กำลังวางแผน เที่ยวมาเก๊า 2025 อยู่ใช่ไหม? ไม่ว่าจะเป็นทริปแรกหรือกลับไปเยือนอีกครั้ง คู่มือเที่ยวมาเก๊า ฉบับสมบูรณ์นี้คือคำตอบของคุณ! มาเก๊าคือจุดหมายปลายทางที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ผสมผสานเสน่ห์ของมรดกโลกสไตล์โปรตุเกสเข้ากับความอลังการของรีสอร์ตและคาสิโนระดับโลกได้อย่างลงตัว
บทความนี้ได้รวบรวม 15 ที่เที่ยวมาเก๊า ครบทุกสไตล์ ตั้งแต่แลนด์มาร์กสุดคลาสสิก, จุดถ่ายรูปสวยๆ เปิดใหม่, ไปจนถึงกิจกรรมสนุกๆ สำหรับครอบครัวและสายแอดเวนเจอร์ เตรียมจดลิสต์แล้วไปวางแพลน เที่ยวมาเก๊าด้วยตัวเอง กันได้เลย!
อัปเดตล่าสุด! โชว์อันดับ 1 ในมาเก๊า The House of Dancing Water
การกลับมาครั้งใหม่! โชว์ใหม่ล่าสุดจาก Franco Dragone ในปี 2025 ข่าวดีสำหรับแฟนๆ! City of Dreams และ Franco Dragone ผู้กำกับระดับตำนานที่สร้างสรรค์ The House of Dancing Water ขึ้นมา ได้ประกาศการกลับมาร่วมมือกันอีกครั้งเพื่อสร้างสรรค์ การแสดงสุดยิ่งใหญ่ชุดใหม่ล่าสุด!
โชว์ใหม่นี้ไม่ใช่การนำ The House of Dancing Water กลับมาทำใหม่ แต่จะเป็น โปรดักชันใหม่ทั้งหมด ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อมาแทนที่และสานต่อความสำเร็จเดิม โดยจะยังคงจัดแสดงในโรงละคร "Dancing Water Theater" ที่ถูกปรับปรุงและอัปเกรดด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยยิ่งกว่าเดิม เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือจินตนาการและยิ่งใหญ่กว่าที่เคยมีมา
โซนเมืองเก่ามรดกโลก (Historic Centre of Macao)
1. ซากโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul's) แลนด์มาร์กที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต
เริ่มต้นทริปมาเก๊ากันที่ภาพจำอันเป็นเอกลักษณ์ที่สุด ซากโบสถ์เซนต์ปอล คือจิตวิญญาณและสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ของมาเก๊าอย่างแท้จริง ที่นี่เป็นส่วนหน้าของมหาวิหารและวิทยาลัยเซนต์ปอล ซึ่งเคยเป็นมหาวิทยาลัยสไตล์ตะวันตกแห่งแรกในเอเชียตะวันออก ก่อนจะถูกทำลายจากเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี 1835 จนเหลือเพียงสถาปัตยกรรมบาโรกอันสง่างาม ที่นี่จึงเป็น ที่เที่ยวมาเก๊าอันดับหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเยือน
ไฮไลท์เด็ด: ถ่ายรูปมุมมหาชนบนขั้นบันได 68 ขั้น, ชมรายละเอียดงานแกะสลักที่ผสมผสานสัญลักษณ์ตะวันตกและตะวันออก, เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะศักดิ์สิทธิ์ด้านหลัง
Klook's Tips: แนะนำให้ไปช่วงเช้าตรู่ (ก่อน 9 โมง) เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนและได้แสงสวยๆ ในการถ่ายรูป จากนั้นสามารถเดินไปเที่ยวที่อื่นในย่านเมืองเก่าต่อได้เลย
2. จัตุรัสเซนาโด (Senado Square) หัวใจแห่งย่านเมืองเก่า
จัตุรัสเซนาโด คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดสำหรับการ เดินเที่ยวมาเก๊าด้วยตัวเอง ในย่านมรดกโลก พื้นจัตุรัสปูด้วยหินอ่อนลายคลื่นอันเป็นเอกลักษณ์ รายล้อมด้วยอาคารสถาปัตยกรรมโคโลเนียลสีพาสเทลสไตล์โปรตุเกส ที่นี่เป็นศูนย์กลางที่คึกคักไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญอื่นๆ บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาทำให้ที่นี่เป็นจุดนัดพบและพักผ่อนยอดนิยม
ไฮไลท์เด็ด: ชมความงามของตึก Leal Senado และโบสถ์เซนต์โดมินิกสีเหลืองสดใส, ลองชิมสตรีทฟู้ดมาเก๊าชื่อดัง เช่น ลูกชิ้นแกงกะหรี่
Klook's Tips: หากมาเที่ยวช่วงเทศกาลคริสต์มาสหรือตรุษจีน จัตุรัสแห่งนี้จะถูกประดับประดาอย่างงดงามเป็นพิเศษ เป็น จุดถ่ายรูปสวยๆ มาเก๊า ที่ไม่ควรพลาด
3. วัดอาม่า (A-Ma Temple) ขอพรวัดศักดิ์สิทธิ์ ต้นกำเนิดชื่อ "มาเก๊า"
ย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของมาเก๊าที่ วัดอาม่า วัดที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งท้องทะเล "หม่าโจ้ว" (อาม่า) ผู้คุ้มครองชาวเรือและชาวประมง ที่นี่เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนมาตั้งแต่ก่อนยุคโปรตุเกส และเชื่อกันว่าเป็นที่มาของชื่อ "มาเก๊า" ด้วยสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่ตั้งลดหลั่นตามไหล่เขาและบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่ง สถานที่ขอพรยอดนิยมในมาเก๊า
ไฮไลท์เด็ด: ชมศาลเจ้าที่ผสมผสานความเชื่อของพุทธ เต๋า และความเชื่อพื้นบ้าน, ขอพรเพื่อการเดินทางที่ปลอดภัย, ชมวิวทะเลจากมุมสูงของวัด
Klook's Tips: แต่งกายสุภาพเพื่อเป็นการให้เกียรติสถานที่ และลองสังเกตธูปวงขนาดใหญ่ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งผู้คนนิยมจุดเพื่อขอพรให้โชคดี
4. ป้อมปราการกีอา (Guia Fortress) จุดชมวิวสูงที่สุดในเมือง
หากคุณกำลังมองหา จุดชมวิวพาโนรามาของมาเก๊า ต้องขึ้นมาที่ ป้อมปราการกีอา ซึ่งตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของคาบสมุทรมาเก๊า ที่นี่เป็นที่ตั้งของ ประภาคารกีอา ประภาคารสไตล์ตะวันตกแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังคงใช้งานอยู่ คุณจะได้เห็นภาพเมืองมาเก๊าแบบ 360 องศา ที่ตัดกันระหว่างย่านเมืองเก่าและตึกระฟ้าสมัยใหม่
ไฮไลท์เด็ด: ถ่ายรูปกับประภาคารสีขาวสะอาดตา, ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์ Guia Chapel, เดินสำรวจอุโมงค์ทหารใต้ดิน
Klook's Tips: สามารถนั่ง Guia Cable Car ซึ่งเป็นกระเช้าที่สั้นที่สุดในโลกขึ้นมาได้ เพื่อความสะดวกและชมวิวระหว่างทาง
โซนโคไทสตริป (Cotai Strip) อาณาจักรแห่งความบันเทิง
5. เดอะ เวเนเชียน มาเก๊า (The Venetian Macao) ล่องเรือกอนโดลาในเวนิสแห่งเอเชีย
สัมผัสประสบการณ์สุดโรแมนติกที่ เดอะ เวเนเชียน มาเก๊า กับกิจกรรมไฮไลท์อย่างการ ล่องเรือกอนโดลา ไปตามลำคลองจำลองใต้เพดานท้องฟ้าสีคราม พร้อมฟังเสียงขับกล่อมโอเปร่าจากฝีพาย ที่นี่คือรีสอร์ตครบวงจรที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่ตั้งของ คาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และโซนช้อปปิ้งปลอดภาษีขนาดมหึมา
ไฮไลท์เด็ด: ล่องเรือกอนโดลา, ช้อปปิ้งที่ The Grand Canal Shoppes, ชมการแสดง Streetmosphere
Klook's Tips: เป็นกิจกรรมในร่มที่เหมาะสำหรับทุกสภาพอากาศ แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าผ่าน Klook เพื่อประหยัดเวลาต่อคิวและได้ราคาพิเศษ
6. เดอะ ลอนดอนเนอร์ มาเก๊า (The Londoner Macao) เช็คอินลอนดอนแบบไม่ต้องบิน
ที่เที่ยวเปิดใหม่มาเก๊า ที่กำลังมาแรงสุดๆ! เดอะ ลอนดอนเนอร์ ได้ยกมหานครลอนดอนมาไว้ที่โคไทสตริป โดดเด่นด้วยหอนาฬิกาบิ๊กเบนขนาดเท่าของจริง และอาคารรัฐสภาเวสต์มินสเตอร์ ที่นี่จึงกลายเป็น จุดถ่ายรูปมาเก๊าแห่งใหม่ ที่ทุกคนต้องมาเยือน ภายในตกแต่งอย่างหรูหราและมีโชว์สลับสับเปลี่ยนให้ชมตลอดวัน
ไฮไลท์เด็ด: ชมการแสดงแสงสีเสียง The Londoner Light and Sound Spectacular ยามค่ำคืน, ถ่ายรูปกับรถบัสสองชั้นสีแดง, ชมโชว์เปลี่ยนเวรยามของทหารจำลอง
Klook's Tips: มุมถ่ายรูปยอดฮิตคือบริเวณสะพานลอยฝั่งตรงข้าม จะสามารถเก็บภาพอาคารทั้งหมดพร้อมหอนาฬิกาบิ๊กเบนได้อย่างสวยงาม
7. วินน์ พาเลซ (Wynn Palace) นั่งกระเช้าฟรีชมโชว์น้ำพุสุดอลังการ
มองหา กิจกรรมฟรีในมาเก๊า ที่หรูหราและน่าประทับใจอยู่ใช่ไหม? ต้องมาที่ วินน์ พาเลซ เพื่อขึ้น กระเช้า SkyCab ชมวิวทะเลสาบ Performance Lake และการแสดงน้ำพุประกอบดนตรีสุดตระการตาจากมุมสูง การแสดงจัดขึ้นทุก 20-30 นาทีในช่วงเย็น เป็นประสบการณ์สุดพิเศษที่คุณไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว
ไฮไลท์เด็ด: นั่งกระเช้า SkyCab ข้ามทะเลสาบ, ชมการแสดงน้ำพุที่สูงเทียบเท่าตึกหลายสิบชั้น, ชมการตกแต่งภายในโรงแรมที่เต็มไปด้วยงานศิลปะ
Klook's Tips: สามารถขึ้นกระเช้าได้จาก 2 สถานี แนะนำให้ขึ้นจากฝั่งถนนใหญ่เพื่อชมวิวโชว์น้ำพุขณะเคลื่อนตัวเข้าสู่โรงแรม จะได้มุมมองที่สวยที่สุด
8. สตูดิโอ ซิตี้ (Studio City) สวนน้ำและชิงช้าสวรรค์สุดล้ำ
ที่เที่ยวมาเก๊าสำหรับครอบครัว ที่ครบเครื่องเรื่องความสนุก! สตูดิโอ ซิตี้ โดดเด่นด้วยชิงช้าสวรรค์ Golden Reel รูปเลข 8 แห่งแรกของโลก และ สวนน้ำสตูดิโอซิตี้ (Studio City Water Park) สวนน้ำระดับโลกที่มีทั้งโซนในร่มและกลางแจ้ง ทำให้สนุกได้ตลอดทั้งปี ที่นี่เต็มไปด้วยสไลเดอร์สุดมันส์และเครื่องเล่นสำหรับทุกคนในครอบครัว
ไฮไลท์เด็ด: สวนน้ำสุดอลังการ, ชิงช้าสวรรค์ Golden Reel, โรงภาพยนตร์ 4D
Klook's Tips: หากต้องการเล่นสวนน้ำ แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าผ่าน Klook โดยเฉพาะช่วงวันหยุด เพราะเป็นที่นิยมอย่างมาก
9. teamLab SuperNature Macao โลกศิลปะดิจิทัลสุดล้ำ
ดื่มด่ำกับประสบการณ์ศิลปะที่ไม่เหมือนใครที่ teamLab SuperNature นิทรรศการศิลปะดิจิทัลแบบ Immersive ที่จะทำให้คุณกลายเป็นส่วนหนึ่งของผลงาน บนพื้นที่กว่า 5,000 ตร.ม. คุณจะได้สัมผัสกับโลกแห่งแสงสีที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนไหวของคุณ เป็น จุดถ่ายรูปสวยๆ ในมาเก๊า ที่สายคอนเทนต์และคนรักศิลปะห้ามพลาด
ไฮไลท์เด็ด: โซน Valley of Flowers and People, The Infinite Crystal Universe
Klook's Tips: สวมเสื้อผ้าสีอ่อนหรือสีขาวจะช่วยให้ถ่ายรูปออกมาสวยและโดดเด่นที่สุด และควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงเพื่อดื่มด่ำกับทุกโซน
10. แกรนด์ ลิสบัว พาเลซ (Grand Lisboa Palace) ความหรูหราแห่งโลกตะวันออกและตะวันตก
อีกหนึ่ง รีสอร์ตเปิดใหม่บนโคไทสตริป ที่รวมเอาสุดยอดโรงแรม 3 แบรนด์ดัง (รวมถึง Palazzo Versace และ THE KARL LAGERfeld) ไว้ในที่เดียว แกรนด์ ลิสบัว พาเลซ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระราชวังยุโรปผสมผสานกับศิลปะจีนอย่างลงตัว จุดเด่นคือสวนสวย Jardim Secreto ที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้
ไฮไลท์เด็ด: เดินชมสวนสวย Jardim Secreto, ถ่ายรูปกับสถาปัตยกรรมสุดอลังการ
Klook's Tips: ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่เหมาะสำหรับการมาเดินเล่นถ่ายรูป แม้ไม่ได้เป็นแขกของโรงแรมก็ตาม
โซนไทปาและโคโลอาน (Taipa & Coloane) สัมผัสเสน่ห์ที่แตกต่าง
11. หมู่บ้านไทปา (Taipa Village) ย่านชิลล์ๆ แหล่งรวมของอร่อย
หากอยากสัมผัสมาเก๊าในบรรยากาศสบายๆ ต้องมาที่ หมู่บ้านไทปา ย่านเล็กๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยน่ารัก, อาคารสไตล์โคโลเนียลสีสันสดใส และเป็นที่ตั้งของ Rua do Cunha หรือ "ถนนสายอาหาร" แหล่งรวม ของกินห้ามพลาดในมาเก๊า ทั้งทาร์ตไข่, พุดดิ้งเซอร์ราดูรา, และของฝากขึ้นชื่อ
ไฮไลท์เด็ด: ชิมทาร์ตไข่และของอร่อยบนถนน Rua do Cunha, เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Taipa Houses-Museum
Klook's Tips: ช่วงบ่ายแก่ๆ ถึงเย็นเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือน เพราะร้านค้าและร้านอาหารจะเปิดครบครันและบรรยากาศดีมาก
12. หมู่บ้านโคโลอาน (Coloane Village) สโลว์ไลฟ์ริมทะเล
หลีกหนีความวุ่นวายมายังตอนใต้สุดของมาเก๊าที่ หมู่บ้านโคโลอาน ที่นี่คือมาเก๊าในมุมที่เงียบสงบและเป็นธรรมชาติที่สุด คุณจะได้พบกับหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่, โบสถ์เซนต์ฟรานซิสซาเวียร์สีสันสดใส และที่สำคัญคือเป็นที่ตั้งของร้าน ทาร์ตไข่ในตำนาน Lord Stow's Bakery สาขาดั้งเดิม
ไฮไลท์เด็ด: ชิมทาร์ตไข่ต้นตำรับ, เดินเล่นริมทะเล, ถ่ายรูปกับโบสถ์และอาคารสีพาสเทล
Klook's Tips: เหมาะสำหรับทริปครึ่งวันสบายๆ สามารถเดินทางด้วยรถประจำทางจากไทปาหรือโคไทสตริปได้อย่างสะดวก
13. Macao Giant Panda Pavilion พบปะแพนด้ายักษ์สุดน่ารัก
ที่เที่ยวมาเก๊าสำหรับครอบครัว ที่สร้างรอยยิ้มได้เสมอ ที่นี่เป็นบ้านของแพนด้ายักษ์และแพนด้าแดง โดยเปิดให้ เข้าชมฟรี! คุณจะได้เห็นความน่ารักของแพนด้าในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงธรรมชาติ เป็นกิจกรรมที่ช่วยฮีลใจและเหมาะสำหรับคนรักสัตว์อย่างยิ่ง
ไฮไลท์เด็ด: ชมแพนด้ายักษ์และแพนด้าแดงอย่างใกล้ชิด
Klook's Tips: แนะนำให้ไปช่วงเช้าซึ่งเป็นเวลาให้อาหาร แพนด้าจะคึกคักและออกมาให้เห็นมากกว่าช่วงบ่าย
4. มาเก๊า ทาวเวอร์ (Macau Tower) ท้าทายความกล้ากับวิวหลักล้าน
สำหรับสายแอดเวนเจอร์ นี่คือ กิจกรรมสุดท้าทายในมาเก๊า ที่คุณต้องลอง! มาเก๊า ทาวเวอร์ มีกิจกรรมให้เลือกทั้ง Skywalk เดินชมวิวบนขอบตึก และ Bungy Jump ที่สูงที่สุดในโลก! แต่หากไม่ชอบความหวาดเสียว ก็สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองแบบ 360 องศาบนชั้นชมวิวได้เช่นกัน
ไฮไลท์เด็ด: บันจี้จัมพ์สูง 233 เมตร, เดินบน Skywalk, ชมวิวเมืองจาก Observation Lounge
Klook's Tips: ช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ตกเป็นเวลาที่ดีที่สุด คุณจะได้เห็นวิวทั้งช่วงกลางวันและแสงสีของเมืองยามค่ำคืน
15. Cotai Strip เดินเล่นชมแสงสีและสถาปัตยกรรมสุดอลังการ
สุดท้ายนี้ แม้เราจะพูดถึงรีสอร์ตต่างๆ ไปแล้ว แต่การ เดินเล่นบนถนนโคไทสตริป (Cotai Strip) ยามค่ำคืนก็คือกิจกรรมในตัวเอง ถนนเส้นนี้คือศูนย์รวมของโรงแรมและรีสอร์ตหรูที่แข่งกันประดับไฟและนำเสนอสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ การได้เดินชม The Parisian Macao ที่มีหอไอเฟลจำลอง หรือชมความยิ่งใหญ่ของ Galaxy Macau ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว
ไฮไลท์เด็ด: ชมแสงสียามค่ำคืน, ถ่ายรูปกับรีสอร์ตต่างๆ, ใช้บริการรถ Shuttle Bus ฟรี
Klook's Tips: วางแผนการเดินทางโดยใช้ ตารางรถ Shuttle Bus ฟรี ของโรงแรมต่างๆ จะช่วยให้คุณเดินทางเชื่อมต่อระหว่างรีสอร์ตและไปยังจุดสำคัญอื่นๆ ได้อย่างสะดวกและประหยัด
การเดินทางไปมาเก๊าจากประเทศไทย
การเดินทางจากประเทศไทยไปมาเก๊านั้นสะดวกสบายและมีหลายตัวเลือกให้เลือกตามงบประมาณและแผนการเดินทางของคุณ นี่คือสรุปวิธีการเดินทางที่ง่ายและครบถ้วนที่สุด
1. การเดินทางโดยเครื่องบิน (Flights)
วิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดคือการบินตรงไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติมาเก๊า (Macau International Airport - MFM) ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.5 - 3 ชั่วโมง
- สายการบินที่ให้บริการบินตรง (Direct Flights):
- Air Macau: สายการบินฟูลเซอร์วิสของมาเก๊าโดยตรง มีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ - BKK)
- Thai AirAsia: สายการบินราคาประหยัดยอดนิยม มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง - DMK)
- ข้อดีของการบินตรง: สะดวกสบาย ประหยัดเวลา ไม่ต้องวุ่นวายกับการต่อเครื่องหรือเดินทางข้ามด่าน เมื่อถึงสนามบินมาเก๊า (MFM) ก็สามารถนั่งรถ Shuttle Bus ฟรีของโรงแรมต่างๆ เข้าสู่ที่พักบนโคไทสตริปหรือตัวเมืองมาเก๊าได้ทันที
2. ตัวเลือกเสริม: บินลงฮ่องกงแล้วเดินทางต่อ
อีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องการเที่ยว 2 ที่ในทริปเดียว หรือเจอโปรโมชันตั๋วเครื่องบินไปฮ่องกงในราคาที่ดีกว่า คือการบินไปลงที่ ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง (Hong Kong International Airport - HKG) แล้วเดินทางต่อไปยังมาเก๊า ซึ่งปัจจุบันมีวิธีที่สะดวกที่สุดคือ:
การเดินทางด้วยรถบัสข้ามสะพาน HZMB (Hong Kong-Zhuhai-Macau Bridge)
นี่คือวิธีที่ทันสมัย รวดเร็ว และประหยัดที่สุดในการข้ามไปมาเก๊าจากฮ่องกง โดยใช้เวลาเดินทางบนรถบัสข้ามสะพานที่ยาวที่สุดในโลกเพียง 45 นาที มีขั้นตอนดังนี้:
- เดินทางจากสนามบินฮ่องกง (HKG) ไปยังด่าน HZMB Hong Kong Port: หลังจากรับกระเป๋าแล้ว ให้มองหาป้ายรถบัสและขึ้น รถบัสสาย B5 (ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที) เพื่อไปยังอาคารผู้โดยสารของด่านฮ่องกง
- ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกง (ฝั่งขาออก): ยื่นหนังสือเดินทางเพื่อประทับตราขาออกจากฮ่องกง
- ซื้อตั๋วรถบัส HZMB Shuttle Bus: หลังจากผ่าน ตม. แล้ว จะเจอกับเคาน์เตอร์และตู้ขายตั๋วอัตโนมัติของรถบัสสีทอง หรือที่เรียกกันว่า "Golden Bus" เพื่อเดินทางข้ามไปยังด่านมาเก๊า
- เดินทางข้ามสะพาน: ขึ้นรถบัสและเพลิดเพลินกับวิวทะเลบนสะพานที่ยาวกว่า 55 กิโลเมตร
- ถึงด่าน HZMB Macau Port และผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาเก๊า: เมื่อถึงฝั่งมาเก๊า ให้ลงจากรถและเข้าอาคารเพื่อผ่าน ตม. ของมาเก๊าอีกครั้ง เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน
ข้อดีของวิธีนี้: ประหยัดค่าใช้จ่าย, ได้เห็นความอลังการของสะพาน HZMB, และมีรถบัสให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
3. เอกสารการเดินทางและวีซ่า
- วีซ่า: ข่าวดี! สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย สามารถเดินทางเข้าท่องเที่ยวมาเก๊าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า (Visa Exemption) และพำนักได้นานสูงสุด 30 วัน
- หนังสือเดินทาง (Passport): ต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันที่จะเดินทางกลับ
- ข้อควรรู้: ถึงแม้จะฟรีวีซ่า เจ้าหน้าที่ ตม. อาจขอดูเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ควรเตรียมเอกสารสำคัญติดตัวไว้ เช่น ตั๋วเครื่องบินขากลับ, เอกสารการจองโรงแรมที่พัก, และแผนการท่องเที่ยวคร่าวๆ
4. สกุลเงิน
- สกุลเงิน: สกุลเงินหลักของมาเก๊าคือ ปาตากามาเก๊า (MOP)
- ข้อควรรู้ที่สำคัญ: สามารถใช้เงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) ได้ทุกที่ในมาเก๊า ตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อ โรงแรม ไปจนถึงคาสิโน โดยจะคิดในอัตรา 1:1 (1 HKD = 1 MOP) แต่โดยทั่วไปเมื่อจ่ายด้วยเงินฮ่องกง อาจได้รับเงินทอนเป็นเงินปาตากา
- การแลกเงิน: สามารถแลกเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) จากไทยไปได้เลยเพื่อความสะดวก
5. ช่วงเวลาที่น่าเที่ยวที่สุด
- ฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม - ธันวาคม): เป็นช่วงที่ดีที่สุด อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส เหมาะแก่การเดินเที่ยว
- ฤดูหนาว (มกราคม - มีนาคม): อากาศเย็น แต่ไม่ถึงกับหนาวจัด อาจมีฝนปรอยๆ
- ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม): อากาศร้อนและชื้นสูง อาจมีพายุไต้ฝุ่น แต่เป็นช่วงที่รีสอร์ตและสวนน้ำคึกคักที่สุด
Klook คืออะไร?
Klook คือแพลตฟอร์มชั้นนำของเอเชียสำหรับการจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจร
เราคัดสรรประสบการณ์คุณภาพ ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ทัวร์ท้องถิ่น การเดินทางภายในประเทศ ไปจนถึงที่พักหลากสไตล์ ครอบคลุมกว่า 3,400 จุดหมายทั่วโลก
รองรับการใช้งานใน 15 ภาษา และสามารถชำระเงินได้มากกว่า 40 สกุลเงิน ผ่านช่องทางชำระที่หลากหลาย ทำให้การจองกับ Klook สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
Klook ก่อตั้งในปี 2014 มีเป้าหมายเพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับนักเดินทางทุกคน ไม่ว่าคุณจะเที่ยวใกล้บ้านหรือออกเดินทางไกล Klook พร้อมพาคุณเชื่อมต่อกับโลกแห่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
🧡 ติดตาม Klook ได้ทาง
- Facebook: @klookth
- Instagram: @klooktravel_th
- TikTok: @klookth
- YouTube: @klookTH
- LINE Official Account: @klookth






































