ถ้าถามว่าช่วงไหนของญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์และ "ขลัง" ที่สุดในรอบปี คำตอบคงหนีไม่พ้นช่วง "ปีใหม่" หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า Shogatsu (โชกัตสึ) การได้ไปสัมผัสอากาศหนาวระดับเลขตัวเดียว (หรือติดลบ) พร้อมกับดูวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปจากความเร่งรีบเป็นความสงบ เป็นอะไรที่คุ้มค่าตั๋วเครื่องบินมาก
ใครที่กำลังวางแผนจะไป หรือลังเลอยู่ว่าจะไปดีไหม วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับ ที่เที่ยวปีใหม่ในญี่ปุ่นและวัฒนธรรมที่ควรรู้ แบบเจาะลึก เผื่อให้ทุกคนเตรียมตัวรับมือกับความเซอร์ไพรส์ที่อาจจะไม่เหมือนการเที่ยวฤดูอื่น
บรรยากาศญี่ปุ่นช่วงปีใหม่เป็นยังไง?
สิ่งแรกที่ต้องรู้ก่อนคือ "ญี่ปุ่นช่วงปีใหม่ เงียบมาก" ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะวันที่ 1 มกราคม ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าหลายแห่งปิดทำการ แต่ความเงียบนี้แหละคือเสน่ห์ มันคือช่วงเวลาที่คนญี่ปุ่นกลับบ้านไปหาครอบครัว ท้องถนนในโตเกียวที่เคยพลุกพล่านจะโล่งแปลกตา เป็นโอกาสดีมากที่จะเดินถ่ายรูปกลางแยกชิบูย่าแบบคนน้อยๆ
แต่ในความเงียบ ก็มีความคึกคักซ่อนอยู่ตามศาลเจ้าและวัดต่างๆ เพราะหัวใจหลักของปีใหม่ญี่ปุ่นคือ "การเริ่มต้นใหม่ด้วยจิตวิญญาณ"
3 วัฒนธรรมญี่ปุ่นช่วงปีใหม่ที่ห้ามพลาด
ถ้าไปถึงแล้ว ไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ ถือว่าไปไม่ถึงปีใหม่ญี่ปุ่น มาดูกันว่าวัฒนธรรมที่ควรรู้มีอะไรบ้าง
1. Hatsumode (ฮัตสึโมเดะ) การไหว้พระครั้งแรกของปี
กิจกรรมนี้คือไฮไลท์ การไปต่อแถวท่ามกลางอากาศหนาวเพื่อโยนเหรียญ 5 เยน (Go-en) ที่สื่อถึงวาสนาที่ดี ลงในกล่องบริจาค แล้วตบมือขอพร
- ประสบการณ์ตรง: เคยไปต่อแถวที่ ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) ในโตเกียว คนเยอะมากเหมือนทะเลมนุษย์ แต่ทุกคนเป็นระเบียบสุดๆ บรรยากาศตอนเดินผ่านป่ากลางเมืองเข้าไปยังตัวศาลเจ้ามันศักดิ์สิทธิ์จนขนลุก
- Tips: ถ้าไม่อยากเบียด ให้เลี่ยงช่วงเที่ยงคืนวันที่ 31 ธ.ค. แล้วไปช่วงสายๆ ของวันที่ 1 หรือ 2 ม.ค. แทน
2. Joya no Kane เสียงระฆัง 108 ครั้ง
คืนข้ามปี (Omisoka) วัดพุทธทั่วญี่ปุ่นจะตีระฆัง 108 ครั้ง เพื่อขจัดกิเลส 108 ประการตามความเชื่อ ฟังแล้วจิตใจสงบอย่างบอกไม่ถูก
- ที่แนะนำ: วัด Chion-in ในเกียวโต ระฆังใบใหญ่มาก ต้องใช้พระสงฆ์ถึง 17 รูปในการตี เป็นภาพที่หาดูยาก
3. กินโซบะข้ามปี (Toshikoshi Soba)
ก่อนเที่ยงคืนวันที่ 31 คนญี่ปุ่นจะกินโซบะเส้นยาวๆ เพื่อเคล็ดลับให้อายุยืนยาว และตัดเคราะห์ร้ายทิ้งไป รสชาติอาจจะเหมือนโซบะทั่วไป แต่พอกินในบรรยากาศนั้น มันอร่อยขึ้น 300%
ปักหมุด! ที่เที่ยวปีใหม่ในญี่ปุ่นและวัฒนธรรมที่ควรรู้
หลังจากเข้าใจวัฒนธรรมแล้ว มาดูกันว่าเมืองไหนเหมาะกับการไปเที่ยวช่วงนี้บ้าง
⛩️ โซนโตเกียวและคันโต: แสงสี ศรัทธา และความคึกคัก
พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace), โตเกียว
วันที่ 2 มกราคม เป็นวันพิเศษเพียงวันเดียวในรอบปีที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าเขตพระราชวังชั้นในเพื่อรับเสด็จสมเด็จพระจักรพรรดิ วินาทีที่คนญี่ปุ่นพร้อมใจกันโบกธงชาติญี่ปุ่นผืนเล็กๆ พร้อมตะโกน "บันไซ!" เป็นบรรยากาศที่ทรงพลังและขนลุกมาก ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่หาไม่ได้จากทริปปกติ
ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu), โตเกียว
แลนด์มาร์คอันดับหนึ่งสำหรับการ Hatsumode (ไหว้พระครั้งแรกของปี) แม้คนจะเยอะเหมือนทะเลมนุษย์ แต่ความเป็นระเบียบของคนญี่ปุ่นทำให้การไหลตามฝูงชนเข้าไปโยนเหรียญขอพรกลางป่าศักดิ์สิทธิ์ใจกลางเมือง เป็นเรื่องที่น่าประทับใจและขลังสุดๆ
ขบวนแห่จิ้งจอกโอจิ (Oji Fox Parade), โตเกียว
หลบหนีความวุ่นวายมาที่ย่านโอจิ ในคืนข้ามปีจะมีตำนานจิ้งจอกแปลงกายมาไหว้ศาลเจ้า ชาวบ้านจะแต่งหน้าแต่งตัวเป็นจิ้งจอกเดินขบวนแห่ท่ามกลางแสงโคมไฟ บรรยากาศลึกลับแต่น่ารักเหมือนหลุดเข้าไปในโลกอนิเมะ Studio Ghibli
วัดนาริตะซัน (Naritasan Shinshoji), ชิบะ
วัดดังใกล้สนามบินนาริตะ เหมาะสำหรับแวะขอพรให้เดินทางปลอดภัย ทีเด็ดคือหลังจากไหว้พระต้องแวะกิน "ข้าวหน้าปลาไหล" ที่ถนนหน้าวัด ร้านเก่าแก่เพียบ กลิ่นปลาไหลย่างหอมตลบอบอวล เป็นมื้อเปิดปีใหม่ที่ฟินระดับสิบ
ฮาเซเดระ (Hasedera), คามาคุระ
วัดเจ้าแม่กวนอิมริมทะเลที่มีจุดชมวิวสวยมาก คืนข้ามปีที่นี่จะมีการจุดเทียนนับพันเล่มสว่างไสว มองเห็นวิวมหาสมุทรที่มืดมิดตัดกับแสงไฟระยิบระยับ เป็นจุดฟังเสียงระฆังที่โรแมนติกและสงบกว่าในเมืองหลวง
คาวาซากิ ไดชิ (Kawasaki Daishi), คานางาวะ
วัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ไฮไลท์คือถนนหน้าวัดที่มีร้านขนม "Tontoko Ame" (ลูกอมตัด) คนขายจะสับมีดลงบนเขียงเป็นจังหวะ "ต๊อก-ต๊อก-ต๊อก" ดังสนั่น ฟังเพลินแถมขนมยังอร่อยช่วยแก้เจ็บคอได้ดี
แหลมอินุโบซากิ (Inubosaki), ชิบะ
จุดชมแสงแรกที่เห็นเร็วกว่าโตเกียวเพราะแกนโลกเอียง วิวพระอาทิตย์ขึ้นจากเส้นขอบฟ้ามหาสมุทรแปซิฟิก มีฉากหน้าเป็นประภาคารสีขาวตัดกับท้องฟ้าไล่สีส้ม สวยตะโกนคุ้มค่ากับการอดนอนขับรถไปรอชม
ตลาดอะเมโยโกะ (Ameyoko), อุเอโนะ
ช่วง 2-3 วันก่อนปีใหม่ต้องมาที่นี่เพื่อสัมผัสความโกลาหลที่สนุกที่สุด คนญี่ปุ่นจะมาเบียดเสียดกันซื้อของสดเตรียมไหว้เจ้า โดยเฉพาะขาปูยักษ์และปลาทูน่าราคาถูก เสียงพ่อค้าตะโกนลดแลกแจกแถมกันหูดับตับไหม้ ได้ฟีลตลาดสดพลังงานล้นเหลือ
โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) และวัดโซโจจิ
จุดถ่ายรูปสุดคลาสสิก คืนข้ามปีทาวเวอร์จะเปิดไฟ Light up พิเศษ และด้านล่างที่วัดโซโจจิจะมีคนมารอไหว้พระและปล่อยลูกโป่ง (ในบางปี) การได้เห็นหอคอยสีส้มตัดกับท้องฟ้าฤดูหนาวที่ใสเคลียร์ เป็นอะไรที่ฮีลใจได้ดีมาก
ย่านกินซ่า (Ginza First Sale)
เปิดประสบการณ์ช้อปปิ้งวันแรกของปี (2 มกราคม) ห้างหรูจะเปิดขายถุงโชคดีแบรนด์เนม บรรยากาศมีความผู้ดีแต่แฝงความดุเดือดในการแย่งชิงของ Limited ใครเป็นสาย Luxury ต้องมาเดินเฉิดฉายรับปีใหม่ที่นี่
🏯 โซนคันไซและประวัติศาสตร์: ต้นกำเนิดวัฒนธรรม
วัดโทไดจิ (Todaiji), นารา
ปกติเห็นหลวงพ่อโตผ่านลูกกรง แต่คืนข้ามปีถึงเช้าวันที่ 1 ทางวัดจะเปิดหน้าต่างบานเล็กหน้าวิหาร ทำให้เห็นพระพักตร์ท่านมองลงมาจากช่องหน้าต่างท่ามกลางความมืด เป็นมุม Unseen ที่หาดูได้ยากมากเพราะเปิดแค่ปีใหม่กับเทศกาลโอบ้ง
ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอก (Fushimi Inari), เกียวโต
การเดินลอดเสาโทริอิสีแดงนับหมื่นต้นในช่วงปีใหม่มีความหมายมาก ยิ่งถ้าปีไหนหิมะตก สีแดงของเสาจะตัดกับสีขาวของหิมะสวยจนลืมหายใจ แม้คนจะเยอะแต่พื้นที่กว้างขวาง เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ จะได้ความสงบกลับมา
ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine), เกียวโต
คืนข้ามปีจะมีพิธี "Okera Mairi" หรือการจุดไฟศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านจะนำเชือกมาจุดไฟจากตะเกียงของศาลเจ้า แล้วเหวี่ยงเชือกหมุนติ้วๆ เพื่อเลี้ยงไฟกลับไปจุดที่เตาปรุงอาหารที่บ้าน เชื่อว่าจะนำความสุขมาให้ตลอดปี
ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu), มิเอะ
ศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของญี่ปุ่น จุดห้ามพลาดคือการรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สะพานอุจิบาชิ แสงแรกของปีจะลอดผ่านซุ้มประตูโทริอิที่หัวสะพานพอดี เป๊ะราวกับจับวาง เป็นจุดรับพลังงานบวกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
ศาลเจ้าสุมิโยชิ (Sumiyoshi Taisha), โอซาก้า
ศูนย์รวมจิตใจชาวโอซาก้า กิจกรรมเด็ดคือการเดินข้ามสะพานโค้งสีแดงที่ชันมากๆ เชื่อว่าแค่เดินข้ามก็เหมือนได้ชำระล้างมลทินแล้ว บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยร้านอาหารข้างทาง (Yatai) สนุกและอร่อยสไตล์โอซาก้า
Universal Studios Japan (USJ), โอซาก้า
สำหรับสายปาร์ตี้ งาน NO LIMIT! Countdown ที่นี่คือที่สุด สวนสนุกเปิดโต้รุ่งยาวไปถึงวันใหม่ ไฮไลท์คือการจุดพลุอลังการเหนือปราสาทฮอกวอตส์ แฟนแฮร์รี่หรือนินเทนโดต้องมาสัมผัสบรรยากาศกรีดร้องข้ามปีที่นี่สักครั้ง
❄️ โซนธรรมชาติและหิมะ: ความหนาวที่อบอุ่น
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go), กิฟุ
หมู่บ้านมรดกโลกที่เหมือนหลุดมาจากนิทาน ช่วงปีใหม่หิมะจะหนาฟูเกาะตามหลังคาบ้านทรงกัสโชซึกุริ แสงไฟสีส้มที่ลอดออกมาจากบ้านตัดกับหิมะยามค่ำคืน สร้างบรรยากาศโรแมนติกและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko), ยามานาชิ
การตื่นเช้ามารอแสงแรกจับที่ยอดภูเขาไฟฟูจิ (Hatsuhinode) คือเป้าหมายสูงสุดของใครหลายคน ภาพภูเขาไฟฟูจิที่มีหิมะปกคลุมยอดสะท้อนน้ำในทะเลสาบช่วงปีใหม่ เป็นสิริมงคลแก่สายตาและจิตใจ
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Jingu), ซัปโปโร
สัมผัส Hatsumode กลางพายุหิมะ บรรยากาศต่างจากโซนอื่นสิ้นเชิง ความฟินคือการเดินย่ำหิมะเข้าไปไหว้พระ เสร็จแล้วออกมาซื้อไวน์ร้อน (Amazake) หรือมันเผาร้อนๆ กินท้าความหนาว อร่อยขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
ลานสกี Gala Yuzawa, นีงาตะ
เดินทางสะดวกสุดๆ นั่งชินคันเซ็นจากโตเกียว 90 นาที ถึงปุ๊บเดินเข้าลานสกีได้เลย เหมาะสำหรับคนที่อยากไป "เล่นสกีแรกของปี" เอาฤกษ์เอาชัยแบบไปเช้าเย็นกลับได้สบายๆ
กินซัง ออนเซ็น (Ginzan Onsen), ยามากาตะ
หมู่บ้านออนเซ็นที่สวยที่สุดในหน้าหนาว ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเรื่อง Spirited Away หิมะเกาะตามระเบียงไม้เก่าแก่ แสงตะเกียงแก๊สส่องสว่าง แค่ได้ไปเดินถ่ายรูปก็คุ้มแล้ว (ถ้าจะพักต้องจองล่วงหน้าข้ามปี)
คุซัตสึ ออนเซ็น (Kusatsu Onsen), กุนมะ
ชมทุ่งน้ำพุร้อน "Yubatake" กลางเมืองที่ควันพวยพุ่งตลอดเวลา ยิ่งอากาศหนาวควันยิ่งเยอะดูอลังการ พร้อมชมการแสดงกวนน้ำแร่ด้วยไม้พายที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นการแช่ออนเซ็นรับปีใหม่ที่ฟินระดับตำนาน
ลิงแช่ออนเซ็น (Jigokudani), นากาโน่
ไปดูลิงหิมะหน้าแดงๆ ลงไปแช่น้ำพุร้อนทำหน้าเคลิ้มเหมือนคน ช่วงมกราคมหิมะหนามาก ทำให้ภาพถ่ายออกมาสวยตัดกันสุดๆ ต้องเดินเท้าเข้านิดหน่อยแต่ได้สัมผัสธรรมชาติฤดูหนาวของจริง
คลองโอตารุ (Otaru Canal), ฮอกไกโด
โรแมนติกยืนหนึ่ง ช่วงปีใหม่จะมีการประดับไฟริมคลอง โกดังเก่าถูกปกคลุมด้วยหิมะหนาเตอะ ทางเดินสว่างไสวด้วยแสงตะเกียงแก๊ส เดินหนาวๆ เสร็จแวะกินชีสเค้ก LeTAO เป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเองที่ดีที่สุด
สวนเค็นโรคุเอ็น (Kenrokuen), คานาซาว่า
ชมศิลปะการขึงเชือก "Yukitsuri" รูปกรวยคว่ำเหนือต้นสนเพื่อป้องกันหิมะทับกิ่งหัก เป็นภูมิปัญญาที่กลายเป็นภาพจำสวยงามหาดูได้แค่ฤดูหนาว สะท้อนความพิถีพิถันของคนญี่ปุ่นกับธรรมชาติ
🎎 โซนกิจกรรม วัฒนธรรม และของกิน
ศาลเจ้าดาไซฟุ (Dazaifu Tenmangu), ฟุกุโอกะ
เทพเจ้าแห่งการศึกษาและต้นบ๊วยบินได้ ใครจะสอบต้องมา ของกินห้ามพลาดคือ "Umegae Mochi" ขนมโมจิย่างไส้ถั่วแดง ร้อนๆ กรอบนอกนุ่มใน กินตอนอากาศเลขตัวเดียวคือสวรรค์
รถไฟโต๊ะอุ่นขา (Kotatsu Train), อิวาเตะ
รถไฟสายซันริกุที่จะเอาโต๊ะโคทัตสึ (โต๊ะมีผ้าห่ม) มาวางบนรถไฟ ให้เราเอาขาซุกไออุ่น นั่งกินข้าวกล่องทะเลชมวิวชายฝั่งฤดูหนาว เป็นประสบการณ์การเดินทางที่สบายจนไม่อยากลุก
สวนสตรอว์เบอร์รี, ชิซูโอกะ/โทชิกิ
มกราคมคือช่วงเริ่มต้นฤดูกาลเก็บสตรอว์เบอร์รี ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องสตรอว์เบอร์รีลูกใหญ่ หวานฉ่ำ การได้เดินเด็ดกินสดๆ จากต้นแบบไม่อั้นท่ามกลางอากาศเย็นๆ เป็นความสุขที่เรียบง่ายแต่อร่อยเหาะ
ล่าถุงโชคดี (Fukubukuro) ตามห้างสรรพสินค้า
กิจกรรมวัดดวงแห่งปี ตามห้างสรรพสินค้าและร้านขายยา (โดยเฉพาะ Yodobashi Camera หรือ Bic Camera) จะนำสินค้ามูลค่าสูงมาใส่ถุงขายในราคาถูกแบบเหลือเชื่อ ความสนุกคือการไปต่อคิวและลุ้นว่าข้างในจะได้อะไร
วัฒนธรรมการกินและของมงคล (Osechi & Hamaya)
ปิดท้ายด้วยสิ่งเล็กๆ ที่ขาดไม่ได้ ลองหาซื้อ "โอเซจิ เรียวริ" (อาหารกล่องปีใหม่) ตามซุปเปอร์มาเก็ตมาชิมดูความหมายมงคล และอย่าลืมซื้อ "ลูกธนูทำลายมาร" (Hamaya) จากศาลเจ้ากลับไปเป็นของที่ระลึกเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายตลอดปี
ข้อควรระวังและการเตรียมตัว (สำคัญมาก!)
การรู้ ที่เที่ยวปีใหม่ในญี่ปุ่นและวัฒนธรรมที่ควรรู้ ไม่ใช่แค่รู้ว่าไปไหน แต่ต้องรู้เรื่องการจัดการด้วย
- ร้านอาหารปิด: วันที่ 1 ม.ค. ร้านอาหารทั่วไป (Non-chain restaurants) มักจะปิด ควรพึ่งพาร้านสะดวกซื้อ หรือร้านในห้างที่เปิดทำการ
- การเดินทาง: รถไฟคืนข้ามปีในเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียว/โอซาก้า มักจะวิ่งตลอดคืน (All-night service) เพื่อให้คนไปวัด แต่ตารางเวลาอาจห่างกว่าปกติ เช็ค Hyperdia หรือ Google Maps ดีๆ
- ราคาที่พัก: พุ่งสูงมาก ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 เดือน
- อากาศ: หนาวเข้ากระดูก เตรียม Heattech, ถุงมือ, หมวกไหมพรม และแผ่นแปะความร้อน (Kairo) ไปให้พร้อม
สรุป: ปีใหม่ญี่ปุ่น น่าไปไหม?
ถ้าชอบความสงบที่แฝงไปด้วยพลังศรัทธา ชอบอากาศหนาว และอยากเสี่ยงดวงกับถุงโชคดี การมาญี่ปุ่นช่วงนี้คือคำตอบ การได้สัมผัส ที่เที่ยวปีใหม่ในญี่ปุ่นและวัฒนธรรมที่ควรรู้ ด้วยตัวเอง จะทำให้มุมมองที่มีต่อญี่ปุ่นเปลี่ยนไป มันไม่ใช่แค่การเที่ยว แต่มันคือการ "พักผ่อนจิตใจ" เพื่อเริ่มปีใหม่อย่างมีพลัง
ปีใหม่นี้ ถ้ายังไม่มีแพลน ลองจองตั๋วไปญี่ปุ่นดู แล้วจะหลงรักบรรยากาศช่วง Shogatsu แบบถอนตัวไม่ขึ้นแน่นอน
FAQ: ถาม-ตอบ เรื่องเที่ยวปีใหม่ญี่ปุ่น
Q: ร้านค้าและร้านอาหารปิดหมดจริงไหม วันที่ 1 มกราคม จะอดตายหรือเปล่า?
A: ไม่ถึงกับอดตาย แต่ต้องวางแผน "ปิดจริง" คือห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ร้านเสื้อผ้า และร้านอาหารแบบ Local (ที่ไม่ใช่เชนสโตร์) ส่วนใหญ่จะหยุดวันที่ 1 มกราคม
- ทางรอด: ร้านสะดวกซื้อ (Konbini) เปิดตลอด 24 ชม., ร้านเชนใหญ่ๆ อย่าง Matsuya, Yoshinoya, McDonald's มักเปิดปกติ และแหล่งของกินที่ดีที่สุดคือ "ร้านแผงลอย (Yatai)" ตามวัดและศาลเจ้า มีทั้งยากิโซบะ ทาโกยากิ ปลาย่าง กินอิ่มแถมได้บรรยากาศงานวัดญี่ปุ่นแท้ๆ
Q: รถไฟวิ่งไหม คืนข้ามปีกลับโรงแรมยังไง?
A: ในเมืองใหญ่ "วิ่งโต้รุ่ง" รถไฟสายหลักอย่าง JR Yamanote ในโตเกียว หรือ Osaka Loop Line ในโอซาก้า จะวิ่งตลอดคืน (All-night service) เพื่อรับส่งคนไปไหว้พระ แต่อาจจะทิ้งช่วงห่างกว่าปกติ (เช่น มาทุก 15-30 นาที)
- คำเตือน: ถ้าออกไปนอกเมือง หรือรถไฟเอกชนบางสาย อาจจะหมดตามเวลาปกติ เช็คแอปฯ Japan Travel หรือ Google Maps แบบ Real-time สำคัญที่สุด
Q: หนาวแค่ไหน ต้องเตรียมชุดยังไงให้รอด?
A: หนาวแบบ "เข้ากระดูก" โตเกียวเลขตัวเดียว (0-8 องศา) แต่ลมแรงมาก ส่วนโซนภูเขาหรือฮอกไกโดคือติดลบ
- สูตรการแต่งตัว: ข้างในสุดต้องมี Heattech (แนะนำรุ่น Ultra Warm), ชั้นกลางใส่เสื้อไหมพรมหรือ Fleece, ชั้นนอกสุดต้องเป็นเสื้อกันลม (Windbreaker) หรือ Down Jacket ดีๆ สักตัว
- ไอเท็มช่วยชีวิต: แผ่นแปะความร้อน (Kairo) ซื้อที่ร้านสะดวกซื้อ แปะหลัง แปะท้อง แปะในรองเท้า ช่วยได้เยอะมาก อย่าลืมถุงมือที่ทัชสกรีนได้ จะได้ไม่ต้องถอดเข้าถอดออกเวลาดูแผนที่
Q: วิธีไหว้พระที่ถูกต้อง ทำยังไงไม่ให้เด๋อ?
A: จำสูตรง่ายๆ "โค้ง 2 - ปรบมือ 2 - โค้ง 1"
- โยนเหรียญลงกล่อง (แนะนำเหรียญ 5 เยน เพราะคำว่า "โกะเอ็น" พ้องเสียงกับคำว่า "วาสนา")
- สั่นกระดิ่ง (ถ้ามี) เพื่อเรียกเทพเจ้า
- โค้งคำนับ 2 ครั้ง
- พนมมือ ปรบมือ 2 ครั้ง (ดังๆ) แล้วอธิษฐาน
- โค้งคำนับปิดท้าย 1 ครั้ง
Q: จองตั๋วชินคันเซ็นยากไหมช่วงนี้?
A: "นรกแตก" ช่วง 29-31 ธ.ค. (ขาออกจากโตเกียว) และ 2-4 ม.ค. (ขากลับเข้าโตเกียว) คือช่วงที่คนญี่ปุ่นกลับบ้านเกิด ที่นั่ง Reserved Seat จะเต็มล่วงหน้าเป็นเดือน ส่วนตู้ Non-reserved คนจะยืนเบียดกันเป็นปลากระป๋องยาวไปถึงประตู
- ทางแก้: จองล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่นๆ หรือถ้ามี JR Pass ให้รีบจองที่นั่งทันทีที่ไปถึงญี่ปุ่น อย่าหวังไปตายเอาดาบหน้า
Q: ถุงโชคดี (Fukubukuro) คุ้มจริงหรือแค่ระบายของ?
A: "ตาดีได้ ตาร้ายเสีย" แต่ส่วนใหญ่ คุ้ม โดยเฉพาะแบรนด์เสื้อผ้าและ Gadget มูลค่าของในถุงมักจะมากกว่าราคาที่จ่าย 2-3 เท่า
- ทริค: เดี๋ยวนี้หลายร้านจะ "สปอยล์" ของข้างในบางส่วน หรือบอกไซส์เสื้อผ้าหน้าถุง เลือกดีๆ ไม่ต้องสุ่มมั่วเหมือนเมื่อก่อน ถ้าเล็งแบรนด์ไหนไว้ ให้ไปต่อแถวเช้าวันที่ 2 มกราคม (หรือ 1 มกราคม บางห้าง)
Q: ต้องให้ทิปพนักงานไหมช่วงเทศกาล?
A: "ไม่ต้อง" ญี่ปุ่นไม่มีวัฒนธรรมทิปไม่ว่าเทศกาลไหน การวางเงินทิ้งไว้อาจทำให้พนักงานวิ่งตามเอามาคืนเพราะนึกว่าเราลืม แค่กล่าวขอบคุณว่า "Arigato Gozaimasu" พร้อมรอยยิ้มก็เพียงพอแล้ว
Klook คืออะไร?
Klook คือแพลตฟอร์มชั้นนำของเอเชียสำหรับการจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจร
เราคัดสรรประสบการณ์คุณภาพ ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ทัวร์ท้องถิ่น การเดินทางภายในประเทศ ไปจนถึงที่พักหลากสไตล์ ครอบคลุมกว่า 3,400 จุดหมายทั่วโลก
รองรับการใช้งานใน 15 ภาษา และสามารถชำระเงินได้มากกว่า 40 สกุลเงิน ผ่านช่องทางชำระที่หลากหลาย ทำให้การจองกับ Klook สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
Klook ก่อตั้งในปี 2014 มีเป้าหมายเพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับนักเดินทางทุกคน ไม่ว่าคุณจะเที่ยวใกล้บ้านหรือออกเดินทางไกล Klook พร้อมพาคุณเชื่อมต่อกับโลกแห่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
🧡 ติดตาม Klook ได้ทาง
- Facebook: @klookth
- Instagram: @klooktravel_th
- TikTok: @klookth
- YouTube: @klookTH
- LINE Official Account: @klookth
