• ไปยังแอป
  • เลือกจุดหมายปลายทาง
  • คู่มือเที่ยวฮอกไกโดสำหรับมือใหม่

    Pio
    Pio
    อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 2023
    การเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ท่องเที่ยวในฮอกไกโด เก็บครบทุกเมืองฮิต เมืองซัปโปโร (sapporo) เมืองโอตารุ (otaru) ที่มีวิวทิวทัศน์ในแต่ละช่วงฤดูกาล

    การเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ท่องเที่ยวในฮอกไกโด เก็บครบทุกเมืองฮิต เมืองซัปโปโร (sapporo) เมืองโอตารุ (otaru)

    มือใหม่หัดเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido) ต้องอ่านบทความนี้! หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นเปิดประเทศไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้หลายๆ คนมีแพลนไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกันเยอะมาก ซึ่ง Japan Lover อย่างเราๆจะพลาดได้อย่างไร วันนี้แราขอมาแนะนำที่เที่ยวแห่งเกาะฮอกไกโด ซึ่งสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเกาะนี้ ไปดูกันเลย!

    วิธีการเดินทางจากไทยไปยังเกาะฮอกไกโด

    ท่องเที่ยวในฮอกไกโด (hokkaido) ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงต่างๆ เก็บครบทุกจุดชมวิวที่มีความสวยงามติดท็อปโลก ที่นี่ ที่เดียวในฮอกไกโด
    ท่องเที่ยวในฮอกไกโด (hokkaido) ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงต่างๆ เก็บครบทุกจุดชมวิวที่มีความสวยงามติดท็อปโลก ที่นี่ ที่เดียวในฮอกไกโด
    เกาะฮอกไกโด (Hokkaido) มีสนามบินอยู่หลายแห่งทั่วเกาะ ไม่ว่าจะเป็นสนามบินนิวชิโตะเสะ เมืองซัปโปโร, สนามบินฮาโกดาเตะ เมืองฮาโกดาเตะ, สนามบินวักกะไน เมืองวักกะไน สำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่เลือกมาเที่ยวที่เกาะฮอกไกโดแห่งนี้ มักจะบินมาลงที่สนามนิวชิโตเสะ หรือถ้าใครไม่สะดวกเปลี่ยนเครื่อง สนามบินนี้ก็สามารถบินตรงมาได้เลย คือง่ายและสะดวกมากๆ

    เกาะฮอกไกโด ตั้งอยู่ที่ไหน ?

    เกาะฮอกไกโด(Hokkaido) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมากๆ ของคนไทย ในการเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะแห่งนี้ ใครที่ได้มีโอกาสแวะเวียนมาเที่ยวต้องไม่พลาดกับอาหารทะเลที่มีชื่อเสียงมากๆ ในฮอกไกโด (hokkaido) ด้วยความที่เกาะที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์มากๆ มีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ฯ
    นอกจากนี้ยังเมืองที่น่าสนใจที่อยู่ไม่ไกลจากเกาะฮอกไกโด (hokkaido) เดินทางง่ายและสะดวกสบายมากๆ ไม่พลาดให้ทุกคนแวะไปเช็คอิน ไม่ว่าจะเป็น เมืองซัปโปโร (Sapporo) เมืองโอตารุ (otaru) เมือฟุราโนะ (furano) รวมถึงเมืองฮาโกดาเตะ (hakodatae)

    ฤดูกาลที่เหมาะแก่การเที่ยวในฮอกไกโด มีช่วงไหนบ้าง ?

    ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวในฮอกไกโด มีอยู่ตลอดทั้งปี ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวแห่แหนกันมาเที่ยวในฮอกไกโด ณ ที่แห่งนี้ ซึ่งฤดูยอดฮิต ขวัญใจคนทั่วโลกเลย ก็จะมี
    • ในช่วงฤดูหนาว : ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน – เมษายน เกาะฮอกไกโดจะมีอากาศที่หนาวเย็น ถึงขั้นติดลบ มีหิมะปกคลุมสูงทำให้ในฮอกไกโดนั้นมีสถานที่ทำกิจกรรมในช่วงหน้าหนาวค่อนข้างเยอะ อาทิ การเล่นสกี สโนว์บอร์ด ซึ่งที่นี่เขายังมีชื่อเสียงและโด่งดังมากๆ ระดับต้นๆของโลก ในเรื่องของลานสกีและหิมะที่มีคุณภาพ
    • ในช่วงฤดูร้อน : ตั้งแต่เดือน มิถุนายน - สิงหาคม ใครที่มาเที่ยวช่วงนี้จะได้ชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงดงามไปอีกแบบ พร้อมได้ชม ทุ่งดอกทานตะวัน ท่งดอกพิงค์มอสและทุ่งลาเวนเดอร์ ในฮอกไกโด

    แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวเกาะฮอกไกโด มีอะไรบ้าง

    ขอบคุณรูปภาพจาก Travel Mthai
    ขอบคุณรูปภาพจาก Travel Mthai
    ถ้าได้มาเที่ยวในฮอกไกโดแล้วก็ต้องมาท่องเที่ยวที่เมืองซัปโปโร เมืองหลวงหลักของฮอกไกโด มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เเถมยังมีเอกลักษณ์ ที่หาที่ไม่ได้อีกด้วย วันนี้เราจะแนะนำสถานที่เที่ยวสุดฮิต ทั้งในเมืองซัปโปโร เดินทางไปเที่ยวเล่นกันต่อพร้อมเก็บเช็คอินแหล่งที่เที่ยวสำคัญๆ ที่เมืองรอบๆ แห่งนี้

    สถานที่ท่องเที่ยวในฮอกไกโด ที่เมืองซัปโปโร (Sapporo)

    ขอบคุณรูปภาพจาก Travel Mthai
    ขอบคุณรูปภาพจาก Travel Mthai

    เมืองซัปโปโร (Sapporo)

    เมืองซัปโปโร เป็นเมืองหลวงหลักของฮอกไกโด มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของประเทศ มีประชากรอาศัยอยู่ราว 2 ล้านคน มีพื้นที่ที่ครอบคลุมทั้งที่เป็นที่ตั้งอยู่เขตตัวเมือง และพื้นที่ภูเขาซึ่งเหมาะมากสำหรับใครอยากจะแวะมาเล่นสกีที่นี่ในช่วงหน้าหนาว นอกจากนี้ทุกคนยังสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติของเมืองได้อีกด้วย
    ซึ่งจริงๆ แล้วที่ซัปโปโร ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่หลากหลายมากมาย ซึ่งยังมีเที่ยวไหนที่โดนใจบ้างไปดูกันเลย

    สวนสาธารณะโอโดริ Odori Park

    ขอบคุณรูปภาพจาก travelmthai l เที่ยวที่ซัปโปโร เพลิดเพลินไปกับวิวทิทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม
    ขอบคุณรูปภาพจาก travelmthai l เที่ยวที่ซัปโปโร เพลิดเพลินไปกับวิวทิทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม
    สวนสาธารณะโอโดริ ที่ซัปโปโร ถือเป็นสาธารณะแนวยาวระนาบข้างยาวไปกับถนนที่มีความยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโรจากทิศเหนือไปยังทิศใต้ ซึ่งถ้าใครได้มาเที่ยวที่สวนแห่งนี้ ในแต่ละช่วงก็จะมีให้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแตกต่างกันไปอีกด้วย
    ขอบคุณรูปภาพจาก travelmthai l เที่ยวที่ซัปโปโร เพลิดเพลินไปกับวิวทิทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม
    ขอบคุณรูปภาพจาก travelmthai l เที่ยวที่ซัปโปโร เพลิดเพลินไปกับวิวทิทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม
    ถ้ามาในช่วงฤดูหนาวก็จะเห็นวิวที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนอีกด้วย แต่ถ้าใครไม่ชอบอากาศหนาวติดลบ ลองมาเที่ยวฮอกไกโดในช่วงฤดูร้อน จะได้เห็นวิวทิวทัศน์ของสวนที่มีต้นไม้สองข้างทางและยังมีธรรมชาติเต็มไปด้วยสีเขียวขจี
    ขอบคุณรูปภาพจาก Kapook l นั่งรถไฟมาลงที่สถานีโอโริ เพื่อมาเดินเล่นที่สวนในช่วงฤดูหนาวหรือฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น
    ขอบคุณรูปภาพจาก Kapook l นั่งรถไฟมาลงที่สถานีโอโริ เพื่อมาเดินเล่นที่สวนในช่วงฤดูหนาวหรือฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น
    อีเว้นท์ที่พลาดไม่ได้ที่เมืองซัปโปโร ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ในทุกๆปี "เทศกาลหิมะซัปโปโร" หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งอีกด้วย ซึ่งเคยมีคนไทยชนะรางวัลจากเทศกาลนี้ของญี่ปุ่นด้วยนะ เจ๋งมากๆ
    พาชม "เทศกาลหิมะซัปโปโร" หรือ "เทศกาลแกะสลักน้ำแข็ง"
    ขอบคุณรูปภาพจาก l poyja / Shutterstock.com ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว ฮอกไกโด เทศกาลหิมะซัปโปโร 2023
    ขอบคุณรูปภาพจาก l poyja / Shutterstock.com ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว ฮอกไกโด เทศกาลหิมะซัปโปโร 2023
     ขอบคุณรูปภาพจาก Mai.Chayakorn / Shutterstock.com l เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว ซัปโปโร ฮอกไกโด Sapporo Snow Festival
    ขอบคุณรูปภาพจาก Mai.Chayakorn / Shutterstock.com l เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว ซัปโปโร ฮอกไกโด Sapporo Snow Festival
    ที่ท่องเที่ยวในซัปโปโรและฮอกไกโด เดินทางท่องเที่ยวได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ด้วยการนั่งรถไฟ นั่งรถบัส หรือเช่ารถยนต์ส่วนตัวก็ได้
    ที่ท่องเที่ยวในซัปโปโรและฮอกไกโด เดินทางท่องเที่ยวได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ด้วยการนั่งรถไฟ นั่งรถบัส หรือเช่ารถยนต์ส่วนตัวก็ได้
    Klook Recommend : เดินทางได้ด้วยเคเบิลคาร์ เพื่อขึ้นไปชมวิวมุมสูงจากด้านบนของสวนสาธารณะโอโดริได้ ด้วยการขึ้นไปชมที่หอคอยซัปโปโรทีวีททาวเวอร์ จองเลย ที่นี่

    ข้อมูลเพิ่มเติม:

    • เวลาทำการ: เปิดตลอดเวลา
    • ทำเลที่ตั้ง: ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Odori

    วิธีการเดินทาง:

    • นั่งรถไฟจากสถานีรถไฟใต้ดิน Odori (Namboku Line, Toho Line, Tozai Line) เดินประมาณ 1 นาที
    • นั่งรถไฟจากสถานีรถไฟ JR Sapporo เดินประมาณ 10 นาที

    แวะไหว้พระที่ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine)

    คู่มือท่องเที่ยวญี่ปุ่นของฮอกไกโดแบบง่าย โดยการบินตรงมาลงที่สนามบินนิวชิโตเสะ ต่อด้วยรถบัส หรือนั่งรถไฟ
    คู่มือท่องเที่ยวญี่ปุ่นของฮอกไกโดแบบง่าย โดยการบินตรงมาลงที่สนามบินนิวชิโตเสะ ต่อด้วยรถบัส หรือนั่งรถไฟ
    ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโร (Sapporo) เป็นศาลเจ้าศาสนาพุทธนิกายชินโตที่มีเก่าพอๆกับ ที่อยู่ในฮอกไกโด นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาสักการะบูชาที่ศาลเจ้าแห่งนี้
    ขอบคุณรูปภาพจาก Japanplanning
    ขอบคุณรูปภาพจาก Japanplanning
    ศาลเจ้าฮอกไกโดมีพื้นที่ขนาดกว้างใหญ่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่น ชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างเพลินๆ
    ขอบคุณรูปภาพจาก Japanplanning
    ขอบคุณรูปภาพจาก Japanplanning
    ที่ศาลเจ้าฮอกไกโดยังเชื่อมต่อกับสวนมารุยามะ ทำให้เห็นวิวสวยตระการตาอีกหนึ่งจุด Unseen ของเมืองอีกเช่นเดียวกัน ซึ่งช่วงที่สวยที่สุดในการแวะมาท่องเที่ยวพร้อมแวะชมดอกซากุระที่ศาลเจ้าแห่งนี้ คือช่วงฤดูใบไม้ผลิ
    ขอบคุณรูปภาพจาก Japanplanning
    ขอบคุณรูปภาพจาก Japanplanning
    ความน่าสนใจของที่นี่คือทุกคนสามารถเเวะมาไหว้พระขอพร เสี่ยงเซียมซี เขียนป้ายขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล
    ขอบคุณรูปภาพจาก Japanplanning
    ขอบคุณรูปภาพจาก Japanplanning

    เพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้งที่ย่านซูซูกิโนะ

    ขอบคุณรูปภาพจาก Movearoundthejourney
    ขอบคุณรูปภาพจาก Movearoundthejourney
    ย่านซูซูกิโนะ(Susukino) ย่านแหล่งบันเทิงที่มีชื่อเสียงและโด่งดังมากที่สุดของเมืองซัปโปโร และยังถูกขนานนามว่าเป็นย่านบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ทุกคนจะได้สัมผัส Night Life ณ ที่แห่งนี้ พร้อมสัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืนตามสไตล์ของคนญี่ปุ่นแท้ๆ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้า บาร์ ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ รวมกว่า 4,000 ร้าน
    และร้านอาหารที่พลาดลองไปไม่ได้เลยก็คือ ราเมน ที่ย่านนี้ ที่มีชื่อเสียงมาก และยังมีร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นให้แวะชิมอยู่ทั่วตลอดทั้งย่าน เชื่อเลยว่าใครทีมาเที่ยวฮอกไกโดได้แวะไปที่นี่ จะต้องติดใจ อร่อยเพลินจนลืมเวลา!

    วิธีการเดินทาง:

    • จาก Odori Station นั่งไปเพียงสถานีเดียว ลงที่ Susukino Station(200 เยน)
    • จาก Sapporo Station โดยสาร Nanboku Subway Line นั่งไป 2 สถานี(200 เยน)

    แวะจิบเบียร์ที่ลานเบียร์ซัปโปโร & พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร

    ขอบคุณรูปภาพจาก Travel Mthai
    ขอบคุณรูปภาพจาก Travel Mthai
    ลานเบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Garden) ตั้งอยู่ในอาคารอิฐแดงซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นโรงเบียร์มาก่อน โดยมีอายุมานานกว่า 100 ปี ถือเป็นโรงเบียร์ที่เก่าแก่มากๆ ซึ่งที่นี่นอกจากจะเป็นลานเบียร์แล้ว ยังมีภัตตาคารที่หลากหลาย ครอบคลุมหลากสัญชาติให้คุณได้เลือกทานได้อย่างเต็มอิ่ม
    รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร ที่เอาไว้จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสต์ในเเต่ละยุคสมัยของเบียร์ ซัปโปโร
    ขอบคุณรูปภาพจาก Travel Mthai
    ขอบคุณรูปภาพจาก Travel Mthai
    ขอบคุณรูปภาพจาก Travel Mthai
    ขอบคุณรูปภาพจาก Travel Mthai
    ขอบคุณรูปภาพจาก Travel Mthai
    ขอบคุณรูปภาพจาก Travel Mthai

    ข้อมูลเพิ่มเติม:

    • ค่าเข้าชม: ฟรี
    • เวลาทำการ:
      • Sapporo Beer Garden: 11:30 – 21:00 น. (สั่งก่อน 20:40 น.)
      • Sapporo Beer Museum: 11:00 – 20:00 น. (เข้าก่อน 19:30 น.) *หยุดทุกวันจันทร์ (หากเป็นวันหยุด จะปิดทำการในวันถัดไป) วันหยุดสิ้นปีและวันขึ้นปีใหม่

    วิธีการเดินทาง:

    • นั่งรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟ สถานี Higashi Kuyakusho Mae (รถไฟใต้ดินสาย Toho Line) เดินประมาณ 10 นาที

    แช่ออนเซ็นกันแบบฟินๆ ที่เมืองโจซังเค

    เมือง “โจซังเค” เมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องบ่อน้ำร้อนออนเซ็นมานานตั้งแต่อดีต ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองซัปโปโร นักท่องเที่ยวนิยมที่จะแวะมาเที่ยวเมืองนี้เพื่อแช่น้ำพุร้อน ถือเป็นสถานที่ที่โด่งดังและฮิตมากๆ ในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
    ขอบคุณรูปภาพจาก ChillChillJapan l ทริป ฮอกไกโด
    ขอบคุณรูปภาพจาก ChillChillJapan l ทริป ฮอกไกโด
    .
    โจซังเค ออนเซ็น ถือเป็นเมืองน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของที่นี่ มีผู้มาเยี่ยมเยียนกว่า 1.4 ล้านคนต่อปี โจซังเค ออนเซ็นนั้น มีที่มามาจากพระสงฆ์ที่ชื่อมิซุมิ โจซังได้สร้างสปาบริเวณตอนบนของแม่น้ำ ตั้งเเต่ปี 1.866 โดยมีสรรพคุณในการรักษา ทำให้ผู้คนนิยมมาแช่น้ำเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ตั้งเเต่สมัยอดีต จนถึงปัจจุบัน
    ขอบคุณรูปภาพจาก ChillChillJapan
    ขอบคุณรูปภาพจาก ChillChillJapan
    ซึ่งใครที่แวะเวียนมาแช่น้ำพุร้อนที่นี่ จะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์สุด Exclusive การแช่น้ำพุร้อนท่ามกลางหุบเขาและป่าไม้สีเขียว แค่เห็นเท่านี้ก็ฟินแล้ว! ซึ่งถ้ามาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะยิ่งเห็นวิวใบไม้ ป่าไม้ที่เปลี่ยนสีให้บรรยากาศไปอีกแบบ สวยงามมากๆ ไม่ว่าจะเที่ยวฤดูไหน
    ขอบคุณรูปภาพจาก ChillChillJapan
    ขอบคุณรูปภาพจาก ChillChillJapan

    วิธีการเดินทาง:

    • บริการรถรับส่งจากสถานีซัปโปโร
    • นั่งรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟใต้ดินมะโคะมะไน
    • รถบัสสายกัปปะจะวิ่งจากสถานีซัปโปโร สถานีโอโดริ และสถานีซุซุกิโนะไปยังโจซังเคออนเซ็น ต้องทำการจองล่วงหน้า ใช้เวลาประมาณ 75 นาที
    • รถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 40 นาที

    สะดวกสบายมากขึ้น เมื่อจองผ่าน Klook!

    • จองเลย ! บัตร JR Pass สำหรับฮอกไกโด (5 หรือ 7 วัน) ที่นี่
    • บริการรถรับส่งจากสถานีซัปโปโร (ส่วนตัว) จองผ่าน Klook ที่นี่
    • ทัวร์โจซานไคออนเซ็น, โอตารุ และสวนชิโรอิ โคอิบิโตะหนึ่งวัน (เดินทางจากซัปโปโร) ที่นี่

    เที่ยวเล่นกันต่อที่เมืองใกล้เคียง ที่เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate)

    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill
    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill

    เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate)

    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill
    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill
    เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นเมืองท่าทางตอนใต้ของ ที่อยู่ในฮอกไกโด สามารถเดินทางมาจากเมืองซัปโปโรได้ด้วยรถไฟ ขึ้นชื่อมากๆ ในเรื่องของวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยตระการตา และยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักชิมอาหารทั่วโลก ที่มีใจรักในอาหารทะเลสดๆ ณ ที่แห่งนี้
    ขอบคุณรูปภาพจาก JGB.Thai l ไปเดินเล่นที่ตลาดเช้าฮาโกดาเตะในฮอกไกโด
    ขอบคุณรูปภาพจาก JGB.Thai l ไปเดินเล่นที่ตลาดเช้าฮาโกดาเตะในฮอกไกโด
    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill
    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill
    หนึ่งกิจกรรมที่พลาดไปไม่ได้ นั่นก็คือ "นั่งเคเบิลคาร์" เพื่อไปยังจุดชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาสูงฮาโกดาเตะ ที่สวยงามมากๆ ซึ่งแน่นอนว่าวิวกลางคืนที่เมืองนี้ ถือว่าเป็นซีนที่ดีที่สุด สวยที่สุด ผู้คนนิยมมาเฝ้ารอเพื่อให้ได้ถ่ายรูป พูดได้เลยว่าใครได้ไปเฝ้ารอชมวิวยามค่ำคืนนี้ จะต้องประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน

    วิธีการเดินทาง :

    • การเดินทาง: นั่งรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟ JR Sapporo ให้นั่งรถไฟ Super Hokuto มาลงที่สถานี Hakodate ใช้เวลาประมาณ 210 นาที

    กระเช้าลอยฟ้า ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate Ropeway)

    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill
    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill
    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill
    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill
    นั่งกระเช้าลอยฟ้า ชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate Ropeway) มาฮาโกดาเตะทั้งที สิ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือ การนั่งกระเช้าไฟฟ้า หรือ เคเบิลคาร์ เพื่อชมทัศนียภาพที่สวยงามติดท็อปโลกของเมืองแห่งนี้ ใช้เวลาในการนั่งกระเช้าไฟฟ้าเพื่อขึ้นไปชมวิวด้านบน ประมาณ 3 นาที เท่านั้น นอกจากจะได้ขึ้นไปชมวิว เขาก็ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกันต่ออีกด้วยนะ
    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill
    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill
    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill
    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill
    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill
    ขอบคุณรูปภาพจาก CheckInChill

    ข้อมูลเพิ่มเติม:

    เวลาทำการ:
    • 25 เมษายน -15 ตุลาคม 10.00 – 22.00 น.
    • 16 ตุลาคม – 24 เมษายน 10.00 – 21.00 น.
    • ค่าขึ้นกระเช้า: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน, เด็ก 700 เยน (ไป-กลับ)
    • การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Hakodate ให้นั่งรถรางมาลงที่สถานีป้าย Jujigai แล้วเดินต่ออีก 10 นาทีจะถึงทางขึ้นกระเช้า

    เมืองโอตารุ

    allabout-japan.com
    allabout-japan.com
    ขอบคุณรูปภาพจาก Japan-talk.com
    ขอบคุณรูปภาพจาก Japan-talk.com
    โอตารุ (Otaru) เมืองท่าเล็กๆ ที่อยู่ติดกับเมืองซัปโปโรทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ด้วยรถไฟตรงจากกลางจากเมืองซัปโปโร ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที นักท่องเที่ยวนิยมมาเช้า เย็นกลับ สามารถเป็น One Day trip ได้เเบบชิลมาก เหลือเวลาไห้ไปเก็บวิวสวยๆ ที่จุดอื่นๆ อีกเพียบ
    ขอบคุณรูปภาพจาก tabizine
    ขอบคุณรูปภาพจาก tabizine
    เมืองท่าโอตารุ ภายในเขตเมืองจะประกอบไปด้วยอาคารและโกดังที่เก่าแก่ตามสไตล์ตะวันตก เมื่อไปเดินเล่น ตามจุดชมวิวที่เมืองนี้แล้ว ทุกคนจะได้สัมผัสถึงวิวบ้านเมือง บรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกในสไตล์ตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณคลองโอตารุซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของเมือง
    นักท่องเที่ยวที่มาจะรู้สึกเหมือนมาท่องเที่ยวอยู่ที่โซนยุโรปเลย

    วิธีการเดินทาง :

    • การเดินทาง: จากสถานี JR Sapporo นั่งรถไฟสาย JR Hakodate Line มาลงที่สถานี Otaru ใช้เวลาประมาณ 30 – 50 นาที (ขึ้นอยู่กับขบวนรถ)

    คลองโอตารุ

    ขอบคุณรูปภาพจาก Mushroomtravel
    ขอบคุณรูปภาพจาก Mushroomtravel
    เป็นอีกสถานที่ที่มีชื่อเสียง ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ มาจากทั่วโลกเพื่อมาแวะชมวิวทิวทัศน์ของเมืองพร้อมเตรียมเช็คลิสต์สถานที่ต้องไปในการเดินทางในครั้งนี้ ความลาดยาวของคลองโอตารุ ความสวยงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงฤดู สวยงามประทับใจมากๆ
    ขอบคุณรูปภาพจาก icotto.jp
    ขอบคุณรูปภาพจาก icotto.jp
    ขอบคุณรูปภาพจาก Surapat Pomme
    ขอบคุณรูปภาพจาก Surapat Pomme

    วิธีการเดินทาง :

    • การเดินทาง: นั่งรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟ จากสถานีรถไฟ Otaru เดินประมาณ 10 นาที

    พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Otaru music box museum)

    ขอบคุณรูปภาพจาก Liveinjapan
    ขอบคุณรูปภาพจาก Liveinjapan
    ขอบคุณรูปภาพจาก Pinterest
    ขอบคุณรูปภาพจาก Pinterest
    เดินกันต่อมาอีกนิด..จะเจอกับพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Otaru Music Box Museum) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เก่าแก่ของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงอย่างมาก
    พร้อมเพลิดเพลินไปกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตก 3 ชั้นที่ถูกสร้างจากอิฐ มีอายุกว่า 100 ปีเลยทีเดียว ซึ่งด้านหน้าจะพบกับอาคารที่มีนาฬิกาไอน้ำจากเมืองแวนคูเวอร์ โดยจะพ่นไอน้ำทุกๆ 1 ชั่วโมงประกอบกับมีเสียงดนตรีดังทุกๆ 15 นาที ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ให้คนได้แวะมาเช็คอินที่นี่เลยทีเดียว
    ขอบคุณรูปภาพจาก Liveinjapan
    ขอบคุณรูปภาพจาก Liveinjapan
    ขอบคุณรูปภาพจาก Liveinjapan
    ขอบคุณรูปภาพจาก Liveinjapan
    ขอบคุณรูปภาพจาก Liveinjapan
    ขอบคุณรูปภาพจาก Liveinjapan
    ภายในอาคารสไตล์ตะวันตกแห่งนี้ก็จะมีของที่ระลึกที่ที่เป็นกล่องดนตรีสวยงามมากมายจำหน่าย นอกจากนี้ก็ยังมีโซนที่ไว้จัดแสดงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของกล่องดนตรีอยู่ในอาคารได้อีกด้วย

    ข้อมูลเพิ่มเติม :

    • เวลาทำการ: 9:00 – 18:00 น. (วันศุกร์และเสาร์ในช่วงหน้าร้อน เปิดถึง 19:00 น.)
    • ค่าเข้าชม: ฟรี
    • การเดินทาง:
      • นั่งรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟ Otaru ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
      • นั่งรถไฟมาลงสถานีรถไฟ Minami-Otaru ใช้เวลาเดินทางเดินประมาณ 10 นาที