วัดคิโยะมิซุ

จุดทางศาสนา
★ 4.9 (36K+ รีวิว) • 476K+ จองแล้ว
วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu-dera Temple) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ "วัดน้ำใส" ไม่ได้เป็นเพียงแค่วัดที่มีชื่อเสียงในเกียวโตเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในวัดที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย! ด้วยสถาปัตยกรรมโบราณที่งดงามและประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัดแห่งนี้จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site)
ดูเพิ่มเติม
ดูเพิ่มเติม
1-chōme-294 Kiyomizu, Higashiyama-ku, Kyoto, 605-0862 ญี่ปุ่น
เกี่ยวกับทริปของคุณ
ทัวร์และกิจกรรมน่าสนใจ
โรงแรม
ร้านอาหาร

รีวิวเที่ยว วัดคิโยะมิซุ

4.9 /5
36K+ รีวิว
อ่านรีวิวทั้งหมด
클룩 회원
11 ก.ย.
การเดินทางครั้งนี้พิเศษและล้ำค่ามากยิ่งขึ้นเพราะมีไกด์นำเที่ยวคุณคังฮเย~! ขอบคุณมากค่ะ เธอปล่อยเคล็ดลับดีๆ มากมาย ทำให้การเดินทางมีคุณค่าและเป็นประโยชน์มาก~! ระหว่างการเดินทาง หากเหนื่อย เธอก็ช่วยดูแลให้ได้พักผ่อนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเธอยังแนะนำที่นั่งด้านหลังสุดให้กับพวกเราที่คิดว่าที่นั่งอาจจะแคบไป(?) อีกด้วยค่ะ☺️ ตั้งแต่เริ่มการเดินทาง เธอคอยสังเกตว่าอะไรที่แต่ละคนสะดวกสบายและอะไรที่ดี แล้วพยายามปรับให้เข้ากับแต่ละคน ทำให้รู้สึกประทับใจมาก❣️ ในสถานที่ท่องเที่ยว โชคดีที่คนไม่พลุกพล่านและรถไม่เยอะกว่าวันอื่นๆ ทำให้การเดินทางราบรื่นมาก^^ หลังจากนี้ไปอีกหน่อย พอถึงฤดูใบไม้ร่วง คนน่าจะเยอะขึ้นนะคะ ช่างภาพชีส Cheiz จะใส่หมวกสีฟ้าดีไซน์เดียวกัน ทำให้หาได้ง่าย พวกเขาจะรออยู่ที่โฟโต้โซน หากใครที่ให้ความสำคัญกับรูปภาพ แนะนำให้ถ่ายรูปก่อนแล้วค่อยทำอย่างอื่นค่ะ! ช่างภาพทุกคนใจดีและถ่ายรูปออกมาสวยมาก! เพียงแค่สมัครสมาชิก Cheiz ล่วงหน้า แล้วแสดงหน้า My Page ที่ล็อกอินบัญชีแล้วให้กับช่างภาพ พวกเขาจะทำการยืนยัน ณ ตรงนั้น แล้วถ่ายรูปให้ค่ะ^^ ทำล่วงหน้าก่อนไปนะคะ!! ถ้ามีโอกาสได้ไปโกเบ นารา ฟุกุโอกะอีกครั้ง จะใช้บริการ YouTourverse อีกแน่นอน เพราะรู้สึกมั่นใจและพอใจกับสินค้าท่องเที่ยวอื่นๆ มาก~^^ อ้อ และหากใครที่ไม่ได้เปิดอนุญาตให้เพิ่มเพื่อนด้วยเบอร์โทรศัพท์ KakaoTalk จะไม่ได้รับการเชิญเข้าห้องแชทกลุ่มสำหรับการเดินทางล่วงหน้า ดังนั้นใครที่ยังไม่ได้อนุญาตก็ให้เปิดอนุญาตล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวนะคะ~ สำหรับอาหาร มื้อแรกคือที่อาราชิยาม่า มีเวลามากพอ และไกด์จะแนะนำร้านอาหารและคาเฟ่ต่างๆ ให้เลือกทานได้ตามใจชอบ^^ เธอยังช่วยจองให้ด้วย ทำให้พวกเราไม่ต้องรอคิวก็ได้ทานเลย! พวกเราเลือทานข้าวหน้าปลาไหล ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ทาน แต่รสชาติอร่อยมากจนอยากกลับไปทานอีก! ตอนที่พวกเราทานเสร็จแล้วออกมา เห็นว่าคนเยอะขึ้นจนต้องรอคิวด้วยค่ะ! หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว แนะนำให้ไปจิบกาแฟที่ % Coffee ใกล้ๆ แล้วค่อยไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่อค่ะ☺️ ไม่ต้องสงสัยว่าสินค้าตัวนี้จะดีไหม? ไม่ต้องคิดมาก ใช้บริการได้เลยค่ะ^^ ประทับใจมาก❤️แนะนำสุดๆ❤️
2+
Klook User
11 ก.ย.
เรามีช่วงเวลาที่ดีมากในการทัวร์เดินกับนาโอยะ! ปกติเราไม่เคยทำอะไรแบบนี้ แต่เนื่องจากถนนค่อนข้างพลุกพล่านและดูน่าท่วมท้น การชมสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดอาจเป็นเรื่องยากหากไม่มีไกด์ การได้เรียนรู้สิ่งที่เราอาจพลาดไปนั้นยอดเยี่ยมมาก! กลุ่มของเรามีรถเข็นเด็กสามคัน และนาโอยะรวมถึงสมาชิกทัวร์คนอื่นๆ ก็ช่วยพวกเราขึ้นบันได แม้แต่ลูกแฝดวัย 4 ขวบของเราก็ยังสนุกสนาน ฉันขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้สัมผัสประสบการณ์กิออนด้วยทัวร์นี้
Klook User
11 ก.ย.
บริการดีและมีคุณภาพยอดเยี่ยม
Huang *******
10 ก.ย.
วัดคินคะคุจิส่องประกายระยิบระยับเมื่อต้องแสงอาทิตย์ ไกด์นำเที่ยวให้ข้อมูลทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษอย่างละเอียด 👍
2+
Klook User
10 ก.ย.
เราชอบมาก! เคล็ดลับ: อย่าลืมเผื่อเวลาให้เพียงพอสำหรับการหาจุดนัดพบ เพราะอาจจะหายากนิดหน่อย นอกเหนือจากนั้น ทุกอย่างก็ราบรื่น! 👌🏻
클룩 회원
10 ก.ย.
เป็นการเข้าร่วมทัวร์ครั้งแรกของฉัน และฉันคิดว่าตารางการเดินทางนั้นดีมาก และคำอธิบายก็ดีมาก ฉันได้รับประสบการณ์มากมายในหนึ่งวัน ฉันแนะนำที่นี่สำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนและจัดการกำหนดการที่หลากหลายในช่วงเวลาสั้นๆ ขอบคุณคุณอีซงรัน ไกด์นำเที่ยวในวันนี้ เธอพูดภาษาเกาหลีได้ดีมาก และให้ข้อมูลพื้นฐานทางประวัติศาสตร์และคำอธิบายที่ดี ฉันได้รับความรู้มากมาย ขอบคุณมาก 👍 👍 สุดยอด~!
1+
LEE ********
10 ก.ย.
การจัดการเวลาดีมาก มีบริการรับส่งถึงสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่ง มีเวลาเพียงพอสำหรับการเยี่ยมชม ไกด์นำเที่ยว Amy ใส่ใจและเป็นมืออาชีพ อธิบายชัดเจน สื่อสารสองภาษาได้อย่างราบรื่น ยอดเยี่ยมมาก!!
2+
Hà **
10 ก.ย.
คุ้มค่ามาก วิวสวยงาม อลังการ
2+

ที่เที่ยวใกล้ วัดคิโยะมิซุ

1M+ ผู้เยี่ยมชม
817K+ ผู้เยี่ยมชม
491K+ ผู้เยี่ยมชม
656K+ ผู้เยี่ยมชม
586K+ ผู้เยี่ยมชม
380K+ ผู้เยี่ยมชม
371K+ ผู้เยี่ยมชม

คำถามพบบ่อยเมื่อไป วัดคิโยะมิซุ

ช่วงเวลาไหนที่เหมาะกับการเยี่ยมชมวัดคิโยมิซุเดระของเมืองเกียวโตมากที่สุด?

ฉันสามารถเดินทางไปวัดคิโยมิซุเดระจากสถานีเกียวโตได้อย่างไร?

ฉันควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเยี่ยมชมวัดคิโยมิซุเดระคืออะไร?

วัดคิโยมิซุเดระเปิดทำการกี่โมง?

มีกิจกรรมหรืองานพิเศษที่วัดคิโยมิซุเดระหรือไม่?

ฉันสามารถถ่ายรูปภายในวัดได้หรือไม่?

มีร้านค้าและของที่ระลึกบริเวณวัดหรือไม่?

ก่อนไป วัดคิโยะมิซุ ต้องรู้อะไรบ้าง?

เที่ยววัดคิโยะมิซุ

วัดคิโยะมิซุ

ประวัติและที่มาของวัดคิโยะมิซุ

วัดคิโยะมิซุเดระ (Kiyomizu-dera) หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ "วัดน้ำใส" เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเกียวโต ตั้งอยู่บนเนินเขาโอโตวะทางทิศตะวันออกของเมือง ประวัติศาสตร์ของวัดเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 778 ในยุคนารา จากตำนานที่เล่าว่าพระภิกษุนามว่า "เอ็นชิน" ได้นิมิตเห็นน้ำตกบริสุทธิ์ท่ามกลางขุนเขา ท่านจึงออกเดินทางตามนิมิตนั้นจนได้พบกับ "น้ำตกโอโตวะ" และได้พบกับผู้บำเพ็ญพรตนามว่า "เกียวเอ โคจิ" ซึ่งได้มอบท่อนไม้ศักดิ์สิทธิ์ให้แก่ท่านเพื่อแกะสลักเป็นรูปเคารพขององค์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ หลังจากนั้นไม่นาน แม่ทัพคนสำคัญนามว่า "ซะกะโนะอุเอะ โนะ ทะมุระมะโระ" ได้มาล่าสัตว์ในบริเวณนี้และได้พบกับพระเอ็นชิน ท่านแม่ทัพเกิดความเลื่อมใสในคำสอนของพระพุทธศาสนา จึงได้รื้อถอนบ้านของตนเองแล้วนำมาสร้างใหม่เพื่ออุทิศเป็นวิหารหลักของวัด ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของวัดคิโยะมิซุ

ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา วัดคิโยะมิซุเดระได้รับความเคารพศรัทธาและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่หลายครั้งจากภัยสงครามและความขัดแย้งต่างๆ ทำให้อาคารส่วนใหญ่ที่เราเห็นในปัจจุบันไม่ใช่อาคารดั้งเดิม หากแต่สร้างขึ้นใหม่ในการบูรณะครั้งสำคัญที่สุดในปี ค.ศ. 1633 ภายใต้คำสั่งของโชกุนคนที่สามแห่งตระกูลโทคุงาวะ คือ "โทคุงาวะ อิเอะมิตสึ" การบูรณะครั้งนี้ได้รังสรรค์สถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งระเบียงไม้ขนาดใหญ่ของวิหารหลักที่สร้างยื่นออกมาจากไหล่เขา ซึ่งก่อสร้างขึ้นด้วยเทคนิคการเข้าไม้แบบโบราณของญี่ปุ่นอย่างน่าอัศจรรย์ โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว และยังคงตั้งตระหง่านอย่างแข็งแรงมาจนถึงทุกวันนี้

จวบจนถึงปัจจุบัน วัดคิโยะมิซุเดระยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 1994 องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้วัดคิโยมิซุเดระเป็นส่วนหนึ่งของ "อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เกียวโตโบราณ" ในฐานะมรดกโลก เพื่อเป็นการยืนยันถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วัดยังได้ผ่านการบูรณะครั้งใหญ่ในยุคเฮเซเพื่อซ่อมแซมและอนุรักษ์โครงสร้างหลักให้คงอยู่ต่อไป ทำให้วัดคิโยะมิซุเดระยังคงยืนหยัดอย่างสง่างาม เป็นสถานที่ที่ผสมผสานประวัติศาสตร์อันยาวนาน สถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง และความสำคัญทางจิตวิญญาณเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

อาคารสำคัญภายในวัดคิโยะมิซุ

วัดคิโยะมิซุ หรือ "วัดน้ำใส" เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และงดงามที่สุดในเกียวโต ภายในวัดมีอาคารที่สำคัญหลายแห่ง ซึ่งล้วนมีประวัติศาสตร์และความหมายทางศาสนาพุทธที่ลึกซึ้ง

อาคารหลักของวัดคิโยะมิซุ

1. อาคารหลัก (Hondo)

อาคารหลักของวัดเป็นที่ประดิษฐานของ พระโพธิสัตว์กวนอิม 11 พักตร์ 1000 กร ซึ่งเป็นองค์พระประธานของวัด สถาปัตยกรรมของอาคารหลังนี้โดดเด่นด้วยระเบียงไม้ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้น ดยไม่ใช้ตะปูและยื่นออกมาจากหน้าผา ทำให้กลายเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

2. อาคารโอคุโนะอิน (Okunoin Hall)

ตั้งอยู่ด้านหลังของอาคารหลัก โอคุโนะอินเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงามไม่แพ้ระเบียงใหญ่ของวัด โดยสามารถมองย้อนกลับมาเห็นอาคารหลักได้อย่างงดงาม

3. อาคารชากะ (Shaka Hall)

เป็นอาคารที่ประดิษฐานพระพุทธรูป พระศากยมุนี (พระพุทธเจ้า) และใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

4. อาคารอะมิดา (Amida Hall)

อาคารนี้เป็นที่ประดิษฐานพระอมิตาภพุทธะ (Amida Buddha) ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าตามความเชื่อของพุทธศาสนานิกายสุขาวดี

เจดีย์สามชั้นในวัดคิโยะมิซุ

5. เจดีย์สามชั้น (Three-storied Pagoda)

ตั้งอยู่ทางเข้าวัด เป็นหนึ่งในเจดีย์สามชั้นที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และถือเป็นสัญลักษณ์ของวัดคิโยะมิซุ

6. ศาลเจ้า "รักแท้" จิชู (Jishu Shrine)

ศาลเจ้าขนาดเล็กที่อยู่ภายในบริเวณวัดคิโยะมิซุ เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งความรัก "โอคุนินุชิ" (Okuninushi no Mikoto) นักท่องเที่ยวมักมาทำพิธีขอพรเรื่องความรัก และลองเดินหลับตาจากหินศักดิ์สิทธิ์ก้อนหนึ่งไปยังอีกก้อน ซึ่งเชื่อกันว่าหากเดินไปถึงได้โดยไม่ลืมตา ความรักของตนจะสมหวัง

ประตูนิโอมอน

7. ประตูนิโอมอน (Niomon Gate)

เป็นประตูหลักของวัด มีลักษณะเป็นอาคารไม้สีแดงโดดเด่น และเป็นจุดแรกที่ผู้มาเยือนจะพบเมื่อเข้าสู่วัด

8. หอระฆัง (Bell Tower)

เป็นอาคารที่ใช้แขวนระฆังขนาดใหญ่ ซึ่งใช้ตีในโอกาสพิเศษทางศาสนา

ตำนานวัดน้ำใสและน้ำตกโอโตวะ

วัดคิโยะมิซุถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 780 และมีเอกลักษณ์โดดเด่นตรงที่มี น้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) ไหลผ่านบริเวณวัด น้ำจากน้ำตกนี้เป็นน้ำธรรมชาติที่ใสสะอาดจนกลายเป็นที่มาของชื่อวัดว่า "คิโยะมิซุ" (清水) ซึ่งแปลว่า "น้ำบริสุทธิ์" ผู้คนเชื่อกันว่าหากได้ดื่มน้ำจากน้ำตกแห่งนี้จะได้รับพรในเรื่อง สุขภาพ การศึกษา และความรัก

กิจกรรมไฮไลต์ของวัดคิโยะมิซุ

ดื่มน้ำ 3 สายจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall)

น้ำตกศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลมาจากภูเขา สามารถดื่มน้ำจาก 3 สาย โดยแต่ละสายเชื่อกันว่าจะนำมาซึ่งโชคดีมาในเรื่องที่แตกต่างกันไป ตามความเชื่อโบราณ ห้ามดื่มทั้ง 3 สายพร้อมกัน เพราะอาจถูกมองว่าโลภมากเกินไป

สายที่ 1: ความสำเร็จด้านการศึกษา: เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่ต้องการความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

สายที่ 2: สุขภาพดีและอายุยืน: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีสุขภาพแข็งแรงและอายุยืนยาว

สายที่ 3: ความรักและความสัมพันธ์ที่ดี: เหมาะสำหรับคนโสดที่ต้องการพบรักแท้ หรือผู้ที่ต้องการเสริมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น

ขอพรเรื่องความรักที่ศาลเจ้าจิชู (Jishu Shrine)

ศาลเจ้าชินโตที่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรด้านความรัก มีก้อนหินแห่งโชคชะตา (Love Stones) ที่เชื่อว่าหากเดินหลับตาแล้วเดินจากหินก้อนหนึ่งไปยังอีกก้อนสำเร็จ จะสมหวังในความรัก

ชมใบไม้เปลี่ยนสีและซากุระบาน

  • ฤดูใบไม้ร่วง (พฤศจิกายน - ต้นธันวาคม): ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้มและทอง สวยงามมาก

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - เมษายน): ซากุระบานสะพรั่งทั่วบริเวณวัด โรแมนติกสุด ๆ

ศาลเจ้าชื่อดังอื่นๆ ในเกียวโต

ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Taisha)

ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ เป็นหนึ่งในศาสนสถานที่โด่งดังและเป็นภาพจำที่งดงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ในฐานะศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าอินาริกว่าสามหมื่นแห่งทั่วประเทศ ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพเจ้าอินาริ เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์และความสำเร็จทางธุรกิจตามความเชื่อชินโต ผู้มาเยือนจะสังเกตเห็นรูปปั้นสุนัขจิ้งจอก (คิทสึเนะ) จำนวนมากอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ส่งสารของเทพเจ้านั่นเอง เอกลักษณ์ที่ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงไปทั่วโลกคืออุโมงค์เสาโทริอิสีแดงสดนับหมื่นต้น หรือที่เรียกว่า "เซ็มบงโทริอิ" ซึ่งได้รับการบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาเพื่อเป็นการขอบคุณต่อพรที่ได้รับ เสาโทริอิเหล่านี้ทอดยาวต่อเนื่องเป็นเส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดเขาอินะริอันศักดิ์สิทธิ์ ทำให้การเดินผ่านอุโมงค์แห่งนี้เปรียบเสมือนการเดินทางเข้าสู่โลกอันเงียบสงบและเปี่ยมด้วยมนต์ขลัง ถือเป็นประสบการณ์ที่ผสมผสานระหว่างการแสวงบุญและการเดินป่าชมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองเกียวโตได้อย่างลงตัว

ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine)

ศาลเจ้ายาซากะตั้งอยู่ ณ ใจกลางย่านกิออนอันคึกคักและมีชีวิตชีวา ทำให้ที่นี่เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนและเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดในเกียวโต ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่เทพซูซาโนโอะ โนะ มิโคโตะ เทพเจ้าแห่งพายุและท้องทะเลตามตำนานเทพปกรณัมญี่ปุ่น ผู้คนจากทั่วสารทิศต่างเดินทางมาเพื่อสวดอ้อนวอนขอพรให้มีสุขภาพที่แข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ออกไปจากชีวิต เมื่อถึงยามค่ำคืน ศาลเจ้าจะเผยความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ออกมา ด้วยโคมไฟกระดาษนับร้อยดวงที่ประดับประดาอยู่รอบเวทีกลางซึ่งจะถูกจุดให้สว่างไสว สร้างบรรยากาศอันอบอุ่นและน่าเลื่อมใส นอกจากนี้ ศาลเจ้ายาซากะยังเป็นสถานที่จัด "เทศกาลกิออน" ซึ่งเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคม ด้วยความที่ศาลเจ้าเปิดให้เข้าชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความสงบและงดงามยามค่ำคืนหลังจากการเดินเล่นในย่านกิออน

ศาลเจ้าเฮอัน (Heian Jingu)

ศาลเจ้าเฮอันโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสีแดงสดใสและมีขนาดใหญ่โต สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1895 เพื่อรำลึกถึงวาระครบรอบ 1,100 ปีของการก่อตั้งกรุงเกียวโต หรือ "เฮอันเคียว" ในอดีต ศาลเจ้าแห่งนี้อุทิศถวายแด่ดวงพระวิญญาณของจักรพรรดิคัมมุและจักรพรรดิโคเม ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์แรกและองค์สุดท้ายที่ทรงครองราชย์ในเกียวโต สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดคือเสาโทริอิยักษ์สีแดงชาดที่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณทางเข้า ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาโทริอิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เมื่อก้าวผ่านเข้าไปจะพบกับหมู่สถาปัตยกรรมที่จำลองแบบมาจากพระราชวังอิมพีเรียลในยุคเฮอันโดยย่อขนาดลงมา ทำให้ผู้มาเยือนได้ชื่นชมความสง่างามของสถาปัตยกรรมในอดีต นอกจากนี้ บริเวณด้านหลังของศาลเจ้ายังเป็นที่ตั้งของสวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่งดงามอย่างน่าทึ่ง ซึ่งมีทั้งสระน้ำ สะพานจีน และพืชพรรณนานาชนิดที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละฤดูกาล ถือเป็นโอเอซิสแห่งความสงบที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางเมือง

ศาลเจ้าคิตาโนะ เท็นมังกู (Kitano Tenmangu)

ศาลเจ้าคิตาโนะ เท็นมังกู เป็นศูนย์กลางของศาลเจ้าเท็นมังกูทั่วประเทศ และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะ "เทพเจ้าแห่งการศึกษา" ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับซุกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ นักปราชญ์และขุนนางคนสำคัญในยุคเฮอัน ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าเท็นจิน เทพแห่งการเรียนรู้และความสำเร็จทางการศึกษา ทำให้ในแต่ละปีมีนักเรียนนักศึกษาจำนวนมากเดินทางมาเพื่อขอพรให้สอบผ่านและประสบความสำเร็จ สัญลักษณ์สำคัญของศาลเจ้าคือรูปปั้นวัวจำนวนมากที่ตั้งอยู่ทั่วบริเวณ เนื่องจากเชื่อว่าวัวเป็นสัตว์ผู้ส่งสารของเทพเจ้าเท็นจิน และการลูบหัวของรูปปั้นวัวจะช่วยเสริมสร้างสติปัญญา นอกจากความสำคัญด้านการศึกษาแล้ว ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงด้านสวนดอกบ๊วยกว่า 2,000 ต้นที่จะบานสะพรั่งอย่างงดงามในปลายฤดูหนาว และในทุกวันที่ 25 ของเดือน บริเวณรอบศาลเจ้าจะคึกคักไปด้วยตลาดนัดเท็นจินซัง ตลาดนัดของเก่าและสินค้ามือสองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเกียวโต