ยลสีสัน ท่องแดนสวรรค์แห่งเกาะใบไม้

เกาะไต้หวันได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่มีลักษณะคล้ายกับใบไม้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเปรียบเปรยที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเกาะแห่งนี้มีทั้งความหลากหลายทางภูมิประเทศและวัฒนธรรมเฉกเช่นเดียวกับใบไม้หลากสีสัน จึงไม่แปลกที่ไต้หวันจะกลายมาเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่ทุกคนอยากไปเยือนให้ได้สักครั้ง อย่างไรก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่คนนิยมไปนั้นก็ยังเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น เพราะแท้จริงแล้ว เกาะแห่งนี้ยังมีเพชรเม็ดงามอีกมากมายที่รอให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัสและเยี่ยมชม

ภูมิภาคตอนเหนือของไต้หวันถือเป็นดั่งเพชรยอดมงกุฎของเกาะ มีสีสันและความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวมากที่สุดในประเทศ นอกจากจะเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้ว ภูมิภาคนี้ยังมีทั้งสถานที่จัดแสดงงานศิลปะสุดเก๋ และมีตลาดกลางคืนที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยแสงไฟอีกด้วย ซึ่งหากจะเรียกภูมิภาคแห่งนี้ว่า ดินแดนสวรรค์แห่งเกาะใบไม้ ก็คงจะไม่เกินจริงแต่อย่างใดเลย

สถานที่ท่องเที่ยวในไต้หวันตอนเหนือนั้นกระจายอยู่ในเขตปกครองทั้งหมด 6 เขต ซึ่งแต่ละเขตก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ในวันนี้ เราจึงขอพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวท่องเที่ยวสุดเก๋ ที่จะช่วยเติมสีสันให้แก่การท่องเที่ยวในไต้หวันของคุณได้อย่างแน่นอน

ไทเปไม่ได้เป็นเมืองที่มีเพียงแค่ความเจริญและตึกระฟ้าเท่านั้น แต่เมืองหลวงแห่งนี้ยังมีพื้นที่ให้ศิลปินได้มีที่ยืนและได้แสดงออกอีกด้วย ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์ฮว่าซาน หรือ Huashan 1914 Creative Park เกิดขึ้นจากการพัฒนาพื้นที่ที่เคยเป็นโรงงานผลิตบุหรี่และไวน์ให้กลายมาเป็นสถานที่ชมและแสดงผลงานงานของศิลปินหน้าใหม่ และศิลปินอินดี้ เพื่อให้ไทเปเป็นเมืองที่เปี่ยมล้มไปด้วยสีสันของงานศิลป์ให้มากยิ่งขึ้น

ภายในศูนย์แห่งนี้ยังมีพื้นที่ให้ทำการแสดงเปิดหมวกได้อย่างหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ร้องเพลง, เต้น และความสามารถพิเศษ โดยการแสดงนั้นก็จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละวัน ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นเวทีที่ช่วยให้แก่เหล่าศิลปินหน้าใหม่ได้มีโอกาสแสดงฝีมือและแจ้งเกิดให้ทุกคนได้รู้จักพวกเขา เปรียบเสมือนสปอตไลท์ที่ฉายให้พวกเขาโดดเด่นขึ้นมาจากความมืดมิด และมอบกำลังใจให้พวกเขาก้าวตามฝันต่อไป

นอกจากจะเป็นพื้นที่สำหรับศิลปินแล้ว ศูนย์ความคิดสร้างสรรรค์ฮว่าซานยังมีโรงภาพยนตร์ที่เน้นฉายภาพยนตร์แนวนอกกระแส และมีร้านค้า, ร้านหนังสือ รวมไปถึงร้านอาหารที่ตกแต่งร้านอย่างครีเอทอีกมากมาย ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณได้สนุกเพลิดเพลินจนแทบจะลืมเวลาเลยทีเดียว

ไม่ว่าสังคมจะเครียดสักเพียงใด แต่ศิลปะก็ยังคงเป็นสิ่งที่ช่วยให้มนุษย์เกิดความจรรโลงใจ และได้ย้อนกลับมามองตัวเอง พร้อมคิดทบทวนถึงสิ่งที่พวกเขาได้จากการชมงานศิลปะอยู่เสมอ ดังนั้น สีสันแห่งปลายพู่กันและความคิดสร้างสรรค์จึงถือเป็นหนึ่งในสีสันที่จะขาดไปเสียมิได้ ซึ่งไทเปก็ถือเป็นเมืองหนึ่งที่ทำให้สีสันดังกล่าวดูเด่นชัดได้เป็นอย่างมาก เพราะชาวไทเปไม่เพียงแต่จะรักษาศิลปะให้คงอยู่ได้เท่านั้น แต่พวกเขายังสามารถช่วยกันทำให้ศิลปะได้มีพื้นที่เติบโต จนกลายเป็นแสงสว่างแห่งความสุขของชาวเมืองทุกคนได้อีกด้วย

เคล็ดไม่ลับจาก Klook – ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์ฮว่าซานตั้งอยู่ใกล้กันกับสถานีรถไฟใต้ดิน Zhongxiao Xingsheng โดยสามารถนั่งรถไฟใต้ดินสายสีเหลืองหรือสายสีน้ำเงินไปก็ได้ แต่หากคุณมีโอกาสได้มาท่องเที่ยวเมืองไทเปแล้ว คุณก็ไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย ซึ่งบัตร Taipei Fun Pass ก็ถือเป็นตัวช่วยที่คุ้มค่าเป็นที่สุด อีกทั้งยังมีแพ็กเกจมากมายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น แพ็กเกจ 1 วัน, 2 วัน และ 3 วัน โดยคุณสามารถใช้บัตรใบนี้ไปท่องเที่ยวที่สถานที่ต่าง ๆ ได้มากกว่า 16 แห่ง พร้อมโดยสารรถไฟ MRT ได้แบบไม่จำกัดเที่ยว!

ไต้หวันเป็นประเทศที่มีป่าไม้มากกว่า 2 ใน 3 ของประเทศ โดยหนึ่งในอุทยานป่าไม้ที่น่าไปเยี่ยมชมที่สุดนั้นก็คือ อุทยานหยางหมิงซาน ซึ่งเป็นอุทยานอันอุดมสมบูรณ์ที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองไทเปมากนัก จึงเป็นที่มาของฉายา ‘ป่าหลังบ้าน’ นั่นเอง นอกจากนี้ ภายในตัวอุทยานยังมีบ่อไอเดือดและเส้นทางเดินป่าให้นักท่องเที่ยวได้ชมความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติได้อย่างจุใจอีกด้วย

อุทยานหยางหมิงซานนั้นมีความกว้างใหญ่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 113,000 ตารางกิโลเมตรของเขตไทเปและเขตนิวไทเปเลยทีเดียว ดังนั้น การท่องเที่ยวอุทยานหยางแห่งนี้จึงจำเป็นต้องเลือกจุดที่ต้องการไปเยี่ยมชมเสียก่อน เพราะคุณจะไม่มีทางเที่ยวชมอุทยานให้ทั่วในเวลาอันสั้นได้เลย โดยจุดที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมนั้นก็ได้แก่ บริเวณบ่อไอเดือดเสี่ยวโหย่วเคิง และทางเดินป่าเหลิงสุ่ยเคิง อันเป็นจุดชมธรรมชาติภายในอุทยานที่มีความงดงามมาก

บ่อไอเดือดเสี่ยวโหย่วเคิงเป็นบ่อขนาดใหญ่ที่มีก๊าซซัลเฟอร์ปริมาณมากพวยพุ่งขึ้นมาจากก้นบ่อ จนดูราวกับเป็นลมหายใจของเทพเจ้าใต้พิภพเลยทีเดียว เมื่อเดินจากบริเวณปากบ่อไอเดือดไปอีกไม่ไกลนักก็จะถึงเส้นทางเดินป่าเหลิงสุ่ยเคิง ซึ่งเป็นเส้นทางเดินป่าที่จะพานักท่องเที่ยวเดินลัดเลาะไปตามแมกไม้อันเขียวชอุ่ม ก่อนจะสิ้นสุดเส้นทางเดินที่บริเวณทุ่งหญ้าฉิงเทียนกัง ทุ่งหญ้าเขียวขจีกว้างสุดลูกหูลูกตา ที่มักจะไม่ค่อยพบเห็นในประเทศไต้หวันอีกด้วย

จะเห็นได้ว่า ไต้หวันยังคงสามารถรักษาทรัพยากรของตนเองได้เป็นอย่างดี จนทำให้การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติกลายมาเป็นกิจกรรมยอดนิยมอย่างหนึ่งของประเทศไปเสียแล้ว สำหรับชาวไต้หวัน อุทยานแห่งนี้ก็คงเปรียบได้กับปอดขนาดยักษ์ที่คอยมอบอากาศที่บริสุทธิ์ให้แก่ทุกคน สีเขียวขจีและความอุมสมบูรณ์ของป่าไม้แห่งนี้นี่เองที่ทำให้อุทยานหยางหมิงซานมีเสน่ห์ น่าค้นหา และเป็นอีกหนึ่งสีสันที่ทุกคนควรเดินทางไปสัมผัสให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต

หากอุทยานหยางหมิงซานคือตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์และความงดงามของธรรมชาติแล้ว อุทยานธรณีเย่หลิวก็คงเป็นตัวแทนของความแห้งแล้งและพลังอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติอย่างแน่นอน แม้อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานหยางหมิงซาน แต่กลับมีภูมิประเทศที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง อุทยานเย่หลิวมีลักษณะเป็นแหลมยาว 1.7 กิโลเมตรที่เต็มไปด้วยหินรูปทรงต่าง ๆ อันเกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติผ่านการกัดกร่อนจากลมทะเลเป็นระยะเวลายาวนาน

ความงดงามที่เกิดจากฝีมือของธรรมชาตินี้ทำให้มนุษย์มีโอกาสได้จินตนาการหินรูปทรงต่าง ๆ ให้ดูคล้ายกับสิ่งที่ตัวเองรู้จัก โดยหินที่มีความโด่งดังที่สุดในอุทยานก็คือ หินรูปพระเศียรราชินี ซึ่งเป็นหินที่มีลักษณะดูคล้ายกับสตรีสูงศักดิ์ที่กำลังหันข้างอยู่นั่นเอง นอกจากหินรูปทรงประหลาดแล้ว อุทยานธรณีเย่หลิวยังมีภูมิประเทศที่ดูแห้งแล้งแปลกตา จนดูราวกับว่าตั้งอยู่นอกโลกเลยทีเดียว อุทยานแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่ผู้คนต่างมาปลดปล่อยจินตนาการของตัวเอง และดื่มด่ำกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติได้แบบพร้อม ๆ กัน

ภูมิประเทศที่ดูแตกต่างไม่เหมือนใครนี้ทำให้อุทยานธรณีเย่หลิวได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ความยิ่งใหญ่ของธรรมชาตินั้นไม่ใช่ปัจจัยเพียงข้อเดียวที่ทำให้สถานที่แห่งนี้โด่งดังขึ้นมาได้ หากแต่เป็นจินตนาการ และการเล่าเรื่องราวที่แตกต่างกันของมนุษย์ต่างหากที่ช่วยทำให้สถานที่แห่งนี้ดูมีชีวิต และเปี่ยมล้นด้วยความคิดสร้างสรรค์ ถือเป็นความแตกต่างทางความคิดที่งดงามที่สุดเลยทีเดียว

จิ่วเฟินเป็นหมู่บ้านอันเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานทั้งสองแห่ง ในอดีต หมู่บ้านแห่งนี้มีผู้อยู่อาศัยอยู่เพียง 9 หลังเท่านั้น แต่ภายหลังจากที่มีการค้นพบแหล่งทองคำในพื้นที่ใกล้เคียง ผู้คนก็หลั่งไหลเข้ามาที่หมู่บ้านจิ่วเฟินกันมากยิ่งขึ้น ก่อนจะคึกคักสุดขีดหลังจากที่ภาพยนตร์แอนิเมชันจากค่ายจิบลิเรื่อง Spirited Away เข้าฉาย แม้แท้จริงแล้วภาพยนตร์จะไม่ได้รับแรงบันดาลใจจากหมู่บ้านแห่งนี้ แต่บรรยากาศและโคมสีแดงยามค่ำคืนในเรื่องนั้นก็มีความละม้ายคล้ายคลึงกับหมู่บ้านจิ่วเฟินเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้คนยังคงหลั่งไหลมายังหมู่บ้านแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย

หมู่บ้านจิ่วเฟินประกอบด้วยทางเดินหลายเส้นทาง แต่เส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ ถนนสายเก่าหมู่บ้านจิ่วเฟิน ซึ่งเป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านอาหารรสเลิศและร้านขายของตลอดสองข้างทาง โดยอาหารที่ขายในจิ่วเฟินก็ยังเป็นอาหารต้นตำรับที่หาทานได้ยากอีกด้วย ตลอดทางเดินจะมีการประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดงที่โดดเด่นจนเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน อีกทั้งยังมีจุดชมวิวที่มองเห็นทั้งภูเขาและทะเลอีกด้วย จิ่วเฟินจึงเป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยสีสันและเรื่องราวแห่งอดีตที่ยังคงมีชีวิต ถือเป็นมนต์เสน่ห์ที่หาไม่ได้จากที่ใดก็ว่าได้

แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปมากสักเพียงใด แต่หมู่บ้านจิ่วเฟินก็ยังคงรักษาบรรยากาศเก่า ๆ อันน่าหลงใหลควบคู่ไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี การได้มาเยือนที่หมู่บ้านแห่งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การมาถ่ายรูปบรรยากาศเก่าแก่เท่านั้น แต่ยังเป็นการมาสัมผัสวิถีชีวิตเก่า ๆ ของคนในหมู่บ้านจิ่วเฟินอีกด้วย บรรยากาศเก่าแก่นั้นอาจสามารถจำลองกันได้ แต่วิถีชีวิตที่หยั่งรากลงไปในสถานที่ไม่ใช่สิ่งที่จำลองได้อย่างแน่นอน จิ่วเฟินจึงถือเป็นหมู่บ้านที่มีชีวิตและน่าหลงใหลอย่างแท้จริง

น้อยคนนักจะเคยไปเยี่ยมชมเกาะไต้หวันฝั่งตะวันออก เนื่องจากฝั่งตะวันออกนั้นเป็นฝั่งที่ไม่มีระบบรถไฟที่ทันสมัยมากเท่าฝั่งตะวันตก จึงเป็นเหตุให้หลายเมืองในฝั่งนี้ถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย รวมไปถึงเมืองอีหลาน ด้วยเช่นกัน แต่แท้จริงแล้ว เมืองอีหลานก็ยังถือเป็นเมืองที่น่าสนใจไม่แพ้เมืองอื่น ๆ ในอีกฝั่งหนึ่ง เมืองอีหลานนั้นเป็นบ้านเกิดของ จิมมี่ เลี่ยว นักวาดภาพประกอบหนังสือชื่อดังของไต้หวัน ผู้เป็นดั่งความภาคภูมิใจของไต้หวันตะวันออก ด้วยเหตุนี้ ชาวอีหลานจึงได้สร้าง จัตุรัสจิมมี่ ขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้แก่ทางจิมมี่ เลี่ยว ซึ่งก็จัดออกมาได้อย่างน่าดูชมเลยทีเดียว

จัตุรัสจิมมี่มีลักษณะเป็นลานสาธารณะที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาและภาพวาดที่สร้างขึ้นโดยอิงจากผลงานชิ้นต่าง ๆ ของจิมมี่ เลี่ยว จัตุรัสแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับอาคารสถานีรถไฟเมืองอีหลาน จึงได้มีการตกแต่งให้ดูสอดคล้องกับสถานีรถไฟนั่นเอง นอกจากจะมีความสวยงามน่าถ่ายภาพแล้ว ตัวจัตุรัสยังเป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ชาวอีลานได้แวะมาพักผ่อน และทำกิจกรรมไปพร้อมกับทำความรู้จักกับผลงานของจิมมี่ เลี่ยวได้ในเวลาเดียวกัน

จะเห็นได้ว่า จัตุรัสจิมมี่เกิดขึ้นจาการใช้พื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยนอกจากจะสร้างประโยชน์ใช้สอยให้แก่คนในชุมชนแล้ว ยังเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมรอบสถานีรถไฟให้ดูน่าสนใจและมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ผลงานแต่ละชิ้นที่ถูกติดตั้งอยู่ภายในลานนั้นล้วนแสดงให้เห็นถึงความเป็นท้องถิ่น และชวนให้นักท่องเที่ยวรู้สึกอยากทำความรู้จักเมืองแห่งนี้ให้มากยิ่งขึ้น จัตุรัสจิมมี่เป็นงานศิลป์สะท้อนความเป็นท้องถิ่นผ่านงานศิลปะชื่อดังออกมาได้อย่างชาญฉลาดเป็นที่สุด

ไต้หวันเป็นประเทศที่มีตลาดกลางคืนกระจายอยู่แทบจะทุกเมือง แม้จะเป็นเมืองเล็กสักเท่าใด ตลาดกลางคืนเหล่านี้ก็ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมายที่รับใช้กระเพาะของชาวไต้หวันในยามค่ำคืน โดยหนึ่งในตลาดกลางคืนที่มีสีสันมากที่สุดในประเทศนั่นก็คงหนีไม่พ้น ตลาดกลางคืนจีหลง ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองจีหลง อันเป็นเขตปกครองที่มีขนาดเล็กที่สุดในไต้หวันตอนเหนือ  

แม้ตลาดกลางคืนแห่งนี้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก แต่ก็เป็นตลาดที่มีร้านอาหารริมทางมากกว่า 70 ร้าน ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตลาดกลางคืนจีหลงจะมีผู้แวะมารับประทานอาหารกันเป็นจำนวนมากในทุกคืน ตลอดเส้นทางของตลาดจะมีการประดับโคมไฟสีเหลืองเป็นแนวยาว เป็นภาพที่มีความงดงามและมีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก นอกจากคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารรสเลิศที่ตลาดแห่งนี้แล้ว คุณยังจะสามารถสัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมการกินของคนไต้หวันได้อย่างลึกซึ้งอีกด้วย

น้ำกับน้ำมันเข้ากันไม่ได้ฉันใด ห้องน้ำกับร้านอาหารก็คงจะไม่มีทางเข้ากันไม่ได้ฉันนั้น อย่างไรก็ตาม คติเหล่านี้ดูจะใช้ไม่ได้กับร้านโมเดิร์น ทอยเล็ต ในไทเป ซึ่งเป็นร้านอาหารที่กล้าท้าทายขนบเก่าอย่างห้าวหาญด้วยการจับทั้งสองสิ่งนี้มาเจอกัน จนได้ออกมาเป็นร้านอาหารธีมห้องน้ำสุดแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน แม้ผู้อ่านหลายคนอาจจะอยากเบือนหน้าหนีเมื่อได้เห็นร้านอาหารอะไรเช่นนี้ แต่ถ้าหากลองเปิดใจดูสักครั้ง คุณก็จะพบว่า ร้านโมเดิร์น ทอยเล็ต ถือเป็นร้านอาหารที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้แทบจะทุกอณูของร้านเลยก็ว่าได้

ถึงจะเป็นร้านอาหารธีมห้องน้ำ แต่ร้านอาหารแห่งนี้ก็สามารถดึงเอาเอกลักษณ์ต่าง ๆ ของห้องน้ำมานำเสนอร่วมกับอาหารได้แบบไม่ดูน่าเกลียด อีกทั้งยังแฝงลักษณะเด่นของความเป็นห้องน้ำไว้ได้อย่างสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นทั้งภาชนะ, การตกแต่งร้าน หรือแม้แต่ตัวอาหารก็ตาม ความแปลกแหวกแนวนี้ได้ช่วยทำให้ร้านโมเดิร์น ทอยเล็ต กลายมาเป็นร้านอาหารที่สร้างสีสันให้แก่ทุกคนที่ได้มาเยี่ยมเยือน และยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่ยืนยันให้ทุกคนได้เข้าใจว่า ความคิดสร้างสรรค์นั้นไม่จำเป็นต้องติดอยู่แต่ในกรอบเดิม ๆ เสมอไปนั่นเอง

 

เขตเถาหยวนไม่ได้มีเพียงแค่สนามบินนานาชาติเถาหยวนเท่านั้น เพราะหนึ่งในถนนที่เก่าแก่ที่สุดของไต้หวันก็ยังตั้งอยู่ที่เขตนี้เช่นเดียวกัน ถนนโบราณเมืองต้าซี หรือ ‘ถนนแห่งความสงบ’ ถือเป็นถนนสายเก่าที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีเสมอมา นอกจากนี้ เมืองต้าซียังเมืองโปรดและสถานที่ฝังศพของ เจียง ไคเชก รัฐบุรุษและผู้สถาปนาประเทศไต้หวัน อีกด้วย ต้าซีจึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญและควรแค่แก่การไปเยือนอย่างไม่ต้องสงสัย

เนื่องจากตั้งอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำ ในอดีตต้าซีจึงเป็นเมืองที่พ่อค้านิยมใช้เป็นที่ขนถ่ายสินค้าเพื่อส่งออกไปยังเมืองต่าง ๆ   จนกลายมาเป็นเมืองท่าแห่งสำคัญไปในที่สุด เศรษฐกิจในเมืองต้าซีจึงได้เฟื่องฟูขึ้นเรื่อยมา ก่อให้เกิดพ่อค้ามหาเศรษฐีมากมาย ซึ่งพ่อค้าเหล่านี้ก็ได้แสดงออกทางฐานะของตนด้วยการสร้างบ้านสไตล์บารอกที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมจีนและญี่ปุ่นเอาไว้บนถนนหลักหลายสายของเมือง ก่อนที่ภายหลังก็กลายมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อถนนโบราณเมืองต้าซีนั่นเอง

เมื่อระบบขนส่งได้รับการพัฒนา บทบาทของเมืองต้าซีก็เริ่มลดลง ส่งผลให้ถนนสายต่าง ๆ ที่เคยคึกคักกลับซบเซาลงไปบ้าง ถึงกระนั้น ชาวเมืองต้าซีก็ยังคงสามารถเลี้ยงตนได้แม้จะไม่ได้ฟู่ฟ่าเหมือนเดิม เพราะถนนสายเก่าของเมืองนั้นยังคงได้รับการอนุรักษ์และพัฒนาให้กลายมาเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์แห่งสำคัญของประเทศ มีทั้งอาคารเก่าแก่ให้ผู้คนได้เดินชม และมีของว่างเฉพาะถิ่นอย่าง เต้าหูแห้ง, เต้าฮวย และ ขนมถั่วตัด ให้ได้เลือกลิ้มลองกันได้แบบจุใจไปพร้อม ๆ กัน

ความเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวนี้เองที่ทำให้ถนนโบราณเมืองต้าซีกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปี่ยมล้นด้วยมนต์เสน่ห์  และเป็นถนนที่แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวและวิถิชีวิตของคนท้องถิ่นได้อย่างชัดเจน ดังนั้น การได้มาสัมผัสวันวาน พร้อมกับเรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่นนั้นจึงเป็นกิจกรรมที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรพลาดทั้งสิ้น

สถานที่สุดท้ายที่เราอยากจะพาคุณไปทำความรู้จักนั่นก็คือ สวนสนุกลีโอฟู ในเขตซินจู๋ แม้ไต้หวันจะเป็นประเทศที่ไม่ได้มีชื่อเสียงเรื่องสวนสนุกอะไรมากนัก แต่การไปเที่ยวสวนสนุกก็ดูจะเป็นกิจกรรมที่จะขาดไปเสียไม่ได้เมื่อไปท่องเที่ยวที่ต่างประเทศ โดยสวนสนุกแห่งนี้จัดเป็นสวนสนุกชั้นแนวหน้าของไต้หวันที่คุณควรหาโอกาสไปเยือนให้ได้สักครั้งหนึ่ง

ภายในสวนสนุกแห่งนี้นั้นมีทั้ง เครื่องเล่น, สวนน้ำ และซาฟารีให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินตลอดทั้งวัน เรียกได้ว่าเป็นสวยที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง จึงไม่แปลกที่สวนสนุกลีโอฟูจะเป็นสถานที่ที่ชาวไต้หวันเลือกที่จะพาครอบครัวของตัวเองมาท่องเที่ยวช่วงวันหยุดกันแบบพร้อมเพรียง

แม้สวนสนุกลีโอฟูจะไม่ได้มีเครื่องเล่นมากมาย แต่สวนสนุกแห่งนี้ก็เป็นสถานที่ที่สามารถมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้แก่คนไต้หวันได้อย่างสม่ำเสมอตลอดมา สวนสนุกจึงไม่ใช่เพียงแค่สถานที่ที่เหมาะสำหรับเด็กเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะไม่ว่าคุณจะมองไปทางใด คุณก็จะได้พบกับรอยยิ้มและความสุขของคนทุกเพศทุกวัย ถือเป็นสีสันแห่งการท่องเที่ยวที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง

มาถึงตรงนี้ ผู้อ่านน่าจะเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเกาะไต้หวันถึงได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยสีสันและมนต์เสน่ห์ สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งของไต้หวันตอนเหนือนั้นน่าจะเป็นตอบคำถามดังกล่าวได้เป็นอย่างดี เพราะภูมิภาคแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบที่ล้วนงดงามในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเก่าแก่ หรือสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติก็ตาม ความแตกต่างและความหลากหลายนี้จึงถือเป็นความงดงามที่ดูราวกับเฉดสีคนละเฉดของใบไม้ ที่แม้จะมีสีสันที่แตกต่างกันออกไปบ้าง แต่ก็ล้วนมีความงดงามในตัวเอง ซึ่งพอได้มาอยู่ร่วมกันแล้ว เกาะใบไม้แห่งนี้ก็ดูจะเป็นใบไม้ที่สวยงามจนยากจะหาสิ่งใดมาเปรียบเปรยเลยทีเดียว

สถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจบนเกาะใบไม้แห่งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ทางตอนเหนือเท่านั้น ยังสถานที่ท่องเที่ยวอยู่อีกมากมายทางตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เมืองไถจง, ทะเลสาบสุริยันจันทรา, อุทยานอาลีซาน และเมืองเกาสง เป็นต้น ซึ่งไต้หวันก็นับเป็นประเทศที่มีระบบขนส่งมวลชนที่รวดเร็วและทันสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะรถไฟความเร็วสูงของไต้หวันนั้นให้บริการครอบคลุมตั้งแต่ภูมิภาคตอนเหนือจรดตอนใต้ อีกทั้งยังสามารถทำความเร็วสูงสุดได้กว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกด้วย การเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงจึงเป็นการเดินทางที่ช่วยให้คุณสามารถประหยัดเวลาในการเดินทางได้มากเป็นอย่างยิ่ง

เนื่องจากไต้หวันมีระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยและรวดเร็ว ค่าโดยสารรถไฟความเร็วสูงต่อเที่ยวนั้นก็จึงมีสูงตามไปด้วย ดังนั้น การซื้อบัตรโดยสารแบบไม่จำกัดเที่ยวจึงเป็นตัวเลือกที่ดีและมีความคุ้มค่ามากกว่า โดยคุณสามารถซื้อรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) สำหรับ 3 วันเพื่อใช้ในการเดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยวได้ในราคาสุดประหยัด ไม่ว่าคุณจะไปเที่ยวไกลแค่ไหน หรือจะนั่งรถไฟความเร็วสูงบ่อยสักเพียงใด คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องราคาค่าโดยสารใด ๆ ทั้งสิ้น และหากคุณต้องการจองบัตรสารอันแสะสะดวกสบายใบนี้ในราคาประหยัดล่ะก็ Klook ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะมอบทั้งความสะดวกและความคุ้มค่าให้แก่ทุกการเดินทางของคุณได้อย่างแน่นอน!