• ไปยังแอป
  • เลือกจุดหมายปลายทาง
  • เที่ยวย่าน Ikebukuro คาเฟ่ต์สัตว์ ช็อปปิ้ง เต็มวัน EP.6 [ Misasaki x Klook ]

    Klook Team
    Klook Team
    อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 2020
    i1
    เที่ยวย่าน Ikebukuro คาเฟ่ต์สัตว์ ช็อปปิ้ง เต็มวัน EP.6 [ Misasaki x Klook ]
    สวัสดีค่ะทุกคน . . . วันนี้เรามาเที่ยวที่ Ikebukuro กันดีกว่าค่ะ
    ก็ยังอยู่ในโตเกียวนะคะ ย่านนี้นั่งรถไฟสาย JR มาได้ง่าย ๆ เลยค่ะ เพราะอยู่ในเส้นวงกลมนี่แหละ
    ( ส่วนบัตร JR Pass ที่ใช้ได้ไม่จำกัดรอบ ช่วยให้ประหยัดได้มากเลย เพื่อน ๆ จองได้ที่ Klook นะคะ )
     
    ย่านนี้เนี่ยเป็นที่รวมทั้งที่เที่ยว กิน ช็อป คอสเพลย์ อนิเมะ ไว้ค่ะ
    จะว่าไปที่นี่หลาย ๆ คนที่มาเป็นครั้งแรก อาจจะไม่ค่อยได้นึกถึงย่านนี้เท่าไหร่
    สารภาพเลยว่ามิกิเองก็ด้วย > . <
    แต่ว่าครั้งนี้มาพักแถว ๆ นี้ก็เลยได้ลองมาเดินแบบรอบ ๆ จริงจังค่ะ
    แล้วเจอว่า โห มีอะไรมากกว่าที่คิดเยอะมาก เดินเพลินมากด้วย
    งั้นตอนนี้เรามาเดินสำรวจไปด้วยกันเลย
    เช้านี้เรามาเริ่มกันที่เส้น Sunshine 60 Street ค่ะ เดินแป๊บเดียวจากสถานี JR Ikebukuro
    เส้นนี้จะมีครบทุกอย่างของกิน ของใช้ เกมส์เซ็นเตอร์ ฯลฯ
    มารอบนี้ที่ Ikebukuro มีคาเฟ่ต์สัตว์เยอะเหมือนกันนะ ทั้งสัตว์เล็ก สัตว์แปลก แมว สุนัข
    แล้วมิกิเลือกเข้าคาเฟ่ ที่อยู่ตรงข้ามเยื้อง ๆ กับห้าง Tokyu Hands ค่ะ
    ทีนี้เขามีอยู่ 2 ร้าน ตอนแรกก็คิดว่าจะเข้าร้านไหนดีนะ สรุปคือเลือกไม่ได้
    เข้า 2 ร้านเลยละกัน อิ อิ
    ถ้ามาแล้ว ให้ลองมองที่ป้ายด้านข้างที่อยู่ในตึกนะคะ
    จะมีพวกคาเฟ่ที่น่าสนใจ ร้านอาหารที่น่ากิน แฝงตัวอยู่เยอะมาก
    มิกิ เคยเจอร้านอร่อย ๆ ร้านแปลก ๆ จากวิธีบ่อยเหมือนกันนะ
    คาเฟ่แรกที่ขึ้นมา คือ Kotsu – Mate ค่ะ
    ที่นี่จะมีพวกสัตว์เล็ก ๆ กับ นาก
    ราคาค่าเข้า
    วันธรรมดา 30 นาที 1000 เยน
    วันหยุด 30 นาที 1300 เยน
    * คาเฟ่สัตว์ แต่ละร้านจะมีการบริการต่างกันไปนะคะ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับที่เราชอบเลย
    อย่างบางที่ มีน้ำให้ 1 แก้ว หรือ บางที่ก็ไม่มี
    บางที่ให้จับสัตว์เล่นได้แบบชิล ๆ บางร้านก็ให้แค่แตะ ๆ
    ( อันนี้ถ้าจะให้ชัวร์อาจจะต้องดูรีวิวไปล่วงหน้าค่ะ เพราะเขาไม่ได้บอกไว้ที่หน้าร้าน )
    หรือที่จริงเข้าไปลองเลย แบบมิกิ ก็ได้นะคะ
    มิกิเลือกเข้ามา 30 นาทีค่ะ
    แล้วตรงนี้เขาจะมีออฟชั่นเสริมคือ อาหารที่ให้ป้อนสัตว์ค่ะ เลือกได้ 1 , 2 , 3  setตามราคา
    สัตว์ตัวแรกที่เราได้อุ้มเล่นคือ เม่นแคระ ค่ะ
    ตอนแรกก็สงสัยนะว่าเห็นเขาอุ้ม ๆ กัน ขนมันไม่แหลมเหรอ
    สรุปพอลองอุ้มเองแล้วก็คือ แหลมค่ะ 5 5 5 เจ็บนิด ๆ ถ้าอุ้มไม่เป็น
    เท่านั้นไม่พอนะ ตอนกลับออกมา งง ทำไมที่แขนเป็นจุด ๆ ๆ เพียบ แพ้อะไรหรือเปล่า
    แต่นั่นคือรอยโดนตำค่ะ T^T ไม่รู้ตัวเลย ( แต่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรนะคะ )
     
    แต่ถึงอย่างนั้น . . . น้องเม่นนี่น่ารักมากเลย
    ชอบหน้าแบ๊ว ๆ ดี
     
    เสร็จแล้วก็มาเล่นกับ ชูการ์ไกรเดอร์ สีขาวต่อค่ะ
    ซนมากกกกกก ขนาดที่ถ่ายภาพนิ่งแทบไม่ได้เลย
    แต่ขนนุ่มชะมัด
    แล้วก็มาอีกห้องนึง เป็นนาก ค่ะ
    ถ้าตัวไหนที่เขากำลังเล่นน้ำอยู่ ก็จะอยู่ในตู้ที่ยื่นมือออกมาได้ด้วยนะ
    ถ้าเราซื้ออาหารมาป้อน ก็ให้ทางช่องนี้ได้ค่ะ
    พอเจอนากแบบใกล้ ๆ แล้ว จะรู้เลยว่า ขี้โวยวายมาก แต่ก็น่ารักมากด้วย
    ขนก็นุ่มด้วยค่ะ
    พอครบ 30 นาที ก็ถึงเวลาไปต่ออีกร้านแล้วววว
    ร้านนี้ชื่อว่า Ikemofu ค่ะ
    พอเข้ามาแล้ว เขาจะให้เราเลือกว่า จะเล่นกับสัตว์เล็ก หรือ นก กิ้งก่า งู ค่ะ
    มิกิเลือกฝั่งนกฮูก เพราะเมื่อกี้เพิ่งจะเล่นกับสัตว์เล็กมา
    ราคาค่าเข้า
    เริ่มต้นที่ 30 นาที 1000 เยนค่ะ
    อันนี้เราเลือกได้แค่ฝั่งเดียวนะ ถ้าจะเข้า 2 ฝั่งก็ต้องจ่าย 2 ครั้งค่ะ
    เข้ามาแล้ว นกฮูกน่ารัก ๆ เพียบเลย
    พนักงานร้านจะแนะนำก่อนค่ะว่าตัวไหนเล่นได้ ตัวไหนไม่ได้ ( บางตัวเขาพักอยู่ )
    มีหลายนกฮูกพันธุ์มาก ๆ
    ตัวซ้ายมิกิเห็นแล้วนึกถึงนกเพนกวิ้นเลย ไม่รู้ทำไม > . <
    ชอบ 3 ตัวนี้มาก ๆ
    นกฮูกที่นี่แต่ละตัวก็มีชื่อด้วยนะคะ เขาจะเขียนไว้ที่ป้ายน๊า
    กิ้งก่า งู เต่า ก็มีค่ะ บางตัวก็จับได้นะ
    นกฮูกที่นี่จับตัวลูบหัวเล่นได้ทุกตัวค่ะ ( เฉพาะตัวที่อยู่ในเวลางาน )
    แต่ถ้าอยากจะให้มาเกาะที่ตัวเรา บอกพนักงานได้เลยค่ะ เดี๋ยวเขามาจับให้
    อันนี้ตัวใหญ่สุดของร้าน หนัก 3 กิโล -0-
    มิกิให้อยู่ที่แขนได้แป๊บเดียวเอง ไม่ไหว พอแขนเราจะตก นกบินหนีเลย
    กระพรือปีกทีอย่างกะพายุเข้าแน่ะ
    ยังมีคาเฟ่ต์สัตว์อีกหลายที่เลย ถ้ามาอีกเมื่อไหร่ เดี๋ยวจะพามาดูอีกนะคะ
    * หลายคนอาจจะคิดว่า โห ราคาโหดจัง แต่ว่าสำหรับมิกินะ
    โอเคกับราคาค่ะ เพราะสัตว์พวกนี้ค่าดูแลสูง อีกอย่างซื้อมาเลี้ยงเองก็แพงแล้วก็คงไม่มีเวลาดูแล
    นาน ๆ ทีได้มาเล่นแบบนี้ก็มีความสุขดีค่ะ
    ในถนนเส้นนี้ มีร้าน Drug Store หลายร้าน
    ร้านอาหารเพียบ ช็อปปิ้งก็เยอะ เกมส์เซ็นเตอร์ ตู้กาชาปอง ร้านสะดวกซื้อ เยอะเลย
    มีร้าน 100 เยน ด้วยค่ะ อยู่ขั้นใต้ดิน
    ที่ญี่ปุ่นมีร้าน 100 เยนอยู่หลายแบรนด์ค่ะ ของก็มีหลากหลายเหมือนกัน
    ถ้ามาแล้วอยากรู้ว่าแถวที่เราอยู่มีร้านไหม
    วิธีหาร้าน 100 เยน ก็เข้า Google map แล้วหาคำว่า 100 yen shop ค่ะ
    จะมีขึ้นมาหลายร้านเหมือนกัน ก็ดูที่ใกล้ที่สุด
    มีร้าน 300 เยน กับ 390 เยน ด้วยนะคะ ของน่ารักเยอะดี
    ( * ราคายังไม่รวม Tax 8% นะคะ สมมุติของ 100 เยน จ่ายจริงก็ 108 เยนน๊า )
    ร้านเครนเกมส์ มีทั้งตู้เกมส์ เครนเกมส์ กาชาปอง ตู้สติ๊กเกอร์ ค่ะ
    ของน่ารัก ๆ ทั้งนั้น ตุ๊กตาเครนเกมส์นี่คือสุด ๆ เลย
    จากเส้นหลัก ก็จะมีซอยแยกเข้าไปค่ะ
    เดินตามซอยก็ยังมีร้านที่น่าสนใจอยู่อีกนะ
    จำได้ว่าเคยมีคนบอกไว้ว่าถ้าเรานึกถึง Akihabara ว่าเป็นแหล่งสวรรค์ของโอตะคุฝ่ายชาย
    ที่ Ikebukuro ก็เป็นสวรรค์ของโอตะคุฝ่ายหญิงค่ะ
    ( แต่พอมาจริง ๆ แล้ว มิกิ ว่าก็ได้ทั้ง 2 ฝ่ายนะ แต่ที่นี่จะมีพวกเกี่ยวกับคอสเพลย์มากกว่า )
    ร้าน Animete ก็ด้วยค่ะ
    เป็นตึกสูง 9 ชั้น ที่ทุกอย่างคือ Anime แต่ละชั้นก็จะวางของต่างกันไป
    มีคนมาเดินเยอะใช้ได้เลยค่ะ ของก็เยอะเหมือนกัน
    เห็นแล้วก็อยากได้เน๊อะ
    พวกของใช้น่ารัก ๆ จากการ์ตูนก็มีขายเยอะค่ะ
    อย่างเรื่องกุหลายแวร์ซาย เนี่ยเก่ามาก แต่ว่ายังมีสินค้าใหม่ ๆ ออกมาขายเรื่อย ๆ
    พวกการ์ตูนเก่า ๆ เรื่องอื่น ๆ ก็พอจะมาหาได้ที่นี่นะคะ
    รับตัวไหนกลับบ้านด้วยดีคะ
    ที่ Ikebukuro Station ตรงนี้มีห้างอยู่ด้วย อย่างเช่น Seibu , Parco ค่ะ
    ส่วนตรงด้านล่างสถานีเอง ก็ยังมีพวกร้านอาหาร Drug Store อีกเยอะแยะเลย
    Daiso ที่ทุกคนคุ้นเคย
    ของเยอะมาก ๆ คิดเป็นเงินไทย เริ่มต้นชิ้นนึงก็แค่ 33 บาท ( รวม Tax )
     
    มุมเครื่องสำอาง ตอนนี้มีขนตาปลอมแบบสวย ๆ เพียบค่ะ
    มีอันนึง เทียบราคาต่อคู่แล้วยังถูกกว่าไปซื้อยกแพ็คที่ร้าน Drug Store อีกนะ
    ส่วนพวกลิปสติกน่ารัก ๆ ก็มีนะคะ
    ของเล่นเด็ก อุปกรณ์อื่น ๆ ขนมก็มีนะ
    พวกของกิน ลองสำรวจจากร้านทั่วไปก่อนนะคะ
    บางอย่างที่อื่นก็ขายถูกกว่านะ
    แล้วก็ห้างที่น่าเดินอีกที่ก็คือ ALTA กับ Sunshine City ค่ะ อยู่ติดกันเลย
    ที่ ALTA จะเน้นพวกของวัยรุ่นน่ารัก ๆ ของจุกจิก ราคากลาง ๆ
    อย่างร้าน Picnic ก็มีของน่ารักเยอะมากค่ะ ( แต่ส่วนมากไม่ค่อยมี Tax Free นะ )
    ร้านนี้ มิกิ แวะไปอยู่นานเลยค่ะ นอกจากพวกตุ๊กตาสีสดใสแล้ว
    ของเล่น เครื่องสำอาง แปลก ๆ ก็มีอยู่ด้วยนะ
    ใครชอบสไลม์ ที่นี่มาขายหลายสีมาก ๆ
    เด็ก ๆ มาแล้วต้องร้องอยากได้แน่เลย ยังมีของเล่นแปลก ๆ อีกเยอะด้วย อย่างเช่นพวกไข่ที่เอาไปแช่น้ำ แล้วลุ้นว่าจะเป็นตัวอะไรออกมา ฯลฯ
    อันนี้เจลเย็น สำหรับผิวหลังโดนแดดเผาค่ะ
    น่าสนใจตรงเลข -10 องศานี่ล่ะ อยากรู้ว่าทาแล้วจะเย็นขนาดนั้นจริงหรือเปล่า
    ร้าน Nipopo ก็เป็นพวกตุ๊กตา ของใช้ ที่เป็นรูปสัตว์ค่ะ
    ของน่ารักมาก ๆ เลย สาว ๆ น่าจะชอบกัน
    แล้วก็เดินเข้า Sunshine City อันนี้เขาเชื่อมติดกันกับ ALTA เลยค่ะ
    ห้างนี้มีขายเสื้อ ของใช้ ร้านอาหาร สวนสนุก อควาเลี่ยม อยู่ด้วยน๊า
    ถ้ามาที่ Ikebukuro แล้วห้ามพลาดที่จะแวะมาที่นี่นะคะ
    ด้านบนมี Namja Town ข้างในจะเป็นคล้าย ๆ สวนสนุกแบบเด็ก ๆ ( แต่เป็นภาษาญี่ปุ่น )
    บรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณ ๆ มีที่ถ่ายรูปสวย ๆ หลายจุด
    แล้วก็จะมีร้านอาหาร ที่มีเมนูน่ารัก ๆ จากการ์ตูน
    แล้วก็ . . . มีความลับอยู่ใน้องน้ำหญิงห้องขวาสุดด้วยค่ะ แต่จะเป็นอะไรต้องเข้าไปลองเองนะ
    รับรองว่า อืมมมมม . . . เอาเป็นว่าเจ๋งมากอ่ะ
    Pokemon ก็มี ข้างในมีขายตุ๊กตาเยอะเลยค่ะ
    J- World Tokyo ในนี้เป็นสวนสนุกที่มีคาแรคเตอร์จากอนิเมะหลาย ๆ เรื่อง
    ดราก้อนบอล นารุโตะ วันพีช ฯลฯ
    ด้านในมีจุดให้ถ่ายรูป อย่างเช่นขึ้นไปยืนบนเมฆสีทองของโกคูด้วยน๊า
    มีคาเฟ่ธีมจากอนิเมะด้วย
    ถ้าใครชอบการ์ตูนหลาย ๆ เรื่องในนี้ก็ห้ามพลาดนะคะ
    ส่วนบัตรจองล่วงหน้าจาก Klook ไปได้เลยเหมือนกันน๊า ตรงนี้ https://bit.ly/2NgDYWN
    Kiddyland ที่นี่มีของเล่นขายเยอะมากค่ะ
    น่ารัก ๆ ทั้งนั้น
    คอลเลคชั่นใหม่ ๆ ก็จะมาขายที่นี่ด้วยค่ะ
    ร้านนี้ชุดน่ารักดี ที่ญี่ปุ่นราคาเสื้อผ้าอาจจะดูสูงหน่อย
    แต่ว่าเนื้อผ้าดีมาก ๆ ใส่สบาย และถ้ามาช่วงเซลล์บางทีจะเจอแบบลดเยอะมาก
    ก็รีบสอยค่ะ ที่นี่เขาลดแบบลดจริงมาก ๆ
    ชั้นบนเป็นร้านอาหาร มีให้เลือกเยอะจนตาลาย
    ร้านที่เลือกเข้ามาชื่อ Tigre Bon Bon เป็นร้านสเต็ก
    ดูอาหารตัวอย่างที่หน้าร้าน ดูน่ากินมาก ๆ
    มาแล้วค่ะ น่ากินไหม
    เนื้อด้านในชุ่มฉ่ำมาก ๆ ใน Set จะมาพร้อมน้ำซูป กับ ข้าว/ขนมปัง ค่ะ
    อันนี้อร่อยน๊า
    แล้วมาที่นี่ทั้งทีก็ต้องห้ามพลาดธีมคาเฟ่ค่ะ
    ช่วงนี้ที่ร้าน The Guest Cafe and Diner เป็นธีม Sailor Moon x My Melody
    ปกติแล้วร้านนี้เขาจะเปลี่ยนธีมของร้านไปเรื่อย ๆ ค่ะ
    อย่างปลายปีก่อนที่สาขาโอซาก้า ก็เป็น ธีมรันม่า 1/2
    สีหวานชวนให้เดินเข้าไปมาก ๆ
    ร้านสาขานี้อยูบนห้าง Parco นะคะ
    เมนูหน้าร้านดึงดูดให้เข้าไปมาก ๆ
    ติดต่อพนักงานหน้าร้าน แล้วเขาจะพาเข้ามานั่งค่ะ
    เสร็จแล้วมีเมนูมาให้
    มาดูเมนูกัน จะมีภาษาอังกฤษเฉพาะชื่ออาหารนะคะ
    แต่เอาจริง ๆ นะ มิกิว่าหลาย ๆ คนเลือกสั่งจากรูปมากกว่า
    มิกิสั่ง Luna & My Melody คัลเลอร์ฟูลเมอแรงค์ลาเต้ กับ Sailor Moon & Melody สตราร์ชีสริซอตโต
    ชีสรีซอตโต มาเป็นสีขมพูเลยค่ะ รสชาติจะจืด ๆ หน่อย
    เขาจะมีสตรอเบอรี่ฟรีซดรายชิ้นเล็ก ๆ มาให้โรยด้วย พอโรยแล้วอร่อยดี
    ส่วนเมอแรงค์ลาเต้ ก็เฉย ๆ ค่ะ คือกินได้แหละ
    แต่ความน่ารักนี่เอาเต็มไปเลย > . <
    บรรยากาศในร้านก็ครึกครื้นดี มีเปิดเพลงมิวสิกคัลจากเรื่องเซเลอร์มูนให้ดูด้วย
    อันนี้เป็นของที่มีขายค่ะ
    ปกติแล้วธีมคาเฟ่แบบนี้ จะมีร้านขายของที่ระลึกอยู่ด้วยค่ะ
    อันนี้ถ่ายมาให้ดูนิดนึง อยากได้ตุ๊กตา . . .
    มาถึง Tokyu Hands ห้างนี้มิกิชอบมากกกกกก
    มีขายของแทบจะทุกอย่าง ของ Diy ของแปลก ๆ ก็เยอะ
    ชั้นบนมีตู้กาชาปองเยอะด้วยค่ะ
    การ์ดน่ารักมาก ๆ
    กาชาปองหมวกแมว ที่นี่เขารวบรวมที่มีทั้งหมดมาให้หมุนเลย
    อาหารของมนุษย์อวกาศ
    ถ้าอยากรู้ว่าที่เขากินเป็นแบบไหนซื้อไปลองชิมได้เลย มีทาโกะยากิ ด้วยนะ
    มิกิเคยกินไอศกรีม มันจะเป็นเหมือนนมที่ทำให้เป็นก้อน กรอบแบบร่วน ๆ
    อร่อยแบบแปลก ๆ ดี
    ถุงซิปล็อคน่ารักมากกกก
    ชั้นเครื่องเขียน มีเครื่องเขียนเยอะแบบละลานตา
    อันนี้เป็นสีไม้ แบบโทนสีพาสเทลค่ะ สวยมาก
    บาธบอม ที่ข้างในให้เราลุ้นว่าจะได้น้องหมาเกาะแก้วตัวไหน ที่เขาใส่ไว้ข้างใน
    บาธเอสเซนต์ อันนี้เอาลงไปใส่ในอ่างน้ำได้เลยค่ะ แล้วก็จะมีกลิ่นหอม ๆ
    ดูผ่าน ๆ เหมือนของกินได้เลยเน๊อะ
    ไฮไลท์แบบสีเทียนค่ะ น่ารักดี
    กล่อง / ซอง ที่ด้านในใส่กระดาษที่เขียนข้อความได้
    น่ารักสุด ๆ
    ยังมีของที่น่าสนใจอีกเยอะเลย ทั้งกระเป๋า เครื่องสำอาง เครื่องครัว ของเล่น
    แล้วก็มีหลายสาขาค่ะ แต่ว่าที่ Ikebukuro ก็ใหญ่เหมือนกัน
    แล้วก็แวะมาหาอะไรกินกันต่อ
    พอเราออกจากสถานีมา เดินข้ามถนนไป จะเจอเวิ้งของกินค่ะ
    Okonomiyaki Kamon – Tei
    ร้านที่มิกิเล็งเอาไว้ วันแรกคือมาแล้วเต็ม อดกิน
    แต่ว่าในที่สุดก็ได้มาลองกินจนได้ ( โชคดีนัดเจอน้องอดัมที่บินมาพอดี เลยมีเพื่อนกินข้าวละ )
    ร้านจะเป็นสไตล์นี้ค่ะ เป็นส่วนตัวหน่อย ๆ
    Cheese Omelet อันนี้ตอนแรกคิดว่าน่าจะจืด ๆ
    แต่ ๆ ๆ ๆ ที่จริงแล้วมันอร่อยมากกกก
    ไข่นุ่ม ๆ แล้วชีสก็เต็ม ๆ ราดซอสรสชาติดีมาด้วย
    อันนี้ถ้ามาแล้วควรสั่งค่ะ ดีมาก ไม่มีความเลี่ยนเลย
    Okonomiyaki Original with Soup stock
    เลือกแบบ Sea Food มาค่ะ
    มันแปลกตรงที่ ตอนกินเขาต้องเอามาจิ้มกับน้ำซุปนี่แหละ
    รสชาติดีเลยค่ะ ซุปก็เค็ม ๆ หอม ๆ
    ที่นี่เชาก็มี Okonomiyaki สไตล์ Kobe , Tokyo ด้วยค่ะ
    แล้วก็ทาร์ตBake ที่ซื้อมาตอนเดินจากสถานี JR ค่ะ
    มิกิยังไม่เคยกินที่ไทยนะ แต่น้องอดัมเคยกินแล้ว พอมาที่นี่ก็เลยลองดู
    สรุปว่ารสชาติเหมือนกันเด๊ะ ๆ คุมสูตรได้ดีมาก
    ย่าน Ikebukuro นี่ถ้าใครเก่งภาษาญี่ปุ่น เขาก็มีร้าน Karaoke ด้วยนะคะ
    เมดคาเฟ่ โรงหนัง ร้านขายชุด อุปกรณ์ คอสเพลย์ สตูดิโอถ่ายรูป . . . เยอะมาก
    ดองกี้ก็มี เปิด 24 ชม. ด้วย เยื้อง ๆ ทางออกสถานีเลย
    วันนี้พาเดินเล่นย่านนี้เรียบร้อยแล้ว ครั้งหน้าไปลองแต่งชุดโออิรัน กินอาหารญี่ปุ่นแท้ ๆ
    แล้วก็แหล่ง กาชาปอง ที่น่าไปกันนะคะ
    Sponsor by Klook ( ตั้วเครื่องบิน – ที่พัก – กิจกรรมทั้งหมดของ Klook )
    โครงการ Klook กูรูท่องโลก
    โครงการที่รับสมัครกูรูไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น/เกาหลี ค้นหาที่เที่ยวใหม่ ๆ อาหารที่น่าสนใจ และ ได้มิกิเองได้ชนะการคัดเลือกมาเป็นตัวเเทนของประเทศไทย ในการทำทำกิจกรรมจาก Klook แบบฟรี ๆ ค่ะ
    โปรโมชั่น หรือ กิจกรรมดี ๆ แบบนี้ เพื่อน ๆ ติดตามกันได้ที่