• ไปยังแอป
  • เลือกจุดหมายปลายทาง
  • เช่ารถในญี่ปุ่น รวมทุกสิ่งที่คุณต้องรู้

    Klook Thailand
    Klook Thailand
    อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 2024
    car rental in Japan
    หากคุณเป็นอีกคนที่อยากขับรถตระเวณเที่ยวรอบญี่ปุ่นอย่างอิสระ ออกสำรวจความสวยงามทางธรรมชาติ บ้านเรือนและวัฒนธรรมตามเส้นทางที่กำหนดเอง การเช่ารถขับในญี่ปุ่น น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ แม้ว่าการขนส่งสาธารณะในญี่ปุ่นจะดีเยี่ยม แต่ก็ไม่สามารถพาคุณไปยังเส้นทางที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักได้เสมอไป สถานที่แช่น้ำพุร้อนที่ซ่อนอยู่ วัดที่เงียบสงบ และหมู่บ้านภูเขาที่สวยงามมักอยู่ไกลจากเส้นทางรถบัสและรถไฟ
    อย่างไรก็ตามก่อนที่คุณจะขับรถในญี่ปุ่น คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับใบอนุญาตขับขี่สากล การเลือกประเภทของรถ และรายละเอียดของถนนในญี่ปุ่น บทความนี้จะเป็นไกด์ที่ครอบคลุมสำหรับวิธีการเช่ารถในญี่ปุ่น ทำความเข้าใจกฎหมายท้องถิ่น และการใช้เส้นทางที่งดงามในญี่ปุ่น ให้คุณขับรถเที่ยวได้อย่างมั่นใจ

    ข้อกำหนดในการขับรถในญี่ปุ่น

    ก่อนที่คุณจะขับรถและจับพวงมาลัยบนท้องถนน เรามาพูดถึงสิ่งที่คุณจำเป็นต้องมีในการขับรถในญี่ปุ่นกันก่อน ญี่ปุ่นมีข้อกำหนดที่ชัดเจน ดังนี้:
    • คุณต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป (อายุที่กฎหมายกำหนดสำหรับการขับรถในญี่ปุ่น)
    • นำใบขับขี่จากประเทศของคุณและหนังสือเดินทางมาด้วย
    • มีใบอนุญาตขับขี่สากลที่ยังไม่หมดอายุ
    Renting a car in Japan: Tokyo Shibuya Crossing
    Credit: @dnevozhai via Unsplash

    การขอใบอนุญาตขับขี่สากล

    สิ่งสำคัญคือ ญี่ปุ่นยอมรับเฉพาะใบอนุญาตขับขี่สากลที่สอดคล้องกับอนุสัญญาเจนีวา ปี 1949 เท่านั้น เพราะฉะนั้นห้ามพลาดเด็ดขาด เมื่อคุณดำเนินเรื่องขอใบอนุญาตขับขี่สากลจำเป็นจะต้องแจ้งกับกรมการขนส่งทางบกเพื่อระบุว่า คุณต้องการขับรถในญี่ปุ่น และทางกรมขนส่งทางบกจะแนะนำใบอนุญาตแบบ 1 ปี (อนุสัญญาเจนีวา ปี 1949) และจำเป็นต้องใช้ร่วมกับใบขับขี่ไทยของคุณเสมอ ย้ำอีกครั้ง ใบอนุญาตแบบ 3 ปี (อนุสัญญาเวียนนา 1968) ไม่สามารถใช้ได้ที่ญี่ปุ่นนะ ห้ามสับสนเด็ดขาด

    เช่ารถขับในญี่ปุ่น

    กระบวนการเช่ารถในญี่ปุ่นค่อนข้างสะดวกสบาย และมีตัวเลือกหลากหลายที่ตอบโจทย์ตามความต้องการและงบประมาณของคุณ รวมถึงญี่ปุ่นยังมีรถยนต์หลากหลายรุ่นให้คุณเลือกสรร แต่ทั้งนี้ราคาค่าเช่าสามารถแตกต่างกันมาก ดังนั้นจึงสำคัญที่ต้องค้นคว้าและเปรียบเทียบปัจจัยต่างๆ ก่อนตัดสินใจเช่า เช่น:
    • จำนวนผู้โดยสาร
    • ระยะเวลาเช่า
    • ตัวเลือกประกันภัย
    • สถานที่รับและคืนรถ
    การเช่ารถขนาดเล็กอาจเริ่มต้นที่ประมาณ 1,100 บาท ต่อวัน ในขณะที่รถขนาดใหญ่เช่น SUV อาจมีค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 2,500 บาท ต่อวัน (ราคาจะปรับเปลี่ยนตามวันที่ลูกค้าเลือก) ค่าเช่าสำหรับรถขนาดเล็กมักจะถูกกว่ารถ SUV หรือรถหรู ทำให้เป็นตัวเลือกที่ประหยัดสำหรับนักเดินทางที่มีงบประมาณจำกัดและไม่ต้องการรถขนาดใหญ่นัก
    หากคุณวางแผนจะคืนรถในสถานที่หรือเมืองที่แตกต่างจากจุดที่รับรถ โปรดทราบว่าอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปตามบริษัทเช่ารถและระยะทางระหว่างจุดรับ-คืนรถ ดังนั้นควรตรวจสอบนโยบายล่วงหน้าและเช็คราคาก่อนทุกครั้ง

    เช่ารถกับ Klook

    ทางเลือกที่ดีและคุ้มค่าสำหรับการเช่ารถขับในญี่ปุ่นก็คือ เช่ารถกับ Klook! คุณสามารถทำการจองได้อย่างง่ายดายที่ Klook ซึ่งมีขั้นตอนการจองที่ง่าย สะดวก พร้อมตัวเลือกรถยนต์ที่หลากหลาย ผู้ให้บริการรถเช่าที่เชื่อถือได้หลากหลายบริษัท สามารถตอบสนองความต้องการในการขับขี่ของคุณได้อย่างครบครัน เพียงทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้:
    1. ไปที่หน้าเว็บไซต์การจองรถเช่าของเรา จากนั้นระบุสถานที่รับส่งรถและเวลา
    car rental website
    2. เลือกขนาดรถที่คุณต้องการ (เช่น รถขนาดเล็ก รถขนาดกลาง รถตู้ หรือ SUV)
    car rental jp02
    3. เปรียบเทียบและเลือกความคุ้มครองระหว่างแบบพื้นฐานและแบบเสริม
    car insurance

    ผู้ให้บริการเช่ารถที่หลากหลาย

    Klook ให้บริการผู้ให้บริการเช่ารถหลายราย เช่น EuropCar, Times Car Rental และ AVIS และช่วยให้คุณเปรียบเทียบราคาเช่ารถจากผู้ให้บริการต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย
    car rental vendor
    บริษัทเช่ารถเหล่านี้มีตัวเลือกและกระบวนการที่หลากหลาย รวมถึงนโยบายการคืนรถที่ยืดหยุ่นและการจัดหาอุปกรณ์ ETC (Electronic Toll Collection) เพื่อให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายในการขึ้น tollway หรือทางด่วน หากคุณกังวลเกี่ยวกับอุปสรรคด้านภาษา ก็สบายใจได้ เพราะมักจะมีบริการช่วยเหลือภาษาอังกฤษจากองค์กรต่าง ๆ เช่น สมาคมเช่ารถแห่งญี่ปุ่น เป็นต้น ทั้งนี้การทำประกันภัยเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ การทำประภันภัยที่ครอบคลุมความเสียหาย การบาดเจ็บ และความรับผิดชอบ จะทำให้คุณสามารถขับขี่ได้อย่างสบายใจไร้กังวล

    นโยบายการรับและส่งคืนรถ

    การรับรถเช่าของคุณเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเข้าใจนโยบายต่าง ๆ เมื่อคุณมารับรถ แนะนำให้คุณใช้เวลาสักครู่เพื่อตรวจสอบรถร่วมกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีความเสียหายที่มีอยู่ก่อนแล้ว เช่น รอยขีดข่วนหรือบุบ
    สำหรับการคืนรถ อย่าลืมเติมน้ำมันให้เต็มถังเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งอาจสูงกว่าค่าการเติมน้ำมันปกติ หากคุณมีแผนที่จะส่งรถที่สถานที่ต่างจากที่รับก็ทำได้เช่นกัน แต่มักจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมทำให้ราคาการเช่ารถสูงขึ้นกว่าคืนรถที่เดิมเสมอ

    กฎหมายจราจรในญี่ปุ่น

    เมื่อคุณดำเนินการเช่ารถเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะทำความรู้จักกับมารยาทการขับรถในญี่ปุ่นที่จำเป็นจะต้องรู้และปฏิบัติตาม
    • ญี่ปุ่นขับรถอยู่เลนซ้ายของถนนและมีพวงมาลัยด้านขวาเหมือนไทย
    • คุณจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดความเร็ว: 60 กม./ชม. ในถนนทั่วไป และ 100 กม./ชม. ในทางด่วน
    • เบอร์โทรฉุกเฉิน 110 สำหรับติดต่อตำรวจ และ 119 สำหรับติดต่อหน่วยพยาบาลหรือหน่วยดับเพลิง
    Renting a Car in Japan: Driving
    Credit: @otaki via Unsplash

    ระบบถนนค่าทางด่วนในญี่ปุ่น

    ระบบค่าทางด่วนของญี่ปุ่นค่อนข้างสะดวกและมีมาตรฐาน ทำให้การเดินทางระหว่างเมืองเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย การชำระเงินที่ด่านเก็บค่าทางด่วนสามารถทำได้โดยใช้เงินสด บัตรเครดิต หรือบัตรเก็บค่าทางด่วนอัตโนมัติ (ETC) ซึ่งคล้ายๆ กับบัตร Easy Pass บ้านเรา ที่จะทำให้การเดินทางและจ่ายเงินค่าทางด่วนสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

    เลนที่พบทั่วไปที่ด่านเก็บค่าทางด่วน

    • เลนชำระเงินด้วยตนเอง: เลนเหล่านี้ต้องให้คุณหยุดและชำระค่าทางด่วนด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต มองหาป้ายสีเขียวที่บ่งบอกว่าต้องชำระเงินด้วยตนเอง ที่บูธเหล่านี้ คุณจะต้องจ่ายค่าทางด่วนด้วยตัวเองให้กับเจ้าหน้าที่ซึ่งจะคำนวณค่าธรรมเนียมตามจุดเข้าและประเภทของรถ
    • เลนผสม: บางเลนสามารถรับการชำระเงินทั้งแบบ ETC และแบบด้วยตนเอง ซึ่งสะดวกหากคุณไม่แน่ใจว่ารถเช่าของคุณมีอุปกรณ์ ETC หรือไม่ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความยืดหยุ่นในการชำระเงินด้วยเงินสดหรือบัตร เลนผสมมักจะมีป้ายสีม่วงและสีเขียวร่วมกัน
    • เลนพาสทางด่วน: สำหรับผู้ที่ใช้พาสทางด่วนพิเศษ เช่น ‘Hokkaido Expressway Pass’ จะมีเลนเฉพาะที่ระบุชื่อพาสไว้อย่างชัดเจนและช่วยทำให้การชำระเงินค่าทางด่วนสำหรับผู้ถือพาสเป็นไปอย่างรวดเร็ว มักมีป้ายสีน้ำเงิน
    การเข้าใจเลนเหล่านี้จะช่วยให้คุณเดินทางผ่านถนนค่าทางด่วนในญี่ปุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้การเดินทางของคุณสะดวกสบาย พร้อมออกสำรวจเส้นทางที่สวยงามของประเทศญี่ปุ่นอย่างไร้กังวล!
    Renting a Car in Japan - Electronic Toll Collection (ETC)

    การชำระเงินที่ด่านเก็บค่าทางด่วน

    หากคุณเลือกที่จะชำระเงินค่าทางด่วนด้วยตัวเอง ก็สามารถทำได้ไม่ยากเช่นกัน เลือกเข้าช่องทางสีเขียว จากนั้นเตรียมเงินสดหรือบัตรเครดิตไว้ แล้วทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
    1. ส่งตั๋วค่าทางด่วนให้กับเจ้าหน้าที่บูธเก็บค่าทางด่วน
    2. ชำระเงินจำนวนตามที่กำหนดด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต
    3. เมื่อชำระเงินเสร็จแล้ว คุณก็พร้อมที่จะไปต่อกันเลย
    ทั้งนี้มีข้อควรระวังว่า บูธบางแห่งอาจไม่รับบัตรเครดิต ถนนบางสาย รวมถึงบางสายที่อยู่ในโตเกียวและเส้นทางในภูมิภาคเก่าแก่ จะรับเฉพาะเงินสด ดังนั้นจึงควรพกเงินเยนติดตัวไว้เสมอ

    การเช่ารถพร้อมอุปกรณ์ ETC

    หากคุณเลือกที่จะชำระค่าทางด่วนด้วยอุปกรณ์​ ETC ก็นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สะดวกสบายและรวดเร็ว โดยบริษัทเช่ารถหลายแห่งอำนวยความสะดวกติดตั้งอุปกรณ์นี้โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม (โปรดเช็คกับผู้ประกอบการตอนไปรับรถ) เพียงแค่คุณมองหาเลนสีม่วงสำหรับ ETC บนทางด่วน คุณก็จะสามารถข้ามบูธเก็บค่าทางด่วนแบบด้วยตนเองได้โดยตรงประหยัดเวลาและรวดเร็วมาก
    ลดเพิ่ม5%เมื่อจองผ่านแอปครั้งแรก