่า วัดแห่งนี้สร้างโดยฤาษีนิรัทธา เขาล่องเรือมาจากเกาะชวาและได้สังเกตเห็นโขดหินแห่ง เขาจึงคิดว่าเป็นทำเลที่ดีในการมานั่งบำเพ็ญเพียร และได้บอกให้ชาวประมงในท้องถิ่นสร้างวิหาร เพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลนั่นเอง ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ก็คือตัววิหารที่ตั้งอยู่บนโขดหินใหญ่ริมทะเล หากน้ำขึ้น วัดนี้จะเหมือนวัดที่ตั้งอยู่กลางทะเล แต่หากเวลาน้ำลง นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยังตัววัดได้ อีกทั้งวัดแห่งนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในบาหลีอีกด้วย
หากพูดถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเกาะบาหลีแล้ว วัดอูลันดานู บราตันจะต้องเป็นหนึ่งในวัดที่สวยงามที่สุดในบาหลี ด้วยสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของวิหารที่มีหลังคามุงด้วยฟางซ้อนกันถึง 11 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่กลางน้ำบริเวณริมทะเลสาบบราตัน มีวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟสูงใหญ่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง ผนังของวิหารถูกตกแต่งด้วยลวดลายวิจิตรบรรจง ส่วนลานด้านนอกมีไว้สำหรับคนทั่วไปที่มาสักการะกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดแห่งนี้ถูกสร้างโดยกษัตริย์ราชวงค์เม็งวี ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 เพื่อใช้ทำพิธีทางศาสนาพุทธและฮินดู และสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ "เทวีดานู" ซึ่งเป็นเทพแห่งสายนํ้าท้องทะเลสาบบราตันและเป็นเทพผู้ดูแลความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากทะเลสาบบราตันเป็นแหล่งน้ำสำคัญในการชลประทานของภาคกลางในบาหลี คนในท้องถิ่นจึงให้ความสำคัญกับทะเลแห่งนี้มาก
วัดอูลาวาตูตั้งอยู่บนไหล่ภูเขาที่ถูกล้อมรอบไปด้วยทะเลอันงดงามของเกาะบาหลี สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลตามความเชื่อของชาวอินโด นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมไปถึงดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์อันงดงามของท้องทะเล เนื่องจากบริเวณวัดมีทางเดินยาวเหยียดเลียบริมหน้าผา สำหรับการเดินชมวิว โดยเฉพาะวิวพระอาทิตย์ตกดินของที่นี่ สวยงามเกินคำบรรยายมาก หากอยู่ถึงตอนค่ำ ที่วัดแห่งนี้จะมีการแสดงท้องถิ่นของชาวบาหลี ที่เรียกว่า "Kecak Dance" หรือ "ระบำไฟ" นั่นเอง
หลายคนคงคุ้นชินกับภาพถ่ายของประตูผ่าซีก ที่เมื่อถ่ายรูปย้อนกลับไปจะมองเห็นท้องฟ้า ดูแล้วคล้ายประตูสวรรค์ ที่เรียกว่า"จันตี เบินตาร์" หรือ ประตูผ่าซีกทำด้วยหินแกรนิตสีดำ วัดแห่งนี้มีชื่อว่าวัดเบซากีนั่นเอง วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาไฟกุนุง อากุง ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในเกาะบาหลี เป็นวัดหลวงศาสนาฮินดูที่นี่ความสำคัญกับชาวอินโดเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของเกาะบาหลี เพราะมีวิหารมากถึง 80 วิหารด้วยกัน ซึ่งมีวิหารบูชาพระพรหม, พระนารายณ์ และพระศิวะ เหล่าเทพเจ้าที่สำคัญที่สุดในศาสนาฮินดู วัดแห่งนี้จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) คนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวนิยมมารับน้ำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเสกโดยพระฮินดู เพื่อเป็นการชำระร่างกายให้บริสุทธิ์
วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ หรือ วัดทีร์ตาเอ็มปูล ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองอูบุด ที่ถูกสร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 10 โดยสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระวิษณุตามความเชื่อของศาสนาฮินดู วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นบริเวณตาน้ำพุ จึงมีน้ำธรรมชาติผุดขึ้นมาจากใต้ดิน มีอายุมากกว่า 1,000 ปี เป็นเป็นสถานที่ที่ชาวอินโดและนักท่องเที่ยวนิยมมาอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าการชำระล้างร่างกายด้วยน้ำพุศักดิ์สิทธิ์นี้จะช่วยบำบัดโรค ทำให้สุขภาพแข็งแรง และเพิ่มสิริมงคลให้กับชีวิตอีกด้วย
วัดถ้ำช้างตั้งอยู่ใกล้กับเมืองอูบุด ที่นอกจากจะเป็นวัดแล้ว ยังเป็นแหล่งโบราณคดีที่มีความสำคัญอีกด้วย ไฮไลท์ของที่นี่คือก่อนเข้าวัดคุณจะต้องเดินผ่านประตูที่สลักจาหิน มีลักษณะคล้ายปากของยักษ์หรือปีศาจ ตามความเชื่อที่ว่า เพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้ายที่จะเข้ามายังถ้ำ วัดแห่งนี้ยังประดิษฐานแท่นเทพ 3 องค์ที่สำคัญในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระศิวะ พระวิษณุ และพระพรหม นอกจากนี้แล้วบริเวณวัดถ้ำช้างยังมีสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่เขาเชื่อกันว่า หากใครต้องการขอลูกหรืออยากมีลูก ให้มาอาบน้ำในสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ แล้วพรจะสมหวังตามปรารถนา
วัดทามันอายุน สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ.1643 และได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1973 ตั้งอยู่กลางเกาะบาหลี อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวงเดนปาซาร์ อดีตวังหลวงของราชวงศ์เม็งวี ซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้นักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่นเข้าไปกราบไหว้สักการะสิ่งศักสิทธิ์ภายในวัด ซึ่งภายในวัดมีเจดีย์แบบบาหลีที่มีหลังคาหลายชั้น ตามความเชื่อแบบฮินดู ล้อมรอบด้วยสระน้ำ มีสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีนอีกมากมาย และอีกหนึ่งประติมากรรทที่มีชื่อเสียงที่สุดในวัดแห่งนี้ก็คือรูปปั้นของ Barong สัตว์ในเทพนิยายที่มีหน้าตาคล้ายกับสิงโต ชาวบาหลีเชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งวิญญาณ