พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีในเกาหลีใต้
ฤดูใบไม้ร่วงในเกาหลีจะอยู่ระหว่างเดือนตุลาคมไปจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน นอกจากจะได้ชมใบไม้สีเหลืองทองกรอบสวยแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับอากาศเย็นสบาย อุณหภูมิประมาณ 20°C ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีในเกาหลีคือเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน โดยฤดูพีคของใบไม้แดงจะคงอยู่เพียงราว ๆ สองสัปดาห์เท่านั้น สามารถดูทัวร์ชมใบไม้ร่วงทั้งหมดในเกาหลีได้ที่นี่!
หมายเหตุ: พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีประจำปี 2025 ของเกาหลียังไม่ได้ประกาศ แต่สามารถอ้างอิงจากพยากรณ์ปี 2024 ได้ก่อน ซึ่งปี 2024 ใบไม้เปลี่ยนสีเข้าสู่ช่วงพีคช้ากว่าปกติ อย่าลืมวางแผนเวลาเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ ให้เหมาะสม 👀
ทัวร์แท็กซี่ส่วนตัวในเกาหลี 🚕
สัมผัสการเดินทางที่สะดวกสบาย และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจ ระหว่างการออกสำรวจภูมิทัศน์สวยงามของเกาหลีใต้
- พย็องชัง (Pyeongchang) 🍁: อุทยานแห่งชาติโอดาesan (Odaesan National Park)
- เจชอน (Jecheon) 🍁: สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แบรอน (Baeron Holy Ground)
- นัมวอน (Namwon) 🍁: ศาลากวางฮันรู (Gwanghallu Pavilion)
- ซุนชอน (Suncheon) 🍁: พื้นที่ชุ่มน้ำซุนชอนมัน (Suncheonman Wetland)
1. พระราชวังชังด็อกกุง และสวนลับ (Changdeokgung Palace & Secret Garden)
พระราชวังชังด็อกกุงและสวนลับ (Changdeokgung Palace & Secret Garden) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 1997 และเป็นหนึ่งในอาคารประวัติศาสตร์จากราชวงศ์โชซอน (Joseon) ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
ที่อยู่: 185, Changgyeonggung-ro, Jongno-gu, Seoul
เพลิดเพลินไปกับสวนกว้างใหญ่ที่มีศาลาและสระน้ำ ท่ามกลางสีแดงและทองของใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามน่าประทับใจ สำหรับใครที่อยากได้ภาพถ่ายสวย ๆ และประสบการณ์ที่แตกต่าง ลองเช่าชุดฮันบก (มีทั้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิง) เพื่อถ่ายรูปคู่กับฉากหลังพระราชวังและใบไม้ร่วงอันงดงาม!
2. อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (Seoraksan National Park)
อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (Seoraksan National Park) เป็นที่ตั้งของภูเขาซอรัคซาน (Seoraksan Mountain) ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับสามของเกาหลี และยังเป็นสถานที่แรก ๆ ที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ โดยปกติใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน และเข้าสู่ช่วงพีคเต็มที่ในช่วงปลายเดือนตุลาคม
ด้วยหน้าผาสูงชันและหุบเขาขรุขระที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงและทอง รับรองว่านี่คือการเดินเขาที่ไม่มีวันลืม! ถ้าไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอย่างไร แนะนำทัวร์นำเที่ยว Seoraksan Autumn Scenery Naejang & Seorak National Park Maple Leaves Day Tour ที่จะพาไปเดินเส้นทางสุดสวย พร้อมบริการรถรับส่งไป–กลับจากโซล (Seoul)
หากกำลังมองหาทริปที่ครบกว่า ยังมีทัวร์อื่น ๆ ที่รวมแหล่งท่องเที่ยวดังอย่างเกาะนามิ (Nami Island) และสวนมอร์นิงคาม (Garden of Morning Calm) อีกด้วย!
ที่อยู่: Seoraksan-dong, Sokcho-si, Gangwon-do
3. เกาะนามิ (Nami Island)
หากซีรีส์เกาหลี (K-Dramas) ยังไม่เพียงพอที่จะดึงดูดให้คุณมาเยือนสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์แห่งนี้ เกาะนามิ (Nami Island) ก็ยังเต็มไปด้วยเส้นทางเดินที่เรียงรายด้วยต้นไม้สีส้มและสีแดง
ที่อยู่: 1 Namisum-gil, Namsan-myeon, Chuncheon, Gangwon-do, South Korea
4. สวนกาเดน ออฟ มอร์นิง คาล์ม (Garden of Morning Calm)
สวนกาเดน ออฟ มอร์นิง คาล์ม (Garden of Morning Calm) แสดงให้เห็นถึงความงดงามของศิลปะการจัดสวนแบบเกาหลี โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาชุงรย็องซาน (Chungryeongsan Mountain) และประกอบด้วยโซนธีมกว่า 20 แห่งที่เชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางเดินอันสวยงาม
คำว่า “สวยงาม” อาจยังไม่เพียงพอที่จะบรรยายสถานที่แห่งนี้ได้ครบถ้วน ถึงแม้ว่าจะงดงามในทุกฤดู แต่เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง สีสันของใบไม้ก็ยิ่งทำให้ที่นี่ดูมหัศจรรย์กว่าที่เคยเป็น
5. อุทยานแห่งชาตินาเอจังซาน (Naejangsan National Park)
ใครจะปฏิเสธการเดินเล่นในอุทยานแห่งชาติที่สวยงามแห่งนี้ได้บ้าง? การใช้เวลาช่วงบ่ายที่อุทยานแห่งชาตินาเอจังซาน (Naejangsan National Park) อาจเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดกับการได้ใช้ชีวิตในบรรยากาศซีรีส์เกาหลีที่ชื่นชอบเลยทีเดียว
อุทยานแห่งชาตินาเอจังซาน (Naejangsan National Park) ถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีในเกาหลี ถ้ามีเวลาเพียงแค่ที่เดียวในทริปวันหยุด บอกได้เลยว่าต้องมาที่นี่! และอย่าลืมชมสถานที่สำคัญอื่น ๆ ภายในอุทยาน เช่น น้ำตกโดด็อกพกโพ (Dodeokpokpo Falls) น้ำตกกึมซอนพกโพ (Geumseonpokpo Falls) รวมถึงวัดแพ็กยางซา (Baegyangsa Temple) และวัดนาเอจังซา (Naejangsa Temple) ด้วย
ถ้ากำลังมองหาทัวร์ที่จะพามาที่นาเอจังซาน (Naejangsan) ลองดูโปรแกรม Autumn Foliage Tour – Seoraksan / Naejangsan Tour ที่ยังรวมการเยี่ยมชมหมู่บ้านโบราณช็อนจูฮันอก (Jeonju Hanok Village) อีกด้วย!
6. สวนสาธารณะโซลฟอเรสต์ (Seoul Forest Park)
สวนสาธารณะโซลฟอเรสต์ (Seoul Forest Park) เป็นหนึ่งในจุดยอดนิยมสำหรับการชมดอกไม้และใบไม้ตามฤดูกาล เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่จะเต็มไปด้วยดอกซากุระสีชมพูพาสเทลสวยงาม ส่วนในฤดูใบไม้ร่วง แนวต้นแปะก๊วยก็กลายเป็นไฮไลต์ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี
ภายในสวนสาธารณะโซลฟอเรสต์ (Seoul Forest Park) ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนศิลปะและวัฒนธรรม (Culture and Art Park) สนามเด็กเล่นกลางป่า (Forest Playground Areas) และบริเวณมารีน่าริมน้ำ (Waterfront Marina Area) ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่พักผ่อนที่ยอดเยี่ยม ทั้งสำหรับคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว เตรียมตะกร้าปิกนิก เลือกมุมสวย ๆ แล้วนั่งเพลิดเพลินกับวิวได้เลย 😍
ที่อยู่: 273, Ttukseom-ro, Seongdong-gu, Seoul
7. สวนโอลิมปิกโซล (Seoul Olympic Park)
สวนโอลิมปิกโซล (Seoul Olympic Park) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดหากอยากชมใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงาม สวนขนาดใหญ่แห่งนี้ใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมงในการเดินสำรวจทั่วทั้งพื้นที่ ภายในประกอบไปด้วยโซนต่าง ๆ ได้แก่ สวนกีฬาสันทนาการ (Leisure Sports Park) สวนศิลปะและวัฒนธรรม (Cultural Art Park) สวนสิ่งแวดล้อมเชิงนิเวศ (Environmental Eco-Park) และสวนประวัติศาสตร์ (History Experience Park) ซึ่งจัดแสดงมรดกทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน (สวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ของป้อมปราการมงชอนโทซอง (Mongchontoseong Fortress) ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี)
จุดถ่ายรูปที่แนะนำ ได้แก่ สวนดอกไม้ป่า (Wild Flower Garden) ที่มีดอกคอสมอสสีเหลือง (Yellow Cosmos) ลานกุหลาบ (Rose Plaza) และที่พลาดไม่ได้เลยคือ ถนนต้นแปะก๊วยสีทอง (Golden Ginkgo Tree Road)!
นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเช่าจักรยานเพื่อปั่นเที่ยวชมสวนขนาดใหญ่แห่งนี้ได้อีกด้วย โดยร้านเช่าจักรยานจะอยู่ระหว่างสนามกีฬา SK Olympic Handball Gymnasium และ Woori Art Hall ค่าบริการเริ่มต้นที่ 3,000 วอน (ประมาณ 3 ดอลลาร์สิงคโปร์) ต่อครึ่งชั่วโมง
ที่อยู่: 424, Olympic-ro, Songpa-gu, Seoul
8. อุทยานแห่งชาติบุกฮันซาน (Bukhansan National Park)
อยากปีนเขาเพื่อชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีสุดอลังการหรือเปล่า? อุทยานแห่งชาติบุกฮันซาน (Bukhansan National Park) คือสถานที่ที่เหมาะที่สุด ที่นี่ครอบคลุมพื้นที่ภูเขาบุกฮันซาน (Bukhansan Mountain) และภูเขาโดบงซาน (Dobongsan Mountain) มีเส้นทางเดินเขามากมายพร้อมจุดชมวิว ที่สามารถเห็นยอดเขาสูงตระหง่านถูกแต่งแต้มด้วยสีแดง เหลือง และทองของใบไม้ร่วง
สำหรับผู้เริ่มต้นสามารถเลือกเส้นทาง Scenic Valley Trail หรือ Main Road Trail ได้ ส่วนใครที่ชอบความท้าทายมากขึ้น แนะนำให้ลองปีนไปยังยอดแพกุนแด (Baegundae Peak) เพื่อชมวิวมุมสูงอันงดงามของทั้งอุทยาน
ที่อยู่: 262, Bogungmun-ro, Seongbuk-gu, Seoul
นักท่องเที่ยวสายผจญภัยยังสามารถเลือกเข้าร่วม ทัวร์บุกฮันซาน (Bukhansan Tour) ที่รวมกิจกรรมเดินเขาด้วย
ทริป 1 วันนี้จะเริ่มจากการปีนเขาที่ภูเขาบุกฮันซาน (Bukhansan Mountain) จากนั้นไปเยี่ยมชมวัดจิงวันซา (Jingwansa Temple) ต่อด้วยการเดินชมหมู่บ้านฮันอกอึนพย็อง (Eunpyeong Hanok Village) ซึ่งเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างบ้านฮันอกแบบดั้งเดิมกับวิถีชีวิตเมืองสมัยใหม่ และปิดท้ายด้วยการพักผ่อนที่น้ำตกกูพาบัล (Gupabal Waterfall) โอเอซิสกลางเมืองที่รายล้อมด้วยเสียงน้ำไหลและวิวธรรมชาติอันสวยงาม
9. ถนนต้นแปะก๊วยอาซัน (Asan Ginkgo Tree Road)
ที่ลับแห่งนี้ถือเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ชาวท้องถิ่นชื่นชอบ ตั้งอยู่ห่างจากโซล (Seoul) ประมาณ 2.5 ชั่วโมง โดยการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ ถนนต้นแปะก๊วยอาซัน (Asan Ginkgo Tree Road) เป็นเสน่ห์ที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่คุ้มค่าที่จะเดินทางไปเยือนหากมีเวลาเหลือในทริป
ที่อยู่: 259-2 Baekam-ri, Yeomchi-eup, Asan-si, Chungcheongnam-do
10. สวนสาธารณะอินชอนแกรนด์พาร์ค (Incheon Grand Park)
เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีสุดสวยที่สวนสาธารณะอินชอนแกรนด์พาร์ค (Incheon Grand Park) ซึ่งโอบล้อมด้วยภูเขากวานโมซาน (Gwanmosan Mountain) และภูเขาซังอาซาน (Sangasan Mountain)
Klook Tip: อย่าลืมไปที่อุโมงค์ต้นเมเปิล (Maple Tree Tunnel) เพื่อชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุด!
นอกจากสวนกว้างใหญ่แล้ว ภายในสวนสาธารณะอินชอนแกรนด์พาร์ค (Incheon Grand Park) ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น สวนสัตว์เด็ก (Children’s Zoo) จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่พาเด็ก ๆ มาท่องเที่ยวด้วย
ที่อยู่: 236, Munemi-ro, Namdong-gu, Incheon
11. ป่าต้นแปะก๊วยฮงชอน (Hongcheon Ginkgo Forest)
ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นที่รู้จักในหมู่คนท้องถิ่นมากกว่านักท่องเที่ยว ป่าต้นแปะก๊วยฮงชอน (Hongcheon Ginkgo Forest) มีต้นแปะก๊วยสีเหลืองมากกว่า 2,000 ต้น กลายเป็นภาพที่สวยงามตระการตาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
สวนแห่งนี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล และจะเปิดให้เข้าชมเฉพาะเดือนตุลาคมเท่านั้น ก่อนเดินทางควรตรวจสอบข้อมูลกับสำนักงานเขตฮงชอน (Hongcheon County Office) ก่อนทุกครั้ง!
ที่อยู่: 686-4 Gwangwon-ri, Nae-myeon, Hongcheon-gun, Gangwon-do
อีกทางเลือกหนึ่ง คือการเข้าร่วมทัวร์ที่มอบประสบการณ์ฤดูใบไม้ร่วงสุดสนุกห่างไกลจากความวุ่นวายในกรุงโซล (Seoul)! เริ่มต้นด้วยการไปที่ Alpaca World เพื่อทำความรู้จักกับเหล่าสัตว์น่ารัก ๆ ที่นี่คือฟาร์มป่าเชิงประสบการณ์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ จากนั้นเพลิดเพลินไปกับสีสันอบอุ่นของฤดูกาล ขณะเดินเล่นตามเส้นทางสีทองอันงดงามของป่าต้นแปะก๊วยฮงชอน (Hongcheon Ginkgo Forest)
12. ทะเลสาบโบมุน (Bomun Lake)
เกร็ดน่ารู้: รู้หรือไม่ว่าทะเลสาบโบมุน (Bomun Lake) เป็นทะเลสาบที่มนุษย์สร้างขึ้น? พื้นที่แห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากในเดือนเมษายนจะเต็มไปด้วยดอกซากุระรอบทะเลสาบโบมุนโฮ (Bomunho Lake) และวัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple) ส่วนในเดือนตุลาคมก็เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม
นอกจากการเดินเล่นรอบ ๆ บริเวณแล้ว ยังมีร้านเช่าจักรยานใกล้ทะเลสาบอีกด้วย หรือถ้าอยากได้มุมมองที่แตกต่าง ก็สามารถเช่าเรือเป็ดเพื่อพายเล่นชมวิวรอบทะเลสาบได้เช่นกัน!
ที่อยู่: Sinpyeong-dong, Gyeongju-si, Gyeongsangbuk-do
ทัวร์ Gyeongju Autumn Foliage Day Tour จากปูซาน (Busan) จะรวมบริการรถรับส่งจากปูซานไปยังจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีต่าง ๆ ในเมืองคย็องจู (Gyeongju) รวมถึงโบมุนทัวริสต์คอมเพล็กซ์ (Bomun Tourist Complex) ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น ท่าเรือเฟอร์รี (Ferry Port) หมู่บ้านยุกบู (Yukbu Village) และหอศิลป์ซอนแจ (Seonjae Art Gallery) อีกทั้งยังแวะชมแหล่งประวัติศาสตร์ (Historic Site) เพื่อดูสุสานหลวง และสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น สวนทูมูลี (Tumuli Park) และป้อมปราการพันวอลซอง (Panwolsong Fortress)
13. อุทยานแห่งชาติจูวังซาน (Juwangsan National Park)
อุทยานแห่งชาติจูวังซาน (Juwangsan National Park) คือที่ตั้งของภูเขาจูวังซาน (Juwangsan Mountain) อันงดงาม ซึ่งอยู่ในแนวเทือกเขาแบกดูแดแกน (Baekdudaegan Mountain Range) นักท่องเที่ยวสามารถเดินสำรวจเส้นทางเดินป่าหลากหลาย และเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์หน้าผาสูง หุบเขากว้าง น้ำตก และถ้ำที่มีอยู่มากมาย
จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่แนะนำ ได้แก่ หุบเขาจอลกอลกเยกกก (Jeolgolgyegok Valley) และสระจูซันจี (Jusanji Pond)
ที่อยู่: 169-7, Gongwon-gil, Cheongsong-gun, Gyeongsangbuk-do
กำลังมองหาทัวร์อยู่หรือเปล่า? ทัวร์ภูเขาจูวังซาน (Mount Juwangsan Tour) เริ่มต้นที่อ่างเก็บน้ำจูซันจี (Jusanji Reservoir) ที่ซึ่งสายน้ำอันเงียบสงบสะท้อนภาพใบไม้เปลี่ยนสีสดใส จากนั้นไปสำรวจอุทยานแห่งชาติจูวังซาน (Juwangsan National Park) พร้อมมื้อกลางวันและเวลาพักผ่อนท่ามกลางวิวฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงาม ปิดท้ายการผจญภัยที่หุบเขาเบ็กซ็อกทันโพธโฮล (Baekseoktan Pothole Valley) ชื่นชมการก่อตัวของหินอันแปลกตาและสีสันฤดูใบไม้ร่วงสุดอลังการ กลายเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนท่ามกลางธรรมชาติ
14. ฮัลลาซาน (Hallasan)
กำลังวางแผนเที่ยวแลนด์มาร์กแห่งเกาะเชจู (Jeju) ในฤดูใบไม้ร่วงใช่ไหม? รับรองว่าคุณจะต้องประทับใจ! ภูเขาฮัลลาซาน (Hallasan Mountain) ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเชจูนั้นสวยงามตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกไม้หลากสีในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้สีทองน้ำตาลในฤดูใบไม้ร่วง หรือวิวหิมะสุดตระการตาในฤดูหนาว
ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหนก็สามารถเพลิดเพลินไปกับใบไม้เปลี่ยนสีได้ แต่ในบรรดาเส้นทางเดินเท้าทั้ง 5 ของภูเขาฮัลลาซาน (Hallasan Mountain Dullegil Trails) เส้นทางชอนาซุปกิล (Cheonasoop-gil Trail) ถือว่าเป็นเส้นทางที่เหมาะที่สุดสำหรับการชมใบไม้ร่วง
ที่อยู่: 2070-61, 1100-ro, Jeju-si, Jeju-do
หากอยากเที่ยวภูเขาฮัลลา (Mt. Halla) และแหล่งท่องเที่ยวดังบนเกาะเชจูโดยไม่ยุ่งยาก แนะนำ ทัวร์ Jeju Island UNESCO Day Tour (Jeju South Route Day Tour) ซึ่งจะพาไปยังสถานที่สำคัญที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกยูเนสโก ได้แก่
- เส้นทางปีนเขา Eoseungsaengak Trail บนภูเขาฮัลลา (Mt. Halla) หมายเหตุ: ไม่ใช่เส้นทางเต็ม เป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด ใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- พื้นที่ชุ่มน้ำระดับความสูง 1,100 เมตร (1,100 Altitude Wetland) ในอุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน (Hallasan National Park) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตสงวนชีวมณฑลเชจู (Jeju Biosphere Reserve)
- หน้าผาจูซังจอลลี (Daepo Jusangjeolli Cliff) ที่เกิดจากลาวาของภูเขาฮัลลาซาน (Hallasan Mountain) ไหลลงทะเลและก่อตัวเป็นเสาหินรูปทรงสี่เหลี่ยมหรือหกเหลี่ยม
- วัดยักชอนซา (Yakcheonsa Temple) หนึ่งในวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
- เส้นทางโอลเลเทรลหมายเลข 7 (Olle Trail Course no.7) ทางเดินชมวิวที่ผ่านหินโอยดอลแก (Oedolgae Rock) ท่าเรือบอบฮวาน (Beophwan Port) และหมู่บ้านกังจอง (Gangjeong Village)
- น้ำตกชอนจียอน (Cheonjiyeon Falls) น้ำตกชื่อดังที่มีความหมายว่า “สระของจักรพรรดิแห่งสวรรค์”
15. ภูเขาจีรี (Mount Jiri)
รู้หรือไม่? ภูเขาจีรี (Mount Jiri) คือที่ตั้งของจุดที่สูงที่สุดบนแผ่นดินใหญ่ของเกาหลีใต้ โดยยอดเขาชอนวังบง (Cheonwangbong Peak) มีความสูงถึง 1,915 เมตรจากระดับน้ำทะเล อุทยานแห่งชาติจีรีซาน (Jirisan National Park) ยังเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของเกาหลีใต้ ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1967 อีกด้วย!
เช่นเดียวกับภูเขาอื่น ๆ ทิวทัศน์ของภูเขาจีรี (Jirisan) จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล หลายคนเดินทางมาที่นี่ในฤดูใบไม้ผลิเพื่อชมดอกซากุระ และในฤดูใบไม้ร่วงเพื่อสัมผัสใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงาม! สามารถเข้าร่วมทัวร์ที่มีบริการรถรับส่งไป–กลับจากปูซาน (Busan) เพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ที่อยู่: Mountain 100 Chuseong-ri, Macheon-myeon, Hamyang-gun, Gyeongsangnam-do
เพลิดเพลินไปกับทัวร์ Jiri Mountain Autumn Foliage One Day Tour from Busan ที่รวมบริการรถรับส่งไป–กลับระหว่างภูเขาจีรีซาน (Jirisan) และปูซาน (Busan) จีรีซาน (Jirisan) เปรียบเสมือนกล่องสมบัติแห่งธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีสุดสวยงาม เตรียมพร้อมดื่มด่ำไปกับภูเขาอันตระการตา และเส้นทางที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้สีแดง สีส้ม และสีเหลืองนานาชนิด
16. อุทยานธรรมชาติพัลกงซาน (Palgongsan Natural Park)
อุทยานธรรมชาติพัลกงซาน (Palgongsan Natural Park) และภูเขาพัลกงซาน (Palgongsan Mountain) เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องสีสันตามฤดูกาล ในฤดูใบไม้ผลิ พื้นที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยดอกอาซาเลีย (Azaleas) ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงก็จะปกคลุมไปด้วยสีสันสดใสของใบไม้เปลี่ยนสี
ทัวร์นี้ยังรวมตั๋วกระเช้าพัลกงซาน (Palgongsan Cable Car) เอาไว้ด้วย ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์จากยอดภูเขาพัลกงซาน (Palgongsan Mountain) ได้ โดยไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินขึ้นเขา (เยี่ยมไปเลย!)
17. ป่าฮวาดัม (Hwadam Forest)
มาชมทิวทัศน์ฤดูใบไม้ร่วงสุดตระการตาของสวนพฤกษศาสตร์ฮวาดัม (Hwadam Botanic Garden) กันเถอะ! วิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจป่าอันน่าหลงใหลแห่งนี้ ซึ่งโอบล้อมไปด้วยเนินเขาและลำธารใส คือการนั่งรถไฟโมโนเรลสุดน่ารัก! มีหลายเส้นทางให้เลือก หรือถ้ามีเวลาก็ลองนั่งครบทุกเส้นทางได้เลย
ที่อยู่: 278 Docheogwit-ro, Docheok-myeon, Gwangju-si, Gyeonggi-do, South Korea
หากกำลังมองหาทัวร์ที่แวะที่ป่าฮวาดัม (Hwadam Forest) ทัวร์ Hwadam Botanic Garden & Nami Island Spring Flowers Day Tour ก็รวมการเดินทางไปเกาะนามิ (Nami Island) และกิจกรรมปั่นจักรยานรางแกงชอน (Gangchon Railbike) หรือแวะช้อปปิ้งที่สตาร์ฟิลด์ (Starfield Shopping Mall) และสวนสัตว์ในร่ม Zoolung Zoolung ที่สามารถให้อาหารสัตว์ได้ด้วย!
18. ภูเขาจังแทซาน (Jangtaesan Mountain)
ป่าพักผ่อนจังแทซาน (Jangtaesan Recreational Forest) เป็นหนึ่งในสถานที่ชมใบไม้ร่วงที่สวยที่สุดของเกาหลี เพราะเต็มไปด้วยป่าหนาทึบของต้นแปะก๊วย (Ginkgo Trees) และต้นไซเปรสหัวล้าน (Bald Cypress) เลือกเส้นทางเดินแล้วเพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมดื่มด่ำกับสีแดงและทองที่ปกคลุมรอบตัว
สำหรับวิวที่สวยที่สุด ห้ามพลาดสกายวอล์ก (Skywalk) และสะพานแขวน (Suspension Bridge)!
ที่อยู่: 461, Jangan-ro, Seo-gu, Daejeon
สัมผัสเสน่ห์ฤดูใบไม้ร่วงสุดงดงามของแทจอน (Daejeon) ด้วยการมาเยือนป่าพักผ่อนจังแทซาน (Jangtaesan Recreational Forest) ที่เต็มไปด้วยสีสันใบไม้เปลี่ยนสีและวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ลองดูทัวร์เหล่านี้ที่ยังรวมการแวะชมสถานที่อื่น ๆ ด้วย เช่น:
- บ่อน้ำพุร้อนสาธารณะยูซอง (Yuseong Hot Springs Public Foot Bath) และสวนพฤกษศาสตร์แทจอนฮันบัต (Daejeon Hanbat Arboretum)
- หมู่บ้านโบราณช็อนจูฮันอก (Jeonju Hanok Village)
19. อุทยานแห่งชาติโอดาesan (Odaesan National Park)
มาสัมผัสความงดงามของฤดูใบไม้ร่วงที่อุทยานแห่งชาติโอดาอีซาน (Odaesan National Park) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ดังระดับโลกเรื่อง Goblin!
ที่อยู่: 2 Odaesan-ro, Jinbu-myeon, Pyeongchang-gun, Gangwon-do, South Korea
สัมผัสบรรยากาศราวกับกำลังเดินตามรอยตัวละครโปรดของคุณ ที่วัดวอลจองซา (Woljeongsa Temple) พร้อมเดินชมเส้นทางต้นสน (Fir Trees Road) จากนั้นแวะพักรับประทานอาหารกลางวันที่จุดพักรถพย็องชัง (Pyeongchang Rest Area)!
20. ปากปล่องภูเขาไฟซังอุมบูรี (Sangumburi Crater)
แม้ว่าจะไม่ใช่จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีโดยตรง แต่ก็ไม่ควรพลาดที่จะใส่ปากปล่องภูเขาไฟซังอุมบูรี (Sangumburi Crater) เข้าไปในลิสต์นี้ได้! หากชมใบไม้สีแดงและสีส้มกันจนเต็มอิ่มแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเพลิดเพลินกับทุ่งหญ้าเงิน (Silver Grass) ที่พลิ้วไหวสุดลูกหูลูกตา มาในช่วงพระอาทิตย์ตกจะได้บรรยากาศที่สวยที่สุด!
ที่อยู่: 768, Bijarim-ro, Jeju-si, Jeju-do
ถ้าอยากชมทั้งทุ่งหญ้าเงิน (Silver Grass) และทุ่งหญ้าพิงค์มูลลี่ (Pink Muhly Grass) ในทัวร์เดียว แนะนำ 2024 Jeju's Autumn Sightseeing Tour (Pinkmuhly Festival) ซึ่งรวมจุดแวะเที่ยวมากมาย ได้แก่ วัดชอนวังซา (Cheon Wang Sa Temple), ปากปล่องภูเขาไฟซังอุมบูรี (Sangumburi Crater), อุทยานฮูรี เนเจอร์ไลฟ์ (Hueree Nature Life Park – ชมทุ่งหญ้าพิงค์มูลลี่!), ซองซานอิลชุลบง (Seongsan Ilchulbong – ยอดเขาพระอาทิตย์ขึ้นชื่อดังของเชจู) และซันไรส์แลนด์ (Sunrise Land – สวนสวยสำหรับชมวิวสีเขียวชอุ่ม)
แรงบันดาลใจเที่ยวเกาหลีเพิ่มเติม
Klook คืออะไร?
Klook คือแพลตฟอร์มชั้นนำของเอเชียสำหรับการจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจร
เราคัดสรรประสบการณ์คุณภาพ ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ทัวร์ท้องถิ่น การเดินทางภายในประเทศ ไปจนถึงที่พักหลากสไตล์ ครอบคลุมกว่า 3,400 จุดหมายทั่วโลก
รองรับการใช้งานใน 15 ภาษา และสามารถชำระเงินได้มากกว่า 40 สกุลเงิน ผ่านช่องทางชำระที่หลากหลาย ทำให้การจองกับ Klook สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
Klook ก่อตั้งในปี 2014 มีเป้าหมายเพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับนักเดินทางทุกคน ไม่ว่าคุณจะเที่ยวใกล้บ้านหรือออกเดินทางไกล Klook พร้อมพาคุณเชื่อมต่อกับโลกแห่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
🧡 ติดตาม Klook ได้ทาง
- Facebook: @klookth
- Instagram: @klooktravel_th
- TikTok: @klookth
- YouTube: @klookTH
- LINE Official Account: @klookth







































































