หากเมืองนิวยอร์กมีตึกเอ็มไพร์สเตตเป็นตึกสำคัญของเมือง ตึกใบหยกหรือ Baiyoke Sky Tower ก็คงจัดเป็นตึกแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะนอกจากจะเคยรั้งตำแหน่งตึกที่สูงที่สุดในไทยมาอย่างยาวนานแล้ว ตึกใบหยกยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายที่รอให้คุณได้ไปสัมผัส ซึ่งรับรองเลยว่าต้องถูกใจอย่างแน่นอน
กินบุฟเฟ่ต์พร้อมชมวิวสวย ๆ ที่ตึกใบหยก
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นตึกสูง แต่ตึกใบหยกแห่งนี้ก็ไม่ได้มีดีแค่วิวสวย ๆ เพียงเท่านั้น ในวันนี้ ทีมงาน Klook จึงขอพาคุณไปทำความรู้จักกับตึกใบหยกให้มากยิ่งขึ้นผ่านไฮไลท์ทั้ง 5 ที่เราได้คัดสรรมาให้คุณ จะมีที่ไหนและน่าสนใจอย่างไร ตามมาดูกันได้เลย
5 ไฮไลท์ในตึกใบหยกที่คุณไม่ควรพลาด!
เที่ยวตึกใบหยก ตึกที่สูงเป็นอันดับที่ 3 ของไทย
ตึกใบหยกนั้นเป็นตึกที่มีความสูงมากกว่า 304 เมตร และมีจำนวนชั้นมากกว่า 88 ชั้น ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของตึกนั้นจะเป็นของโรงแรมใบหยก สกายที่ตั้งอยู่ระหว่างชั้น 22-74 แต่ที่ถือเป็นไฮไลท์ที่ห้ามพลาดนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นบุฟเฟ่ต์นานาชาติและจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน
อิ่มอร่อยไปกับบุฟเฟ่ต์รสเลิศจาก 3 ห้องอาหารของตึกใบหยก
แต่ถ้าจะพาไปชิมบุฟเฟ่ต์แค่ที่เดียวก็คงจะน้อยเกินไป ในวันนี้เราจึงขอจัดหนักด้วยการพาคุณไปพบกับห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ 3 ห้อง 3 สไตล์ พร้อมกับจุดชมวิว 360 องศาในตำนานและรูฟท็อปบาร์แห่งใหม่ล่าสุดที่ควรมาให้ได้สักครั้ง
แต่ละที่จะเด็ดดวงแค่ไหน เดี๋ยว Klook จะมารีวิวให้ฟัง!
1. กินบุฟเฟ่ต์สุดพรีเมี่ยม พร้อมชมวิวหลักล้านที่ห้องอาหาร Bangkok Balcony และ Sky Box
พบกับบุฟเฟ่ต์สุดพรีเมี่ยมที่ห้องอาหาร Bangkok Balcony และ Sky Box
ขอประเดิมที่แรกกันด้วยห้องอาหารที่มาแรงที่สุดในนาทีนี้อย่างห้องอาหาร Bangkok Balcony ชั้น 81 ซึ่งถือเป็นห้องอาหารที่มีซีฟู้ดแสนอร่อยและเมนูระดับพรีเมี่ยมให้เลือกมากมาย โดยคุณยังสามารถอิ่มอร่อยไปกับอาหารชั้นเลิศอย่าง ฟัวกราส์ สเต็กเนื้อวากิว และซุปล็อปสเตอร์ได้แบบจุใจอีกด้วย
พบกับวัตถุดิบสุดพรีเมี่ยมมากมายที่ห้องอาหาร Bangkok Balcony และ Sky Box
ในส่วนของไลน์อาหารนั้นก็เรียกได้ว่าจัดเต็มแบบไม่มียั้ง ไม่ว่าจะเป็น ซูชิกับซาชิมิที่สดใหม่ทุกคำ หรือซีฟู้ดออนไอซ์ที่เหมือนยกทะเลมาไว้ให้แบบเบิ้ม ๆ รวมไปถึงโซนอาหารตะวันตกที่ปรุงกันสด ๆ แบบไม่หวงของกันเลยทีเดียว
เพลิดเพลินไปกับบุฟเฟ่ต์แสนอร่อยและวิวสุดปังที่ห้องอาหาร Sky Box ชั้น 81
แต่ที่พลาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ Sky Box ห้องอาหารกลางแจ้งที่สามารถเห็นวิวของกรุงเทพฯ ได้แบบเต็มตา เรียกได้ว่าจ่ายแค่พันห้าแต่ได้วิวหลักล้านอย่างแน่นอน เหมาะแก่การพาคนรู้ใจมาดินเนอร์เป็นที่สุด
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุฟเฟ่ต์ที่ห้องอาหาร Bangkok Balcony และ Sky Box
ราคาแพ็กเกจบุฟเฟ่ต์ห้องอาหาร Bangkok Balcony + จุดชมวิว: ผู้ใหญ่ 950 บาท, เด็ก 475 บาท พิเศษ! จองผ่าน Klook ได้ในราคาผู้ใหญ่ 855 บาท เด็ก 428 บาท คลิกที่นี่
ราคาแพ็กเกจบุฟเฟ่ต์ห้องอาหาร Sky Box + จุดชมวิว: 1550 บาท พิเศษ! จองผ่าน Klook ได้ในราคา 1500 บาท คลิกที่นี่
ที่อยู่: ชั้น 81 ของตึกใบหยก
รอบเวลาที่ให้บริการ: เปิดให้บริการทุกวัน วันละ 2 รอบ เวลา 17:00-19:00 น./19:00-21:00 น.
2. อร่อยสะท้านยุทธจักรไปกับกองทัพคาราวานอาหารจีนที่ห้องอาหาร Stella Palace
พบกับคาราววานบุฟเฟ่ต์อาหารจีนเลิศรสมากมายที่ห้องอาหาร Stella Palace ชั้น 79
ขอเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการพาไปลิ้มลองอาหารจีนต้นตำรับที่ห้องอาหาร Stella Palace ชั้น 79 ดูบ้าง ที่ห้องอาหารแห่งนี้ คุณจะได้พบกับคาราวานบุฟเฟ่ต์อาหารจีนและซีฟู้ดที่ยกโขยงมากันเป็นกองทัพ รวมไปถึงสุดยอดเมนูแดนมังกรอย่าง เป็ดปักกิ่ง, ซุปหอยเป๋าฮื้อ และติ่มซำนานาชนิดอีกด้วย
ลิ้มลองความอร่อยของเมนูชั้นเลิศจากแดนมังกรอย่าง เป็ดปักปิ่ง ที่ห้องอาหาร Stella Palace ชั้น 79
ในส่วนของรสชาติอาหารนั้นก็เรียกได้ว่าอร่อยเทียบเท่าระดับภัตตาคารดังของประเทศเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าบุฟเฟต์แต่ละจานของที่นี่จะปรุงสดและเสิร์ฟร้อนเสมอ ทำให้คุณสามารถลิ้มรสความอร่อยและสดใหม่ได้แบบเต็ม ๆ นั่นเอง
รับประทานคาราวานบุฟเฟ่ต์อาหารจีนได้แบบเป็นส่วนตัวที่ห้องพิเศษของทาง Stella Palace
หากใครอยากมารับประทานกันเป็นครอบครัวใหญ่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวแต่อย่างใด เพราะห้องอาหารแห่งนี้ได้จัดสรรห้องพิเศษสำหรับครอบครัวใหญ่ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเหล่าขบวนบุฟเฟ่ต์ก็จะเข้ามาเสิร์ฟให้คุณถึงโต๊ะกันไปเลย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุฟเฟ่ต์ที่ห้องอาหารจีน Stella Palace
ราคาแพ็กเกจบุฟเฟ่ต์+จุดชมวิว: ผู้ใหญ่ 950 บาท, เด็ก 475 บาท พิเศษ! จองผ่าน Klook ได้ในราคาผู้ใหญ่ 855 บาท เด็ก 428 บาท คลิกที่นี่
ที่อยู่: ชั้น 79 ของตึกใบหยก
รอบเวลาที่ให้บริการ: เปิดให้บริการทุกวัน วันละ 2 รอบ เวลา 17:00-19:00 น./19:00-21:00 น.
3. อิ่มจุก ๆ กับบุฟเฟ่ต์ “ทะเลยกชั้น” ที่ห้องอาหาร Bangkok Sky
แวะถ่ายรูปแบบฮา ๆ ก่อนไปกินบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดที่ห้องอาหาร Bangkok Sky
มาถึงห้องอาหารขวัญใจคนรักซีฟู้ดอย่างห้องอาหาร Bangkok Sky ชั้น 78 หรือที่รู้จักกันในฐานะ “บุฟเฟ่ต์ทะเลยกชั้น” นั่นเอง ตัวห้องอาหารนั้นตกแต่งมาในธีมกรุงเทพม โดยได้หยิบยกเอาเสน่ห์ของเมืองหลวงมาตกแต่งได้อย่างน่ารัก ไม่ว่าจะเป็น วินมอเตอร์ไซค์ จ่าเฉย รถตุ๊กตุ๊ก รวมไปถึงย่านสุดคลาสสิกอีกมากมาย นับเป็นจุดถ่ายรูปที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียว
อิ่มอร่อยไปกับบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดและสตรีทฟู้ดแสนอร่อยที่ห้องอาหาร Bangkok Sky
หลังจากที่ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ถึงเวลาอร่อยไปกับซีฟู้ดจานยักษ์ที่เป็นไฮไลท์ของห้องอาหารแห่งนี้ โดยคุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารไทยแนวสตรีทฟู้ดได้แบบไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็น ออส่วนจานร้อน ผัดไทยกุ้งสด ราดหน้าทะเล รวมไปขนมครกแสนอร่อย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุฟเฟ่ต์ที่ห้องอาหาร Bangkok Sky
ราคาแพ็กเกจบุฟเฟ่ต์+จุดชมวิว: ผู้ใหญ่ 850 บาท เด็ก 338 บาท พิเศษ! จองผ่าน Klook ได้ในราคาผู้ใหญ่ 675 บาท เด็ก 338 บาท คลิกที่นี่
ที่อยู่: ชั้น 78 ของตึกใบหยก
รอบเวลาที่ให้บริการ: เปิดให้บริการทุกวัน วันละ 2 รอบ เวลา 17:00-19:00 น./19:00-21:00 น.
4. ดื่มด่ำวิวกรุงเทพฯ แบบ 360 องศาที่หอชมวิวและดาดฟ้าพื้นหมุน
ชมวิวผ่านกระจกบานยักษ์ที่หอชมวิวชั้น 77 ของตึกใบหยก
มาขึ้นตึกสูงทั้งที ก็ต้องขึ้นไปจุดชมวิวกันสักหน่อย โดยจุดชมวิวของตึกใบหยกนั้นจะมีทั้งหมด 2 จุดด้วยกัน นั่นก็คือหอชมวิวชั้น 77 ที่คุณจะได้ชมวิวกรุงเทพฯ ผ่านกระจกบานยักษ์ และชั้น 84 ที่คุณสามารถดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ของมหานครแห่งนี้ได้แบบ 360 องศา ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่พื้นดาดฟ้าที่จะค่อย ๆ หมุนไปแบบช้า ๆ จนครบรอบนั่นเอง
ดื่มด่ำกับงิงพระอาทิตย์ตกดินที่ดาดฟ้าพื้นหมุนชั้น 84 ของตึกใบหยก
บริเวณดาดฟ้าพื้นหมุนของชั้น 84 นั้นถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดของกรุงเทพฯ และหากใครอยากชมทิวทัศน์ยามราตรีไปด้วย เราก็ขอแนะนำให้คุณอยู่ชมจนถึงช่วงที่ตึกต่าง ๆ เริ่มเปิดไฟ ซึ่งจะทำให้คุณได้เห็นกรุงเทพฯ ในอีกมุมมอง ซึ่งดูสวยงามไม่แพ้ช่วงกลางวันเลย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหอชมวิวชั้น 77 และดาดฟ้าพื้นหมุนชั้น 84
ราคาแพ็กเกจบัตรเ้ขาชมหอชมวิวชั้น 77 และดาดฟ้าพื้นหมุนชั้น 84: ราคา 400 บาท พิเศษ! จองผ่าน Klook ได้ในราคา 229 บาท คลิกที่นี่
ที่อยู่: ชั้น 77 และ 84 ของตึกใบหยก
เวลาทำการ: ทุกวัน เวลา 10:00-22:00 น.
5. จิบค็อกเทลเย็น ๆ พร้อมชมวิวยามราตรีที่ Rooftop Bar ชั้น 83
แวะไปแฮงเอ้าท์กันที่ร้าน Rooftop Bar ของตึกใบหยก ที่ชั้น 83
เมื่อตะวันลับขอบฟ้า ก็ได้เวลาไปแฮงค์เอ้าท์กันสักหน่อย โดยคุณสามารถแวะไปยังร้าน Rooftop Bar ที่ชั้น 83 ที่ทางใบหยกได้ปรับปรุงและกลับมาเปิดให้บริการใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งร้าน Rooftop Bar แห่งนี้ยังถือเป็นบาร์ที่สูงที่สุดในไทยอีกด้วย
เพลิดเพลินกับค็อกเทลเย็น ๆ มากมาย ณ บาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย
คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มมากมายภายในบาร์ โดยเมนูที่ไม่สั่งไม่ได้เลยนั่นก็คือ ค็อกเทล ที่มีให้เลือกกันหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น Margarita, Planters Punch, Blue Hawaii และอื่น ๆ อีกมากมาย เลือกได้ตามความชอบกันไปเลย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับร้าน Rooftop Bar ชั้น 83
ที่อยู่: ชั้น 83 ของตึกใบหยก
เวลาทำการ: ทุกวัน เวลา 17:00-01:00 น.
ประหยัดไปอีกเยอะ เพียงจองบัตรเข้าหอชมวิวโรงแรมใบหยกสกายและบุฟเฟ่ต์ที่ห้องอาหาร Sky Box Buffet ชั้น 81 ผ่าน Klook
เติมเต็มวันแห่งความสุขด้วยการไปกินบุฟเฟ่ต์พร้อมชมวิวสุดอลังการที่ตึกใบหยก
จบไปแล้วกับทั้ง 5 ไฮไลท์เด็ดของตึกใบหยก ไม่ว่าคุณจะถูกใจและอยากไปที่ไหน เราก็ขอการันตีได้เลยว่าทุกไฮไลท์ของตึกใบหยกจะมอบความประทับใจให้แก่คุณได้อย่างแน่นอน จะขึ้นไปชมวิวเก๋ ๆ หรือจะไปตะลุยกินบุฟเฟ่ต์ พร้อมชมวิวไปด้วยก็คุ้มค่าเป็นที่สุด
คุ้มกว่าเยอะ เพียงแค่จองผ่าน Klook
แต่จะไปตึกใบหยกทั้งที ก็จองให้ได้ราคาดี ๆ ไปเลยดีกว่าจริงไหม? และตัวช่วยที่จะทำให้ทุกทริปของคุณประหยัดและสะดวกยิ่งขึ้นก็คงต้องเป็นแอปพลิเคชั่น Klook แอปคู่ใจขาเที่ยวที่พร้อมมอบส่วนลดสุดคุ้มให้แก่ทุกการจองที่เที่ยวและร้านอาหารของคุณ จะเที่ยวที่ไหน นึกถึง Klook ไว้ก็คุ้มแน่นอน!
![[ดำน้ำที่โอกินาว่า] แนะนำ 10 จุดดำน้ำที่ต้องไปในโอกินาว่า! | ถ้ำสีน้ำเงิน เกาะเครามะ เกาะอิชิงากิ](https://res.klook.com/image/upload/fl_lossy.progressive,q_85/c_fill,w_160,h_104/v1715336279/ewvzo43k83usjqvjysuq.jpg)
