กำลังมองหาสถานที่ดีๆ เพื่อหลีกหนีตึกระฟ้าและถนนอันวุ่นวายของญี่ปุ่นในช่วงวันหยุดอยู่ใช่ไหม
ถ้าคำตอบคือใช่ ก็ไม่มีวิธีไหนที่จะเติมพลังใจ พลังกายและจิตวิญญาณของคุณได้ดีไปกว่าการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นพร้อมกับได้สูดอากาศบริสุทธิ์และเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่มีความเขียวขจีสวยงามของชนบทในญี่ปุ่นอีกแล้ว
แน่นอนว่าสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยว คงหนีไม่พ้นการเดินทางไปทำกิจกรรมสนุกๆ บนภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะในฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาว หรือชมวิวที่สวยงามของดอกไม้ผลิบานที่เซระโคเก็นฟาร์มในฮิโรชิม่าตอนช่วงใบไม้ผลิ ซึ่งเหล่านี้เป็นกิจกรรมกลางแจ้งที่มีชื่อเสียงยอดนิยมของประเทศญี่ปุ่น
แต่ที่ญี่ปุ่นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่คุณไม่ควรพลาดอยู่อีกเพียบ ดังนนั้นการเลือกสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นของคุณอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะญี่ปุ่นมีภูมิทัศน์ตามธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมมากมาย และมีสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติที่ได้รับความนิยม และเป็นที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงให้คุณเลือกเพียบ ที่ไม่ว่าคุณจะจิ้มไปที่ไหน ก็น่าไปหมดทั้งนั้น
วันนี้เราได้รวบรวมลิสต์ประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวทางธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่นเด็ดๆ มาไว้ให้คุณเลือกที่นี่แล้ว จะได้ไม่ต้องใช้เวลาในการหารีวิวให้ยุ่งยาก
บอกเลยว่ารวมลิสต์นี้ครบจบทุกรสชาติ ไม่ได้มีแค่ออนเซ็นหรือศาลเจ้าแน่นอน แต่เรารวมมาให้ทุกจุดหมายปลายทางการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นแบบครบทุกฤดูกาลไปเลย
ประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงใบไม้ผลิและฤดูร้อน
ฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นจะเริ่มต้นในเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม อากาศจะอบอุ่น มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10-25 อาศา
ใบไม้ผลิเป็นฤดูกาลที่นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไปกับต้นไม้ที่มีความสวยงามจากการผลิใบบานสะพรั่ง ถือว่าเป็นหนึ่งฤดูกาลที่ได้รับการกล่าวขานว่าสวยงามและน่าเที่ยวที่สุดในญี่ปุ่น
สำหรับกิจกรรมไฮไลท์ของฤดูกาลนี้ก็คือ เทศกาลฮานามิ หรือ เทศกาลชมดอกซากุระ หรือเทศกาลชมดอกซากุระบานนั่นเอง
ในส่วนของฤดูร้อนนั้น จะเริ่มในเดือนสิงหาคม อากาศจะเป็นแบบร้อนชื้นและมีฝนตก อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 27-35 องศา สำหรับเทศกาลไฮไลท์ในฤดูร้อนก็คือ เทศกาลดอกไม้ไฟนั่นเอง
การเดินทางดูดาวและสำรวจป่ายามค่ำคืนในอิริโอโมเตะและเกาะอิชิงากิ
อิริโอโมเตะและเกาะอิชิงากิ เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะยาเอะยามะและใหญ่เป็นอันดับสองในจังหวัดโอกินาว่า
เป็นสถานที่ที่ปกคลุมด้วยป่าทึบและป่าชายเลน ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโอกินาถ้าหากคุณต้องการสัมผัสความมหัศจรรย์ของกิจกรรมกลางแจ้ง
ทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวมักเดินทางมาที่อุทยานแห่งชาติอิริโอโมเตะ อิชิงากิ เพื่อเต็มอิ่มกับประสบการณ์กลางแจ้งหลากหลายแบบ ณ แลนด์มาร์กแห่งนี้ อุทยานล้อมรอบไปด้วยผืนน้ำ นักท่องเที่ยวจึงลงไปพายเรือคายัคได้ทั้งในทะเลและแม่น้ำ รวมถึงดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก และว่ายน้ำในทะเลได้ตามใจชอบ
ส่วนผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่าอาจจะท้าทายตัวเองด้วยเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทางบนเกาะ โดยหนึ่งในเส้นทางเหล่านี้มีระยะทางถึง 20 กิโลเมตรและจะพาคุณตัดผ่านด้านในของเกาะ
หากคุณกำลังมองหาความแปลกใหม่ในการเยี่ยมชมอิริโอโมเตะและอิชิงากิ เราขอแนะนำให้ลองสัมผัสประสบการณ์การดูดาวและสำรวจป่าในยามค่ำคืน
ทัวร์นี้จะพาคุณท่องราตรีไปในป่าชายเลนเพื่อชมภูมิทัศน์ของป่าบนเกาะ และพบกับเหล่าสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในอุทยาน อย่าลืมสังเกตรอบๆ ตัวด้วยระหว่างทาง เพราะคุณอาจจะมีโอกาสพบเห็นสิ่งมีชีวิตกึ่งเขตร้อนที่หายากและน่าหลงใหลอย่างปูมะพร้าว
พายเรือคายัคใสในทะเลสาบชิโกทสึ
ทะเลสาบชิโกทสึเป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และเป็นหนึ่งในสองทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟของอุทยานแห่งชาติชิโกทสึ-โทยะที่เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดินหลังภูเขาไฟปะทุ
พื้นที่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการพัฒนา ยกเว้นชิโจทสึ โคฮัน ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่ผู้คนได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย เช่น การปั่นจักรยาน ดำน้ำตื้น และพายเรือคายัคไปตามชายฝั่งตะวันตกของทะเลสาบ
กิจกรรมอื่นๆ ในลิสต์ของคุณอาจเป็นการพายเรือคายักและล่องเรือในแม่น้ำอันเงียบสงบหรือจะเป็นการเดินชมเส้นทางธรรมชาติตามป่าเขาลำเนาไพรที่เต็มไปด้วยความสวยงามและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สุดๆ
แต่ถ้าใครชื่นชอบกิจกรรมที่ใช้พลังงานเยอะกว่านี้ เราแนะนำให้ไปลองสัมผัสประสบการณ์การพายเรือคายัคแบบส่วนตัวในทะเลสาบชิโกทสึ
สิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับกิจกรรมพายเรือคายัคก็คือ คุณจะได้เพลิดเพลินกับการชมวิวแตกต่างกันสองแบบของทะเลสาบขณะพายเรือ นั่นก็คือ มุมมองเหนือน้ำและมุมมองใต้น้ำผ่านเรือคายัคใส บอกเลยว่าวิวของทะเลสาบชิโทสึนั่นสวยงาม ราวกับยกภาพวาดมาไว้ตรงหน้าเลยทีเดียว
ลุยป่าฝ่าลำธารในแม่น้ำชิราคามิ
ชิราคามิ-ซันจิเป็นที่ตั้งของป่าบีชดึกดำบรรพ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่น้ำตกนี้จะให้คุณได้ใช้เวลาชื่มชมธรรมชาติอันงดงามที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ จากการได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี นักท่องเที่ยวทุกคนจึงไม่พลาดที่จะใส่ ชิราคามิ-ซันจิ ไว้ในจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวธรรมชาติในญี่ปุ่น
ชิราคามิ-ซันจิ แหล่งกำเนิดน้ำพุที่ล่อเลี้ยงชีวิตพืชพรรณสัตว์ป่า
ป่าบีชหนาทึบของแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งนี้คือแหล่งกำเนิดของน้ำพุที่ช่วยหล่อเลี้ยงบรรดาพืชพรรณและสัตว์นานาชนิดที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น
น้ำพุใสเย็นและป่าไม้เขียวขจีของชิราคามิ-ซันจิ ทำให้เส้นทางการเดินทางชมป่าฝ่าลำธารเป็นประสบการณ์ที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่ทุกคนจะต้องชื่นชอบมากสำหรับประสบการณ์นี้ ที่นอกเหนือจากการได้พบปะกับสัตว์นานาชนิดระหว่างทาง คือ ที่นี่ยังมีจุดแวะพักว่ายน้ำที่เราสามารถลงไปแหวกว่ายในสายน้ำใสสะอาดอีกด้วย
บอกเลยว่าการใช้เวลาเพื่อแช่ตัวอยู่ในเย็นๆ นั้นเป็นกิจกรรมที่เหมาะสุดๆ สำหรับการหลีกหนีจากอากาศที่ร้อนระอุของช่วงฤดูร้อน ที่นี่จึงเป็นที่ที่คุณไม่ควรพลาด
เก็บเมล่อนในชิซุโอกะ
มาใช้เวลาไปกับการเก็บ 'มัสเมล่อน' ราชาแห่งผลไม้ของญี่ปุ่นกันเถอะ
รสหวานของฤดูร้อนกำลังร้องเรียกผ่านเมล่อนอันโด่งดังของเมืองชิซุโอกะ นอกจากชาแล้ว ที่นี่เป็นที่ที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับมัสเมล่อนที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย มัสเมล่อนจึงเป็นผลไม้ที่ได้ชื่อว่าเป็น "ราชาแห่งผลไม้" ในญี่ปุ่น
หากถามว่า มันเมล่อนต่างจากเมล่อนปกติยังไง บอกได้เลยว่าเมล่อนระดับพรีเมียมนี้มีความหวานและเนื้อที่ชุ่มฉ่ำมากกว่าเมล่อนฮันนีดิวและแคนตาลูปที่เป็นผลไม้ที่เราคุ้นเคยเสียอีก
ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมมัสเมล่อนจึงเป็นของหวานที่มีความนิยมอย่างมากในฤดูร้อน เพราะช่วยเรียกความสดชื่นได้อย่างมากเลยทีเดียวเมื่อต้องต่อสู้กับอากาศที่อบอ้าว ถ้าคุณได้มาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูร้อนนี้ ก็อย่าลืมลองชิมดูด้วยล่ะ บอกเลยว่าติดใจแน่นอน
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานเมล่อนที่เป็นราชาแห่งผลไม้แสนอร่อยนี้และเยี่ยมชมสวนเมล่อนของที่นี่เพื่อสัมผัสประสบการณ์สนุกๆ ในการเก็บผลไม้ของที่นี่ได้อีกด้วย
กิจกรรมนี้จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับการเยี่ยมชมสวนเมล่อนและจะมีโอกาสพูดคุยกับเกษตรกรผู้ปลูกมัสเมล่อนโดยตรง
นอกจากนี้เหล่าเกษตรกรจะแนะนำบริเวณที่สามารถเก็บเมล่อนและตอบคำถามเกี่ยวกับสวนเมล่อน รวมไปถึงวิธีการปลูกและดูแลเมล่อนอีกด้วย
คุณจะได้ทั้งชิมของอร่อยประจำฤดูร้อนและมีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นของชิซุโอกะไปพร้อมๆ กัน แน่นอนว่าเป็นกิจกรรมที่ห้ามพลาดเด็ดขาด
เคล็ดลับจาก Klook: สำหรับใครที่ต้องการผ่อนคลายหลังเก็บเมล่อนเสร็จ สวนเมล่อนยังตั้งอยู่ใกล้กับบ่อน้ำพุร้อนยอดนิยมอย่างฮามานาโกะ คันซันจิด้วย อย่าลืมนำเสื้อผ้าสำรองมาเผื่อ หากคุณวางแผนที่จะแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อน
ประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
ฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น
ฤดูหนาวของญี่ปุ่นจะเริ่มต้นในเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธุ์ มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 2-10 อาศา ซึ่งทำให้อากาศในญี่ปุ่นนั้นจะหนาวถึงหนาวมากๆ และอาจมีหิมะตกทางภาคเหนือของประเทศและฝั่งทะเลญี่ปุ่น
แต่ในส่วนของทางใต้และฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกนั้น จะมีอากาศที่อบอุ่นมากกว่า ทำให้ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูนี้ต้องใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
สำหรับกิจกรรมยอกฮิตของฤดูกาลนี้ก็คงหนีไม่พ้น การชมความสวยงามของพื้นที่ธรรมชาติที่ปกคลุมไปด้วยกิมมะ กิจกรรมเล่นเจ็ตสกี และแช่ออนเซ็นเพื่อเพิ่มความอบอุ่นนั่นเอง
ชมวาฬในโอกินาว่า
โอกินาว่ามีสถานที่มากมายให้ผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำได้เพลิดเพลินไปกับโลกใต้ทะเลอันสวยงามของมหาสมุทรแปซิฟิก
แต่หากคุณไม่อยากลงไปแช่ตัวในน้ำทะเลเย็นๆ ก็ยังมีโอกาสได้พบเจอสัตว์ทะเลที่น่าสนใจของเกาะแห่งนี้ได้เช่นกัน เพราะตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงเมษายน วาฬหลังค่อมขนาดใหญ่จะมารวมตัวกันและแหวกว่ายอยู่รอบๆ พื้นที่นอกชายฝั่งของเกาะซามามิ ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะโอกินาว่าไปทางตะวันตก 40 กิโลเมตร
การชมวาฬหลังค่อมกลายเป็นกิจกรรมยอดนิยมในช่วงฤดูนี้ คุณไม่เพียงแค่ได้เห็นสัตว์ทะเลชนิดนี้วนเวียนอยู่รอบๆ เรือของคุณเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสพบเจอโลมาว่ายผ่านไปผ่านมาอีกด้วย
เรารู้สึกทึ่งเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเหล่าน้องวาฬพ่นน้ำออกมา ซึ่งสูงราวๆ 3-5 เมตรเลยทีเดียว มาผ่อนคลายไปกับการล่องเรือไป-กลับเกาะ และพบกับเหล่าสัตว์ทะเลที่เป็นมิตร ซึ่งจะทำให้วันพักผ่อนของคุณน่าจดจดไม่รู้ลืม
เคล็ดลับจาก Klook: อย่าลืมเอาเสื้อคลุมและเสื้อผ้าอุ่นๆ เผื่อมาสักชุด เพราะคุณอาจจะหนาวได้หากลงไปเล่นน้ำ
ลุยหิมะชมบึงโกะชิกินุมะในฟุกุชิม่า
แม้ว่าบึงโกะชิกินุมะอันเก่าแก่ของฟุกุชิม่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้ว คุณควรไปเยี่ยมชมสระน้ำหลากสีอันเลื่องชื่อแห่งนี้ในช่วงเวลาอื่นๆ ของปีด้วย
บึงแห่งนี้เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟบันไดในปี 1888 สีของบึงโกะชิกินุมะเปลี่ยนไปตลอดทั้งปี เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพอากาศ ช่วงเวลาของวัน ฤดูกาล มุมมอง และระดับสารของภูเขาไฟที่อยู่ในน้ำ
เมื่อฤดูหนาวมาเยือน สระน้ำจะสวยงามมหัศจรรย์เป็นพิเศษ โดยสีจะเข้มขึ้นตัดกับวิวทิวทัศน์ของป่าที่ปกคลุมด้วยหิมะ เราขอแนะนำว่าวิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจพื้นที่แห่งนี้คือ การเข้าร่วมทัวร์สวมรองเท้าลุยหิมะชมบึง การลุยหิมะชมบึงเป็นกิจกรรมฤดูหนาวที่สนุกและเรียบง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่เดินทางมาพร้อมเด็กๆ
รับรองว่าคุณจะได้ตื่นตาตื่นใจกับทัศนียภาพอันน่าตื่นตะลึงของทะเลสาบที่มีมนต์ขลัง รวมทั้งได้รับรางวัลเป็นรอยยิ้มของคนที่คุณรักที่เพลิดเพลินกับการผจญภัยในฤดูหนาว
ล่องเรือยามค่ำคืนในแม่น้ำโอบิฮิโระ
การล่องเรือในแม่น้ำอาจดูเหมือนกิจกรรมที่นิยมทำกันในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน แต่สำหรับฮอกไกโด การล่องเรือไปตามแม่น้ำโอบิฮิโระในฤดูหนาวเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด
หากคุณต้องการสัมผัสกับความงดงามของทิวทัศน์ธรรมชาติของญี่ปุ่นจริงๆ เพราะในฤดูนี้ คุณมักจะได้เห็นฝูงนกอพยพเข้ามาในบริเวณนี้ เช่น หงส์ขาวที่บินมาไกลจากไซบีเรีย ฉากหลังอันงดงามของนกที่บินโฉบอยู่เหนือศีรษะ พร้อมกับต้นไม้ในป่าที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เป็นภาพที่ยากจะลืมเลือนในระหว่างการล่องเรือ
ลองเข้าร่วมการล่องเรือยามค่ำคืน บรรยากาศยามเย็นและความสวยงามของแม่น้ำโอบิฮิโระจะช่วยเพิ่มความเงียบสงบภายในจิตใจได้เป็นอย่างดี
คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์พลบค่ำที่จะพาคุณดำดิ่งสู่ความเงียบสงบของแม่น้ำ เพลิดเพลินไปกับเสียงของสายน้ำ สายลม และการเคลื่อนไหวของสัตว์ในความมืด ในวันที่อากาศแจ่มใส
การล่องเรือจะยิ่งมีมนต์เสน่ห์มากขึ้น เพราะคุณจะได้เดินทางภายใต้แสงจันทร์และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว หากการหลีกหนีจากความวุ่นวายไปค้นหาความเงียบสงบจากธรรมชาติคือสิ่งที่คุณต้องการสำหรับทริปญี่ปุ่น กิจกรรมนี้คือคำตอบที่คุณกำลังมองหา
เดินบนธารน้ำแข็งในชิเระโทะโกะ
อุทยานแห่งชาติชิเระโทะโกะถือเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติในฮอกไกโดที่สวยงามที่สุดและยังคงความอุดมสมบูรณ์ไว้ได้มากที่สุด จึงควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว
อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่บนคาบสมุทรชิเระโทะโกะซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด เช่น หมีสีน้ำตาล กวาง สุนัขจิ้งจอก และอีกมากมาย
ในช่วงฤดูหนาว ชิเระโทะโกะยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้น เพราะที่แห่งนี้จะกลายเป็นหนึ่งในภูมิภาคใต้สุดของซีกโลกเหนือที่คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การเดินบนธารน้ำแข็งหรือริวเฮียวในภาษาญี่ปุ่น ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่แสนประหลาดของชิเระโทะโกะนี้ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่น เนื่องจากมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธรรมชาติและระบบนิเวศของคาบสมุทร
ส่วนที่น่าตื่นเต้นคืออะไร คุณจะเดินบนธารน้ำแข็งได้ไงล่ะ
นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับธารน้ำแข็งอย่างใกล้ชิดด้วยการสวมชุดดรายสูทและเดินย่ำบนทะเลน้ำแข็งพร้อมไกด์มืออาชีพ ที่จะพาคุณข้ามทะเลและเดินจากน้ำแข็งแผ่นหนึ่งไปยังอีกแผ่นหนึ่ง ชมธารน้ำแข็งเคลื่อนตัวและเปลี่ยนรูปร่างระหว่างทาง ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพลมและคลื่นทะเล
ช่วงเวลาที่เราชอบมากที่สุดคือตอนปีนขึ้นไปบนเนินหิมะและน้ำแข็ง ช่างเป็นประสบการณ์ในดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาวที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุด
เคล็ดลับจาก Klook: สำหรับใครที่อยากได้ความท้าทายเพิ่มเติมจากทัวร์ที่หนาวเหน็บนี้ จะลองลงไปแหวกว่ายในน้ำที่เย็นจัดก็ได้นะ ดรายสูทที่คุณสวมอยู่จะช่วยให้คุณลอยตัวและรักษาอุณหภูมิร่างกายให้อบอุ่นระหว่างลอยตัวอยู่ในน้ำ
มีอะไรให้สำรวจอีกมากมายในญี่ปุ่น
กำลังมองหาแรงบันดาลใจเพิ่มเติมสำหรับการไปพักผ่อนในญี่ปุ่นอยู่ใช่ไหม?
เช็คลิสต์ประสบการณ์ที่ควรลองเมื่ออยู่ในญี่ปุ่นของเรา หรือหากคุณกำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับญี่ปุ่นตะวันตก เราแนะนำให้อ่านบทความประสบการณ์ในเซโตจิและซันอินเพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและประสบการณ์แสนสนุกมากมายนับไม่ถ้วน รับรองว่าคุณจะมีกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นทำตลอดทริปผจญภัยอย่างแน่นอน