รีวิว 10 แอปเที่ยวจีนที่ต้องมี! ทดลองใช้จริงมาให้แล้ว ไปจีนครั้งแรกก็รอด
กำลังวางแผนไปเที่ยวจีนกันอยู่หรือเปล่า? ไม่ว่าคุณจะไปตะลุยเมืองสุดล้ำยุคอย่างเซี่ยงไฮ้ หรือเดินเล่นในตรอกซอกซอยโบราณ (Hutong) ของปักกิ่ง คุณจะค้นพบความจริงอย่างหนึ่งอย่างรวดเร็ว... นั่นก็คือทุกอย่างที่นี่ขับเคลื่อนด้วยแอปพลิเคชัน!
ตั้งแต่การสั่งอาหารไปจนถึงจ่ายเงินค่ากาแฟสักเเก้ว QR Code เเละแอปบนมือถือคือวิถีชีวิตของคนจีนไปแล้ว ถ้าคุณไม่ได้เตรียมตัวให้พร้อม เรื่องง่ายๆ อย่างการซื้อตั๋วรถไฟหรือเรียกแท็กซี่อาจจะกลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนไปเลยก็ได้
ลองนึกภาพการเดินทางในปักกิ่งกับเซี่ยงไฮ้ สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ภาษาจีนกลาง (พูดเป็นแค่ "หนีห่าว" กับ "เซี่ยเซี่ย") หลายคนอาจจะกังวลว่าจะเดินทางยังไง
แต่ข่าวดีก็คือ... แค่มีแอปที่ใช่ คุณก็ไม่จำเป็นต้องพูดภาษาจีนคล่องก็เที่ยวรอด แถมยังเที่ยวสนุกในจีนได้สบายๆ แอปเหล่านี้จะช่วยให้คุณจ่ายเงินได้เหมือนคนท้องถิ่น เดินทางในเมืองใหญ่ๆ ได้อย่างไม่หลงทาง หรือแม้กระทั่งสั่งอาหารในร้านที่ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้เลย
ดังนั้น ถ้าคุณกำลังกังวลกับการไปเที่ยวจีน โดยเฉพาะถ้าเป็นการไปครั้งแรก บทความนี้เขียนมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ! นี่คือ 10 แอปที่จำเป็นสุดๆ ที่เรารวบรวมและทดลองใช้จริงมาให้แล้ว และเชื่อเถอะว่ามันจะช่วยคุณประหยัดเวลาและความเครียดไปได้เยอะมาก!
โค้ดส่วนลด 10% สำหรับจองทัวร์ในจีน
1) WeChat (微信): แอปเดียวครบ จบทุกเรื่องในจีน
Credit: WeChat
ถ้าให้เลือกโหลดแอปสำหรับเที่ยวจีนได้แค่แอปเดียว ยังไงก็ต้องเป็น WeChat (App Store | Google Play Store) เท่านั้น! เพราะนอกจากจะเป็นแอปแชทหลักของคนจีน (จำเป็นมากเวลาต้องคุยกับบริษัททัวร์) คุณยังสามารถใช้สั่งอาหาร จ่ายเงินค่าข้าวของต่างๆ และเรียกรถแท็กซี่ได้ในแอปเดียว!
วิธีสั่งอาหารด้วย WeChat
ร้านอาหารส่วนใหญ่ในจีนใช้ระบบสั่งอาหารและจ่ายเงินแบบไร้สัมผัสเต็มรูปแบบ ทำให้การทานอาหารเป็นเรื่องง่ายสุดๆ แม้คุณจะพูดภาษาจีนไม่ได้ แค่สแกน QR Code บนโต๊ะด้วย WeChat เพื่อเปิดเมนูดิจิทัล จากนั้นก็เลือกดูเมนู (ส่วนใหญ่มีรูปภาพประกอบ) กดสั่ง และจ่ายเงินได้ทันที ทุกอย่างจบในแอปเดียว
Klook Tip: อย่าใช้แอปกล้องปกติสแกน QR Code เพราะไม่สามารถใช้ได้ (เราลองมาแล้ว) นอกจากนี้ ใน WeChat ยังมีฟังก์ชันแปลภาษาในตัวอีกด้วย! แม้จะแปลไม่เป๊ะ 100% แต่อย่างน้อยก็พอให้เราเข้าใจได้ว่ากำลังจะสั่งอะไร
วิธีจ่ายเงินด้วย WeChat Pay
WeChat Pay เป็นหนึ่งในวิธีจ่ายเงินที่ง่ายและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดในจีน เมื่อคุณตั้งค่า WeChat Pay โดยผูกบัตรเครดิตของคุณเรียบร้อยแล้ว การจ่ายเงินก็กลายเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว
ตอนจะจ่ายเงิน แค่เปิด WeChat แตะที่เครื่องหมาย “+” แล้วเลือก “Money” (เงิน) เพื่อโชว์ QR Code ส่วนตัวของคุณให้พนักงานสแกน แค่นี้ก็จ่ายเงินเรียบร้อย ไม่ต้องใช้เงินสดหรือบัตรเลย!
บางร้านอาจจะโชว์ QR Code ของร้านให้เราสแกนแทน ในกรณีนี้ให้เราใช้ฟีเจอร์ “Scan” (สแกน) ของ WeChat แล้วกรอกจำนวนเงินเพื่อจ่ายเงินผ่านแอป โดย WeChat Pay สามารถใช้จ่ายได้แทบทุกอย่าง ตั้งแต่สตรีทฟู้ดในปักกิ่งไปจนถึงค่าแท็กซี่ในเซี่ยงไฮ้
Klook Tip: ตั้งค่าบัญชี WeChat และผูกบัตรเครดิต/เดบิตของคุณให้เรียบร้อย ก่อน เดินทางถึงประเทศจีน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณพร้อมใช้งานทันทีที่ไปถึง!
วิธีเรียกรถ DiDi (แท็กซี่) ผ่าน WeChat
หากคุณกังวลเรื่องการเรียกแท็กซี่ในจีน หรือการอธิบายจุดหมายปลายทางเป็นภาษาจีนกลาง การเรียกรถผ่าน DiDi (滴滴出行) บน WeChat คือตัวช่วยที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปเลย DiDi ก็คือ Uber เวอร์ชั่นจีนนั่นเอง และข้อดีที่สุดคือ คุณไม่จำเป็นต้องโหลดแอปแยกต่างหากถ้ามี WeChat อยู่แล้ว!
วิธีเรียกรถ DiDi ผ่าน WeChat แค่เปิดแอป ไปที่หน้า “Pay and Services” (จ่ายและบริการ) แล้วค้นหา DiDi จากนั้นก็ใส่จุดรับ-ส่ง (พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษได้) เลือกรุ่นรถ (มีตั้งแต่แท็กซี่ธรรมดาไปจนถึงรถพรีเมียม) แล้วกดยืนยันการจองได้เลย
2) Da Zhong Dian Ping (大众点评): ตามล่าร้านเด็ดแบบคนท้องถิ่น
ถ้าคุณเป็นสายกินตัวจริงและอยากกินแบบคนท้องถิ่น แอป Da Zhong Dian Ping (App Store | Google Play Store) คือแอปที่ต้องมีติดเครื่องเลย พูดง่ายๆ ก็คือมันเหมือน Yelp หรือ Wongnai เวอร์ชั่นจีน แต่ละเอียดกว่ามากๆ มีรีวิวเพียบ รูปภาพจริงจากลูกค้า และการจัดอันดับทุกสิ่งอย่าง ตั้งแต่ร้านอาหาร คาเฟ่ ไปจนถึงชานมไข่มุกและสตรีทฟู้ด
ระหว่างทริป Dianping จะกลายเป็นแอปคู่ใจทุกครั้งที่อยากหาร้านอาหารเด็ดๆ หรือคาเฟ่เก๋ๆ ใกล้ตัว คุณสามารถค้นหาตามประเภทอาหาร, ช่วงราคา, ระยะทาง หรือแม้กระทั่งความนิยม ซึ่งมีประโยชน์สุดๆ เวลาไปเมืองใหม่แล้วไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Dianping คือรีวิวที่เป็นรูปภาพ ช่วยชีวิตได้มากเวลาเจอเมนูที่เป็นภาษาจีนล้วน! อีกฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมคือ ราคาเฉลี่ยต่อคน ทำให้เราประเมินค่าเสียหายคร่าวๆ ได้
ถึงแม้แอปส่วนใหญ่จะเป็นภาษาจีน แต่ก็ใช้งานไม่ยาก ด้วยไอคอนที่เข้าใจง่ายและฟังก์ชันแปลภาษาในตัว เชื่อเถอะว่าคุ้มค่ากับความพยายามแน่นอน เพราะแอปนี้จะช่วยให้คุณเจอร้านเด็ดของคนท้องถิ่นในเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งที่ไม่มีทางหาเจอจากที่อื่นแน่ๆ! (คนจีนรีวิวใน Dianping นักท่องเที่ยวรีวิวใน Google ไงล่ะ!)
อีกหนึ่งฟีเจอร์เด็ดคือ คุณสามารถจองโต๊ะผ่านแอปได้โดยตรง เหมาะมากสำหรับร้านดังๆ ที่คนแน่นตลอดเวลา (หมายเหตุ: บางร้านอาจต้องใช้เบอร์โทรศัพท์จีนในการจอง)
3) Meituan (美团): แอปสั่งอาหารเดลิเวอรี่คู่ใจคนจีน
Credit: Meituan
หลังจากเที่ยวมาเหนื่อยๆ ทั้งวัน หรือขี้เกียจเกินกว่าจะออกไปหาอะไรกิน Meituan (App Store | Google Play Store) คือแอปช่วยชีวิตสำหรับการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ในจีน
Meituan เป็นหนึ่งในแอปยอดนิยมที่คนจีนใช้กันทุกวัน และไม่ได้มีแค่ส่งอาหารเท่านั้น คุณยังสามารถจองโรงแรมและค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นได้อีกด้วย แต่ที่ดังสุดๆ ก็คือบริการส่งอาหารนี่แหละ!
เมื่อรู้สึกเหนื่อยล้าจากการเที่ยวมาทั้งวัน สามารถใช้ Meituan สั่งอาหารเย็นมาส่งถึงโรงแรมได้เลย ในแอปมีร้านอาหารให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่ร้านเกี๊ยวท้องถิ่นไปจนถึงชานมไข่มุก โดยเลือกจากประเภทอาหารหรือระยะทางได้
คุณสามารถดูรูปภาพอาหารและอ่านรีวิวได้ (แม้ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาจีน แต่ใช้ฟังก์ชันแปลภาษาก็พอเข้าใจ) หลังจากสั่งอาหารแล้ว ก็สามารถติดตามสถานะออเดอร์ได้แบบเรียลไทม์ ตั้งแต่ตอนร้านเตรียมอาหารไปจนถึงเวลาที่คาดว่าจะมาถึง
Klook Tip: คุณต้องมีเบอร์โทรศัพท์ของจีนเพื่อสั่งเดลิเวอรี่ แต่เรามีวิธีแก้! (เพราะเราใช้ eSIM) สามารถลงไปสั่งอาหารที่ล็อบบี้แล้วขอให้พนักงานโรงแรมช่วยใส่เบอร์โทรให้หน่อย! พวกเขาคุ้นเคยกับเรื่องนี้ดี และโรงแรมส่วนใหญ่จะมีเบอร์โทรศัพท์แยกไว้สำหรับให้แขกสั่งของจาก Meituan หรือ Taobao โดยเฉพาะ
Fun fact: ตอนสั่ง Meituan ที่ปักกิ่ง พนักงานจะเอาอาหารมาวางไว้ที่จุดรับอาหารเดลิเวอรี่ในล็อบบี้โรงแรม แต่ที่เซี่ยงไฮ้ อาหารอาจถูกส่งตรงถึงหน้าห้องด้วยหุ่นยนต์!
4) DiDi Chuxing (滴滴出行): เดินทางสะดวกทั่วจีน
Credit: DiDi
เมื่อพูดถึงการเดินทางในจีน Didi Chuxing (App Store | Google Play Store) คือแอปที่ต้องมีติดเครื่อง DiDi เป็นเหมือน Uber หรือ Grab เวอร์ชั่นจีน และเป็นวิธีเรียกรถที่ง่ายที่สุด ไม่ว่าคุณจะไปสถานที่ท่องเที่ยว, ไปสนามบิน หรือแค่นั่งกลับโรงแรมหลังจากเที่ยวมาทั้งวัน
แอปมีเวอร์ชันภาษาอังกฤษ และคุณสามารถพิมพ์จุดหมายปลายทางเป็นภาษาอังกฤษหรือจีนก็ได้ ซึ่งสะดวกมากเมื่อคุณไม่รู้ว่าจะออกเสียงชื่อสถานที่นั้นเป็นภาษาจีนกลางอย่างไร คุณยังสามารถเลือกรุ่นรถได้ตามงบประมาณ ตั้งแต่แท็กซี่ธรรมดาไปจนถึงรถพรีเมียม
การชำระเงินทำได้โดยตรงผ่านแอปด้วย WeChat Pay หรือ Alipay จึงไม่ต้องวุ่นวายกับเงินสดเลย หนึ่งในฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมคือ แชทในแอปพร้อมระบบแปลภาษาอัตโนมัติ ทำให้การสื่อสารกับคนขับเป็นเรื่องง่ายมาก โดยเฉพาะเวลาที่ต้องอธิบายจุดรับ-ส่ง
Klook Tip: หากคุณมีปัญหาในการสมัครบัญชี DiDi ไม่ต้องกังวล! เพราะ DiDi ถูกรวมอยู่ในแอป AliPay และ WeChat อยู่แล้ว คุณสามารถเรียกรถ DiDi ผ่านแอปเหล่านั้นได้เลย เราพบว่าวิธีนี้ง่ายกว่าการต้องโหลดแอปเพิ่มอีกแอป!
5) Baidu Maps (百度地图): ไม่มีหลงทางแน่นอน
Credit: Baidu Maps
ถ้ามีแอปหนึ่งที่ช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวไว้ได้นับครั้งไม่ถ้วนตอนเดินงงๆ อยู่บนถนนในจีน ก็คือ Baidu Maps (App Store | Google Play Store) นี่แหละ เนื่องจาก Google Maps ใช้งานในจีนได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ Baidu Maps จึงเป็นแอปนำทางอันดับหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะเดิน, ใช้รถสาธารณะ หรือเรียกรถ
Baidu Maps เป็นแอปที่ต้องเปิดใช้ทุกวันเมื่ออยู่ในเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง แอปนี้ให้ข้อมูลการเดินทางแบบเรียลไทม์, เส้นทางการเดินที่แม่นยำ, และตารางเวลารถบัสและรถไฟใต้ดินที่ละเอียดมาก ทำให้การเดินทางเหมือนคนท้องถิ่นเป็นเรื่องง่ายสุดๆ
ถึงแม้ Baidu Maps ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาจีน แต่ไม่ต้องกังวล! ไอคอนและหน้าตาของแอปเข้าใจง่ายมาก และคุณสามารถใช้แอปแปลภาษาอย่าง Pleco หรือฟีเจอร์กล้องของ Google Translate เพื่อช่วยในส่วนที่ยากๆ ได้ นอกจากนี้ เมื่อคุณปักหมุดปลายทางแล้ว แผนที่ก็จะนำทางคุณแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว ไม่ต้องเดาทางเองเลย
6) Klook: จองกิจกรรมและที่เที่ยวล่วงหน้า
Klook คือแพลตฟอร์มจองกิจกรรมและบริการด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีกิจกรรมและบริการสำหรับนักท่องเที่ยวให้เลือกหลากหลาย คุณสามารถจองทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับวันหยุดของคุณได้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว, โรงแรม, eSIM, รถรับส่งสนามบิน และดีลร้านอาหาร!
แอป Klook มีให้บริการถึง 15 ภาษา ซึ่งหมายความว่าคุณไม่ต้องกังวลเรื่องกำแพงภาษาเมื่อต้องจองกิจกรรมสำหรับทริปจีนของคุณ
Klook ยังมีตั๋วลดราคาสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง Shanghai Disneyland และ Universal Studios Beijing อีกด้วย คุณเข้าโดยไม่ต้องต่อคิว ได้ด้วยตั๋วอิเล็กทรอนิกส์บนมือถือ ที่จะส่งตรงไปยังแอปหรืออีเมลของคุณทันทีหลังชำระเงินสำเร็จ!
7) Xiaohongshu (小红书): ค้นพบ Hidden Gem แบบคนจีน
Credit: Xiaohongshu
หากคุณอยากสำรวจจีนนอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวตามไกด์บุ๊กทั่วไป Xiaohongshu (小红书) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Little Red Book" คือแอปที่เหมาะกับคุณที่สุด
แอปที่เอา Instagram มารวมกับ TripAdvisor แต่เน้นไปที่ไลฟ์สไตล์, การท่องเที่ยว และประสบการณ์ของคนท้องถิ่นมากกว่า คนจีนใช้ Xiaohongshu เพื่อแชร์รีวิวภาพถ่าย, เคล็ดลับ และคำแนะนำสำหรับทุกสิ่ง ตั้งแต่คาเฟ่เก๋ๆ, บาร์บนดาดฟ้า ไปจนถึงแหล่งช็อปปิ้งที่ไม่เหมือนใคร และสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก
Before and during my trip, I used Xiaohongshu to find cool places I wouldn’t have discovered on Google — like photo spots in Shanghai and restaurants in Beijing. The app is image-heavy, with an in-built translation feature, so you can get a good idea just by browsing photos and locations.
Plus, you can search by keywords and hashtags (in English or Chinese), making it super easy to tailor your search to what you're interested in — whether that's food, fashion, or nature.
ก่อนและระหว่างทริป สามารถใช้ Xiaohongshu เพื่อหาสถานที่เจ๋งๆ ที่อาจไม่เจอใน Google เช่น จุดถ่ายรูปสวยๆ ในเซี่ยงไฮ้และร้านอาหารเด็ดในปักกิ่ง แอปนี้เน้นรูปภาพเป็นหลัก และมีฟีเจอร์แปลภาษาในตัว ทำให้คุณพอจะเข้าใจได้ง่ายๆ แค่ดูจากรูปและโลเคชั่น
นอกจากนี้ คุณยังสามารถค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดและแฮชแท็ก (เป็นภาษาอังกฤษหรือจีนก็ได้) ทำให้ง่ายต่อการค้นหาสิ่งที่คุณสนใจ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร, แฟชั่น หรือธรรมชาติ
หลายคนพึ่งพา Xiaohongshu ในการวางแผนเส้นทางเที่ยวจางเจียเจี้ย ใครกำลังวางแผนไปเที่ยวจางเจียเจี้ยเพื่อดูภูเขาอวตารอยู่บ้าง? ลองดู ไกด์เที่ยวจางเจียเจี้ย 3 วัน ของเราได้เลย!
8) Alipay (支付宝): จ่ายเงินง่ายๆ แค่สแกน
Credit: Alipay
Alipay (App Store | Google Play Store) เป็นอีกหนึ่งแอปที่นักท่องเที่ยวต้องมีในจีน ทำให้การทำธุรกรรมแบบไร้เงินสดเป็นเรื่องง่ายดายทั่วประเทศ ด้วย Alipay นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถผูกบัตร Visa หรือ Mastercard ของตัวเองได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคารของจีน ทำให้การจ่ายเงินทุกอย่างตั้งแต่อาหารไปจนถึงค่าเดินทางสะดวกสบายมาก
ฟีเจอร์การชำระเงินด้วย QR Code ที่เรียบง่ายของแอป ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในจีน ช่วยลดความจำเป็นในการพกเงินสดหรือบัตร ทำให้คุณมีสมาธิกับการเที่ยวได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ Alipay มักจะมีส่วนลดและโปรโมชันพิเศษตามสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกด้วย แอปนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเดินทางของคุณ แต่ยังช่วยจัดระเบียบการใช้จ่ายด้วยบันทึกธุรกรรมแบบดิจิทัลอีกด้วย
Klook Tip: ทั้ง Alipay และ WeChat มีฟังก์ชันการชำระเงินที่คล้ายกันและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วประเทศจีน
9) ExpressVPN: เชื่อมต่อโลกโซเชียลไม่สะดุด
Credit: ExpressVPN
หากคุณเดินทางไปจีน สิ่งหนึ่งที่คุณจะรู้ได้ก็คือ เว็บไซต์และแอปยอดนิยมมากมาย เช่น Google, Instagram, WhatsApp, Facebook หรือแม้แต่ Gmail ถูกบล็อก! นี่คือจุดที่ ExpressVPN เข้ามามีบทบาท
สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ดาวน์โหลดและตั้งค่าแอป ก่อนเดินทางถึงประเทศจีน (สำคัญมาก เพราะเมื่อคุณไปถึงที่นั่นแล้ว เว็บไซต์ VPN จะถูกบล็อก!) เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว แค่แตะเพื่อเชื่อมต่อ คุณก็จะสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้เหมือนปกติเหมือนอยู่ที่บ้าน
หรือถ้าคุณอยากข้ามขั้นตอนการโหลด VPN ไปเลย eSIM สำหรับประเทศจีนจาก Klook จะช่วยให้คุณเข้าถึง Instagram, WhatsApp, Google และอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องใช้ VPN เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบาย แค่เสียบซิมก็เชื่อมต่อได้ทันที
10) Waygo: แปลเมนูและป้ายต่างๆ ได้ทันใจ
Credit: Waygo
นี่ไม่ใช่แอปแปลภาษาธรรมดาๆ! Waygo เป็นแอปแปลภาษาด้วยภาพที่ได้รับรางวัล ซึ่งช่วยให้คุณแปลข้อความภาษาจีนได้ทันทีโดยใช้กล้องโทรศัพท์ของคุณ แม้จะไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ตาม! นี่คือตัวช่วยชีวิตของจริงเวลาที่คุณพยายามอ่านเมนู, ป้ายบอกทาง หรือฉลากสินค้าที่ไม่มีคำแปลภาษาอังกฤษ
ข้อดีของ Waygo คือมันทำงานแบบออฟไลน์ได้ ดังนั้นแม้คุณจะไม่มีเน็ตมือถือหรือ Wi-Fi คุณก็ยังสามารถแปลภาษาได้ทุกที่ทุกเวลา แม้จะไม่เหมาะกับการแปลบทสนทนาเต็มๆ (แอปอย่าง Pleco หรือ Google Translate อาจทำได้ดีกว่า) แต่ Waygo ก็เหมาะสุดๆ สำหรับการแปลข้อความภาษาจีนสั้นๆ อย่างรวดเร็ว ช่วยให้คุณใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมืออาชีพ
แอปโปรดที่ต้องมีเมื่อไปเที่ยวจีน
หลังจากใช้เวลา 10 วันตะลุยเที่ยวในจีน นี่คือแอปที่ขาดไม่ได้เลยจริงๆ และอยากแนะนำให้โหลดติดเครื่องไว้เป็นอันดับแรกๆ:
- WeChat: แอปเดียวที่ครบเครื่องที่สุด ทั้งแชท จ่ายเงิน และเรียกรถแท็กซี่ ถ้าให้เลือกแอปเดียว ยังไงก็ต้องเป็น WeChat
- Dianping: ตัวช่วยชีวิตในการหาร้านอาหารเด็ดๆ คาเฟ่เก๋ๆ และร้านลับของคนท้องถิ่น เหมาะสุดๆ ถ้าอยากกินร้านที่คนจีนกินกันจริงๆ
- Baidu Maps: แอปที่ต้องมีสำหรับการเดินทาง เพราะ Google Maps ใช้งานในจีนได้ไม่ดีนัก ไม่ว่าจะหาวิธีขึ้นรถไฟใต้ดินหรือเดินไปที่ไหน Baidu Maps เอาอยู่แน่นอน
- Xiaohongshu (Little Red Book): เหมาะมากสำหรับการค้นหาสถานที่เจ๋งๆ คาเฟ่สุดชิค และกิจกรรมที่ไม่เหมือนใคร ลองนึกภาพ Instagram ผสมกับ TripAdvisor แต่สวยงามและทันสมัยสำหรับประเทศจีนมากกว่า
หากคุณกำลังจะไปเที่ยวจีนเร็วๆ นี้ การดาวน์โหลดแอปเหล่านี้ไว้ล่วงหน้าจะทำให้ทริปของคุณง่ายขึ้นเยอะมาก แค่มีแอปเหล่านี้ในมือถือ คุณก็พร้อมที่จะออกไปสำรวจได้อย่างมั่นใจ แม้จะพูดภาษาจีนไม่ได้ก็ตาม!
บทความท่องเที่ยวอื่นๆในจีน
Klook คืออะไร?
Klook คือแพลตฟอร์มชั้นนำของเอเชียสำหรับการจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจร
เราคัดสรรประสบการณ์คุณภาพ ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ทัวร์ท้องถิ่น การเดินทางภายในประเทศ ไปจนถึงที่พักหลากสไตล์ ครอบคลุมกว่า 3,400 จุดหมายทั่วโลก
รองรับการใช้งานใน 15 ภาษา และสามารถชำระเงินได้มากกว่า 40 สกุลเงิน ผ่านช่องทางชำระที่หลากหลาย ทำให้การจองกับ Klook สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
Klook ก่อตั้งในปี 2014 มีเป้าหมายเพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับนักเดินทางทุกคน ไม่ว่าคุณจะเที่ยวใกล้บ้านหรือออกเดินทางไกล Klook พร้อมพาคุณเชื่อมต่อกับโลกแห่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
🧡 ติดตาม Klook ได้ทาง
- Facebook: @klookth
- Instagram: @klooktravel_th
- TikTok: @klookth
- YouTube: @klookTH
- LINE Official Account: @klookth
