การเดินทางด้วยรถไฟในยุโรปแบบง่ายๆ เพียงมีคู่มือนี้คุณก็เป็นมือโปร!
สองจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวหลายคนมักจะแวะเวียนไปที่ปารีสและโรมระหว่างการเดินทาง หลังจากทั้งหมด ใครจะอยากพลาดสิ่งที่สองเมืองสุดหรูนี้มีให้ล่ะ? ไม่ว่าคุณจะมองหาประสบการณ์ท่องเที่ยว การชิมอาหารและไวน์แสนอร่อย ชีวิตกลางคืนที่น่าจดจำ หรืออะไรก็ตามที่คุณต้องการ คุณจะได้พบที่นี่อย่างแน่นอน!
แต่การเดินทางข้ามยุโรปอาจทำให้รู้สึกสับสนโดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนครั้งแรก คุณสามารถเดินทางได้หลากหลายวิธี และแน่นอนว่าคุณจะมีคำถามต่าง ๆ เช่น “เส้นทางไหนถูกที่สุดระหว่างจุด A ถึงจุด B?” “ควรเลือกเส้นทางที่รวดเร็วหรือจะเลือกเส้นทางที่ค่อย ๆ เดินทางและสำรวจระหว่างทาง?” และอีกมากมาย
อย่ากังวลไป เราก็เคยตั้งคำถามเหล่านี้เมื่อวางแผนการเดินทางของเราเช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราจัดทำคู่มือที่สะดวกนี้ขึ้นมาเกี่ยวกับการเดินทางบนเส้นทางปารีส-โรม โดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถไฟระหว่างสองเมืองนี้
ด้วยคู่มือนี้ เรามุ่งหวังที่จะตอบคำถามทั้งหมดเกี่ยวกับการเดินทางตามเส้นทางนี้ เพื่อที่คุณจะสามารถวางแผนการเดินทางได้ดีขึ้นและสนุกไปกับวันหยุดในยุโรปที่คุณฝันถึง!
รถไฟ: วิธีที่เราชื่นชอบในการเดินทางภายในยุโรป!
แม้ว่ามันจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล แต่เราชอบที่จะเดินทางด้วยรถไฟทุกครั้งที่ไปเยือนยุโรปด้วยเหตุผลหลายประการ:
- สถานีรถไฟในยุโรปมักจะตั้งอยู่กลางเมือง แตกต่างจากสนามบินและสถานีรถบัสที่มักจะอยู่ห่างจากใจกลางเมือง การขึ้นลงจากรถไฟจึงง่ายและสะดวกกว่า คุณจะสามารถเดินทางไปยังศูนย์กลางเมืองและเริ่มต้นการสำรวจได้ทันที แทนที่จะต้องเดินทางจากสนามบินหรือสถานีรถบัสเข้าสู่เมือง
- รถไฟมีพื้นที่กว้างขวางและให้วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของยุโรป – ระหว่างการเดินทาง คุณสามารถนั่งพักผ่อนอย่างสบาย ๆ และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งภูมิประเทศและทัศนียภาพของน้ำ นอกจากนี้ยังมี WiFi บนรถไฟด้วย ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถติดต่อกับเพื่อนและครอบครัว และส่งภาพถ่ายที่เจ๋ง ๆ ของวิวสวย ๆ ที่คุณพบระหว่างทาง
- การเดินทางด้วยรถไฟมีความยืดหยุ่นมากกว่าการเดินทางด้วยเครื่องบินหรือรถบัส เนื่องจากมีหลายวิธีในการเดินทางข้ามเส้นทางแต่ละเส้นทาง! คุณสามารถเลือกที่จะนั่งรถไฟความเร็วสูงเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางให้เร็วที่สุด หรือคุณสามารถเลือกเส้นทางที่ยาวขึ้นและแวะเที่ยวเมืองต่าง ๆ ระหว่างทางเพื่อสำรวจสถานที่ท่องเที่ยว
วิธีการเดินทางจากปารีสไปโรมด้วยรถไฟ
ตอนนี้ที่เราพูดถึงความรักในการเดินทางด้วยรถไฟในยุโรปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะพูดถึงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการเดินทางจากปารีสไปโรม:
การเดินทางที่เร็วที่สุดและสะดวกที่สุดจากปารีสไปโรมคือการนั่งรถไฟความเร็วสูง TGV และ Trenitalia La Frecce โดยการเดินทางเริ่มต้นที่สถานี Gare de Lyon ของปารีส ซึ่งรถไฟ TGV จะพาคุณเดินทางไปยังตูรินในเวลา 5.5 ชั่วโมง เมื่อถึงสถานี Porta Susa ของตูริน คุณจะเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ Trenitalia Le Frecce ซึ่งจะเดินทางต่อไปอีก 4.5 ชั่วโมงก่อนที่จะถึงโรม เส้นทางนี้แนะนำอย่างยิ่งหากคุณกำลังมองหาการเดินทางที่ตรงไปตรงมาและไม่ยุ่งยากระหว่างสองเมืองนี้ เพื่อที่คุณจะได้เริ่มสำรวจโรมทันทีเมื่อมาถึงศูนย์กลางเมืองโรม
ทางเลือกอีกทางคือการเดินทางด้วยรถไฟกลางคืน Intercités de Nuit จากปารีสไปนีซ ซึ่งคุณจะขึ้นรถไฟที่สถานี Austerlitz ของปารีสก่อนที่จะเดินทางไปนีซใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ชายแดนอิตาลี จากนีซคุณสามารถเปลี่ยนไปนั่งรถไฟหลายสายเพื่อข้ามไปยังอิตาลีและสุดท้ายก็จะไปถึงโรม เส้นทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลามากและต้องการเดินทางช้า ๆ และสำรวจเมืองต่าง ๆ ระหว่างทาง เส้นทางนี้จะใช้เวลานานกว่ามาก ขึ้นอยู่กับว่าแวะที่เมืองหรือประเทศใดบ้างระหว่างทาง ดังนั้นควรวางแผนล่วงหน้าให้ดี!
ในการเริ่มวางแผนการเดินทาง คุณสามารถตรวจสอบ เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน เพื่อดูว่ามีเส้นทางรถไฟใดบ้างในวันที่คุณต้องการเดินทาง
เคล็ดลับจาก Klook: หากคุณตัดสินใจแวะประเทศอื่นระหว่างทางไปโรม อย่าลืมเช็คว่าพาสรถไฟของคุณสามารถใช้ได้ในประเทศเหล่านั้นหรือไม่ หากคุณอยากทำเช่นนั้น ให้ตรวจสอบ Global Pass ซึ่งสามารถใช้ได้ใน 33 ประเทศยุโรป
ก่อนที่คุณจะออกเดินทาง อย่าลืมตรวจสอบว่าเส้นทางรถไฟที่คุณจะนั่งต้องการการจองที่นั่งล่วงหน้าหรือไม่ หลังจากทั้งหมด คุณคงไม่อยากพลาดโอกาสดี ๆ เพียงเพราะลืมทำขั้นตอนนี้!
จำเป็นต้องจองที่นั่งบนรถไฟยุโรปไหม? แล้วจะจองที่นั่งได้อย่างไร?
นโยบายการจองที่นั่งและขั้นตอนการจองจะแตกต่างกันไปในแต่ละขบวนรถไฟ ด้านล่างนี้คือสรุปแนวทางการจองสำหรับรถไฟที่วิ่งในเส้นทางปารีส-โรม:
ประเภทของรถไฟ | จำเป็นต้องจองที่นั่งไหม? | วิธีการจองที่นั่ง |
|---|---|---|
TGV High-Speed Train | จำเป็นต้องจอง | |
Le Frecce High-Speed Train | จำเป็นต้องจอง | จองได้โดยตรงที่สถานีรถไฟในอิตาลี |
Intercités de Nuit Night Train | จำเป็นต้องจอง | จองได้โดยตรงที่สถานีรถไฟในฝรั่งเศส |
Regional Trains | ไม่จำเป็นต้องจอง | เพียงแสดงบัตร Eurail Pass/Interrail Pass ให้พนักงานตรวจตั๋ว |
หมายเหตุ:
ที่นั่งและที่นอนสำหรับผู้ถือบัตร Eurail หรือ Interrail มีจำนวนจำกัด ขอแนะนำให้ทำการจองที่นั่งล่วงหน้าโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ได้ที่นั่งตามที่ต้องการ โดยสามารถจองได้ล่วงหน้าสูงสุด 90 วันก่อนวันเดินทาง
ราคาจองที่นั่ง จะขึ้นอยู่กับประเภทที่นั่งและประเภทที่พักนอนที่คุณเลือก
สถานที่ท่องเที่ยวตลอดเส้นทางรถไฟปารีส-โรม
วิวระหว่างทางที่คุณจะได้เห็นจากรถไฟนั้นจะแตกต่างกันไปตามเส้นทางที่คุณเลือก หากคุณเลือกเดินทางด้วย TGV High-Speed Train และ Le Frecce High-Speed Train ให้เตรียมกล้องและสายตาไว้ชมสถานที่สวย ๆ ต่อไปนี้ระหว่างทาง:
แนวเขาชาร์ทรูส (Chartreuse Mountains)
© mrplum52 / Unsplash
นักเดินทางสายธรรมชาติจะต้องตกหลุมรักกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของแนวเขาชาร์ทรูส ซึ่งความสวยงามของมันจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน ภูเขาจะเขียวขจีและอุดมสมบูรณ์ ต่างจากช่วงฤดูหนาวที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวนุ่มหนาเตอะ แต่ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน แนวเขาชาร์ทรูสก็เป็นภาพที่ควรค่าแก่การชม ดังนั้นอย่าลืมมองออกไปนอกหน้าต่างรถไฟ และหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพระหว่างทางกันนะ!
อุทยานแห่งชาติวานัวส์ (Vanoise National Park)
© Getty Images
ตั้งอยู่ตรงพรมแดนฝรั่งเศส-อิตาลี อุทยานแห่งชาติวานัวส์เป็นพื้นที่กว่า 53,000 เฮกตาร์ ที่อุดมไปด้วยพืชพรรณและสัตว์ป่า เช่นเดียวกับแนวเขาชาร์ทรูส อุทยานแห่งนี้เป็นสวรรค์สำหรับคนรักธรรมชาติ! วิวทิวทัศน์ที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดนี้ ดึงดูดนักเดินป่าในช่วงหน้าร้อน และในฤดูหนาว ที่นี่ก็กลายเป็นสกีรีสอร์ทยอดนิยมของนักสกีทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ
มิลาน ประเทศอิตาลี
Duomo Milano, Photo Credit: Caleb Strokes on Unsplash
แม้คุณอาจไม่มีเวลามากนักในเมืองนี้ แต่อย่าลืมสังเกตวิวขณะรถไฟวิ่งเข้าสู่มิลาน เมืองจังหวะชีวิตเร็วที่ตั้งอยู่ติดพรมแดน ลองมองหาแลนด์มาร์กสำคัญอย่างมหาวิหารดูโอโมแห่งมิลาน (Milan Cathedral) และศูนย์การค้าเก่าแก่ กัลเลอเรีย วิคตอริโอ เอ็มมานูเอลที่ 2 (Galleria Vittorio Emanuele II) ผ่านหน้าต่างรถไฟ หากเห็นอะไรน่าสนใจ ก็จดเอาไว้ในลิสต์สำหรับการมาเยือนครั้งหน้าได้เลย
โบโลญญา ประเทศอิตาลี
© Getty Images
อดีตและปัจจุบันโคจรมาบรรจบกันในโบโลญญา เมืองที่ประกอบไปด้วยสองฝั่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง — ฝั่งหนึ่งคือศูนย์กลางเมืองเก่าอันได้รับการอนุรักษ์และบูรณะอย่างพิถีพิถัน และอีกฝั่งเป็นย่านใหม่ทันสมัยที่เต็มไปด้วยดีไซน์ร่วมสมัย ไม่ว่าคุณจะชอบบรรยากาศแบบไหน รับรองว่าจะต้องเจอสิ่งน่าตื่นตาตื่นใจได้ แม้จะใช้เวลาอยู่แค่เพียงไม่กี่นาทีระหว่างทางก็ตาม
ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
เครดิตภาพ: Heidi Kaden บน Unsplash
แทบไม่น่าเชื่อว่าผลงานศิลปะและสถาปัตยกรรมระดับโลกมากมายจะถูกรวมอยู่ในเมืองขนาดเล็กเช่นนี้ได้ แต่ฟลอเรนซ์ก็ทำให้ทุกคนต้องทึ่ง! คุณจะได้เห็นผู้คนเดินกันขวักไขว่ตามถนนหินโบราณแคบ ๆ ที่สองฝั่งเต็มไปด้วยพระราชวัง โบสถ์ยุคกลาง และพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ขณะรถไฟออกจากเมือง อย่าลืมชมแม่น้ำอาร์โน (River Arno) ซึ่งจะมีเสน่ห์ต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา — สว่างสดใสในยามกลางวัน และโรแมนติกเงียบสงบเมื่อพระอาทิตย์ตก
ถ้าคุณเดินทางด้วย Intercités de Nuit Night Train และ Regional Trains คุณสามารถวางแผนเส้นทางแวะเที่ยวตามเมืองต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ ซึ่งเราอยากแนะนำให้คุณแวะตามเมืองริมทะเลเหล่านี้ระหว่างทางไปโรม:
นีซ ประเทศฝรั่งเศส
Credit: @switteerr via Unsplash
ลองแวะพักผ่อนที่นีซ เมืองตากอากาศริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ขึ้นชื่อเรื่องแสงแดด อากาศอบอุ่น และชายหาดสวย น้ำทะเลสีฟ้าเข้มสดใส รวมถึงถนนสีสันสดใสที่สะท้อนการผสมผสานวัฒนธรรมระหว่างฝรั่งเศสและอิตาลีอย่างลงตัว ที่สำคัญ อย่าลืมลองชิมอาหารท้องถิ่นให้ได้มากที่สุด ร้านรวงที่นี่ใช้แต่วัตถุดิบสดใหม่ ทำให้อาหารมีรสชาติอร่อยเข้มข้นยิ่งขึ้น!
เจนัว ประเทศอิตาลี
© Getty Images
หนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดของอิตาลี เจนัว เป็นขุมทรัพย์แห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ในเขตเมืองเก่า คุณจะได้พบกับเสน่ห์ที่แตกต่างอย่างลงตัว ถนนโบราณแคบ ๆ ยุคก่อนสมัยใหม่ ที่ตัดกับร้านค้า บาร์ และร้านอาหารที่คึกคักสมัยใหม่ แนะนำให้แวะไปย่านท่าเรือ ซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร รวมถึงจุดชมวิวทะเลใกล้ ๆ ให้คุณได้พักผ่อนหย่อนใจ
ลาสเปเซีย ประเทศอิตาลี
© Bjorn Snelders / Unsplash
ลาสเปเซีย เป็นเมืองท่าเล็ก ๆ ที่หลายคนมักมองข้าม โดยส่วนใหญ่จะเป็นเพียงเมืองพักค้างคืนก่อนเดินทางต่อไปยัง Cinque Terre แต่ถ้าคุณมีเวลาว่างอีกสักวันหรือสองวัน เราขอแนะนำให้อยู่ต่อ เพราะเมืองนี้มีเสน่ห์ในตัวเอง ทั้งตรอกซอกซอยที่เต็มไปด้วยร้านค้า และร้านอาหารท้องถิ่น (Trattoria) มากมาย ให้คุณได้ลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ
เคล็ดลับ Klook:
ถ้าคุณอยู่ที่นี่วันศุกร์ ลองไปเดินตลาดนัดประจำสัปดาห์ที่ Viale Garibaldi ในช่วงเช้า มีเสื้อผ้า ของใช้ และของพื้นเมืองน่าซื้อกลับไปเป็นของฝากเพียบ!
ลิวอร์โน ประเทศอิตาลี
© Federico Burgalassi / Unsplash
ลิวอร์โน เมืองริมทะเลชื่อดังเรื่องอาหารทะเลสด ๆ ที่จับจากทะเลใกล้ ๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสายกิน! เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทัสคานี โดยเฉพาะเมนูที่คุณไม่ควรพลาดคือ Cacciucco (สตูว์อาหารทะเลทัสคานี) และ Spadellata di cozze e vongole หอยแมลงภู่และหอยตลับผัดในไวน์ขาว เสิร์ฟคู่ขนมปังปิ้งกรอบ ๆ รับรองฟินแน่นอน!
หลังจากอิ่มแล้ว ก็สามารถเดินชมอาคารเก่าแบบ Belle Époque และคลองสวย ๆ สไตล์เวนิส ในโซนที่ได้ชื่อว่า Little Venice of the Mediterranean
เคล็ดลับ Klook:
ถึงแม้อาหารหลักที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่องซีฟู้ด แต่ของว่างก็เด็ดไม่แพ้กัน เช่น Castagnaccio (เค้กแป้งเกาลัด) และ Torta di Ceci (เค้กแป้งถั่วลูกไก่) ที่แนะนำให้ม้วนเป็นแผ่น ถือเดินกินเล่นรอบเมือง เพลินสุด ๆ!
จองเลยกับ Klook!
ตอนนี้คุณมีข้อมูลครบพร้อมสำหรับวางแผนทริปในฝันแล้ว! โชคดีที่ Interrail Global Pass และ Eurail Global Pass ก็มีให้จองง่าย ๆ ที่ Klook เลย ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล
สุขสันต์วันหยุด!
ถ้าคุณมีคำถามเกี่ยวกับ Interrail Pass และ Eurail Pass ลองเช็ก FAQs ด้านล่าง ที่เราได้รวมคำถามยอดฮิต 3 ข้อไว้ให้แล้ว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Rail Pass
ทำไมฉันควรซื้อตั๋ว Europe Rail Pass?
สิ่งสำคัญสองอย่างที่เราให้ความสำคัญที่สุดเวลาเดินทางก็คือ การประหยัดค่าใช้จ่าย และ ความยืดหยุ่น — ซึ่งคุณจะได้สิ่งเหล่านี้จาก Rail Pass ถ้าคุณมีแผนจะเดินทางรอบยุโรป โดยเฉพาะในยุโรปตะวันตก บอกเลยว่าคุ้มมาก! ด้วย Rail Pass คุณจะได้ราคาสุดคุ้มสำหรับการเดินทางทั้งในประเทศและข้ามประเทศ ถึงแม้จะต้องบวกค่าจองที่นั่งในบางขบวนก็ตาม
Rail Pass ยังให้ความยืดหยุ่นสูงมาก — ถ้าขบวนไหนต้องจองที่นั่ง คุณก็สามารถจองล่วงหน้าได้ถึง 90 วันก่อนเดินทาง และถ้าขบวนไหนไม่ต้องจอง คุณก็แค่ขึ้นรถไปแล้วโชว์ Rail Pass ให้เจ้าหน้าที่ดูได้เลย เหมาะมาก ๆ สำหรับทริปแบบไปเที่ยวเมืองข้าง ๆ แบบไม่ต้องวางแผนล่วงหน้าเยอะ!
ฉันควรซื้อตั๋ว Eurail Pass หรือ Interrail Pass? แบบไหนเหมาะกับฉันที่สุด?
Get around Europe easily with a Eurail Pass and the Rail Planner app. Photo credits to @eurail on Instagram.
คุณสามารถเลือกใช้ Interrail Pass หรือ Eurail Pass ได้ ขึ้นอยู่กับสัญชาติหรือที่พักอาศัยปัจจุบันของคุณ ซึ่งเราอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ตามนี้เลย:
- Eurail Pass — ถ้าคุณ (a) ไม่ใช่พลเมืองหรือผู้พำนักในยุโรป หรือ (b) มีสองสัญชาติ (ยุโรปและนอกยุโรป) แต่ตอนนี้อาศัยอยู่นอกยุโรป คุณต้องซื้อ Eurail Pass
- Interrail Pass — ถ้าคุณ (a) เป็นพลเมืองหรือผู้พำนักในยุโรป หรือ (b) มีสองสัญชาติ (ยุโรปและนอกยุโรป) แต่ตอนนี้อาศัยอยู่ในยุโรป คุณต้องซื้อ Interrail Pass
Global Pass เหมาะมากถ้าคุณจะเดินทางข้ามหลายประเทศ หรือถ้าเน้นแค่ประเทศเดียวในยุโรปก็เลือก One Country Pass ได้
ยังไม่หมด! คุณยังเลือกได้ระหว่าง
- Flexible Pass — ใช้เดินทางเฉพาะวันตามที่เลือก เหมาะกับคนที่ไม่ได้เดินทางทุกวัน
- Consecutive Pass — ใช้เดินทางได้ทุกวันต่อเนื่อง เหมาะกับคนที่ขึ้นรถไฟทุกวัน
ส่วนตัวเราแนะนำ Mobile Pass ใช้ง่ายกว่า ไม่ต้องรอส่งถึงบ้าน โหลดเสร็จเดินทางได้ทันที!
เคล็ดลับ Klook:
ถ้ายังลังเลไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี ลองเช็กข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Klook หรือเว็บไซต์ผู้ให้บริการ
บนรถไฟยุโรปมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง?
สิ่งอำนวยความสะดวกจะแตกต่างกันไปตามประเภทขบวนรถ เส้นทาง และระดับที่นั่ง เราสรุปให้คร่าว ๆ สำหรับเส้นทาง Paris-Rome ตามนี้เลย:
ประเภทขบวนรถ | สิ่งอำนวยความสะดวก |
TGV High-Speed Train | เครื่องปรับอากาศ / บาร์ / พื้นที่เด็กเล่น / สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ / หนังสือพิมพ์-แมกกาซีน / ปลั๊กไฟ / ร้านอาหาร-บิสโทร / WiFi |
La Frecce High-Speed Train | เครื่องปรับอากาศ / บาร์ / บาร์กาแฟ / ปลั๊กไฟ / ร้านอาหาร-บิสโทร / จอวิดีโอ / WiFi |
Intercités de Nuit Night Train | เครื่องปรับอากาศ / ชั้นวางสัมภาระ / ปลั๊กไฟ / ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ / WiFi บางเส้นทาง |
|---|---|
Regional Trains | สิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการและขบวนรถ ควรตรวจสอบที่เว็บไซต์ทางการของแต่ละบริษัท หลังจากเช็คตารางเดินรถแล้ว |
หมายเหตุ:
สำหรับบริการช่วยเหลือผู้โดยสารที่มีความต้องการพิเศษหรือเคลื่อนไหวไม่สะดวก ให้ตรวจสอบรายละเอียดที่เว็บไซต์ทางการของผู้ให้บริการรถไฟแต่ละแห่งอีกครั้ง
