7 ที่เที่ยวจีนฤดูร้อน ที่คนรักธรรมชาติต้องหลงรัก

ฤดูร้อนของประเทศจีน (ช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม) เป็นช่วงเวลาที่ธรรมชาติสวยงามและมีชีวิตชีวาที่สุดของปี ภูเขาเขียวขจี ทะเลสาบน้ำใสสะท้อนท้องฟ้า และทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยสีสันจากดอกไม้ป่า ล้วนทำให้การท่องเที่ยวในฤดูนี้พิเศษไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางสายผจญภัยที่ชอบปีนเขา หรือสายชิลล์ที่แค่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางวิวธรรมชาติ จีนก็มีตัวเลือกให้ครบทุกสไตล์

ยิ่งไปกว่านั้น หลายเมืองในจีนยังให้บรรยากาศคล้ายยุโรป ทั้งภูมิประเทศที่สวยงาม อากาศเย็นสบาย และหมู่บ้านน่ารักๆ ที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่นแบบจีนแท้ๆ ผสมผสานกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจสถานที่ธรรมชาติยอดฮิตในหน้าร้อนของจีน ตั้งแต่ภูเขาสูงเสียดฟ้าไปจนถึงทุ่งลาเวนเดอร์หอมสดชื่น พร้อมเคล็ดลับการวางแผนทริปให้คุ้ม สนุก และได้ภาพสวยกลับบ้านแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลสาบ หรือทุ่งลาเวนเดอร์ ที่ทั้งสวยงามและเหมาะแก่การเดินทาง พร้อมเคล็ดลับการวางแผนทริปให้คุ้มค่าและสนุกทุกก้าว

ภูเขาสี่ดรุณีตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน โดดเด่นด้วยยอดเขาสูงทั้ง 4 ลูกที่มีความสูงตั้งแต่ประมาณ 5,000 เมตรขึ้นไป ได้รับสมญานามว่า "เทือกเขาแห่งเจ้าหญิงทั้งสี่" ตามตำนานพื้นบ้านทิเบตที่กล่าวถึงหญิงสาวผู้พิทักษ์ภูผาแห่งนี้ ที่นี่เหมาะมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะมีเส้นทางเดินป่าหลากหลายระดับ ตั้งแต่ทางเรียบสำหรับผู้เริ่มต้น ไปจนถึงเส้นทางปีนเขาท้าทายที่ต้องใช้ไกด์มืออาชีพ

บริเวณรอบ ๆ ยังมีทุ่งหญ้าอัลไพน์ น้ำตก ธารน้ำแข็ง และหมู่บ้านชนเผ่าทิเบตให้ได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นควบคู่กับการชมธรรมชาติ ด้วยวิวเทือกเขาสลับซับซ้อนที่เปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่ท้องฟ้าเปิด ทุ่งหญ้าเขียวสด และอากาศบริสุทธิ์ ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายที่ทั้งสายผจญภัยและสายถ่ายรูปไม่ควรพลาด

อุทยานจิ่วจ้ายโกวถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน ที่นี่จะเต็มไปด้วยสีสันจากทะเลสาบหลากสีสัน เช่น ทะเลสาบห้าดอกไม้ที่ใสจนมองเห็นพื้นด้านล่าง น้ำตกหลายชั้นที่ไหลลดหลั่นท่ามกลางแนวป่าสน รวมถึงพรรณไม้สีเขียวที่ปกคลุมทั่วบริเวณ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน ทำให้การเดินชมธรรมชาตินั้นทั้งสดชื่นและผ่อนคลาย

นักท่องเที่ยวสามารถเดินเลาะเส้นทาง boardwalk ที่ทางอุทยานจัดไว้ ซึ่งจะพาไปสัมผัสกับระบบนิเวศอันหลากหลาย ทั้งพืชพรรณเฉพาะถิ่น และสัตว์ป่าหายากบางชนิด หากโชคดีอาจพบเห็นสัตว์ป่าอย่างแพนด้าแดงหรือกวางทิเบตด้วยตาเปล่า บรรยากาศโดยรวมของจิ่วจ้ายโกวในหน้าร้อนจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่หลงใหลในธรรมชาติและต้องการเก็บภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยราวกับโปสการ์ด

ทุ่งหญ้าหูลุนเป่ยเออร์ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน เป็นหนึ่งในทุ่งหญ้าที่ใหญ่และสวยที่สุดของประเทศจีน โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน พื้นที่กว้างไกลสุดสายตาจะปกคลุมไปด้วยหญ้าเขียวสดและดอกไม้ป่านานาชนิดที่ผลิบานอย่างพร้อมเพรียง ช่วงเวลานี้ยังเป็นฤดูที่ชนพื้นเมืองเผ่ามองโกลพาสัตว์ออกมาเลี้ยง ทำให้ผู้มาเยือนสามารถเห็นวิถีชีวิตแบบเร่ร่อนดั้งเดิม ทั้งการขี่ม้า การตั้งกระโจมแบบดั้งเดิม (เกอร์) และการละเล่นพื้นบ้าน

นอกจากธรรมชาติที่ชวนให้หลงใหลแล้ว อากาศที่นี่ในหน้าร้อนก็เย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนเมืองอื่น ๆ ของจีน จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อนหรือกิจกรรมกลางแจ้งอย่างการขี่ม้า ขี่จักรยาน หรือแม้แต่การปิกนิกท่ามกลางทุ่งหญ้าอันเงียบสงบ เหมาะกับทั้งครอบครัว คู่รัก หรือสายถ่ายภาพที่มองหาฉากธรรมชาติแบบเปิดโล่งและบริสุทธิ์

ทุ่งลาเวนเดอร์อี๋ว์หยวน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเขตปกครองซินเจียง เป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของจีนในช่วงหน้าร้อน ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่ของทุ่งดอกไม้สีม่วงสดใสที่บานสะพรั่งเต็มหุบเขา กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของลาเวนเดอร์ลอยอยู่ทั่วอากาศ ท่ามกลางแสงแดดอ่อนและท้องฟ้าใส ทำให้ที่นี่มอบบรรยากาศโรแมนติกและผ่อนคลายอย่างที่สุด

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยือนคือระหว่างเดือนมิถุนายนถึงต้นกรกฎาคม ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ลาเวนเดอร์บานเต็มที่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในทุ่งดอกไม้ ถ่ายภาพกับฉากหลังสวยงามราวกับโปสการ์ด หรือจะเลือกขึ้นบอลลูนลอยฟ้าเพื่อชมวิวจากมุมสูงก็ยิ่งเพิ่มความพิเศษเข้าไปอีก เหมาะทั้งสำหรับคู่รักที่มองหาทริปแสนโรแมนติก หรือสายถ่ายภาพที่ต้องการเก็บภาพดอกไม้และธรรมชาติในฤดูร้อนแบบไม่ซ้ำใคร

แชงกรีล่าเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงของมณฑลยูนนาน ใกล้ชายแดนทิเบต ทำให้มีภูมิประเทศที่โดดเด่นและบรรยากาศแตกต่างจากเมืองอื่น ๆ ของจีนอย่างชัดเจน ในช่วงฤดูร้อน เมืองทั้งเมืองจะเปลี่ยนเป็นผืนผ้าธรรมชาติสีเขียวชอุ่ม ดอกไม้หลากสีสันบานสะพรั่งทั่วทุ่งหญ้าอัลไพน์ พร้อมฉากหลังเป็นภูเขาหิมะตระหง่าน ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทางที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวาย และซึมซับความเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ

แชงกรีล่ายังเป็นประตูสู่การสัมผัสวัฒนธรรมทิเบตอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นวัดพุทธแบบทิเบต อาหารพื้นเมือง หรืองานหัตถกรรมท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินป่าระยะสั้นหรือยาว ชมธรรมชาติ ควบคู่กับการเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ทั้งสวยงาม ลึกซึ้ง และเติมเต็มใจ

ทะเลสาบชิงไห่เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ตั้งอยู่ในมณฑลชิงไห่ บนที่ราบสูงทิเบต ด้วยความกว้างใหญ่และสีฟ้าเข้มของน้ำที่สะท้อนกับท้องฟ้า ทำให้เกิดภาพที่สวยงามราวกับภาพวาด บริเวณรอบทะเลสาบยังล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้ากว้างและเนินเขาเตี้ย ๆ ที่ปกคลุมด้วยพืชพรรณเขียวชอุ่ม โดยเฉพาะในฤดูร้อน ดอกไม้ป่าหลายชนิดจะเริ่มบานเติมแต่งให้ภูมิทัศน์โดยรอบสดใสยิ่งขึ้น

หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมคือการปั่นจักรยานรอบทะเลสาบ ซึ่งมีเส้นทางให้เลือกหลากหลายตามความสามารถ ทั้งสายออกกำลังกายและสายชิลล์ก็สามารถเพลิดเพลินกับวิวธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมถ่ายภาพ ชมพระอาทิตย์ตก และนั่งพักผ่อนรับลมริมทะเลสาบ ที่นี่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหนีจากความวุ่นวาย และใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง

อุทยานหลินจือ ตั้งอยู่ในเขตทิเบตตะวันออก ถือเป็นหนึ่งในดินแดนที่ยังคงความสมบูรณ์ทางธรรมชาติไว้อย่างน่าทึ่ง พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในแนวเทือกเขาหิมาลัยตอนใต้ ทำให้ภูมิประเทศมีทั้งป่าสนเขียวชอุ่ม แม่น้ำสายใสที่ไหลเชี่ยวแรง และภูเขาสูงที่ปกคลุมด้วยเมฆหมอกตลอดวัน ในช่วงฤดูร้อน อากาศที่นี่จะเย็นสบายแตกต่างจากพื้นที่ส่วนอื่นของจีน เหมาะสำหรับการเดินป่า พักผ่อน และถ่ายภาพธรรมชาติ

พื้นที่นี้ยังอุดมไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่าหายาก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเส้นทางเดินป่าระยะสั้นเพื่อชมป่าดิบเขา หรือล่องเรือชมธรรมชาติในลำธารใส นอกจากนี้ยังสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านของชาวทิเบตพื้นเมือง เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิต และศิลปะหัตถกรรมท้องถิ่น เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ผสมผสานระหว่างความงดงามของธรรมชาติและความลึกซึ้งของวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว