การท่องเที่ยวฮอกไกโด ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น เมืองซัปโปโร เมืองฮาโกดาเตะ โอตารุ พร้อมหลากกิจกรรมชวนตื่นเต้น ที่ไม่สามารถหาทำได้ในสถานที่ท่องเที่ยวอื่น!
ทั้งนี้ ในการเดินทางไปแต่ละที่ก็ไม่ยุ่งยาก! เพราะที่ฮอกไกโดขึ้นชื่อเรื่องการคมนาคมดีเยี่ยม รวมถึงมีสนามบินนิวชิโตเสะ (CTS) ให้บินมาลงได้ที่นี่ นักท่องเที่ยวทุกคนจึงวางแพลนเที่ยวและการเดินทางในฮอกไกโดได้ง่าย ๆ โดยเริ่มเดินทางจากสนามบินนี้
แต่จะปังยิ่งกว่า! ถ้ามีบัตร JR Hokkaido Rail Pass ผู้ช่วยชั้นเลิศที่จะทำให้การเดินทางทุกรูปแบบในเกาะฮอกไกโดสะดวก และควบคุมค่าใช้จ่ายง่าย! เพราะแค่มีบัตรนี้ก็สามารถใช้เดินทางด้วยรถไฟ JR Hokkaido แบบด่วนหรือด่วนพิเศษ รถไฟท้องถิ่น และรถบัส ได้ไม่จำกัดเที่ยว
การใช้งานบัตรนี้ก็จะมีข้อควรรู้อยู่หลายจุด เราเลยทำ คู่มือนั่งรถไฟในฮอกไกโดสำหรับมือใหม่ แบบสรุปมาให้ทุกคนอ่านง่าย ๆ แม้ไม่เคยใช้ ก็สามารถใช้บัตรคล่องขึ้นได้ แค่อ่านบทความนี้!
วิธีจองบัตร JR Hokkaido Rail Pass ผ่าน Klook
1. จองบัตรแบบ 5 วันหรือ 7 วัน ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Klook
2. รอรับ Exchange Order ฉบับอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้แลกรับบัตรจริง (ต้องแลกรับบัตรภายใน 90 วัน)
3. เปิดใช้งานบัตร JR Hokkaido Rail Pass และเริ่มเดินทางด้วยรถไฟ หรือรถชนิดที่กำหนดภายใน 30 วัน
จุดสำคัญที่ควรรู้
การยืนยัน
1. คุณจะได้รับการยืนยันทันทีหลังจองบัตร หากไม่ได้รับการยืนยัน โปรดติดต่อเรา
2. คุณจะได้รับอีเมลยืนยันการจองพร้อมเวาเชอร์และรหัสคิวอาร์ สามารถโชว์เวาเชอร์และหนังสือเดินทางของคุณที่เคาน์เตอร์เพื่อแลกรับบัตร JR Pass สำหรับฮอกไกโดได้เลย
คำแนะนำในการจอง
- ชื่อ นามสกุล ประเทศที่พำนัก ทั้งนี้หมายเลขหนังสือเดินทางที่คุณกรอกตอนทำการจอง ต้องตรงตามหนังสือเดินทางที่ใช้ในการขึ้นรถไฟ
- กรอกชื่อและนามสกุลเป็นภาษาอังกฤษตามที่ระบุอยู่บนหนังสือเดินทาง เมื่อทำการจองบัตร
การใช้งาน
- นั่งรถไฟ JR แบบธรรมดา ขบวน Limited Express และ Express train ได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว
- โดยสารรถไฟ JR Hokkaido ได้ทั้งหมด (ยกเว้นรถไฟ Hokkaido Shinkansen ) และรถบัส JR บางสายภายในเมืองฮอกไกโด ซึ่งบัตรใบนี้จะช่วยให้คุณขึ้นรถบัส รถไฟต่าง ๆ โดยไม่ต้องซื้อตั๋วโดยสารทีละรอบ และไม่ต้องปวดหัวกับวิธีการซื้อบัตรที่อาจไม่คุ้นชิน
- ขึ้นรถบัส express bus ของ JR Hokkaido Bus ในเส้นทางจากซัปโปโร - โอตารุได้ ยกเว้น Chuo Bus
- นั่งรถไฟท้องถิ่นสาย JR Hokkaido ได้
- สำรองที่นั่งก่อนเดินทางได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ข้อมูลอื่น ๆ ที่ควรรู้
1. บัตรนี้สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น
2. บัตร JR Hokkaido Rail Pass ใช้โดยสารรถไฟของบริษัทอื่นได้ เช่น South Hokkaido Railway, Sapporo Municipal Subway และอื่น ๆ
3. บัตรแบบ 5 วันและ 7 วัน ต้องใช้งานต่อเนื่องตามวันที่กำหนดไว้
ได้วิธีการใช้งาน และข้อมูลมูลสำคัญที่ควรรู้ต่าง ๆ กันไปครบแล้ว Klook จะพาคุณไปดูต่อว่ามีสถานที่ท่องเที่ยว ฮอกไกโดที่ไหนบ้าง ที่ควรไปควรค่าแก่การไปท่องเที่ยวให้สะใจทั้งทริป!
สถานที่ท่องเที่ยวในฮอกไกโดที่ไม่ควรพลาด!
เมืองซัปโปโร
เริ่มต้นใช้บัตร JR Hokkaido Rail Pass โดยการเดินทางมาเมืองซัปโปโร เมืองหลักของเกาะฮอกไกโดที่นักท่องเที่ยวคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความสวยงาม มีแหล่งช้อปปิ้ง ตลาดปลา ตลาดปู รถรางให้นั่งชมเมือง และกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย ยิ่งมาตอนที่หิมะตก ปกคลุมไปทั่ว คุณจะได้ทำหลากกิจกรรมสุดแหวกแนว ตื่นเต้น เร้าใจ ชนิดที่หาทำในที่อื่นได้ยาก!
ขี่สโนว์โมบิลที่สโนว์โมบิล แลนด์ ซัปโปโร
มาเร่งเครื่อง ออกไปผจญภัยฝ่าหิมะในเมืองซัปโปโรอย่างเมามันส์! กับการขี่สโนว์โมบิลที่สโนว์โมบิล แลนด์ ซัปโปโรในฮอกไกโด กิจกรรมนี้สามารถขี่คนเดียวหรือขี่กับเพื่อนก็ได้ และสำหรับใครที่ยังไม่มีประสบการณ์ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะขับยาก เพราะมีโค้ชมืออาชีพที่คอยแนะนำวิธีการสไลด์ตัวบนเนินน้ำแข็งให้คุณอย่างเซียนเหมือนเรียนมา รวมถึงมีอุปกรณ์คุณภาพสูงพร้อมให้คุณเช่าที่นี่ด้วย
ความสนุกและบริการชั้นดีที่คุณจะได้รับในกิจกรรมนี้ สามารถจองล่วงหน้าเพื่อเตรียมไว้ก่อนเดินทางไปเมืองซัปโปโรได้ ซึ่งเราจะแปะวาร์ปไว้ให้ด้านล่างนี้
ตกปลาสเมลต์บนพื้นน้ำแข็งและนำไปทำเทมปุระ
อีกหนึ่งกิจกรรมที่มีชื่อเสียงของซัปโปโร เอาใจสายชิลล์แต่ก็ยังแอบลุ้น ด้วยการชวนคุณมาตกปลาสเมลต์ในน้ำแข็ง พร้อมชมวิวโดยรอบที่โอบล้อมด้วยความงามของแม่น้ำในฤดูหนาว และถ้าตกปลาสเมลต์ได้ ก็สามารถเอามาทำเทมปุระแสนอร่อยกินต่อได้เลย
ใครไม่เคยตกปลาแบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะยาก! เพราะมีไกด์คอยบอกเคล็ดลับการตกปลาในน้ำแข็งมาให้ เมื่อคุณตกได้ก็ไม่ต้องหิ้วปลาสเมลต์ไปไหน เพราะเขาให้นั่งทำเทมปุระในเต็นท์ที่กำลังปกป้องคุณจะอากาศเย็นภายนอกเลย
ส่วนการเดินทางก็ไม่ต้องกังวล เพราะเขามีบริการรับส่งไป - กลับจากสถานี JR Sapporo Kane-no-Hiroba ให้ ใครสนใจกิจกรรมนี้ ก็ไม่ต้องมัวหาว่าจองได้ที่ไหน เพราะเราเอาวาร์ปจองกิจกรรมตกปลาสเมลต์บนพื้นน้ำแข็ง มาให้คุณแล้ว คลิกเลย!
การเดินทาง
การเดินทางท่องเที่ยวในซัปโปโรนั้นทำได้ง่ายมาก เพราะมีทั้งรถไฟด่วน รถไฟใต้ดิน รถราง และรถบัส ซึ่งเราได้คัดวิธีการเดินทางที่สะดวกและสามารถใช้บัตร JR Hokkaido Rail Pass ได้มาให้คุณแล้ว ดังนี้
การเดินทางด้วยรถไฟ JR:
- นั่งรถไฟด่วน JR จากสนามบินนิวชิโตเสะ ไปลงที่สถานี Sapporo ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที
การเดินทางด้วยรถบัส:
- นั่งมีชูโอบัสจากสนามบินนิวชิโตเสะ เข้ามาที่เมืองซัปโปโร ซึ่งจะเข้าไปที่ 2 จุดนี้ คือ Domestic Terminal Building และที่ International Terminal Building ใช้เวลาเดินทางประมาณ 70 - 90 นาที
ภูเขาฮาโกดาเตะ
นักท่องเที่ยวที่จะไปฮอกไกโด ต้องไม่พลาดมาเช็คอินที่ภูเขาฮาโกดาเตะ ซึ่งตั้งอยู่ในป่าทางตอนใต้ของปลายคาบสมุทร ใกล้ ๆ ใจกลางเมืองฮาโกดาเตะ
ภูเขาลูกนี้ เคยเป็นเกาะที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟในอดีต ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นภูเขาที่มีความสูง 334 เมตร และกลายเป็น 1 ในจุดชมวิวที่ดีที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งนึง ด้วยความโด่งดังนี้ ที่นี่จึงเปิดให้ขึ้นมาชมวิวฟรี และยังมีร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงร้านอาหารคอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
การเดินทาง
- เดินทางจากซัปโปโรไปฮาโกดาเตะได้ทั้งจากสถานีรถไฟ JR Sapporo หรือ New Chitose Airport ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.20 ชั่วโมง
- นั่งรถบัสจาก Hakodate Station โดยสารรถประจำทาง Hakodate ไปยังยอดเขาฮาโกดาเตะ
สวนโอโดริ
สวนโอโดริเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฮอกไกโดอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาด! สวนนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร และถูกเรียกว่าเป็นโอเอซิสของเมืองนี้ เพราะในช่วงฤดูร้อน ต้นไม้ของที่นี่จะเขียวชอุ่ม และดอกไม้หลากสายพันธุ์จะผลิบาน ให้สีสันสดใส ที่พิเศษคือในช่วงฤดูหนาว สวนแห่งนี้จะถูกใช้จัดเทศกาลหิมะซัปโปโรสุดอลังการที่ใคร ๆ ก็นิยมมาเที่ยวชมอีกด้วย!
สวนสาธารณะแห่งนี้จะต้องครองใจคนที่ชอบเดินเล่น ออกกำลังกายในสวนแน่นอน เพราะมีพื้นที่กว้าง รายล้อมด้วยแมกไม้มากมาย และถ้าใครอยากพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ ก็สามารถจองโรงแรมทีมาร์ค ซิตี้ ซัปโปโร โอโดริ ที่อยู่ใกล้สวนโอโดริแค่ 400 เมตรได้เลย!
โรงแรมแห่งนี้จะมีดีไซน์เรียบหรู แต่ยังคงกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น แถมมีห้องพักสุดมินิมอลให้เลือกหลากสไตล์ ใครสนใจก็สามารถคลิกดูและจองได้ที่ด้านล่างนี้เลย
การเดินทางไปสวนโอโดริ
- นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงที่ Odori Subway Station
- เดินจาก JR Sapporo Station ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
โอตารุ
โอตารุ เป็นเมืองท่าเล็ก ๆ ในฮอกไกโด ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองซัปโปโร มีอาคารที่สร้างจากอิฐ และโกดังเก่าแก่สไตล์ตะวันตกแบบวิคตอเรียนหลายแห่ง รวมถึงคลองโอตารุที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ เพราะมีบรรยากาศที่โรแมนติก วิวทิวทัศน์สวย และมีร้านขายของเรียงรายขนาบข้างคลอง ยิ่งมาเที่ยวในช่วงหิมะตก ก็จะได้เข้างานชมเทศกาลหิมะ พร้อมด้วยโคมไฟตกแต่งอย่างสวยงามไปทั่วเมือง ได้บรรยากาศสุด Lively
การเดินทาง
- ใช้บัตร JR Hokkaido Rail Pass นั่งรถไฟ JR จากสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) ไปยังสถานีโอตารุ (Otaru Station) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
สวนสัตว์อาซาฮิยามะ
สวนสัตว์อาซาฮิยามะ ตั้งอยู่ในเมืองอะซาฮิกาว่า เป็นสวนสัตว์ที่โด่งดังของฮอกไกโด เนื่องจากเปิดประสบการณ์ใหม่ในการชมสัตว์ให้กับนักท่องเที่ยว โดยการใช้ชมสัตว์นานาชนิดในมุมที่แตกต่างจากสวนสัตว์อื่น ๆ
ไฮไลท์ของที่นี่คืออุโมงค์แก้วเพนกวิน เป็นอุโมงค์ที่ผ่านสระว่ายน้ำของน้อน ๆ เพนกวิน ถ้าเดินเข้าไปก็จะได้ฟีลใกล้ชิดเพนกวินจนตื่นเต้น! และอีกจุดที่ต้องไปคือโดมแก้วขนาดเล็ก อยู่ตรงกลางโซนหมีขั้วโลกและหมาป่า ซึ่งจะทำให้เราได้เห็นน้อน ๆ แบบใกล้ ๆ เพราะพวกเขาเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างหาชมอย่างใกล้ชิดได้ยาก
ใกล้ ๆ สวนสัตว์แห่งนี้ ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจให้ทำ อย่างล่องเรือสำราญชมธารน้ำแข็ง พร้อมชมพระอาทิตย์ตกสุดตาตรึงใจ ซึ่งจะทำให้คุณไม่อยากละสายตาจากวิวตรงหน้า แต่ถ้ากลัวว่าไปทำหลากกิจกรรมแล้วต้องจองหลายครั้ง Klook มีทัวร์สวนสัตว์อาซาฮิยามะ ทะเลน้ำแข็ง และล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก 1 วันจากซัปโปโรมาฝาก แถมตอนนี้ยังลดราคาพิเศษด้วยนะ ใครมีแพลนจะไปเที่ยวฮอกไกโด กดจองไว้ก่อนได้เลย!
การเดินทาง
เดินทางจากฟุราโนะโดย JR Furano Line ไปลงที่สถานี Asahikawa แล้วนั่งรถบัสสาย 41, 42 หรือ 47 ตรงไปยังสวนสัตว์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
ออนเซ็นที่โนโบริเบทสึ
อยากแช่ออนเซ็นที่ดีที่สุดในฮอกไกโด ต้องมาที่โนโบริเบทสึ ซึ่งเป็นเมืองกลางหุบเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด และเป็นเมืองที่ถูกขนานนามว่าเป็นห้างสรรพสินค้าของออนเซ็นเลยทีเดียว
เนื่องจากที่นี่ล้อมรอบด้วยภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น ทำให้มีไอน้ำฟุ้งขึ้นมาจากพื้นดิน และบ่อน้ำหลายแห่งก็กลายเป็นน้ำร้อน น้ำของที่นี่จึงมีแร่ธาตุที่มาจากธรรมชาติหลากชนิด อย่างเช่น กำมะถัน เกลือ โซเดียมไบคาร์บอเนต ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกแช่ออนเซ็นพร้อมชมวิวได้ตามจุดที่เปิดให้บริการเลย
การเดินทาง
นั่งรถไฟ JR จากสถานีซัปโปโรไปสถานีโนโบริเบทสึ ใช้เวลาประมาณ 1.10 ชั่วโมง
ได้คู่มือใช้บัตร JR Hokkaido Rail Pass พร้อมสถานที่เด็ด ห้ามพลาดในฮอกไกโดกันไปครบแล้ว! ถึงเวลาที่จะต้องชวนเพื่อนหรือคนที่คุณรักมาตั้งทริปเที่ยว แพ็กกระเป๋า จองดีลสุดคุ้มที่ Klook แนะนำไว้ แล้วบินลัดฟ้าไปฮอกไกโดกันเลยยย~