สวนสนุก Lotte World กับสวนสนุก Everland ที่ไหนน่าไปกว่ากัน?

ไม่มีใครไม่ชอบสวนสนุกหรอก! ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กน้อยที่กำลังไล่ตามความสนุกสนานหรือผู้ใหญ่ที่กำลังมองหาสถานที่ปลดปล่อยความระห่ำ ที่สวนสนุกทุก ๆ ที่ก็มักจะเป็นที่ที่สามารถตอบโจทย์ของทุกคนได้! สำหรับประเทศเกาหลีที่มีสวนสนุกชื่อดังอยู่ถึงสองแห่งซึ่งได้แก่ สวนสนุกล็อตเต้เวิลด์ (Lotte World) และ สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ (Everland) มันคงจะไม่ใช่เรื่อง่ายเลยที่คุณจะตัดสินใจว่าคุณควรไปเข้าชมสวนสนุกแห่งไหน ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมจุดเด่นของสวนสนุกทั้งสองแห่งมาเปรียบเทียบกันให้คุณดู เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกได้ง่ายยิ่งขึ้น

สวนสนุก Lotte World มาพร้อมกับเครื่องเล่นมากกว่า 40 ชนิดที่ครอบคลุมความสนุกทุกรูปแบบ มีทั้งเครื่องเล่นที่ตั้งอยู่กลางแจ้งและเครื่องเล่นที่อยู่ด้านในอาคารซึ่งมาพร้อมกับเครื่องปรับอากาศช่วยดับร้อนในฤดูร้อนและช่วยคลายหนาวในฤดูหนาวได้ สำหรับคนที่ชอบเครื่องเล่นที่หวาดเสียว คุณต้องไม่พลาดกับ Gyro Drop และ Gyro Swing ซึ่งจะพาคุณขึ้นไปยังความสูงถึง 70 เมตร!

ในขณะเดียวกัน สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้อย่างสวนสนุก Everland ก็มาพร้อมกับโซนต่าง ๆ ถึง 5 โซนด้วยกันและจำนวนเครื่องเล่นที่มากกว่าสวนสนุก Lotte World! สำหรับเครื่องเล่นยอดนิยมของที่นี่คงหนีไม่พ้น T Express รถไฟเหาะรางไม้แห่งแรกในเอเชียที่จะทำให้คุณหวาดเสียวจนแทบจะลืมหายใจ แต่ไม่ต้องห่วงว่าเด็ก ๆ จะไม่สนุกกับที่นี่ เพราะที่ Everland ยังมีทั้งซาฟารีและโซนสัตว์น่ารัก ๆ มาให้คุณหนูได้เพลิดเพลินกันอีกด้วย

ในส่วนของเครื่องเล่นนั้น สวนสนุก Everland มาพร้อมกับตัวเลือกที่หลากหลายมากกว่าไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นหวาดเสียวสำหรับผู้ใหญ่หรือเครื่องเล่นใส ๆ สำหรับเด็ก ๆ

สวนสนุก Lotte World ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีจัมซิล (Jamsil Station) ซึ่งสามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะต่าง ๆ ในทางกลับกัน สวนสนุก Everland ตั้งอยู่ค่อนข้างไกล โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงจากตัวเมืองโซล ซึ่งถ้าเทียบกันในเรื่องของตำแหน่งที่ตั้ง งานนี้ยังไงสวนสนุก Lotte World ก็ชนะ

การยืนรอเข้าแถวก็ถือเป็นประสบการณ์หนึ่งที่คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เมื่อไปเที่ยวสวนสนุก โดยสวนสนุกทั้งสองแห่งนี้ มักจะมีการต่อแถวที่ยาวเป็นปกติอยู่แล้วโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่สวนสนุก Lotte World อาจจะดูว่าคนแน่นกว่าด้วยพื้นที่ที่เล็กกว่า ถึงอย่างนั้นคุณก็ยังสามารถใช้บัตร Magic Pass ซึ่งเป็นแอปพลิเคชัันบนมือถือจากสวนสนุก Lotte World ที่จะช่วยลดเวลาการเข้าแถวของคุณ หรือจะใช้ Q Pass ซึ่งจะทำให้คุณสามารถจองเวลาเครื่องเล่นล่วงหน้าได้ที่สวนสนุก Everland

 

สภาพอากาศถือเป็นสิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้และมันยังสามารถทำให้ความสนุกในการเที่ยวสวนสนุกของคุณลดลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยสวนสนุก Lotte World ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในร่ม ย่อมได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยน้อยกว่าสวนสนุก Everland แต่หากเกิดฝนตกลงมาตอนที่คุณอยู่ที่สวนสนุก Everland แล้วล่ะก็ คุณก็ยังสามารถเล่นเครื่องเล่นบางชนิดที่ยังเปิดให้บริการอยู่แม้ฝนจะตกก็ตาม เช่น Mystery Mansion และ Castle of Oz หรือจะไปนั่งชมภาพยนตร์ที่โรงละคร Victoria Theater ก็ได้

โดยรวมแล้ว ราคาค่าเข้าชมของสวนสนุกทั้งสองแห่งไม่ได้มีความแตกต่างกันมากจนเกินไป โดยคุณสามารถตรวจสอบราคาของทั้งสองที่ได้ตามตารางด้านล่างนี้

 

สวนสนุกทั้งสองยังมีจำหน่ายบัตรเข้าชมสำหรับช่วงกลางคืน แต่ที่สวนสนุก Lotte World นั้นคุณสามารถซื้อบัตรราคาพิเศษสำหรับผู้เยาว์และเด็กทารกได้ และถึงแม้ว่าราคาบัตรของสวนสนุก Lotte World จะถูกกว่า แต่ด้วยความที่ถูกกว่าไม่มาก เรื่องราคาซึ่งนั่นจึงไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะทำให้คุณสามารถตัดสินเลืิอกได้ว่าคุณควรจะไปที่ใด

ทิป: คุณสามารถซื้อบัตรเข้าสวนสนุกในราคาที่ประหยัดกว่าได้ที่ Klook ทั้งสำหรับสวนสนุก Lotte World และสวนสนุก Everland!

โอเค ถึงยังไงก็เลือกยากอยู่ดี! เพราะแต่ละที่ก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป หากคุณจะไปเที่ยวกับเด็ก ๆ ที่สวนสนุก Everland ก็มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กเยอะกว่า แต่หากว่าฝนตก สวนสนุก Lotte World ก็ดูจะเหมาะกว่าเพราะเครื่องเล่นส่วนใหญ่อยู่ในที่ร่ม ฉะนั้น ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับความชอบและแผนการเดินทางของคุณเอง ซึ่งจะทำให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกที่ไหนก็ตาม เราขอรับรองเลยว่าคุณจะได้พบกับความสุขและความสนุกสนานทั้งที่สวนสนุก Lotte World และสวนสนุก Everland