• ไปยังแอป
  • เลือกจุดหมายปลายทาง
  • ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวิตเซอร์แลนด์ 2025 เส้นทางโรแมนติกและไกด์เที่ยวครบ

    Klook Thailand
    Klook Thailand
    อัปเดตล่าสุด 27 ส.ค. 2025
    more
    ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวิตเซอร์แลนด์ 2025
    ฤดูใบไม้ร่วงของสวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่โรแมนติกที่สุดของปี ธรรมชาติค่อย ๆ เปลี่ยนโทนสีจากเขียวชอุ่มเป็นสีเหลืองทอง แดงสด และส้มอมทอง ทั่วทั้งภูเขา ทะเลสาบ และหมู่บ้านเล็ก ๆ ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันราวกับภาพวาด โดยเฉพาะในปี 2025 ที่หลายพื้นที่ของยุโรปคาดว่าจะมีอากาศเย็นลงเร็วกว่าปกติ ทำให้ใบไม้เปลี่ยนสีเข้มและคงอยู่ได้นานขึ้น
    ในช่วงเวลานี้ แสงแดดอ่อน ๆ ของฤดูใบไม้ร่วงจะทำให้ทิวทัศน์ของสวิสยิ่งงดงามขึ้น หลายเมืองมีบรรยากาศสงบ อบอุ่น และเป็นกันเอง เหมาะกับคู่รักที่อยากใช้เวลาสุดโรแมนติก หรือครอบครัวที่ต้องการทริปสบาย ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่นักถ่ายภาพทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นต่างเฝ้ารอ เพราะเป็นโอกาสทองในการเก็บภาพวิวภูเขา ทะเลสาบ และป่าไม้ที่เต็มไปด้วยเฉดสีหลากหลาย
    ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถไฟสายพาโนรามาชมวิวเทือกเขาแอลป์ เดินเล่นท่ามกลางไร่องุ่นริมทะเลสาบเจนีวา หรือสัมผัสเสน่ห์หมู่บ้านกลางหุบเขาที่โอบล้อมด้วยน้ำตก สวิตเซอร์แลนด์ในฤดูนี้มีมุมงามให้คุณเก็บภาพความทรงจำไม่รู้จบ และยังมีกิจกรรมให้เลือกมากมายตั้งแต่การเดินป่า การชิมอาหารท้องถิ่น ไปจนถึงการเข้าร่วมเทศกาลเก็บเกี่ยวสุดครึกครื้น
    ที่นั่งพักผ่อนในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีริมทะเลสาบมองเทรอซ์ในฤดูใบไม้ร่วง

    ทำไมต้องสวิตเซอร์แลนด์ในฤดูใบไม้ร่วง?

    ฤดูใบไม้ร่วงในสวิตเซอร์แลนด์ (กันยายน–ตุลาคม) ไม่เพียงแต่มีทิวทัศน์งดงาม แต่ยังมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แตกต่างจากทุกฤดูอื่น ๆ อย่างชัดเจน ช่วงเวลานี้คือการผสมผสานระหว่างความเงียบสงบ ความงดงามของธรรมชาติ และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อบอุ่น
    • อากาศเย็นสบาย: เฉลี่ย 8–15°C เหมาะสำหรับการเดินเที่ยว ถ่ายภาพ หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยไม่เหนื่อยล้าจากอากาศร้อนหรือหนาวจัด
    • นักท่องเที่ยวน้อย: เป็นช่วงโลว์ซีซัน ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับสถานที่ดัง ๆ โดยไม่ต้องเบียดเสียด และได้สัมผัสวิถีชีวิตคนท้องถิ่นมากขึ้น
    • ราคาที่พักและตั๋วถูกลง: เมื่อเทียบกับฤดูร้อนและฤดูหนาว ทำให้สามารถเลือกที่พักคุณภาพดีในราคาที่ประหยัดกว่า
    • เทศกาลท้องถิ่นและอาหารตามฤดูกาล: หลายเมืองจัดงานเก็บเกี่ยวไวน์ งานชิมไวน์ใหม่ เทศกาลชีส และเมนูพิเศษอย่าง game meat หรือเมนูฟักทอง
    • ทิวทัศน์หลากหลาย: คุณสามารถชมทั้งทะเลสาบสีฟ้าสดใส ไร่องุ่นสีทอง ป่าใบเมเปิ้ลและสน Larch สีเหลืองอร่าม ไปจนถึงยอดเขาที่เริ่มถูกปกคลุมด้วยหิมะ
    นอกจากนี้ ระบบขนส่งสาธารณะของสวิสยังครอบคลุมและตรงต่อเวลา ทำให้สามารถเดินทางข้ามภูมิภาคเพื่อชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างง่ายดายในทริปเดียว
    หุบเขาเอนกาดีนในฤดูใบไม้ร่วง ต้นสน Larch สีทองเรียงราย ริมทะเลสาบ

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีสวิตเซอร์แลนด์ 2025

    การวางแผนช่วงเวลาเดินทางถือเป็นหัวใจสำคัญในการชมความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีในสวิตเซอร์แลนด์ โดยทั่วไปแล้วช่วงที่เหมาะสมที่สุดจะอยู่ระหว่าง ปลายเดือนกันยายนถึงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเวลาที่ธรรมชาติค่อย ๆ แปรเปลี่ยนสีสันอย่างเต็มที่ และอากาศยังคงเย็นสบายกำลังดีสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
    หากแบ่งตามภูมิภาคและระดับความสูง ช่วงเวลาการเปลี่ยนสีของใบไม้จะต่างกันเล็กน้อย:
    • พื้นที่สูง (เช่น เทือกเขาแอลป์): ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีเร็วกว่า โดยช่วงต้นถึงกลางเดือนตุลาคมจะเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดในการชมวิว เช่น บริเวณ Zermatt, St. Moritz และ Jungfrau ซึ่งจะได้เห็นป่าสน Larch และเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีทองตัดกับหิมะที่เริ่มโปรยบนยอดเขา
    • พื้นที่ราบ / ริมทะเลสาบ / ไร่องุ่น: เช่น ริมทะเลสาบเจนีวา, วาเลส์, หรือเขต Lavaux จะมีใบไม้เปลี่ยนสีช้ากว่า โดยช่วงกลางถึงปลายเดือนตุลาคมคือเวลาที่ดีที่สุด ใบไม้จะมีสีสดและเข้มมากที่สุด ตัดกับผืนน้ำสีฟ้าและไร่องุ่นสีทองสวยงาม
    นอกจากตำแหน่งทางภูมิศาสตร์แล้ว ปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อช่วงเวลา ได้แก่ สภาพอากาศ อุณหภูมิ และปริมาณฝน ในปีนั้น ๆ ซึ่งอาจทำให้ใบไม้เปลี่ยนสีเร็วหรือช้ากว่าปกติได้
    ปี 2025 คาดว่าอากาศจะเย็นเร็วกว่าปกติ ทำให้สีใบไม้เข้มและอยู่ได้นานขึ้น เป็นปีทองของการชมใบไม้เปลี่ยนสีสวิสเลยทีเดียว!
    Klook Tip: ควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศและ Swiss foliage report ก่อนเดินทาง เพื่อให้ไปถึงจังหวะที่สีสวยที่สุด 🍂
    คำแนะนำ:
    • จองที่พักและตั๋วรถไฟล่วงหน้า หากต้องการเดินทางในเส้นทางรถไฟพาโนรามาที่เป็นที่นิยมในฤดูกาลนี้
    • เตรียมเสื้อผ้าแบบเลเยอร์ เพราะอุณหภูมิอาจแตกต่างกันมากระหว่างเช้าและเย็น รวมถึงระหว่างพื้นที่สูงและพื้นที่ราบ
    • พกกล้องหรือสมาร์ตโฟนที่ถ่ายภาพคุณภาพสูง เพื่อเก็บภาพความงามของสีสันใบไม้ในมุมต่าง ๆ
    ผ่อน 0% สูงสุด 4 เดือน

    ตารางเปรียบเทียบเส้นทางชมใบไม้เปลี่ยนสี

    เส้นทาง/ภูมิภาค

    ไฮไลท์

    ช่วงเวลาที่สวยที่สุด

    วิธีเดินทาง

    วลาเดินทาง

    GoldenPass Line

    นั่งรถไฟพาโนรามา ผ่านไร่องุ่น ทะเลสาบ และภูเขาหิมะ

    ต้น-กลาง ต.ค.

    รถไฟพาโนรามา ใช้ Swiss Travel Pass

    5-6 ชม.

    Engadin

    ป่าสน Larch สีทอง + วิวหุบเขาสูง

    ปลาย ก.ย.-กลาง ต.ค.

    รถไฟ Zurich-St. Moritz + กระเช้า

    3.5-4 ชม.

    Lavaux

    ไร่องุ่น UNESCO สีทอง + ชิมไวน์

    กลาง-ปลาย ต.ค.

    รถไฟ Geneva/Lausanne-Lavaux

    1-1.5 ชม.

    Ticino

    บรรยากาศเมดิเตอร์เรเนียน + ทะเลสาบสีฟ้า

    ต้น-กลาง ต.ค.

    รถไฟ Zurich/Milan-Lugano

    2 ชม.

    Grindelwald & Lauterbrunnen

    หุบเขาน้ำตก + หมู่บ้านชาเลต์

    กลาง-ปลาย ต.ค.

    รถไฟ Interlaken-Lauterbrunnen/Grindelwald

    20-40 นาที

    รายละเอียดเส้นทางและสถานที่โรแมนติกยอดนิยมสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี

    ในฤดูใบไม้ร่วง สวิตเซอร์แลนด์มีเส้นทางและจุดหมายที่เต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกและความงดงามของธรรมชาติ ตั้งแต่วิวเทือกเขาสูง ป่าไม้สีทอง ทะเลสาบใสราวกระจก ไปจนถึงหมู่บ้านโบราณที่เงียบสงบ เหมาะกับทั้งคู่รัก ครอบครัว และนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีอย่างเต็มที่ แต่ละเส้นทางมีเอกลักษณ์และกิจกรรมเฉพาะตัวที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
    รถไฟสีแดง GoldenPass วิ่งผ่านภูเขาและป่าสีสันฤดูใบไม้ร่วง

    GoldenPass Line: การเดินทางสุดหรูบนเส้นทางสายโรแมนติก

    ทำไมต้องนั่งรถไฟ GoldenPass Line?

    รถไฟสาย GoldenPass Line ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟที่โรแมนติกและงดงามที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ เชื่อมต่อเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่าง Montreux - Gstaad - Interlaken - Lucerne ตลอดเส้นทางกว่า 191 กิโลเมตร คุณจะได้สัมผัสวิวที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ไร่องุ่นริมทะเลสาบเจนีวา หมู่บ้านชาเลต์แสนสวย ไปจนถึงยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาว
    ด้วยการออกแบบตู้โดยสารพาโนรามา (Panoramic Train) ที่มีหน้าต่างขนาดใหญ่ ทำให้สามารถชมวิวได้เต็มตา เหมาะสำหรับทั้งคู่รักที่มองหาบรรยากาศโรแมนติก หรือครอบครัวที่อยากสัมผัสธรรมชาติของสวิตเซอร์แลนด์แบบครบมิติ
    GoldenPass Line ตู้โดยสารพาโนรามา

    ไฮไลท์เส้นทาง GoldenPass Line

    1. Montreux - เมืองริมทะเลสาบสุดคลาสสิก

    • จุดเริ่มต้นยอดนิยมของ GoldenPass Line
    • เมืองริมทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ที่มีบรรยากาศโรแมนติก โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงที่ไร่องุ่นกลายเป็นสีทอง
    • ไฮไลท์: เดินเล่นริมทะเลสาบ ชม Chillon Castle และแวะจิบไวน์ท้องถิ่น

    2. Gstaad - หมู่บ้านชาเลต์และแหล่งช้อปปิ้งหรู

    • หมู่บ้านรีสอร์ทชื่อดัง เต็มไปด้วยบ้านไม้ชาเลต์บรรยากาศสวิสแท้
    • ถนนคนเดินที่รายล้อมด้วยร้านบูติกแบรนด์เนม ร้านอาหาร และคาเฟ่สไตล์สวิส
    • ไฮไลท์: แวะถ่ายภาพวิวภูเขาและทุ่งหญ้าที่โอบล้อมเมือง

    3. Interlaken - ดินแดนแห่งทะเลสาบคู่

    • เมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Thun และ Brienz
    • จุดศูนย์กลางในการเดินทางไปยัง Jungfrau Region
    • ไฮไลท์: ล่องเรือชมวิวทะเลสาบในฤดูใบไม้ร่วง เห็นป่าไม้สีทองสะท้อนน้ำ

    4. Lucerne - เมืองสุดโรแมนติกปิดท้ายการเดินทาง

    • เมืองริมทะเลสาบ Lucerne ที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขา
    • ไฮไลท์: สะพานไม้เก่าแก่ Kapellbrücke, ย่านเมืองเก่าบรรยากาศยุโรปคลาสสิก และอาหารสวิสแท้ ๆ
    Interlaken ดินแดนแห่งทะเลสาบคู่

    ประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดบน GoldenPass Line

    • ชมวิวจากตู้พาโนรามา: หน้าต่างขนาดใหญ่ทำให้เห็นวิวชัดเจนตลอดเส้นทาง
    • แวะเที่ยวเมืองระหว่างทาง: Montreux, Gstaad และ Interlaken ต่างก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว
    • ล่องเรือในทะเลสาบ Thun หรือ Brienz: สัมผัสธรรมชาติในอีกมุมมองหนึ่ง
    • ช็อกโกแลตร้อนและไวน์ท้องถิ่น: ปิดท้ายวันด้วยรสชาติแบบสวิสแท้

    การเดินทางและตั๋ว

    • สามารถเริ่มต้นได้จาก Montreux หรือ Lucerne
    • ใช้เวลาเดินทางต่อเนื่องประมาณ 5-6 ชั่วโมง (รวมการเปลี่ยนขบวนรถไฟ)
    • Swiss Travel Pass ครอบคลุมเส้นทาง GoldenPass Line ทั้งหมด ทำให้เดินทางได้สะดวกและคุ้มค่า
    St. Moritz

    ภูมิภาค Engadin (St. Moritz, Pontresina, Sils Fex): มนต์เสน่ห์แห่งสน Larch สีทอง

    ทำไม Engadin ถึงพิเศษในฤดูใบไม้ร่วง?

    หุบเขา Engadin ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี โดยเฉพาะป่าสน Larch ที่ในช่วงปลายกันยายนถึงกลางตุลาคม จะเปลี่ยนจากสีเขียวเข้มเป็น ทองอร่าม ตัดกับภูเขาหินสูงชันและหิมะที่โปรยบนยอดเขา ทำให้ทิวทัศน์ที่นี่งดงามและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ใด
    ด้วยความสูงของพื้นที่ (มากกว่า 1,800 เมตร) ทำให้สีสันของใบสนสดชัดและอยู่ได้นานกว่าหลายภูมิภาคของสวิตเซอร์แลนด์ ส่งผลให้ Engadin Valley กลายเป็นสวรรค์ของนักถ่ายภาพและนักเดินทางที่ชอบธรรมชาติ
    เมืองเซนต์โมริตซ์ในฤดูใบไม้ร่วง พร้อมทะเลสาบและใบไม้สีทอง

    ไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยวใน Engadin

    1. St. Moritz - เมืองตากอากาศระดับโลก

    • เมืองรีสอร์ทสุดหรูที่มีชื่อเสียงด้านกีฬาและไลฟ์สไตล์
    • ไฮไลท์ฤดูใบไม้ร่วง: เดินเล่นรอบทะเลสาบ St. Moritz ที่สะท้อนภาพใบสนสีทอง

    2. Pontresina - เมืองเล็กในอ้อมกอดภูเขา

    • จุดพักผ่อนที่เงียบสงบกว่า St. Moritz
    • ไฮไลท์: เส้นทางเดินป่าไปยัง Val Roseg ชมทุ่งหญ้าและป่าสนเปลี่ยนสี

    3. Sils Fex - ธรรมชาติและความสงบ

    • มีทะเลสาบ Sils Lake และ Silvaplana Lake ที่สะท้อนภาพภูเขาและใบไม้สีทองอย่างงดงาม
    • ไฮไลท์: บรรยากาศหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เหมาะกับการเดินเล่นช้า ๆ
    Muottas Muragl

    ประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด

    • เดินป่ารอบทะเลสาบ Sils และ Silvaplana: เส้นทางราบง่าย เหมาะทั้งนักเดินป่าและครอบครัว
    • ขึ้นกระเช้าไปยัง Muottas Muragl: จุดชมวิวพาโนรามาที่สามารถเห็นหุบเขา Engadin ทั้งเส้น
    • ปั่นจักรยานในอากาศสดชื่น: ทางจักรยานผ่านทุ่งหญ้าและป่าสีทอง
    • อาหารตามฤดูกาล: ลองชิม ฟองดูว์ (Fondue), โรสตี (Rösti) และเมนูเห็ดป่าในฤดูใบไม้ร่วง
    • กิจกรรมกลางแจ้ง: พายเรือคายัค ขี่ม้าชมวิว หรือแม้แต่เดินป่าพร้อมไกด์ถ่ายภาพ

    การเดินทาง

    • จาก Zurich หรือ Chur: นั่งรถไฟสู่ St. Moritz (ระยะทางประมาณ 210 กม.) ใช้เวลาประมาณ 3.5–4 ชั่วโมง
    • จากนั้นสามารถต่อด้วยรถบัสท้องถิ่นหรือกระเช้าไฟฟ้าไปยังจุดชมวิวและหมู่บ้านต่าง ๆ ใน Engadin ได้สะดวก
    ไร่องุ่น Lavaux สีเหลืองทองริมทะเลสาบเจนีวา

    ไร่องุ่น Lavaux (UNESCO World Heritage Site): ไวน์เลิศรสกับวิวริมทะเลสาบ

    เสน่ห์ของ Lavaux ในฤดูใบไม้ร่วง

    ไร่องุ่นขั้นบันได Lavaux ริมทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ถือเป็นหนึ่งในภูมิทัศน์ที่งดงามที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดย UNESCO ไฮไลท์อยู่ที่ไร่องุ่นที่ทอดยาวกว่า 30 กิโลเมตร ตั้งแต่ Lausanne จนถึง Chillon Castle
    เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) ไร่องุ่นทั้งแนวจะเปลี่ยนเป็นสีทอง แดง และส้ม ตัดกับผืนน้ำสีฟ้าใสของทะเลสาบเจนีวา และฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ บรรยากาศนี้กลายเป็นภาพจำที่ทั้งนักท่องเที่ยวและช่างภาพต่างต้องการมาเก็บไว้ในความทรงจำ
    เดินเล่นท่ามกลางไร่องุ่น Lavaux

    ไฮไลท์ประสบการณ์ใน Lavaux

    1. เดินเล่นท่ามกลางไร่องุ่น

    • เส้นทางเดินที่ตัดผ่านไร่องุ่นขั้นบันได เหมาะกับการสูดอากาศบริสุทธิ์และชมวิวแบบพาโนรามา
    • จุดชมวิวหลายแห่งมีม้านั่งให้หยุดพักพร้อมมองเห็นทะเลสาบและภูเขา

    2. ชิมไวน์ท้องถิ่น

    • Lavaux มีชื่อเสียงด้าน ไวน์ขาวพันธุ์ Chasselas
    • สามารถแวะ โรงบ่มไวน์เล็ก ๆ ในหมู่บ้าน Rivaz หรือ Epesses ลองชิมไวน์สดใหม่และเรียนรู้เรื่องราวการผลิตไวน์จากผู้ผลิตท้องถิ่น

    3. ถ่ายภาพมุมกว้าง

    • จุดชมวิวบนเนินเขามอบมุมมองที่สามารถมองเห็นไร่องุ่นขั้นบันไดต่อเนื่องลงสู่ทะเลสาบ
    • ฤดูใบไม้ร่วงจะยิ่งเพิ่มสีสันให้ภาพสวยเหมือนโปสการ์ด

    4. นั่งรถไฟเล็ก Wine Train

    • รถไฟท้องถิ่นสายพิเศษที่วิ่งผ่านไร่องุ่น เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวไปพร้อม ๆ กับการชิมไวน์

    5. ล่องเรือในทะเลสาบเจนีวา

    • หากมีเวลา การล่องเรือจากเมือง Lausanne หรือ Montreux จะทำให้ได้เห็นไร่องุ่น Lavaux จากมุมมองใหม่ที่สวยไม่แพ้กัน
    ชิมไวน์ท้องถิ่น Lavaux

    การเดินทาง

    • จาก Geneva หรือ Lausanne สามารถนั่งรถไฟไปยังสถานี Rivaz หรือ Cully ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของ Lavaux ได้สะดวก
    • ระยะทางจาก Geneva ไป Lavaux ประมาณ 95 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 1.5 ชั่วโมง

    Ticino (ภาคใต้ของสวิตเซอร์แลนด์): ใบไม้เปลี่ยนสีในบรรยากาศเมดิเตอร์เรเนียน

    เสน่ห์ของ Ticino ในฤดูใบไม้ร่วง

    Ticino คือภูมิภาคที่แตกต่างจากสวิตเซอร์แลนด์ส่วนอื่นอย่างชัดเจน ด้วยกลิ่นอายเมดิเตอร์เรเนียนผสมผสานกับเสน่ห์แบบอิตาเลียน ทั้งภาษา อาหาร และบรรยากาศเมืองริมทะเลสาบ ฤดูใบไม้ร่วงที่นี่เต็มไปด้วยทิวทัศน์สีเหลืองและส้มของใบไม้ที่ปกคลุมภูเขาและหมู่บ้าน ตัดกับน้ำใสของ Lago Maggiore และ Lago di Lugano โดยเฉพาะช่วงบ่ายที่แสงแดดอบอุ่นสะท้อนผืนน้ำ กลายเป็นภาพโรแมนติกที่น่าจดจำ
    เมืองริมทะเลสาบ Lago Maggiore

    ไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยวใน Ticino

    1. Locarno - เมืองริมทะเลสาบ Lago Maggiore

    • เดินเล่นริมทะเลสาบและเพลิดเพลินกับคาเฟ่บรรยากาศสบาย ๆ
    • ไฮไลท์: ย่าน Piazza Grande ที่มีชีวิตชีวาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

    2. Lugano - เมืองศูนย์กลางแห่ง Ticino

    • เมืองใหญ่ที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับความเป็นอิตาลี
    • ไฮไลท์: เดินเล่นในสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ช้อปปิ้งใน Via Nassa และชิมเจลาโต้

    3. Valle Verzasca - ธรรมชาติแสนบริสุทธิ์

    • หุบเขาที่ขึ้นชื่อเรื่อง แม่น้ำสีเขียวมรกต
    • ไฮไลท์: สะพานหิน Ponte dei Salti ที่มีทิวทัศน์งดงามเป็นเอกลักษณ์

    4. Cardada - จุดชมวิวพาโนรามา

    • นั่งกระเช้าขึ้นไปยัง Cardada เพื่อชมวิวทะเลสาบและภูเขาที่เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง
    • ไฮไลท์: สะพานชมวิวที่ยื่นออกไปเหนือหุบเขา มอบมุมถ่ายภาพที่สวยไม่เหมือนใคร
    Valle Verzasca

    ประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด

    • ล่องเรือใน Lago Maggiore หรือ Lago di Lugano: ชมใบไม้เปลี่ยนสีริมฝั่งทะเลสาบในบรรยากาศโรแมนติก
    • ชิมอาหารท้องถิ่น: ลองเมนูที่ผสมผสานความเป็นเมดิเตอร์เรเนียนกับสวิส เช่น พาสต้า ริซอตโต และไวน์ท้องถิ่น
    • เดินตลาดท้องถิ่น: สัมผัสวิถีชีวิตแบบชาวเมือง Ticino และหาของฝากโฮมเมด

    การเดินทาง

    • สามารถเดินทางโดยรถไฟจาก Zurich หรือ Milan มายัง Lugano หรือ Locarno ได้โดยตรง
    • ระยะทางจาก Zurich ไป Lugano ประมาณ 206 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 2 ชั่วโมง

    Grindelwald & Lauterbrunnen Valley: หุบเขาแห่งน้ำตกและสีสันใบไม้

    เสน่ห์ของหุบเขา Jungfrau Region ในฤดูใบไม้ร่วง

    Grindelwald และ Lauterbrunnen Valley คือหัวใจของ Jungfrau Region และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหุบเขาที่งดงามที่สุดในยุโรป ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน–ตุลาคม) ที่นี่จะเปลี่ยนเป็นโลกแห่งสีสัน ป่าไม้แปรเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม และแดงตัดกับยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาว เสียงน้ำตกที่ดังก้องและหมอกยามเช้าเติมเต็มบรรยากาศโรแมนติกและเงียบสงบ เหมาะสำหรับทั้งคู่รักและนักเดินทางสายธรรมชาติ
    Grindelwald & Lauterbrunnen Valley

    ไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยว

    1. Grindelwald - ประตูสู่ยอดเขา Eiger

    • เมืองรีสอร์ทท่ามกลางเทือกเขา
    • ไฮไลท์: นั่งกระเช้าขึ้น First เพื่อเดิน Skywalk Cliff Walk by Tissot ชมวิวพาโนรามาของ Eiger, Mönch และ Jungfrau

    2. Lauterbrunnen Valley - หุบเขาแห่งน้ำตก

    • หุบเขาที่มีน้ำตกกว่า 70 สาย ไหลจากหน้าผาสูงลงสู่หุบเขา
    • ไฮไลท์: เดินเล่นในหมู่บ้านเล็ก ๆ บ้านไม้ดั้งเดิม และสวนดอกไม้

    3. Trümmelbach Falls - น้ำตกใต้ดินในถ้ำหิน

    • น้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขา ไหลแรงและดังก้องจากธารน้ำแข็ง Jungfrau
    • ไฮไลท์: เดินชมผ่านอุโมงค์และสะพานไม้ สัมผัสพลังของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

    ประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด

    • เดินเล่นใน Lauterbrunnen พร้อมถ่ายภาพหมู่บ้านกับฉากหลังเป็นน้ำตก
    • ชมพระอาทิตย์ตกที่ Grindelwald First และสัมผัสอากาศบริสุทธิ์บนสกายวอล์ก
    • แวะชิมกาแฟหรือขนมในคาเฟ่เล็ก ๆ ริมทาง ท่ามกลางบรรยากาศหุบเขา
    • หากมีเวลา สามารถต่อการเดินทางสู่ Wengen หรือ Mürren หมู่บ้านบนเขาที่มองเห็นวิว Jungfrau Region แบบเต็มตา
    Grindelwald First

    การเดินทาง

    • จาก Interlaken สามารถนั่งรถไฟไปยัง Grindelwald หรือ Lauterbrunnen ได้สะดวก
    • จากนั้นใช้รถบัสหรือกระเช้าไฟฟ้าเพื่อขึ้นสู่จุดชมวิวต่าง ๆ
    • ระยะทางจาก Interlaken ไป Lauterbrunnen ประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 20 นาที

    กิจกรรมห้ามพลาดสำหรับทริปชมใบไม้เปลี่ยนสี

    การถ่ายภาพใบไม้เปลี่ยนสี

    • เลือกช่วง เช้าตรู่หรือบ่ายแก่ (Golden Hour) เพื่อให้ได้แสงอบอุ่น สีใบไม้ดูอิ่มและมีมิติ
    • พก ขาตั้งกล้อง สำหรับภาพน้ำตกหรือหมอก ใช้เลนส์มุมกว้างเก็บวิว และเลนส์ซูมโฟกัสใบไม้หรือยอดเขา
    • เพิ่มองค์ประกอบในภาพ เช่น สะพานไม้ บ้านชาเลต์ เรือในทะเลสาบ เพื่อทำให้ภาพดูน่าสนใจยิ่งขึ้น

    การเดินป่า (Hiking)

    • เส้นทางง่าย เหมาะกับทุกวัย:
      • รอบ ทะเลสาบ Sils
      • เส้นทาง Riffelalp – Riffelberg ใน Zermatt
      • Mürren - Gimmelwald ที่เต็มไปด้วยวิวหมู่บ้านและป่าสีทอง
    • เส้นทางสำหรับนักเดินป่าที่มีประสบการณ์:
      • Panorama Trail ใน Grindelwald
      • First - Bachalpsee ชมทะเลสาบกลางภูเขาที่โอบล้อมด้วยสีสันฤดูใบไม้ร่วง

    การลิ้มลองอาหารท้องถิ่น

    • ของหวานและเครื่องดื่ม: ช็อกโกแลตสวิสคุณภาพสูง ไวน์จากไร่องุ่น Lavaux ที่เพิ่งเก็บเกี่ยว
    • ชีสชื่อดัง: Gruyère, Emmental พร้อมเมนูชีสฟองดูว์และโรสตี
    • อาหารตามฤดูกาล: เนื้อกวาง เกมนกกระทา ฟักทอง และเกาลัดคั่ว
    • ขนมพื้นเมือง: Nusstorte (พายถั่ววอลนัต) จาก Graubünden
    Nusstorte (พายถั่ววอลนัต)

    เคล็ดลับการเตรียมตัว

    เสื้อผ้า

    • แต่งแบบ เลเยอร์ (หลายชั้น) เพื่อปรับอุณหภูมิได้ง่าย
    • ควรมี เสื้อกันหนาวน้ำหนักเบา เสื้อกันลม และเสื้อกันฝน เพราะภูมิอากาศบนภูเขาเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

    รองเท้า

    • เลือก รองเท้าเดินที่สบาย กันน้ำ และพื้นกันลื่น เพื่อรองรับทั้งการเดินป่าและการเดินในเมือง

    จองล่วงหน้า

    • จอง ที่พักล่วงหน้า 2-3 เดือน โดยเฉพาะเมืองยอดนิยม
    • ซื้อตั๋วรถไฟสายพาโนรามา เช่น Glacier Express, Bernina Express, GoldenPass Line ล่วงหน้า เพื่อได้ที่นั่งวิวดีที่สุด

    Swiss Travel Pass

    • แนะนำให้ซื้อสำหรับการเดินทางด้วย รถไฟ รถบัส และเรือ
    • ครอบคลุมเส้นทางหลักทั้งหมด รวมถึงจุดหมายชมใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้สะดวกและคุ้มค่าในทริปเดียว

    📌 FAQ คำถามที่พบบ่อย: ใบไม้เปลี่ยนสีสวิตเซอร์แลนด์ 2025

    Q: ใบไม้เปลี่ยนสีที่สวิตเซอร์แลนด์เริ่มช่วงไหน?
    A: ปลายกันยายนถึงปลายตุลาคมเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด บางพื้นที่สูง เช่น Engadin จะเปลี่ยนสีเร็วกว่า ส่วนเมืองริมทะเลสาบจะช้ากว่าเล็กน้อย

    Q: ใบไม้เปลี่ยนสีสวิตเซอร์แลนด์สวยที่สุดที่ไหน?
    A: จุดยอดนิยมคือ GoldenPass Line, Engadin (St. Moritz, Sils Fex), Lavaux Vineyards, Ticino, และ Grindelwald & Lauterbrunnen Valley

    Q: ควรไปสวิตเซอร์แลนด์ช่วงไหนดีระหว่างใบไม้เปลี่ยนสีกับหิมะ?
    A: หากชอบบรรยากาศโรแมนติก สดใส และผู้คนไม่หนาแน่น แนะนำฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-ต.ค.) แต่ถ้าอยากเล่นสกีและสัมผัสหิมะ ควรไปช่วงฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ.)

    Q: ต้องใช้บัตรโดยสารอะไรคุ้มที่สุด?
    A: แนะนำ Swiss Travel Pass ครอบคลุมรถไฟ รถบัส และเรือทั่วประเทศ รวมถึงรถไฟชมวิวชื่อดังหลายสาย ทำให้สะดวกและประหยัดกว่า

    Q: รถไฟสายไหนเหมาะสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสี?
    A: รถไฟสายพาโนรามาที่แนะนำ ได้แก่ GoldenPass Line, Glacier Express, Bernina Express และ Voralpen Express

    Q: ต้องใช้เวลากี่วันสำหรับทริปใบไม้เปลี่ยนสีสวิตเซอร์แลนด์?
    A: อย่างน้อย 7-10 วัน เพื่อเก็บจุดสำคัญหลายภูมิภาค หากมีเวลาน้อย แนะนำเลือกโฟกัสเพียง 2-3 เมืองใกล้กัน เช่น Lucerne-Interlaken-Grindelwald

    Q: มีกิจกรรมอะไรบ้างนอกจากชมวิว? A: สามารถเดินป่า (Hiking), ล่องเรือในทะเลสาบ, ถ่ายภาพ Golden Hour, ชิมไวน์ Lavaux, ลองอาหารตามฤดูกาล และเข้าร่วมเทศกาลท้องถิ่น

    Q: ควรเตรียมเสื้อผ้าแบบไหนไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสี?
    A: แต่งเลเยอร์หลายชั้นเพื่อปรับตามอากาศ ควรมีเสื้อกันหนาวเบา เสื้อกันลม เสื้อกันฝน และรองเท้าเดินกันน้ำ พื้นกันลื่น

    Q: ใบไม้เปลี่ยนสีในสวิตเซอร์แลนด์เหมือนญี่ปุ่นหรือต่างกันอย่างไร?
    A: สวิตเซอร์แลนด์โดดเด่นที่ วิวภูเขา น้ำตก และทะเลสาบ ผสมกับใบไม้สีทองแดงตัดกับหิมะ ต่างจากญี่ปุ่นที่เน้นวัด ศาลเจ้า และสวนญี่ปุ่น

    Q: การเดินป่าช่วงใบไม้เปลี่ยนสีปลอดภัยไหม?
    A: ปลอดภัยหากเลือกเส้นทางง่าย เช่น รอบทะเลสาบ Sils, Riffelalp–Riffelberg, หรือ Mürren–Gimmelwald และควรเตรียมรองเท้าและเสื้อผ้าเหมาะสม
    Ngày 5: Jungfraujoch - Chạm Tới Nóc Nhà Châu Âu

    สรุป: ทริปใบไม้เปลี่ยนสีในสวิตเซอร์แลนด์ 2025

    การเดินทางไปชมใบไม้เปลี่ยนสีในสวิตเซอร์แลนด์ปี 2025 คือโอกาสพิเศษที่จะได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติในช่วงที่ประเทศทั้งประเทศเปลี่ยนโฉมเป็นภาพวาดสีทอง ส้ม แดง และเหลืองตัดกับยอดเขาหิมะขาวและทะเลสาบสีฟ้าใส
    ไม่ว่าจะเลือกนั่งรถไฟพาโนรามา GoldenPass Line ที่พาคุณผ่านภูมิประเทศหลายรูปแบบ, เดินทางสู่ Engadin เพื่อชมป่าสน Larch สีทอง, แวะชิมไวน์ที่ ไร่องุ่น Lavaux ริมทะเลสาบเจนีวา, สัมผัสกลิ่นอายเมดิเตอร์เรเนียนใน Ticino, หรือหลงเสน่ห์บรรยากาศภูเขา น้ำตก และหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ Grindelwald และ Lauterbrunnen ทุกเส้นทางต่างมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ยากจะลืม
    นอกจากการชมวิวแล้ว คุณยังสามารถทำกิจกรรมที่จะเติมเต็มทริปให้น่าจดจำยิ่งขึ้น เช่น ถ่ายภาพในช่วง Golden Hour ที่แสงอบอุ่นตกกระทบใบไม้, เดินป่าในเส้นทางเข้าถึงง่ายพร้อมวิวเทือกเขา, ชิมอาหารและไวน์ตามฤดูกาล หรือเข้าร่วมเทศกาลท้องถิ่นเล็ก ๆ ที่อบอุ่น การเตรียมตัวที่ดี ทั้งการแต่งตัวแบบเลเยอร์ รองเท้าเดินที่เหมาะสม การจองที่พักและรถไฟล่วงหน้า รวมถึงการใช้ Swiss Travel Pass จะทำให้การเดินทางสะดวกสบายและคุ้มค่ามากขึ้น
    ฤดูใบไม้ร่วงในสวิตเซอร์แลนด์จึงไม่ใช่เพียงการเดินทางเพื่อชมความงามของธรรมชาติ แต่ยังเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ผสมผสานธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนไว้อย่างลงตัว ไม่ว่าคุณจะชอบความเงียบสงบท่ามกลางภูเขา หรืออยากสัมผัสบรรยากาศหมู่บ้านและเมืองที่มีเอกลักษณ์ ฤดูนี้สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด และจะมอบความทรงจำอันอบอุ่นที่จะอยู่กับคุณไปอีกนาน 🍂🇨🇭✨

    บทความเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มเติม

    3_แผนการเดินทางสวิตเซอร์แลนด์
    บริการการเดินทาง กิจกรรมที่น่าสนใจ
    แผนการเดินทางสวิตเซอร์แลนด์ 14 วันโดยรถไฟ🚊| ค้นพบเมืองสำคัญ ๆ ในสวิตเซอร์แลนด์กับ SBB
    สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร เมื่อคุณเดินทางด้วยรถไฟ Swiss Federal Railways (SBB) ชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาแอลป์ ทะเลสาบใสดุจคริสตัล และเมืองที่น่าประทับใจ ด้วยเครือข่ายเส้นทางรถไฟที่กว้างขวางทั่วสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้คุณสามารถเดินทางได้ตามใจชอบ คุณจะมีโอกาสเริ่มต้นทัวร์รถไฟที่น่าจดจำ: จากทัวร์รถไฟ Grand Train อันโด่งดังของสวิตเซอร์แลนด์ (พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าทึ่ง) หรือกำหนดการเดินทางของตัวเองครอบคลุมไฮไลท์ทั้งหมด โดยเราจะช่วยคุณวางแผนทุกขั้นตอน ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางไหน เพื่อการสร้างทริปที่ไม่เหมือนใครในสวิตเซอร์แลนด์!
    ลดเพิ่ม5%เมื่อจองผ่านแอปครั้งแรก

    Klook คืออะไร?

    Klook คือแพลตฟอร์มชั้นนำของเอเชียสำหรับการจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจร เราคัดสรรประสบการณ์คุณภาพ ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ทัวร์ท้องถิ่น การเดินทางภายในประเทศ ไปจนถึงที่พักหลากสไตล์ ครอบคลุมกว่า 3,400 จุดหมายทั่วโลก
    รองรับการใช้งานใน 15 ภาษา และสามารถชำระเงินได้มากกว่า 40 สกุลเงิน ผ่านช่องทางชำระที่หลากหลาย ทำให้การจองกับ Klook สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
    Klook ก่อตั้งในปี 2014 มีเป้าหมายเพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับนักเดินทางทุกคน ไม่ว่าคุณจะเที่ยวใกล้บ้านหรือออกเดินทางไกล Klook พร้อมพาคุณเชื่อมต่อกับโลกแห่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา

    🧡 ติดตาม Klook ได้ทาง

    more