ไฮเดรนเยีย เสน่ห์เฉพาะตัวของฤดูร้อนที่ญี่ปุ่น
เมื่อญี่ปุ่นเข้าสู่ฤดูร้อนในช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม ดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea หรือ “อาจิไซ” ในภาษาญี่ปุ่น) จะบานสะพรั่งไปทั่วประเทศ ดอกไม้ชนิดนี้มักเปลี่ยนสีได้ตามค่าความเป็นกรด - ด่างของดิน ทำให้ภาพที่ได้หลากหลายทั้งสีชมพู ม่วง น้ำเงิน และขาว ถ่ายภาพออกมาแล้วเหมือนอยู่ในภาพวาดเลยทีเดียว
ความหมายของสีดอกไฮเดรนเยียแต่ละเฉด
สีของดอกไฮเดรนเยียไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น แต่ยังแฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้งที่แตกต่างกันไปในแต่ละสี:
สีฟ้า – หมายถึงความสงบ ความอ่อนโยน และความอดทน เป็นสีที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดในญี่ปุ่น โดยเฉพาะตามวัดและสวนสาธารณะ
สีชมพู – หมายถึงความรัก ความห่วงใย และความสุข มักจะบานในดินที่มีความเป็นด่าง สีนี้ให้ความรู้สึกอบอุ่นและโรแมนติก
สีม่วง – หมายถึงความลึกลับ ความสง่างาม และความมั่นคงในความรู้สึก สีนี้พบได้ในบางพื้นที่ที่มีสภาพดินเฉพาะ
สีขาว – หมายถึงความบริสุทธิ์ ความซื่อสัตย์ และการเริ่มต้นใหม่ เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสงบและเรียบง่าย เหมาะกับสวนญี่ปุ่นแบบมินิมอล
ไม่ว่าสีไหน ดอกไฮเดรนเยียก็สวยสะดุดตาในแบบของตัวเอง และกลายเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของหน้าร้อนญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด
พิกัดชมไฮเดรนเยียในญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด
1. วัดเมอิกิ (Meigetsu-in) ในคามาคุระ
วัดแห่งนี้มีชื่อเล่นว่า “Ajisai-dera” หรือ “วัดไฮเดรนเยีย” เพราะปลูกไฮเดรนเยียไว้กว่า 2,500 ต้น ตลอดเส้นทางบันไดหินจะรายล้อมด้วยอุโมงค์ดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าและสีม่วง บรรยากาศโรแมนติกสุด ๆ
ช่วงเวลาบาน: ต้น - กลางมิถุนายน
การเดินทาง: จากโตเกียว นั่งรถไฟ JR ไปลงสถานี Kita-Kamakura แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาทีไปที่วัดเมอิกิ
ค่าเข้าชม: 500 เยน (ช่วงฤดูไฮเดรนเยีย)
2. สวนฮาโกเนะ-เกียวเอ็น (Hakone Gora Park) ในฮาโกเนะ
สวนสวยสไตล์ยุโรปกลางหุบเขาที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะไฮเดรนเยียที่บานสะพรั่งทั่วเนินเขา เหมาะมากกับการถ่ายภาพมุมกว้างแบบพาโนรามา เก็บความงดงามได้ครบทุกมุม
ช่วงเวลาบาน: กลางมิถุนายน – ต้นกรกฎาคม
การเดินทาง: นั่งรถไฟจากโตเกียวไปฮาโกเนะ แล้วต่อรถไฟสาย Hakone Tozan Railway ไปลงสถานี Gora จากนั้นเดินต่อประมาณ 5 นาที ก็จะถึงสวนฮาโกเนะ-เกียวเอ็น
ค่าเข้าชม: 650 เยน (เข้าฟรีสำหรับผู้ถือ Hakone Freepass)
3. วัดฮอนโดจิ (Hondo-ji Temple) ในชิบะ
วัดเก่าแก่ในเมืองมัตสึโดะ มีประวัติยาวนานกว่า 740 ปี ได้รับฉายาว่า “วัดแห่งไฮเดรนเยีย” เพราะมีไฮเดรนเยียกว่า 50,000 ต้น เเละยังมีดอกไอริสกว่า 5,000 ต้นที่บานในช่วงเดียวกัน ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมดอกไม้ที่สวยงามมาก บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการถ่ายรูปและเดินเล่นชิลล์ ๆ
ช่วงเวลาบาน: กลาง – ปลายเดือนมิถุนายน
การเดินทาง: จากสถานีโตเกียวนั่งรถไฟ JR สายโจบัง (Joban Line) ไปยังสถานีคิตะ-โคกาเนะ (Kita-Kogane Station) ใช้เวลาประมาณ 40–50 นาที แล้วเดินเท้าต่ออีกประมาณ 10 นาทีถึงวัดฮอนโดจิ
ค่าเข้าชม: 500 เยน (สำหรับนักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป)
4. ศาลเจ้าโยชิมิเนะ (Yoshimine-dera) ในเกียวโต
ศาลเจ้าบนเนินเขาทางตะวันตกของเกียวโต ที่นี่มีไฮเดรนเยียกว่า 8,000 ต้น บานสะพรั่งทั่วบริเวณ พร้อมวิวเมืองเกียวโตจากมุมสูงที่สวยตระการตา ถ่ายรูปออกมารับรองว่าสวยอลังการแน่นอน
ช่วงเวลาบาน: กลาง - ปลายมิถุนายน
การเดินทาง: จากเกียวโต นั่งบัสสาย 66 จากสถานี Hankyu Katsura ไปลงหน้าศาลเจ้าโยชิมิเนะ
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 500 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 300 เยน, นักเรียนประถมและมัธยมต้น 200 เยน
5. วัดอามาบิกิ คันนง (Amabiki Kannon) ในอิบารากิ
วัดบนเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยไฮเดรนเยียกว่า 5,000 ต้น สีสันของดอกไม้ที่หลากหลาย ทั้งพันธุ์พื้นเมืองและพันธุ์นำเข้าจากยุโรป รวมถึงพันธุ์พิเศษที่ตั้งชื่อตามวัดว่า “อามาบิคิ” ทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวามาก
ช่วงเวลาบาน: ต้น - กลางมิถุนายน
การเดินทาง: เดินทางจากโตเกียวโดยรถไฟไปลงสถานี Iwama แล้วต่อแท็กซี่อีกประมาณ 15 นาที ไปลงที่วัดอามาบิกิ คันนง
ค่าเข้าชม: 500 เยน
6. วัดมิโมโระโตะจิ (Mimuroto-ji) ในอุจิ
วัดแห่งนี้โดดเด่นด้วยไฮเดรนเยียกว่า 10,000 ต้น ที่ปลูกเรียงเป็นรูปหัวใจ ท่ามกลางบรรยากาศชุ่มชื่นของเมืองอุจิ กลายเป็นโลเคชั่นสุดฮิตของคู่รักและสาย Instagram ที่ไม่ควรพลาด
ช่วงเวลาบาน: กลางมิถุนายน
การเดินทาง: จากเกียวโต นั่งรถไฟไปสถานี Mimurodo แล้วเดินต่ออีก 15 นาที ไปที่วัดมิโมโระโตะจิ
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 300 เยน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
7. วัดเซ็นโคจิ (Zenkoji Temple) ในนากาโนะ
วัดพุทธเก่าแก่ที่มีประวัติกว่า 1,400 ปี เป็นหนึ่งในวัดสำคัญของญี่ปุ่นซึ่งมีผู้คนเดินทางมาสักการะอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ในช่วงต้นฤดูร้อน บริเวณรอบวัดจะถูกแต่งแต้มด้วยดอกไฮเดรนเยียหลากสีที่บานสะพรั่ง เพิ่มความสดชื่นและโรแมนติกให้กับบรรยากาศแบบโบราณของวัด เหมาะกับสายถ่ายรูปที่ชอบความสงบและแสงธรรมชาติ
ช่วงดอกบาน: ปลายมิถุนายน – ต้นกรกฎาคม
การเดินทาง: จากสถานี JR Nagano เดินต่อประมาณ 30 นาทีไปที่วัดเซ็นโคจิ หรือขึ้นรถบัสสาย Zenkoji Line ประมาณ 10 นาที แล้วเดินต่ออีกเล็กน้อยก็จะถึงวัดเซ็นโคจิ
ค่าเข้าชม: เข้าชมวัดฟรี / หากต้องการเข้าชมอาคารหลักหรือทางเดินใต้ดิน มีค่าเข้าชม 500 เยน
8. Hakone Hydrangea Train ในฮาโกเนะ
ไฮไลต์ของฮาโกเนะช่วงกลางปีคือการนั่งรถไฟสาย Hakone Tozan ชมดอกไฮเดรนเยียกว่า 10,000 ต้นที่เรียงรายสองข้างทาง เส้นทางจาก Hakone-Yumoto ไป Gora จะค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นเขา ให้วิวสวยทั้งใกล้และไกล
ถ้าอยากได้ฟีลพิเศษ แนะนำ Night Hydrangea Train (14–30 มิ.ย.) ที่จะเปิดไฟไฮไลต์ดอกไม้ตลอดเส้นทาง โรแมนติกมาก!
ช่วงดอกบาน: กลางมิถุนายน - ปลายกรกฎาคม
การเดินทาง: ใช้ Hakone Freepass หรือตั๋วรายเที่ยวก็ได้
ค่ารถไฟ: ประมาณ 460 เยน (เที่ยวเดียว) หรือใช้ Hakone Freepass ได้
ค่าจองที่นั่งพิเศษ: 500 เยน สำหรับ Night Hydrangea Train
Tips ถ่ายรูปไฮเดรนเยียให้ออกมาสวยแบบมือโปร
1. ไปช่วงเช้า แสงนุ่ม ถ่ายง่าย คนยังไม่เยอะ
ช่วงเช้า (ประมาณ 7:00–9:00 น.) เป็นเวลาทองของการถ่ายรูป แสงแดดยังไม่แรงจนเกินไป ทำให้ได้ภาพที่ดูฟุ้ง นุ่ม ไม่คอนทราสต์จัด แถมยังคนน้อยสามารถเลือกมุมถ่ายได้สบาย ๆ ไม่ต้องแย่งโลเคชั่นกับใคร!
2. ถ่ายหลังฝนตก ดอกไม้จะมีหยดน้ำเกาะ สวยชุ่มฉ่ำ
หน้าฝนแบบนี้ อย่าเพิ่งรีบเก็บกล้อง เพราะนี่แหละคือช่วงเวลาที่ไฮเดรนเยียสวยที่สุด! หยดน้ำที่เกาะตามกลีบดอกให้ฟีลสดชื่น เป็นธรรมชาติมาก ๆ ยิ่งถ้ามีแสงแดดอ่อน ๆ สะท้อนหยดน้ำ จะได้เอฟเฟกต์ระยิบระยับแบบไม่ต้องใช้แอปเลย
3. ใส่เสื้อผ้าสีเรียบหรือโทนพาสเทล ดอกไม้จะโดดเด่นขึ้น
บางคนอาจคิดว่าเสื้อผ้าสีจัดจะทำให้รูปดูสดใส แต่กับไฮเดรนเยียที่มีสีจัดจ้านอยู่แล้ว แนะนำให้ใส่เสื้อสีเรียบ ๆ หรือโทนอ่อน เช่น ขาว ฟ้าอ่อน เบจ หรือชมพูพาสเทล จะช่วยดันให้ดอกไม้เด่นขึ้นมาในภาพ และทำให้โทนรวมของภาพดูสบายตากว่ามาก
4. ใช้เลนส์พอร์เทรต หรือโหมดเบลอหลัง (Portrait Mode) ให้ภาพละมุน
ถ้ามีกล้อง DSLR หรือ mirrorless แนะนำให้ใช้เลนส์พอร์เทรต (เช่น 50 mm หรือ 85 mm) เพื่อเก็บรายละเอียดของดอกไม้ให้ชัด แล้วเบลอฉากหลังให้ละมุน หรือถ้าใช้มือถือก็ไม่ต้องกังวล เพราะเดี๋ยวนี้มือถือหลายรุ่นมี Portrait Mode ที่ทำได้ดีมาก ถ่ายแล้วได้ฟีลละมุนแบบกล้องโปรเลย แถมพกง่ายอีกด้วย
สรุป: เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนก็สวยไม่แพ้ฤดูไหนเลย
ใครที่กำลังลังเลว่าจะไปญี่ปุ่นช่วงกลางปีดีไหม บอกเลยว่า…ไปเถอะ! ไฮเดรนเยียบานสวยจับใจ ถ่ายรูปออกมาเหมือนอยู่ในโลกแฟนตาซี แถมคนไม่เยอะ เดินเที่ยวได้สบาย ๆ มีโอกาสได้รูปสวย ๆ แบบไม่ต้องแย่งมุมกับใครด้วยนะ





























