วันนี้เราจะชวนมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ด้วยการดินเนอร์ใต้แสงจันทร์ ท่ามกลางวิวแม่น้ำเจ้าพระยาสวยงาม ลิ้มลองความอร่อยกับอาหารรสเลิศ ดื่มด่ำกับบรรยากาศหรูหราอลังการ บนเรือใบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!
เกริ่นมาขนาดนี้ แน่นอนว่าจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ได้ถ้าไม่ใช่ เรือสิริมหรรณพ หนึ่งในเรือใบสามเสาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจอดเทียบท่าอยู่ที่ Asiatique The Riverfront นับว่าเป็น ไอคอนิค แลนด์มาร์ค แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ แค่คิดว่าได้ไปนั่งบนเรือ ทานอาหารอร่อย ชมบรรยากาศสุดโรแมนติค ก็ฟินแล้ว!
หากคุณกำลังมองหาที่ดินเนอร์สุดหรู ท่ามกลางบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา ราคาสุดคุ้มอยู่ล่ะก็ เรือสิริมหรรณพ (Sirimahannop) คือตัวเลือกที่น่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาด! ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่จะอยู่ที่ขนาดของเรือที่มีความอลังการ ตกแต่งได้อย่างหรูหราสวยงามและคลาสสิค เปรียบเสมือนนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปในสมัยรัชกาลที่ 5
พร้อมทานอาหารและเครื่องดื่มเลิศรส ขณะนั่งชิลกินลมชมทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงาม ยิ่งตอนที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้ายิ่งเป็นช่วงเวลาที่งดงาม บรรยากาศสวยตราตรึงใจมาก มีมุมสวยวิวดีให้ถ่ายรูปอีกเพียบ ถ้าใครได้มาสัมผัสบรรยากาศด้วยตัวเองแล้วจะต้องหลงรักเหมือนโดนมนต์สะกดแน่นอน!
โปรโมชั่นดี ๆ จาก Klook!
จุดเริ่มต้นเรือสิริมหรรณพ (Sirimahannop)
เรือสิริมหรรณพ (Sirimahannop) ถือว่าเป็น ไอคอนิค แลนด์มาร์ค แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ จอดเทียบท่าที่ Asiatique The Riverfront อยู่ภายใต้การดูแลของโรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen's Park โดยการสร้างเรือสิริมหรรณพได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือสำเภาสามเสาของราชนาวีไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 และสร้างด้วยความประณีตเป็นอย่างมาก
ภายในเรือถูกออกแบบและตกแต่งอย่างหรูหราวิจิตรงดงาม ประดับตกแต่งเต็มไปด้วยภาพถ่ายบรรยากาศเก่า ๆ และสิ่งของเครื่องใช้สุดคลาสสิก เพื่อให้ความรู้สึกสมจริง ภายในเรือกว้างแบ่งเป็น 2 ชั้น ได้แก่ ชั้นบน Upper Deck พื้นที่เปิดโล่ง ลมเย็นสบาย นั่งดื่มด่ำชมวิวทัศนียภาพสวยงามแม่น้ำเจ้าพระยาได้สุดลูกหูลูกตา สำหรับที่นั่งมีให้เลือกหลายรูปแบบ
และชั้นล่าง Lower Deck จะเป็นห้องโล่งกว้างที่ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลตัดทอง ให้ความอบอุ่นแฝงด้วยความหรูหราออกแบบได้ลงตัว ส่วนใหญ่ชั้นล่างมักจะไว้สำหรับจัดงานเลี้ยงสังสรรค์กลุ่มใหญ่ แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัว ที่นี่จะมีห้องสุดพิเศษอย่างห้อง The Bridge ออกแบบในคอนเซ็ปต์ห้องกัปตันเรือ สามารถนั่งได้ประมาณ 6 คน ส่วนใครอยากได้ Feeling แบบนี้ต้องสำรองล่วงหน้า
จองบัตรกับ Klook คุ้มกว่า!
จากที่ได้อ่านรีวิว เรือสิริมหรรณพ (Sirimahannop) ใครอยากลองสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเอง อย่าลืมจองบัตรกับ Klook พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมายเพียบ! รับรองว่าเหนือความหมายแน่นอน! และมั่นใจได้เลยว่าไปแล้วมีที่นั่งแน่นอน งานนี้ไม่มีนกชัวร์!
แพ็กเกจเซ็ตคอมโบสำหรับ 2 คน
- บริการสำรองที่นั่งเรือสิริมหรรณพ
- โปรโมชั่นพิเศษจากราคาเต็ม 3,111 บาท ลดเหลือเพียง 2,449 บาท
แพ็กเกจเซ็ตคอมโบสำหรับ 2 คน
- อาหารค่ำเซต B
- บริการสำรองที่นั่งเรือสิริมหรรณพ
- โปรโมชั่นพิเศษจากราคาเต็ม 1,742 บาท ลดเหลือเพียง 1,299 บาท
ราคาโปรโมชั่นว่าถูกสุดคุ้มแล้ว รับส่วนลดเพิ่มให้ทันทีอีก 5% สำหรับการจองครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ด้วยรหัสโปรโมชั่น BetterOnApp ขอบอกเลยว่าจัดหนักให้คุ้มขนาดนี้ #เฉพาะที่Klookเท่านั้น
ลิ้มลองความอร่อยด้วยเมนูสุดพิเศษพร้อมเครื่องดื่ม
คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ความอร่อยของเมนูอาหารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยเลิศรส อาหารนานาชาติจากสุดยอดเชฟฝีมือคุณภาพการันตีความอร่อย พร้อมเครื่องดื่มสุดพิเศษที่ฝีมือมิกซ์โซโลจิสต์มืออาชีพ เมนูอาหารทั้งหมดนี้ได้รับแรงบันดาลมาจากเส้นทางการเดินเรือจากอดีต ภายใต้คอนเซ็ปต์ Culinary Journey ได้นำเอาวัฒนธรรทางตะวันออกและตะวันตก มาผสมผสานเข้ากับความเป็นไทยได้อย่างลงตัว เป็นอะไรที่น่าลิ้มลองความอร่อยเป็นอย่างมาก
มารีวิวอาหารกันบ้าง เรือสิริมหรรณพ มีเมนูอาหารให้เลือกไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึงความอร่อย ต้องบอกเลยว่าทุกเมนูอาหารเด็ดถูกปากแน่นอน! ซึ่งวันนี้เราได้คัดเมนูเด็ด ๆ ที่ใครมาแล้วควรต้องสั่ง ไม่งั้นถือว่าพลาดอย่างแรง!
เริ่มจากอาหารว่างอย่าง ไก่ทอดสไปซี่ปอปคอร์น หั่นชิ้นพอดีคำ เสิร์ฟมาพร้อมสมุนไพรทอดกรอบ ราดด้วยซอสหวานรสจัดจ้านกลมกล่อม เป็นหนึ่งในเมนูที่ต้องลอง! (180 บาท)
ส่วนใครที่ชอบทานเบอร์เกอร์ต้องลองเมนูนี้ กับ เบอร์เกอร์ปลาฮาลิบัท ที่เลือกใช้ปลาคอดจากสแกนดิเนเวียชุบแป้งทอดกรอบ เนื้อปลาด้านในยังมีความชุ่มฉ่ำละลายในปาก ทานคู่กับผักกาดแก้วกรอบ ๆ แตงกวาดอง และเดนิชเรมูลาด เป็นอีกหนึ่งเมนูที่อร่อยทานงานไม่ควรพลาดถ้ามาที่นี่ (160 บาท)
อีกหนึ่งความอร่อยกับสิริมหรรณพเมนูที่มาแล้วต้องสั่ง! แกงมะเขือม่วง ซึ่งเป็นเมนู Vegetarian ที่มีน้ำแกงเข้มข้นมาก ๆ ใช้พริกแกงใต้ฉะนั้นรับประกันความจัดจ้านเผ็ดร้อนได้เลย ซึ่งความเผ็ดที่ว่านั้นอยู่ในระดับที่สามารถทานได้ มีรสชาติหวานจากเนื้อมะเขือยาวผสมผสานกับมะเขือเทศได้อย่างลงตัว ยิ่งได้ทานคู่กับแป้งโรตีย่างร้อน ๆ และข้าวไรซ์เบอร์รี่ก็ยิ่งเสริมความอร่อยมากขึ้น (320 บาท)
ต่อกันด้วยเมนู แกงเขียวหวานแก้มวัว จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด! รสชาติอาหารไทยจัดจ้าน รสกลมกล่อมเป็นความอร่อยที่ลงตัวสุด น้ำแกงเข้มข้นกะทิมาก แก้มวัวนุ่มละมุนลิ้นทานง่าย เสิร์ฟมาพร้อมกับแป้งโรตีและข้าวสวย พูดเลยถูกปากคนไทยอย่างคุณแน่นอน! (390 บาท)
สำหรับสิริมหรรณพเมนูอาหารจานหลัก แนะนำ ซีฟู้ดบาสเก็ต (Seafood Basket) ประกอบไปด้วย กุ้งแชบ๊วย หอยเชลล์ และหอยหวาน เสิร์ฟมาพร้อมคู่จับจิ้มซีฟู้ดสตูรพิเศษ อีกหนึ่งเมนูที่น่าลองทานเพลิน ๆ (950 บาท)
ต่อกับอีกเมนูที่น่าสนใจไม่แพ้กันอย่าง ปลาแมกเคอเรลรมควัน เป็นเมนูที่หาทานได้ยากมาก ที่ปรุงรสมาได้อย่างกลมกล่อม หอมมันมาก เสิร์ฟพร้อมขนมปังก้อนกลม ๆ หรือที่เรียกว่าเป็นขนมปังที่ชาวกะลาสีนิยมรับประทานกันมาก และเพิ่มความอร่อยต้องรับประทานคู่กับฮอร์สแรดิช และซอสฮอร์สราดิชสไตล์สแกนดิเนเวียที่มีความเข้มข้นอร่อยลงตัวมาก คุณต้องฟินไปกับเนื้อปลาที่นุ่มละมุน อีกหนึ่งเมนูที่ควรค่าแก่การลองมาก ๆ (270 บาท)
หลังจากที่เอร็ดอร่อยไปอาหารแล้ว คราวนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศด้วยเมนูของหวานกันบ้าง ซึ่งมีให้เลือกด้วยกันถึง 3 เมนูความอร่อย ได้แก่ บราวนี่ช็อคโกแลต ชีสเค้ก และทาร์ตเชอร์รี่
ขอบอกเลยว่าที่นี่มีความโดดเด่น ในการทำเบเกอรีมาก ๆ อย่าง ชีสเค้ก เนื้อเนียนนุ่มละมุน กลมกล่อม ความหวานกำลังดีไม่หวานจนเกินไป ทำออกมาได้อร่อยมาก ๆ ใครที่ไม่ชอบรสหวานก็สามารถทานได้ ส่วนบราวนี่ช็อคโกแลตได้รสความเข้มข้นของช็อคโกแลตแบบเต็ม ๆ ส่วนตัวเนื้อบราวนี่มีความหนึบ ๆ อร่อยมาก ๆ และทาร์ตเชอร์รี่ แป้งทาร์ตบางกรอบ กลิ่นหอมยั่ว ๆ ที่อัดแน่นไปด้วยผลเชอร์รี่ หวานอมเปรี้ยวกำลังดี จัดความบาลานซ์รสชาติมาได้ลงตัวมาก (145 บาท)
สำหรับสิริมหรรณพเมนูเครื่องดื่ม มีให้เลือกดื่มหลากหลายเมนู ต้องบอกว่าที่นี่เน้นเครื่องดื่ม ส่วนเมนูพิเศษที่อยากแนะนำค็อกเทล I Am Farang ซึ่งมีส่วนผสมของ Beefeater Gin, สตรอเบอร์รี, มะกรูด, มะนาว, ฝรั่ง และนำไปอินฟิวส์กับชาเอิร์ลเกรย์ ทำให้ได้รสชาติเปรี้ยวซ่า อมหวานนิด ๆ ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ซาบซ่า และมีกลิ่นหอมของใบมะกรูดซึ่งเป็นเสน่ห์ของเมนูนี้ ลองแล้วติดใจ! (380 บาท)
อีกหนึ่งเมนูค็อกเทลที่น่าลอง คือ Mango ใครชอบทานมะม่วงต้องสั่งเมนูนี้ เป็นค็อกเทลแบบฟูลบอดี้จากรัมได้ผสมผสานกับมะม่วง ลูกกระวาน และความขมของคัมปารี รสชาติอร่อย หวานพอดี ดื่มง่าย (380บาท)
มุมถ่ายรูปสุดชิค ต้องกดไลค์ให้รัว ๆ
อีกหนึ่งไฮไลท์เมื่อได้มา เรือสิริมหรรณพ นั่นก็คือการถ่ายรูป ใครที่อยากได้ภาพสวย ๆ อย่าลืมแต่งตัวจัดเต็ม พร็อบมาให้พร้อม ที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก ๆ แนะนำให้มาช่วงเวลาสักประมาณ 17.30 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลายังมีแดดแต่อ่อนลงไป แสงแดดกระทบแม่น้ำพระเจ้าเป็นอะไรที่สวยงามมาก ยิ่งตอนพระอาทิตย์ตกช่วงนั้นวิวจะสวยมาก จึงเป็นมุมให้ถ่ายรูปที่เจ๋งสุด ๆ เราเริ่มไปที่ชั้นแล้วกันเนอะ เมื่อก้าวแรกขึ้นเรือสิริมหรรณพเริ่มถ่ายรูปได้เลย
ชั้นล่าง (Lower Deck) ด้วยสไตล์การตกแต่งที่ใช้ภาพถ่ายและข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ในยุคโบราณนั้น จึงทำให้มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก เน้นโทนสีน้ำตาลตัดทอง แนะนำให้แต่งตัวมาให้เข้ากับธีมเรือเพื่อถ่ายรูปออกมาจะได้สวย ๆ ดูเข้ากันกับบรรยากาศ
ทั้งนี้ ชั้นล่างจะมีมุมถ่ายรูปหลากหลายมุม แต่หลัก ๆ จะเป็น Gallery และที่นั่งเป็นส่วนใหญ่ และยังมีห้อง VIP ที่ด้านในบรรยากาศสวยเป็นอีกมุมที่น่าเข้าไปถ่ายรูปมาก ๆ ด้านล่างนี้คือมีพร็อบเยอะสุด เพราะจะได้อีกบรรยากาศหนึ่งเลย และเมื่อเก็บภาพจนพอใจแล้ว เดินขึ้นมาต่อกันที่ชั้นบน
ชั้นบน (Upper Deck) เปิดโล่งกว้างมาก มีมุมถ่ายรูปตั้งแต่หัวเรือยันท้ายเรือจะมุมไหนก็สวยทั้งนั้น ซึ่งโซนหัวเรือจะมีมุมถ่ายรูปเพียบ มุมแรกที่น่าถ่ายรูปมากคือประตูที่มีบันไดจากชั้นล่างมาชั้นบน มุมนั้นล่ะเก๋สุด ๆ เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจ
จากนั้นเดินไปหัวเรือก่อนล่ะกัน ตรงนี้คือมีให้เลือกหลากหลายมุม ยืนข้าง ๆ เรือใช้ Background เป็นวิวทัศนียภาพ หรือจะเปลี่ยนมานั่งชิล ๆ ก็มีที่นั่งให้เลือกเยอะมาก ทั้งโซฟา เก้าอี้ติดบาร์ หรือโต๊ะอาหารเล็ก ๆ ก็ดูเก๋ไก๋ไม่เบาเลยนะ
เก็บภาพตรงให้ครบทุกมุม จากนั้นค่อนเดินไปที่ท้ายเรือ มุมนี้จะดูเงียบหน่อย มีโซฟาที่ใหญ่มากให้นั่งชิลถ่ายรูปสวย ๆ ขึ้นไปต่อกันที่ชั้นดาดฟ้าเรือ มองเห็นวิวได้กว้างแบบ 360 องศา เลือกมุมถ่ายรูปได้เลย จะมุมไหนก็สวยทั้งนั้น เอาเป็นว่าถ้าใครถ่ายรูปต้องถูกใจที่นี่ชัวร์!
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ควรรู้ก่อนไป!
เอาล่ะ!!! ใครอยากมาสัมผัสเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ลิ้มลองความอร่อยบนเรือใบสุดหรู ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิคริมแม่น้ำเจ้าพระยา กับ สิริมหรรณพ ได้เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ดังนั้น สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนไปนั้นจะมี ดังนี้
- เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16:00-21:00 น.
- เวลาสั่งอาหารรอบสุดท้าย : 19:30 น.
- ก่อนขึ้นเรือ : แสดงได้ทั้งเวาเชอร์ที่พิมพ์มาหรือเลือกแสดงเวาเชอร์บนมือถือก็ได้เช่นกัน
- ที่อยู่ : เอเชียทีค เจริญกรุง ซอย 72-76 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120 สามารถดูที่อยู่บน Google Maps ได้ที่นี่
- เบอร์โทรติดต่อ : 02-059-5999
จบไปแล้วสำหรับการรีวิวทานข้าวบน เรือ Sirimahannop สุดหรู ท่ามกลางบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา หวังว่าจะถูกใจ ส่วนใครอยากจะตามรอยเรา แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องทำก่อนสิ่งใดเลยคือจองบัตรผ่าน Klook เพียงเท่านี้คุณก็จะได้มาสัมผัสเปิดประสบการณ์ด้วยตัวเอง อย่างที่คำโบราณได้ว่าไว้ “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น” และใครที่ได้ไปเที่ยวมาแล้ว อย่าลืมมาแชร์แบ่งปันเล่าสู่กันฟังด้วยนะ!