หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในญี่ปุ่นที่เดินทางสะดวก ไม่ไกลจากเมืองใหญ่ และยังคงความสงบงดงามแบบดั้งเดิมไว้ “คามิโคจิ (Kamikochi)” คือคำตอบที่ลงตัวที่สุด โดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางสายชิลล์ที่ไม่เน้นปีนเขาหนัก ๆ แต่ต้องการเดินเล่นสบาย ๆ ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ วิวเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japan Alps) และลำธารใสไหลเย็น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับคามิโคจิอย่างละเอียด ทั้งแนะนำฤดูกาลที่เหมาะแก่การไปเยือน วิธีการเดินทาง เส้นทางเดินเที่ยวคามิโคจิสำหรับมือใหม่และผู้มีเวลาจำกัด พร้อมเคล็ดลับการเที่ยวให้สบายใจแบบไม่เร่งรีบ เหมาะมากกับผู้ที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายและเติมพลังจากธรรมชาติอย่างแท้จริง
แนะนำคามิโคจิ (Kamikochi)
คามิโคจิ (Kamikochi) คือที่ราบสูงในจังหวัดนากาโนะซึ่งตั้งอยู่กลางเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japan Alps) ในระดับความสูงประมาณ 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ภายในเขตอุทยานแห่งชาติจูบุซังกากุ (Chubu Sangaku National Park) พื้นที่แห่งนี้โดดเด่นด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามเกินบรรยาย อากาศเย็นสบายตลอดฤดูกาลท่องเที่ยว และยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีรถยนต์วิ่งผ่านภายใน ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่ต้องการพักผ่อนอย่างเงียบสงบ เส้นทางเดินเท้าในคามิโคจิมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบระยะสั้นเดินง่ายและเส้นทางยาวที่สามารถชมวิวได้จุใจ โดยหนึ่งในไฮไลต์สำคัญที่ไม่ควรพลาดมีดังต่อไปนี้:
สะพานคัปปะ (Kappa Bridge)
จุดถ่ายภาพยอดนิยมที่ตั้งอยู่ใจกลางคามิโคจิ ล้อมรอบด้วยวิวภูเขาโฮทากะและแม่น้ำอะซุสะ สะพานไม้แห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของคามิโคจิ และมักปรากฏอยู่ในโปสเตอร์หรือไกด์บุ๊กการท่องเที่ยวเสมอ
บ่อไทโช (Taisho Pond)
เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟยาสึยะ (Yake-dake) ในปี ค.ศ. 1915 จนกลายเป็นบ่อน้ำที่สะท้อนเงาภูเขาโฮทากะอย่างงดงาม โดยเฉพาะในยามเช้าที่หมอกบางลอยเหนือผิวน้ำ
บ่อเมียวจิน (Myojin Pond)
แหล่งน้ำธรรมชาติที่เงียบสงบ ล้อมรอบด้วยต้นไม้นานาชนิด อยู่ใกล้กับศาลเจ้าโฮทากะ (Hotaka Shrine) ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวญี่ปุ่นให้ความเคารพ
ส่วนลด 10% สำหรับจองทัวร์ในญี่ปุ่น บน Klook
ฤดูกาลที่เหมาะสมในการไปเที่ยวคามิโคจิ (Kamikochi)
ด้วยลักษณะภูมิประเทศของคามิโคจิที่ตั้งอยู่กลางเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น การมาเยือนที่นี่ในแต่ละฤดูจึงมอบบรรยากาศและประสบการณ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิที่สดชื่นด้วยดอกไม้ป่า ฤดูร้อนที่เขียวชอุ่มเหมาะกับการเดินป่า ไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วงที่เต็มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี นักเดินทางสามารถเลือกช่วงเวลาที่ตรงกับสไตล์การท่องเที่ยวของตนเองได้อย่างลงตัว
ฤดูใบไม้ผลิ ช่วงปลายเมษายน – พฤษภาคม: ดอกไม้ป่าและน้ำแข็งละลาย
ช่วงเวลานี้คือจุดเริ่มต้นของฤดูกาลท่องเที่ยวในคามิโคจิ เมื่อหิมะที่ปกคลุมหุบเขาเริ่มละลาย ท่ามกลางแม่น้ำอะซุสะที่ใสบริสุทธิ์และไหลแรงจากน้ำแข็งละลาย พื้นป่าจะค่อย ๆ ปรากฏสีเขียวของใบไม้อ่อนและดอกไม้ป่านานาชนิด โดยเฉพาะดอกนีรินโซ (Anemone flaccida) ที่มักเบ่งบานเป็นพรมสีขาวตามเส้นทางธรรมชาติ เป็นฤดูที่เหมาะกับการถ่ายภาพและสัมผัสความสดชื่นของธรรมชาติที่เพิ่งตื่นจากฤดูหนาว
ฤดูร้อน ช่วงมิถุนายน – สิงหาคม: เขียวชอุ่ม อากาศเย็น เหมาะกับการเดินป่าที่สุด
ฤดูร้อนในคามิโคจิแตกต่างจากที่อื่นในญี่ปุ่น เพราะแม้จะเข้าสู่ช่วงกลางปี แต่อุณหภูมิในพื้นที่สูงอย่างคามิโคจิยังคงเย็นสบายอยู่ที่ประมาณ 15–20 องศาเซลเซียส พื้นที่ป่าทั้งหมดจะกลายเป็นสีเขียวเข้มสดชื่น เหมาะสำหรับการเดินป่าตามเส้นทางยอดนิยม เช่น สะพานคัปปะไปยังบ่อเมียวจิน หรือเดินไกลถึงโทคุซาวะ นักเดินทางสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา พร้อมบรรยากาศเงียบสงบตลอดเส้นทาง
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ปลายกันยายน – ตุลาคม: สวยที่สุดในรอบปี
หากคุณชื่นชอบบรรยากาศของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี คามิโคจิคือหนึ่งในจุดหมายที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่นช่วงนี้ ใบเมเปิลและต้นคารามัตสึเปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง และทองอร่ามทั่วหุบเขา ตัดกับสีฟ้าใสของท้องฟ้าและแม่น้ำอะซุสะ เกิดเป็นภาพธรรมชาติที่งดงามอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพ เดินป่าสบาย ๆ และซึมซับพลังธรรมชาติอย่างเต็มที่
ส่วนลด 7% สำหรับจองตั๋วรถไฟในญี่ปุ่น บน Klook
การเดินทางไปคามิโคจิ (Kamikochi)
แม้คามิโคจิจะตั้งอยู่กลางเทือกเขาและธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ แต่การเดินทางไปยังที่นี่สามารถทำได้สะดวกและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว ด้วยมาตรการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พื้นที่คามิโคจิไม่อนุญาตให้รถยนต์ส่วนตัวเข้าไปถึงตัวอุทยานโดยตรง นักท่องเที่ยวจึงต้องจอดรถไว้ที่จุดจอดหลักบริเวณ Hirayu Onsen (ฝั่งทาคายาม่า) หรือ Sawando Parking (ฝั่งมัตสึโมโตะ) จากนั้นต่อรถบัสสายเฉพาะ หรือรถแท็กซี่ที่ให้บริการตลอดทั้งวันเข้าไปยังศูนย์กลางของคามิโคจิ
การเดินทางโดยรถไฟ
หากคุณเดินทางจากโตเกียว หรือนาโกย่า วิธีที่สะดวกที่สุดคือขึ้นรถไฟด่วน JR มายังสถานี Matsumoto จากนั้นต่อรถบัสของ Alpico ประมาณ 1.5 ชั่วโมง ไปยัง Sawando Parking และขึ้นรถบัสเฉพาะเส้นทางเข้าสู่คามิโคจิ เส้นทางนี้ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ เพราะสะดวกและมีป้ายภาษาอังกฤษชัดเจน
การเดินทางโดยเครื่องบิน
อีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเวลา คือการบินไปยัง สนามบินมัตสึโมโตะ ซึ่งเป็นสนามบินท้องถิ่นที่ใกล้คามิโคจิมากที่สุด หรือหากเลือกลงที่ สนามบินนาโกย่า (Chubu Centrair) ก็สามารถต่อรถไฟด่วนและรถบัสเข้าสู่มัตสึโมโตะได้อย่างสะดวกเช่นกัน เส้นทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนเดินทางต่อเนื่องไปยังภูมิภาคจูบุหรือโฮคุริคุ
หมายเหตุเพิ่มเติม
ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ปลายเมษายน – พฤศจิกายน) ควรตรวจสอบตารางเวลาเดินรถบัสล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิและปลายฤดูใบไม้ร่วงที่อาจมีการปรับลดเที่ยวเดินรถ นอกจากนี้การใช้ บัตร JR Pass สามารถช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากในกรณีที่คุณเดินทางจากเมืองหลัก เช่น โตเกียว โอซาก้า หรือเกียวโต
เส้นทางเดินเที่ยวคามิโคจิ (Kamikochi) สำหรับสายชิลล์
คามิโคจิ (Kamikochi) เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยมีเส้นทางเดินป่าหลากหลายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินเล่นสบาย ๆ ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม ด้านล่างนี้คือเส้นทางเดินเที่ยวที่แนะนำสำหรับสายชิลล์:
1. สะพานคัปปะ ⇄ บ่อไทโช
ระยะทาง: ประมาณ 3.8 - 4 กม. (ไป - กลับ)
ระยะเวลา: ประมาณ 2.5 ชั่วโมง
ไฮไลต์: บ่อไทโช, บึงทาชิโระ, อนุสาวรีย์เวสตัน
เส้นทางนี้เริ่มต้นจากสะพานคัปปะ (Kappa Bridge) เดินเลียบแม่น้ำอะซุสะผ่านบึงทาชิโระ (Tashiro Pond) และอนุสาวรีย์เวสตัน (Weston Monument) ไปจนถึงบ่อไทโช (Taisho Pond) ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟยาเกะในปี 1915 บ่อไทโชมีน้ำใสสะท้อนภาพภูเขาโฮทากะอย่างงดงาม โดยเฉพาะในยามเช้า เส้นทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินเล่นสบาย ๆ และชมวิวธรรมชาติที่หลากหลาย
2. สะพานคัปปะ ⇄ บ่อเมียวจิน
ระยะทาง: ประมาณ 5.5 กม. (ไป - กลับ)
ระยะเวลา: ประมาณ 2 ชั่วโมง
ไฮไลต์: บ่อเมียวจิน, ศาลเจ้าโฮทากะ, สะพานเมียวจิน
เส้นทางนี้เริ่มต้นจากสะพานคัปปะ เดินเลียบแม่น้ำอะซุสะผ่านป่าธรรมชาติไปยังบ่อเมียวจิน (Myojin Pond) ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่เงียบสงบและล้อมรอบด้วยต้นไม้นานาชนิด ใกล้กับบ่อเมียวจินคือศาลเจ้าโฮทากะ (Hotaka Shrine) ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวญี่ปุ่นให้ความเคารพ เส้นทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ
3. สะพานคัปปะ ⇄ โทคุซาวะ
ระยะทาง: ประมาณ 13 กม. (ไป - กลับ)
ระยะเวลา: ประมาณ 4 ชั่วโมง
ไฮไลต์: ทุ่งหญ้าอัลไพน์, วิวเมะโฮทากะ, ร้านอาหารโทคุซาวะ
เส้นทางนี้เริ่มต้นจากสะพานคัปปะ เดินผ่านบ่อเมียวจินไปยังโทคุซาวะ (Tokusawa) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เงียบสงบและล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ทุ่งหญ้าอัลไพน์ในบริเวณนี้เป็นจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นที่ให้บริการอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เส้นทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินป่าระยะยาวและสัมผัสธรรมชาติอย่างเต็มที่
เส้นทางเดินเที่ยวคามิโคจิ (Kamikochi) สำหรับผู้มีเวลาจำกัด
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีเวลาเที่ยวไม่มาก แต่อยากสัมผัสความงามของคามิโคจิแบบกระชับ ไม่เหนื่อยเกินไป ก็ยังสามารถเลือกเส้นทางสั้น ๆ ที่เดินง่ายและชมวิวได้หลากหลาย บรรยากาศยังคงครบครันทั้งภูเขา แม่น้ำ ป่า และสถานที่สำคัญ โดยสามารถวางแผนตามระยะเวลาที่คุณมีได้ดังนี้:
1 ชั่วโมง:
สถานีรถบัส ⇄ สะพานคัปปะ ⇄ อนุสาวรีย์เวสตัน ⇄ สะพานทาชิโระ ⇄ สถานีรถบัส
เส้นทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่แวะมาแบบด่วน ๆ หรือต้องเดินทางต่อในวันเดียว โดยเริ่มจากสถานีรถบัสไปยังสะพานคัปปะ จุดถ่ายภาพยอดนิยม จากนั้นเดินต่อไปยังอนุสาวรีย์เวสตัน ซึ่งเป็นที่ระลึกถึงนักสำรวจชาวอังกฤษผู้มีบทบาทในการทำให้คามิโคจิเป็นที่รู้จัก แล้ววนกลับผ่านสะพานทาชิโระ ชมวิวแม่น้ำอะซุสะและป่าริมน้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติแบบไม่เร่งรีบภายในเวลาสั้น ๆ
2 ชั่วโมง:
สถานีรถบัส ⇄ สะพานคัปปะ ⇄ บ่อเมียวจิน ⇄ สถานีรถบัส
สำหรับผู้ที่มีเวลาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย แนะนำให้เดินจากสะพานคัปปะไปยังบ่อเมียวจิน จุดหมายปลายทางยอดนิยมที่เงียบสงบ ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น และยังสามารถแวะสักการะศาลเจ้าโฮทากะได้ระหว่างทาง เป็นเส้นทางที่ไม่ชัน เดินง่าย เหมาะกับทุกวัย และให้ภาพรวมที่สมบูรณ์ของธรรมชาติในคามิโคจิ
3 ชั่วโมง:
สถานีรถบัส ⇄ สะพานคัปปะ ⇄ บ่อเมียวจิน ⇄ อนุสาวรีย์เวสตัน ⇄ สะพานทาชิโระ ⇄ สถานีรถบัส
สำหรับคนที่มีเวลาครึ่งวัน เส้นทางนี้ถือว่าได้สัมผัสครบทุกไฮไลต์ ทั้งบ่อเมียวจินอันสงบงาม ศาลเจ้าโฮทากะ อนุสาวรีย์เวสตัน และวิวแม่น้ำอะซุสะจากสะพานทาชิโระ เส้นทางนี้เป็นลูปวงกลม ไม่ต้องเดินย้อนทาง ช่วยให้การเดินชิลล์ ๆ ของคุณมีความต่อเนื่องและไม่ซ้ำซาก
เคล็ดลับการเดินเที่ยวคามิโคจิ (Kamikochi)
แม้เส้นทางเดินในคามิโคจิจะไม่ยากและเหมาะกับทุกวัย แต่หากเตรียมตัวให้ดี ก็จะช่วยให้การเที่ยวของคุณราบรื่นและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสายชิลล์ที่เน้นเดินชมวิว ถ่ายภาพ และซึมซับบรรยากาศธรรมชาติแบบไม่เร่งรีบ ลองดูเคล็ดลับเหล่านี้ก่อนออกเดินทาง:
1. เริ่มต้นเดินตั้งแต่เช้า
การเริ่มต้นเดินทางในช่วงเช้าจะช่วยให้คุณได้ภาพแสงธรรมชาติที่สวยที่สุด โดยเฉพาะที่บ่อไทโชซึ่งมักมีหมอกบางลอยเหนือผิวน้ำในตอนเช้า นอกจากนี้ยังสามารถหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่มักเดินทางมาถึงช่วงสาย ทำให้คุณได้สัมผัสความสงบของธรรมชาติอย่างเต็มที่</p>
2. เตรียมน้ำดื่มและของว่าง
ร้านอาหารและร้านค้าภายในคามิโคจิมีค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะตามเส้นทางเดินป่าระยะไกล แนะนำให้พกน้ำดื่มและของว่างติดตัวไว้สำหรับเติมพลังระหว่างทาง เช่น ขนมขบเคี้ยว ผลไม้แห้ง หรือแซนด์วิชแบบพกพา
3. ใส่รองเท้าเดินป่าที่สบายและกันลื่น
เส้นทางในคามิโคจิแม้จะดูเรียบง่าย แต่บางช่วงมีพื้นดินชื้นหรือหินกรวด แนะนำให้สวมรองเท้าเดินป่าหรือรองเท้าผ้าใบที่มีพื้นกันลื่น และรองรับแรงกระแทกได้ดี เพื่อความปลอดภัยและเดินได้ตลอดวันโดยไม่เมื่อยล้า
4. พกเสื้อกันฝนหรือเสื้อคลุม
ด้วยสภาพภูมิอากาศบนที่สูง อากาศในคามิโคจิสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นวันที่แดดออกก็ตาม การพกเสื้อกันฝนหรือเสื้อคลุมเบา ๆ ติดกระเป๋าจะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลกับฝนโปรย หรืออากาศเย็นกะทันหัน
ส่วนลด 6% สำหรับจองโรงแรมในญี่ปุ่น บน Klook
สรุป
คามิโคจิ (Kamikochi) เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ด้วยเส้นทางเดินป่าที่เข้าถึงง่าย บ่อใสนิ่งสงบ อากาศบริสุทธิ์ และวิวภูเขาสุดอลังการ ทำให้ที่นี่เหมาะทั้งสำหรับนักเดินทางมือใหม่และสายชิลล์ที่อยากใช้เวลาอย่างช้า ๆ และมีคุณภาพในวันหยุด คามิโคจิไม่ใช่แค่สถานที่ แต่เป็นประสบการณ์ที่จะทำให้คุณอยากกลับมาอีกครั้ง








































