• ไปยังแอป
  • เลือกจุดหมายปลายทาง
  • Singapore Food Guide 2020: 10 สุดยอดเมนูและพิกัดร้านเด็ด ไม่ได้กินก็เหมือนมาไม่ถึงสิงคโปร์

    Klook Team
    Klook Team
    อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 2020
    singapore food guide 2020
    ไปสิงคโปร์ทั้งที กินอะไรดีนะ? นอกจากข้าวมันไก่แล้วสิงคโปร์มีอะไรน่ากินบ้าง? ถ้าหากคำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่คุณกำลังหาคำตอบอยู่ คุณต้องไม่พลาด อ่านบทความของเรา Singapore Food Guide 2020: รวม 10 สุดยอดเมนูและพิกัดร้านเด็ด ไม่ได้กิน ก็เหมือนมาไม่ถึงสิงคโปร์ โดยบทความนี้ เราได้รวบรวมและอัพเดตจานเด็ดที่คุณต้องไปลองให้ได้เมื่อไปเยือนยังสิงคโปร์ จะมีเมนูอะไรแล้วที่ไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลย!

    ปูผัดพริก (Chilli Crab) – ร้านอาหาร JUMBO Seafood 

    ปูผัดพริก jumbo seafood สิงคโปร์
    ถ้าพูดถึงอาหารสิงคโปร์ สิ่งแรกที่นักกินชาวไทยจะนึกถึงนั่นก็คงจะเป็นอะไรไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่ ข้าวมันไก่ ลักซา และบักกุดเต๋ ซึ่งน้อยคนนักจะรู้ว่าอาหารจานเด็ดที่ชาวโลกต่างก็ยกนิ้วให้ของสิงคโปร์นั่นก็คือ ปูผัดพริก (Chilli Crab) นั่นเอง ซึ่งคล้าย ๆ กับปูผัดผงกระหรี่บ้านเรา แต่ของสิงคโปร์นั้น จะนำปูผัดเข้ากับซอสที่มีรสชาติเผ็ดหวาน และถ้าหากใครอยากจะลิ้มลองรสชาติเมนูปูผัดพริกต้นตำรับสิงคโปร์แท้ ๆ ต้องห้ามพลาด! ร้านอาหาร JUMBO Seafood ร้านอาหารทะเลชื่อดังในสิงคโปร์ที่เปิดให้บริการความอร่อยแห่งแรกที่ สวนอาหาร East Coast Seafood Centre มายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 การันตีความอร่อยด้วยรางวัลและประกาศนียบัตรจากนิตยสารและเว็บไซต์เกี่ยวกับอาหารมากมาย อาทิเช่น WINE & DINE, Tiger Beer Chilli Crab Championship Series 2006, Modern Weekly เป็นต้น
    Klook’s tip: สำหรับใครที่อยากจะไปลิ้มลองเมนูปูผัดพริกแสนอร่อยที่ได้รับรางวัล Best Chilli Crab Award ที่ร้าน JUMBO Seafood ในสิงคโปร์ ขอบอกเลยว่า ถ้าหากคุณจะเดิน Walk-in เข้าไปนั่งทาน ถ้าโชคเข้าข้าง คุณก็อาจจะได้โต๊ะนั่งแต่อาจจะต้องแลกกับการรอคอยหลายชั่วโมง ฉะนั้น เพื่อเป็นการการันตีว่าคุณจะได้ลิ้มรสและอิ่มอร่อยไปกับเมนูปูผัดพริกและเมนูอื่น ๆ ของร้าน Jumbo Seafood อย่างแน่นอนแล้วละก็ อย่าลืม! ทำการจองร้านอาหาร Jumbo Seafood สิงคโปร์ล่วงหน้าผ่าน Klook พร้อมรับส่วนลดสูงสุดกว่า 10%
    ตั้งอยู่ที่: ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 สาขา ได้แก่ Riverside Point, The Riverwalk, Dempsey Hill และ ศูนย์อาหาร East Coast Seafood Centre

    ลักซา & หมี่สยาม – ร้าน Famous Sungei Road Trishaw Laksa ในย่านไชน่าทาวน์

    ลักซาสิงคโปร์
    เมนู Asia Delight Laksa credit: misstamchiak
    อีกหนึ่งจานเด็ดที่ถ้าคุณไม่ได้กิน ก็เหมือนมาไม่ถึงสิงคโปร์นั่นก็คือ ลักซา (Laksa) ที่คล้าย ๆ กับก๋วยเตี๋ยวต้มยำใส่กะทิแกง รสชาติแบบดั้งเดิมตามต้นตำรับสิงคโปร์ ให้คุณซดน้ำซุปจนหยดสุดท้าย การันตีความอร่อยด้วยรางวัล ‘บิบ กูร์มอง’ (Bib Gourmand) โดยมิชลิน ซึ่งร้าน Famous Sungei Road Trishaw Laksa แห่งนี้ นั่นเปิดให้บริการเสริฟความอร่อยของลักซาและหมี่สยาม (Mee Siam) มายาวนานกว่า 3 รุ่น
    เพราะความอร่อยระดับรางวัลมิชลินสตาร์ ในราคาสบายกระเป๋า จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมร้าน Famous Sungei Road Trishaw Laksa แห่งนี้จึงคราคร่ำไปด้วยเหล่าขาประจำของชาวสิงคโปร์ ซึ่งมีตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ไปจนถึงวัยคุณตาคุณยาย
    Klook’s tip: ฉะนั้น อย่าลืม! ทำการจองร้าน Famous Sungei Road Trishaw Laksa ในย่านไชน่าทาวน์ ผ่าน Klook ก่อนการเดินทางทุกครั้ง ไม่งั้น คุณอาจจะต้องรอคิวนาน จนเสียแผนการเดินทางของคุณแน่ ๆ
    ร้าน Famous Sungei Road Trishaw Laksa
    ตั้งอยู่ที่: 531A ถนน Upper Cross Street, #02-66 Hong Lim Food Centre
    เวลาเปิด: วันจันทร์-วันเสาร์: 11:30-14:30 น. ปิดทำการวันอาทิตย์

    เนื้อสะเต๊ะ & น้ำแข็งใส (Ice Kacang) – ศูนย์อาหาร Satay by the Bay

    ร้าน Satay by the Bay ที่ Gardens by the Bay
    สำหรับใครที่เดินชมความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของสิงคโปร์อย่าง สวนพฤกษศาตร์การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ เสร็จแล้ว อยากแวะหาอะไรเติมท้องละก็ เพียงมองหาศูนย์อาหาร Satay by the Bay ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ ใช้เวลาเดินเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น คุณก็จะได้พบกับศูนย์อาหารที่รวบรวมร้านอาหารท้องถิ่นของชาวสิงคโปร์และอาหารจานเด็ดทั่วทั้งเอเชียไว้ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับการทานเมนูเด็ด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื้อสะเต๊ะย่าง ที่ส่งกลิ่นหอมทั่วทั้งศูนย์อาหารจนคุณอดใจไม่ไหว นอกจากนั้นยังมีอาหารจานเด็ดมากมายที่รอให้คุณได้ลิ้มรสความอร่อย อาทิเช่น ข้าวหมูแดง หมูกรอบ, ชาก๋วยเตี๊ยว (Char Kuay teow), ข้าวหมกอินเดีย หรือ Briyani, ลักซา, โรตี จาไน (Roti Canai) ฯลฯ
    ปิดท้ายด้วยของหวานยอดฮิตขวัญใจเด็ก ๆ สิงคโปร์นั่นก็คือ Ice Kacang หรือน้ำแข็งใส ที่ให้คุณเลือกท้อปปิ้งได้ตามใจคุณ
    ศูนย์อาหาร Satay by the Bay ร้านเครื่องดื่ม
    ตั้งอยู่ที่: 18 Marina Gardens Drive
    เปิดทำการ: ร้านเครื่องดื่ม เปิดตลอด 24 ชั่วโมง  ร้านอาหาร วันจันทร์-อาทิตย์: 11:00-22:00 น.

    ราดหน้าเส้นหมี่กุ้งแม่น้ำ & เต้าหู้อบหม้อดิน – ร้านอาหาร Kok Sen Restaurant

    รีวิว อาหารสิงคโปร์
    สำหรับใครอยากทานอาหารสิงคโปร์แบบพื้นบ้าน ไม่ต้องการบรรยากาศหรูหราจนถึงขั้นขึ้นเหลา คุณอาจจะชอบร้านอาหารในตำนานร้านนี้อย่างแน่นอน เพราะที่ร้านอาหาร Kok Sen Restaurant แห่งนี้คือร้านอาหารสไตล์ Cze Char* ถ้าใครเดินผ่านอาจจะคิดว่าเป็นร้านอาหารที่มีลูกค้าแน่นตามปกติ เห็นได้จากการตกแต่งที่เหมือนร้านอาหารธรรมดาทั่วไปหรือร้านอาหารตามสั่งทั่วไป แต่คุณรู้หรือไม่ว่าภายในร้านอาหารที่ดูธรรมดา ๆ แห่งนี้นั้นซ่อนร้านอาหารระดับรางวัล Singapore Michelin Bib Gourmand ไว้ ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 40 ปี
    และเมนูเด็ดที่ใครต่อใครต่างก็สั่งเมื่อมาถึงยังร้านอาหาร Kok Sen Restaurant นั่นจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่ราดหน้าเส้นหมี่กุ้งแม่น้ำ (Big Prawns Hor Fun) ที่มาเสริฟมาในจานเปลขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับทาน 2 ท่าน และเมนูเต้าหู้อบหม้อดิน (Claypot Young tau foo) ที่รับรองว่าใครได้ทานก็เป็นต้องติดใจและกลับมาสั่งอีกครั้ง
    ร้านอาหาร Kok Sen Restaurant
    ตั้งอยู่ที่: 30-32 ถนน Keong Saik Road
    เวลาเปิด: 12:00 น. – 14.15 น. และ 17:00 น. – 22:30 น. ปิดทุกวันจันทร์

    ปูซอสไข่เค็ม & ขนมปังสังขยา – ร้านอาหารทะเล Tong Ah ในย่านไชน่าทาวน์

    ร้านอาหาร tong ah
    อีกหนึ่งร้านคาเฟ่กึ่งร้านอาหารสไตล์ตามสั่งหรือที่ชาวสิงคโปร์เรียกว่า  Cze Char ซึ่งเป็นศัพท์ที่ใช้เรียกร้านอาหารจีนตามสั่งในสิงคโปร์ โดยร้าน Tong Ah นี่ขึ้นชื่อนักในเรื่องของขนมปังกรอบ สังขยา เสริฟคู่กับไข่ลวกและกาแฟโบราณ ยืนหนึ่งในย่านไชน่าทาวน์ เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารเช้าเจ้าประจำที่ชาวสิงคโปร์ท้องถิ่นแวะไปฝากท้องกันจนแน่นขนัด เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1939
    และไม่ใช่เพียงว่าขนมปังกรอบ สังขยาจะเป็นเมนูขึ้นชื่อของร้าน Tong Ah เพียงอย่างเดียว ร้านอาหารแห่งนี้ยังมีเมนูอาหารทะเลที่คุณต้องไม่พลาดอีกหลายเมนูอาทิเช่น ซี่โครงหมูอบกาแฟ, ปูผัดไข่เค็ม,  ไก่อบเคล้าเครื่องเทศกว่า 15 ชนิด
    Klook’s tip: อย่าลืม! ทำการจองร้านอาหารทะเล Tong Ah ในย่านไชน่าทาวน์ผ่าน Klook ล่วงหน้า พร้อมเลือกวันที่คุณต้องการ เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถมั่นใจได้แล้วว่า คุณจะมีที่นั่งและไม่ต้องรอคิวนานอย่างแน่นอน อีกทั้งคุณยังได้รับส่วนลดเพิ่มอีกกว่า 11%
    ร้านอาหาร Tong Ah
    ตั้งอยู่ที่: 35 ถนน Keong Saik Road
    เวลาเปิด: 07:00 น. – 22:00 น.

    ปอเปี๊ยะ Mingzhu roll ทอด – ร้านอาหาร Keng Eng Kee 

    mingzhu-roll สิงคโปร์
    อีกหนึ่งร้านอาหารซีฟู้ดเจ้าดังที่เราไม่อยากให้คุณพลาด นั่นก็คือ ร้านอาหาร Keng Eng Kee ร้านที่ได้รับรางวัลและเป็นที่พูดถึงในคอลัมน์ในแม็กกาซีนอาหารของประเทศสิงคโปร์มากมาย โดยเมนูจานเด็ดที่ใคร ๆ ต่างก็สั่งกันติดโต๊ะนั่นก็คือ Mingzhu roll หรือปอเปี๊ยะทอดห่อด้วยเต้าหู้ ยัดใส้ไข่เค็ม, กุ้ง, เห็ดหอม หั่นแบ่งออกเป็น 6 ชิ้น พอดีคำ เสริฟคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด นอกจากนี้เมนู ปูนึ่งซอสไข่เค็ม ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่มาแรงไม่แพ้กัน ใครที่ไปถึงสิงคโปร์แล้วไม่ได้ทานเมนูปูต่าง ๆ ก็ต้องบอกเลยว่า เป็นที่น่าเสียดายจริง ๆ
    Klook’s tip: อย่าลืมทำการจองโต๊ะผ่านเว็บไซต์ของทางร้านทุกครั้ง เพื่อป้องกันโต๊ะเต็ม หรืออาหารหมด
    ร้านอาหาร Keng Eng Kee Seafood 
    ตั้งอยู่ที่: Blk 124 ถนน Bukit Merah Lane 1
    เวลาเปิดทำการ: 12:00 น. – 14:30 น. และ 17:00 น. – 22:00 น.

    บักกุ๊ดเต๋ – ร้าน Founder Bak Kut Teh 

    บักกุ๊ดเต๋ สิงคโปร์
    cr. Founder Bak Kut Teh
    อีกเมนูเด็ดขวัญใจชาวไทย น้ำซุปซี่โครงหมู พริกไทยน้ำใส หรือบักกุ๊ดเต๋ ที่จะหาทานที่ไหนก็รสชาติไม่เหมือนกับทานที่สิงคโปร์อย่างแน่นอน ฉะนั้นถ้าใครอยากลิ้มลองบักกุ๊ดเต๋สูตรเก่าแก่กว่า 40 ปี และยังเรียกได้ว่าเป็นเจ้าแรก ๆ ของประเทศสิงคโปร์ คุณต้องไม่พลาด บักกุ๊ดเต๋ของร้าน Founder Bak Kut Teh อย่างแน่นอน เพราะไม่ใช่เพียงแค่ว่าบักกุ๊ดเต๋ของที่นี่จะครองใจชาวสิงคโปร์รวมไปถึงชาวไทย และมาเลเซียแล้ว บักกุ๊ดเต๋ของที่นี่ยังเป็นเมนูโปรดของเหล่าซุปตาร์ชื่อดังระดับโลก อาทิเช่น นักร้องชื่อดังอย่างเจ โชว์, อิมิลี่ ชอ และแซนดร้า อึ้ง
    Klook’s tip: พิเศษสำหรับผู้ที่ทำการจองร้านอาหาร Founder Kut Teh ผ่าน Klook รับส่วนลดมูลค่า 1 ดอลล่าร์สิงคโปร์สำหรับเมนูบักกุ๊ดเต๋และชาจีนมูลค่า 3 สิงคโปร์ ฟรี!
    ร้าน Founder Bak Kut Teh
    ตั้งอยู่ที่: 530 ถนน North Bridge    ทุกวัน
    เปิดทำการ: ทุกวัน 11:00 น. – 22:30 น.

    ปูผัดพริกไทยขาว & กุ้งทอดเทมปุระ – No Signboard Seafood

    ปูผัดพริก
    อีกหนึ่งร้านอาหารชื่อดังของสิงคโปร์ที่เปิดให้บริการมายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 โดยเริ่มจากการเปิดร้านอาหารซีฟู้ดภายในศูนย์อาหารเล็ก ๆ บนถนน Matter Road ที่เสริฟอาหารซีฟู้ด ใหม่ สด รสชาติเลิศ เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ จนปัจจุบันกลายเป็นภัตตาคารอาหารชื่อดังและขยายสาขามากถึง 4 สาขาในสิงคโปร์ ซึ่งเมนดูเด็ดของร้าน No Signboard Seafood แห่งนี้นั่นก็คือ ปูผัดพริกไทยขาว และกุ้งทอดเทมปุระ เมนูที่ไม่ว่าจะเป็นชาวสิงคโปร์หรือชาวต่างชาติต่างก็ต้องสั่งมาลิ้มลองบนโต๊ะอย่างแน่นอน
    ร้านอาหาร No Signboard Seafood
    ตั้งอยู่ที่: มี 4 สาขา ได้แก่ สาขา Vivocity, Centrak, Esplanade และ Geylang (เฉพาะสาขา Geylang ไม่เข้าร่วมรายการ)
    เวลาเปิด: 11:00 น. – 22:30 น.

    หมี่ฮกเกี้ยนกุ้งล็อบสเตอร์ & นาสิ เลอมัก (Nasi Lemak) – OSG Bar + Kitchen  

    osg-bar-kitchen-singapore
    ให้คุณเพลิดเพลินไปกับอาหารท้องถิ่นสไตล์ฟิวชั่น จานเด็ดอย่าง หมี่ฮกเกี้ยนกุ้งล็อบสเตอร์ หรือนาสิ เลอมัก อาหารประจำชาติมาเลเซีย เสริฟคู่กับค็อกเทลรสเลิศบนอาคาร Suntec City เพิ่มบรรยากาศให้ให้คุณด้วยวงดนตรีสดที่บรรเลงเพลงตลอดทั้งค่ำคืน  ที่ OSG Bar + Kitchen แห่งนี้ ไม่ใช่ว่าจะเป็นเพียงร้านอาหารที่เสริฟเมนูแปลกใหม่ที่คุณอาจจะไม่เคยได้ยินเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นแหล่ง Hangout และยังเหมาะสำหรับการดินเนอร์ไปกับคนพิเศษของคุณอีกด้วย

    บ๊ะจ่าง – Kim Choo 

    Nyonya Dumpling
    ปิดท้ายด้วยของขนมท้องถิ่นของสิงคโปร์ที่เรียกว่า Zongzi ที่คล้าย ๆ กับบ๊ะจ่างห่อแบบข้าวต้มมัดบ้านเรา ซึ่งที่ร้าน Kim Choo Kueh Chang แห่งนี้ นั่นเปิดมายาวนานในย่าน Joo Chiat ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1945 ซึ่งปัจจุบันได้ทำการขยายกิจการแล้วเปิดสาขาใหม่กว่า 4 สาขาทั่วทั้งสิงคโปร์ โดยของเด็ดที่คุณต้องแวะไปชิมที่ร้านนี้ นั่นก็คือ บ๊ะจ่าง สูตรดั้งเดิม ที่ห่อด้วยใบเตยหอม ขนาดกำลังพอดี ภายในร้านนั้นยังมีขนม ของทานเล่นแบบดั้งเดิมของสิงคโปร์มากมาย อาทิเช่น ขนมชั้นสายรุ้งสิงคโปร์ (Kueh Lapis), ทาร์ตสัปปะรด, คุกกี้อัลมอนต์, ขนมปุยฝ้าย เป็นต้น
    ร้าน Kim Choo สาขา East Coast
    ตั้งอยู่ที่: 111 East Coast, Singapore 428801
    เวลาเปิดทำการ: 10:00 น.- 21:00 น. (ปิดรับออเดอร์สุดท้าย: 20:45 น.)
    *เกร็ดน่ารู้: ร้านอาหารพื้นบ้านสไตล์  Cze Char นั่นเป็นร้านอาหารที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวสิงคโปร์ โดยคำว่า Cze Char นั่น ได้มีรากศัพท์มาจากภาษาฮกเกี้ยน ซึ่งมาจากการผสมคำระหว่างคำว่า cooking และ flying ซึ่งเป็นการเรียกกรรมวิธีการทำอาหารปรุงสด ๆ ที่มีการผสมผสานระหว่างสไตล์จีน, มาเล, อินเดีย และเปอรานากัน ด้วยวัตถุดิบคุณภาพ ในราคาหย่อมเยา โดยส่วนมากร้านอาหารสไตล์ Cze Char มักจะเปิดให้บริการในช่วงเย็นหรืออาหารค่ำเท่านั้น
    สำหรับใครที่อยากลิ้มลองอาหารพื้นบ้านสิงคโปร์สไตล์ Cze Char แบบนี้ เราขอแนะนำให้คุณชวนแก๊งเพื่อนของคุณไปด้วยอย่างน้อย 4-10 คน เพื่อที่จะเพลิดเพลินไปกับการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นอย่างชาวสิงคโปร์แท้ ๆ โดยเมนูที่เราขอแนะนำนั้นได้แก่ เมนูอาหารทะเลต่าง ๆ อาทิเช่น ปู, หอยนางรม, ปลา, กุ้ง เป็นต้น
    เห็นไหมล่ะ? ใครบอกว่าที่สิงคโปร์มีแต่ข้าวมันไก่อย่างเดียว ฉะนั้น ถ้าใครวางแผนจะเดินทางไปยังสิงคโปร์เร็ว ๆ นี้ละก็ อย่าลืมจอง ซิมการ์ด 4G GO INTER สำหรับใช้ในสิงคโปร์ (รับที่สยามเซ็นเตอร์หรือสนามบินสุวรรณภูมิ) โดย DTAC (ไม่จำกัดข้อมูล) ตัวช่วยที่จะทำการติดต่อสื่อสารของคุณสะดวกทุกที่ ทุกเวลา

    เที่ยวสิงคโปร์ได้อุ่นใจ กับส่วนลดมากมายจาก Klook

    singapore-ส่วนลด