ทำความรู้จัก JR Pass บัตรเดียวเที่ยวได้ทั้งญี่ปุ่น

Klook Thailand

อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 2023

ทำความรู้จัก JR Pass บัตรเดียวเที่ยวได้ทั้งญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น ถือเป็นประเทศที่คนไทยให้ความนิยมเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้สำหรับการไปเที่ยวต่างประเทศ เนื่องจากความชื่นชอบในวิถีชีวิต วัฒนธรรม อาหารการกิน ธรรมชาติ รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่ล้วนเป็นส่วนประกอบที่ดึงดูดให้คนไทยเดินทางไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นกันเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ซึ่งสำหรับใครที่เป็นมือใหม่ และกำลังวางแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง การเดินทางถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่ต้องศึกษาและทำความเข้าใจ เพราะโดยปกติแล้วการเดินทางที่ญี่ปุ่นมักจะใช้การนั่งรถไฟเป็นหลัก ซึ่งที่ญี่ปุ่นก็ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากว่ามีรถไฟหลายสาย หลายแบบ หลายขบวน หากไม่ทำการบ้านไปก่อนจะทำให้งงๆ และเสียเวลาในการเดินทางได้ การเตรียมความพร้อมไปก่อนจึงดีที่สุด

คุณสามารถจอง และสัมผัสกับสิ่งที่ดีที่สุด รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม บริการรถเช่า ซิมการ์ด และอื่นๆ อีกมากมายบน Klook สมัครตอนนี้เลย! 🧡

รับส่วนลด 10% ลดสูงสุด 100.- สำหรับการจองแอปครั้งแรกของคุณเมื่อคุณใช้รหัสโปรโมชั่น <TH10APP> เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไข

ดาวน์โหลดแอป Klook ของคุณตอนนี้เลย! ⚡ iOS | Android

🔥 ลงทะเบียนบน KLOOK ที่นี่ 🔥

และหากใครที่ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบหลายๆ เมือง แล้วไม่ได้อยากจะต้องมาซื้อตั๋วรถไฟบ่อยๆ เราขอแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับบัตร JR Pass บัตรเดียวที่สามารถครอบคลุมการเดินทางทั่วญี่ปุ่นได้อย่างง่ายดาย โดยบัตรนี้จะมีให้เลือกระยะเวลาการใช้งานตั้งแต่ 7 วัน, 14 วัน และ 21 วัน โดยสามารถสั่งซื้อบัตรออนไลน์ได้ผ่านทาง Klook ที่การันตีราคาดีที่สุด โดยจะจัดส่งเอกสารการจองนี้ถึงมือคุณภายใน 5 วันเท่านั้น

JR Pass ครอบคลุมพื้นที่ไหนบ้าง

สำหรับบัตร JR Pass นี้ เป็นบัตรที่จะเชื่อมต่อทั้งประเทศญี่ปุ่นเข้าหากันได้ด้วยบัตรเดียว มีเส้นทางครอบคลุมรถไฟชินคันเซ็น, รถไฟด่วนพิเศษ, รถไฟท้องถิ่น, โมโนเรล, รถโดยสารท้องถิ่น ไปจนถึงเรือเฟอร์รี่มิยาจิม่า ในส่วนเส้นทางของรถไฟชินคันเซ็นนั้นจะครอบคลุมทั้งหมด โดยแต่ละสายจะเชื่อมต่อคุณกับเมืองใหญ่ ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นสาย Tokaido Shinkansen, สาย Akita Shinkansen, สาย Kyushu Shinkansen, สาย Hokkaido Shinkansen, สาย Joetsu Shinkansen, สาย Yamagata Shinkansen และ Hokuriku Shinkansen เป็นต้น (บัตรใบนี้ไม่ครอบคลุมการเดินทางโดยขบวนรถไฟโนโซมิและ มิซูโฮะ)

นอกจากนี้ยังสามารถใช้บัตร JR Pass ใบนี้ในการโดยสารรถไฟฮารุกะ เอ็กซ์เพรสและรถไฟนาริตะ เอ็กซ์เพรส เพื่อเดินทางระหว่างสนามบินนานาชาตินาริตะ (NRT) ไปยังใจกลางเมืองโตเกียว และจากสนามบินนานาชาติคันไซ (KIX) ไปยังโอซาก้าหรือเกียวโต รวมทั้งคุณยังสามารถขึ้นรถบัส JR และเรือเฟอร์รี่ JR-West ได้แค่มีบัตรใบนี้

ใช้ JR Pass เดินทางไปทัวร์สตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์

ขั้นตอนการเปิดใช้งาน

เมื่อได้รับเอกสารการจองจากทาง Klook แล้ว นำไปแลกรับบัตร JR Pass ตัวจริงที่สำนักงาน JR ใดก็ได้ในสนามบินหรือสถานีรถไฟหลักในญี่ปุ่น โดยคุณจะต้องเลือกวันเปิดใช้งานบัตรภายใน 30 วันนับจากวันที่แลกรับ

เมื่อเปิดใช้งานบัตรแล้ว บัตรจะมีอายุการใช้งาน 7, 14 หรือ 21 วันติดต่อกันภายในระยะเวลา 1 เดือน

เพลิดเพลินกับส่วนลดมากมายในโตเกียว คลิกเลย

จองที่นั่งอย่างไร?

สำหรับบนรถไฟของญี่ปุ่นนั้นจะมี 2 ระดับชั้นที่นั่งให้คุณเลือก นั่นคือ 1.ที่นั่งชั้นพิเศษหรือกรีนคาร์ และ 2.ที่นั่งชั้นธรรมดา ถ้าให้แนะนำคือซื้อบัตรนี้ทั้งที่ควรเลือกที่นั่งชั้นพิเศษจะสะดวกสบายกว่ามาก

สำหรับใครที่เลือกที่นั่งแบบชั้นพิเศษหรือกรีนคาร์จะต้องทำการจองที่นั่งก่อนใช้บริการทุกครั้ง ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี นั่นคือ 1.เดินทางไปยังสำนักงานขายบัตรในสถานีและแสดงบัตร JR Pass แก่เจ้าหน้าที่ เพื่อรับบัตร JR Pass ที่ได้รับการจองที่นั่งแล้ว หรือ 2.ไปที่เครื่องจำหน่ายบัตรในสถานี เพื่อจองและรับบัตร JR Pass ที่ได้รับการจองที่นั่งแล้ว โดยไม่ต้องไปต่อคิวที่สำนักงานขายบัตร

คุณสมบัติของผู้ที่สามารถใช้บัตรนี้ได้

บัตรนี้สามารถใช้ได้สำหรับผู้ที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีสถานะเป็นผู้พำนักระยะสั้นเท่านั้น ผู้ที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางญี่ปุ่น แต่พำนักถาวรที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่สามารถใช้บัตรนี้ได้

รับการประทับตรานักท่องเที่ยวชั่วคราวที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อรับสิทธิ์ในการใช้บัตร JR Pass อย่าผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่เป็นประตูอัตโนมัติ เนื่องจากคุณจะไม่ได้รับการประทับตรา

ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพำนักอาศัยอยู่นอกประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 10 ปีขึ้นไป สามารถซื้อบัตร JR Pass ได้ หากมีเอกสารดังต่อไปนี้ 1.หนังสือเดินทางประเทศญี่ปุ่นที่ยังไม่หมดอายุ 2.สำเนาเอกสารลงทะเบียนชาวญี่ปุ่นในต่างประเทศ / หนังสือรับรองถิ่นที่พักอาศัยนอกประเทศญี่ปุ่นที่ออกโดยสถานทูตญี่ปุ่น หรือสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นในประเทศที่พำนัก

โดยรวมแล้วนี่คือพาสที่คุ้มค่ามากๆ หากวางแผนการเดินทางดีๆ จะทำให้คุณสามารถไปเที่ยวได้หลายๆ เมืองแบบประหยัดงบค่าเดินทางไปได้เยอะเลย ครอบคลุมพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวครบถ้วน ไม่ต้องปวดหัวกับการใช้บัตรรถไฟหลายๆ ใบ ถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมากในการเดินทางที่ญี่ปุ่น คุ้มค่าดีงาม