• ไปยังแอป
  • เลือกจุดหมายปลายทาง
  • 3 ประเทศที่เหมาะกับคนเที่ยวยุโรปครั้งแรก

    Pio
    Pio
    อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 2023
    ขอบคุณรูปภาพจาก bluejayphoto l เดินทางไปเที่ยวยุโรปสักครั้งในชีวิต เริ่มต้นประเทศไหนดี ไม่ว่าจะเป็น สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี หรือ เยอรมัน

    ขอบคุณรูปภาพจาก bluejayphoto l เดินทางไปเที่ยวยุโรปสักครั้งในชีวิต เริ่มต้นประเทศไหนดี ไม่ว่าจะเป็น สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี หรือ เยอรมัน

    เริ่มต้นปีใหม่แล้ว พร้อมเริ่มต้นทริปใหม่กันแล้วหรือยัง...ใครเก็บที่เที่ยวเอเชียจนครบแล้ว แล้วอยากเปลี่ยนอารมณ์ไปท่องเที่ยวยูโรปสักครั้งในชีวิต ต้องมาทางนี้ วันนี้เราจะพาทุกคนไปชิมสถานที่ท่องเที่ยวยุโรปกันแบบฟินๆ สำหรับมือใหม่หัดเที่ยวยุโรปครั้งแรก!

    เดินทางไปเที่ยวยุโรปครั้งแรกกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ที่ห้ามพลาด !

    ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)

    เที่ยวยุโรปครั้งแรกทั้งที ห้ามพลาดกับประเทศทที่สวยงาม โรแมนติก เต็มอิ่มไปด้วยธรรมชาติเขียวขจี ซึ่งก็คือ "ประเทศสวิตเซอร์แลนด์" จุดหมายปลายทางของใครหลายๆคน ซึ่งข้อดีของการเดินทางไปเที่ยวที่สวิตนั้น ก็คือ สวิตเป็สนประเทศที่มีความปลอดภัยสูง บริการขนส่งมวลชนที่ถูกเชื่อมต่ออย่างครอบคลุมไม่ว่าจะรถบัส รถไฟ เรือ ทุกอย่างสะดวกสบายมากๆ
    แหล่งที่นี่ถือว่าเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยที่สุดในโลก บอกได้เลยว่าสักครั้งในชีวิต ต้องเที่ยวที่สวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น เเล้วคุณจะสัมผัสกับประสบการณ์ที่ทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม

    1.มองเทรอ Montreux เมืองชายฝั่ง ทะเลสาบเจนีวา   

    ขอบคุณรูปภาพจาก whenorwhre l
    ขอบคุณรูปภาพจาก whenorwhre l
    ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ทะเลสาบรูปพระจันทร์เสี้ยวสุดโรแมนติกชื่อดังของ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของ เมืองมองเทรอ (Montreux) เมืองเล็กๆ มีบรรยากาศสุดสโลว์ไลฟ์ ไม่พลุกพล่านเท่ากับเมืองใหญ่ๆ แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รวมที่พักต่างๆ ที่พร้อมบริการนักท่องเที่ยวเต็มที่ เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมสำหรับการไปพักผ่อนต่างแดนเป็นอย่างมาก
    ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) หรือ ทะเลสาบเลอม็อง (Lac Leman) เป็นเมืองได้รับสมญานามว่าเป็น ไข่มุกของริเวียร่าแห่งสวิส มีชื่อในภาษาฝรั่งเศสว่า ทะเลสาบเลมอง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในสวิตเซอร์แลนด์และมีบางส่วนอยู่ในเขตประเทศฝรั่งเศส จึงมีชื่อเรียกภาษาฝรั่งเศสว่า ทะเลสาบเลอม็อง
    ขอบคุณรูปภาพจาก whenorwhre l
    ขอบคุณรูปภาพจาก whenorwhre l
    ชวนทุกคนไปจุดหมายปลายทางสุดโรแมนติก พร้อมสัมผัสวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติ ที่นักท่องเที่ยวยุโรปครั้งแรก ห้ามพลาด ด้วยวิวของทะเลสาบเจนีวาอย่างกว้างขวาง และเทือกเขาแอลป์ที่ตั้งตระหง่านอย่างสวยงามราวกับภาพววาด และนี่คือไฮไลท์ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
    ขอบคุณรูปภาพจาก whenorwhre l
    ขอบคุณรูปภาพจาก whenorwhre l
    นอกจากนี้ ทะเลสาบเจนีวา ยังมีความสำคัญทางด้านคมนาคมมาตั้งแต่สมัยยุคโรมันอีกด้วย จึงไม่แปลกหากจากจะเห็นเรือน้อยใหญ่มาจอดเทียบท่าตลอดชายฝั่ง นอกจากนี้ก็ยังมี ปราสาทชิลยอง (Chateau De Chillon) อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่พลาดไม่ได้ ไม่งั้นก็เหมือนมาไม่ถึงมองเทรอ ปราสาทโบราณที่มีอายุมานานกว่า 1,000 ปี ที่สร้างขึ้นในสมัยซาวอย (Savoy) เพื่อควบคุมการเดินเรือในทะเลสาบเจนีวา ปัจจุบันปรับเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม และศึกษาประวัติศาสตร์ของตัวปราสาท

    2.ทะเลสาบ Lake Brienz, Iseltwald

    ขอบคุณรูปภาพจาก Mushroomtravel l
    ขอบคุณรูปภาพจาก Mushroomtravel l
    Lake Brienz ทะเลสาบสีเขียวมรกตในหมู่บ้าน Iseltwald สุดแสนจะเงียบสงบ เหมาะแก่การเป็นจุดหมายปายทางแห่งการพักผ่อน โดยตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเทือกเขา Alps ในเมืองเบิร์น บรรยากาศถูกรายล้อมไปด้วยทิวทัศน์ของเทือกเขาและปราสาทเก่าแก่ที่สวยงาม เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวบรรยากาศสวยๆ ที่ใครไป เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ต้องไม่พลาด สัมผัสบรรยากาศของผืนน้ำทะเลสาบสีสวย รวมถึงมีปราสาทริมน้ำ ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยงาม ประทับใจสุดๆ
    • เพลิดเพลินไปกับการเดินทางโดยเรือ, รถบัส, รถไฟ และรถไฟชมวิวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้อย่างไม่จำกัดสูงสุด 15 วัน ด้วยบัตร Swiss Travel Pass คลิก
    • ทัวร์ล่องเรือชมวิวในเจนีวา คลิก

    3.สถานีรถไฟ Kleine Scheidegg

    ขอบคุณรูปภาพจาก commons.wikimedia.org l
    ขอบคุณรูปภาพจาก commons.wikimedia.org l
    สถานีรถไฟ Kleine Scheidegg เป็นสถานีรถไฟที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา Kleine Scheidegg ในเขตเทือกเขาแอลป์ ล้อมรอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก และวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาสูงใหญ่และทุ่งหญ้าที่สวยงาม
    ใครที่จะขึ้นไปเที่ยวยอดเขาจุงเฟราก็จะแวะมาเปลี่ยนรถไฟกันที่สถานี Kleine Scheidegg แห่งนี้นั่นเอง วิวโดยรอบสถานีสวยงามมากๆ บวกกับตัวอาคารของสถานี ให้บรรยากาศที่เงียบสงบและสดชื่นจากธรรมชาติโดยรอบไปพร้อมๆ กัน
    • เพลิดเพลินไปกับการเดินทางโดยเรือ, รถบัส, รถไฟ และรถไฟชมวิวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้อย่างไม่จำกัดสูงสุด 15 วัน ด้วยบัตร Swiss Travel Pass คลิก

    4. ยอดเขา Jungfrau

    ขอบคุณรูปภาพจาก jungfrauregion.swiss l
    ขอบคุณรูปภาพจาก jungfrauregion.swiss l
    ยอดเขาจุงเฟรา ยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรปและเทือกเขาแอลป์ และได้ชื่อว่าเป็น Top of Europe โดยมีความสูงถึง 4,158 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยด้านบนนี้ทำให้เห็นวิวที่ถูกจะปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี มีบรรยากาศที่สวยงามและเป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่ควรค่าแก่การมาเที่ยวยุโรปครั้งแรกเป็นที่สุด
    • เดินทางท่องเที่ยวยุโรปได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด กับดีลซิมการ์ด 4G สนใจ คลิก
    • ท่องเที่ยวยูโรปแบบไม่สะดุด ด้วย Wifi แบบพกพา สนใจ คลิก

    5. สะพาน Münsterbrücke, Zurich

    ขอบคุณรูปภาพจาก commons.wikimedia.org l
    ขอบคุณรูปภาพจาก commons.wikimedia.org l
    สะพาน Münsterbrücke สะพานข้ามถนนและเดินเท้า ที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำ Limmat ใจกลางเมืองซูริค และยังเป็นสะพานที่เชื่อมต่อทางเดินไปยังสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย อีกด้วย

    ประเทศอิตาลี (Italy)

    อิตาลีน่าจะเป็นประเทศที่น่าไปเที่ยวไม่แพ้ประเทศอื่นๆ ด้วยความที่เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ ไม่ว่าจะ อาหาร สถาปัตยกรรม บ้านเรือน ไม่ว่าคุณจะไปท่องเที่ยวแห่งไหน คุณก็จะหลงหลักกับความอิตาลีนี้ และที่นี่ยังมีสถานที่เที่ยวครบทุกแนวไม่ว่าจะเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ๆ อย่างโคลอสเซียม หรือจะเป็นความงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ อาทิ ทะเล ภูเขา ทะเลสาบ ทุ่งหญ้า รวมไปถึงความเก่าแก่ของด้านอาหารเชิญชวนให้นักชิมทั่วโลกได้ไปสัมผัส

    1.กรุงโรม (Rome)

    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    เริ่มเมืองแรกที่ กรุงโรม (Rome) เมืองหลวงแห่งประเทศอิตาลี และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่กว่า 2,700 ปี ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก ให้มาชื่นชมเเละดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์ของโลก จากการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ ยกระดับการเที่ยวยุโรปครั้งแรกให้สนุกสนานมากขึ้น ด้วยบัตร Eurail Pass สำหรับประเทศอิตาลี
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    กรุงโรม ถือเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ เป็นแหล่งรวมโบราณสถานที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของประเทศอยู่หลายแห่ง รวมถึงเป็นรากฐานสำคัญของศิลปะและสถาปัตยกรรมตะวันตกอีกด้วย เช่น โคลลอสเซียม (Colosseum) มหาวิหารแพนธีออน (Pantheon) น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) 
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    เป็นต้นอิตาลีเมืองหลวง กรุงโรมได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก นอกจากนี้อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์อย่างพิพิธภัณฑ์วาติกันและโคลอสเซียมยังจัดอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมมากที่สุด 50 อันดับแรกของโลก
    • สนใจ บัตรเข้าชมโคลอสเซียม (Colosseum), จัตุรัสโรมัน (Roman Forum) และเนินเขาพาเลติเน (Palatine Hill) ในโรม คลิก
    • บัตร Rome Explorer Pass โดย Go City คลิก

    2.นครรัฐวาติกัน Vatican City

    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    เมื่อมาเที่ยวกรุงโรมแล้ว ยังไงก็ต้องเข้าไปชมความยิ่งใหญ่อลังการของ นครรัฐวาติกัน (Vatican City) อิตาลีที่เที่ยว ศูนย์กลางแห่งคริสตจักรที่มีสมเด็จพระสันตะปาปา หรือ โป๊ป เป็นประมุข มีไฮไลท์เป็นมหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Basilica) มหาวิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 แต่อาคารที่เราเห็นในปัจจุบันนั้นมีการสร้างใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1626 โดยศิลปินและสถาปนิกชื่อดังแห่งยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) หลายท่าน
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l

    3.เมืองเวนิส Venice

    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    เดินทางท่องเที่ยวประเทศที่เต็มไปด้วยแหล่งที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้ กับสถานที่ท่องเที่ยวอิตาลี ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก” (The Queen of the Adriatic) หรือ “เมืองแห่งสายน้ำ” (The City of Water) ที่นี่ถูกรายล้อมไปด้วยคูคลองถึง 150 สาย รวมถึงตึกอาคารที่มีสีสันสดใสที่เป็นเอกลักษณ์ ตัดสลับกับน้ำทะเลสีฟ้าอย่างลงตัว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังนิยมมาเที่ยวในช่วง เทศกาลเวนิสคาร์นิวัล (Venice Carnival) และกิจกรรมยอดนิยม ก็คือ การล่องเรือกอนโดลา (Gondola) ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเวนิส
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ชมความสวยงามสุดโรแมนติก ณ เมืองเวนิส แห่งนี้ ขณะล่องเรือกอนโดลา ไฮไลท์กิจกรรมที่คุณไม่ควรพลาด
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ไปเที่ยวยุโรปครั้งแรก เมืองสุดโรแมนติกที่สุดในโลกพลาดไม่ได้ พิเศษสุดดีลกิจกรรม ดีลที่พักโรงแรม และทัวร์สุดคุ้ม รายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่

    4.ฟลอเรนซ์ Florence

    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    สุดท้ายของจุดหมายปลายทางแห่งเมืองสุดโรแมนติกนี้ กับเมืองหลวงเก่าของประเทศอิตาลี ได้แก่ เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1865 จนถึง ค.ศ 1871 โดยปัจจุบันเป็นเมืองหลวงของแคว้นทัสคานี (Tuscany) เมืองที่มีความสวยงามไม่แพ้เมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งจุดเด่นของฟลอเรนซ์ก็คือทิวทัศน์ของ แม่น้ำอาร์โน (Arno) ที่มีแม่น้ำไหลผ่านตึกอาคารทรงโบราณโทนสีอบอุ่นและทิวเขาที่สวยงามโดยมี สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) 
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ขอบคุณรูปภาพจาก Roijang l
    ไปเที่ยวยุโรปที่ประเทศอิตาลี ได้อย่างสนุก และคุ้มค่ามากขึ้น เมื่อซื้อดีลกิจกรรม โรงแรมหรือที่พัก รวมถึงทัวร์ตามแหล่งที่เที่ยวสำคัญ ในราคาสุดคุ้ม คลิก

    ประเทศเยอรมัน

    ถ้าพูดถึงเที่ยวยุโรปประเทศไหนดี ที่สามารถเที่ยวได้อย่างครบ ไม่ว่าจะสายเที่ยวแบบไหนในยุโรป ก็ตอบโจทย์ ก็ต้องที่นี่เลย ประเทศเยอรมัน ประเทศที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น เทือกเขา ทุ่งหญ้า ลำธาร หรือแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เช่น พระราชวัง วิหารโบราณ ที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก และที่สำคัญสายคอเบียร์ พลาดไม่ได้การเดินทางตระเวนชิมเบียร์ของโลคอล หรือขาหมูทอด เที่ยวครั้งเดียวเเต่เก็บครบ!
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    เดินทางท่องเที่ยวในยุโรปที่แรก เราไปกันต่อที่เที่ยวเยอรมันที่เมือง ไลพ์ซิก (Leipzig) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐซัคเซิน ประเทศเยอรมนี แถมยังเป็นเมืองสำคัญแห่งหนึ่งของรัฐ เนื่องจากเมืองมีอายุเก่าแก่ที่อยู่มานานกว่าพันปีแล้ว แถมยังมีชื่อเสียงทางด้านของดนตรีและเสียงเพลง เชิญชวนทุกคนสัมผัสความโรแมนติกผ่านเสียงเพลง
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    โดยไฮไลท์กิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวเมื่อคุณมาเที่ยว ห้ามพลาด! การไปชมการแสดงดนตรีของบาคที่โบสถ์เซนต์โทมัส หรือถ้าเป็นนักท่องเที่ยวสนใจในเรื่องของประวัติศาสตร์ รวมไปถึงสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้าง จุดที่น่าสนใจก็ได้แก่ ศาลากลางหลังเก่า อนุสาวรีย์จักรพรรดินโปเลียน ศาลฎีกาเยอรมัน ฯลฯ
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l

    2. เกาะรือเกิน (Rugen)

    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    เกาะรือเกิน (Rugen) เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลบอลติก ไฮไลท์คือมีสะพานรือเกิน และเส้นทางริมน้ำที่เชื่อมต่อระหว่างแผ่นดินใหญ่ จึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปมาระหว่างเกาะได้อย่างสะดวกสบาย
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ อุทยานแห่งชาติ Jasmund National Park ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของ หน้าผาชอล์ก ที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 161 เมตร รวมไปถึงทางเหนือสุดของปลายเกาะ นักท่องเที่ยวยังสามารถไปเยี่ยมชมประภาคารเก่าและหมู่บ้านที่งดงามได้ด้วย
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l

    3. หุบเขาโรแมนติกไรน์ (Rhine Gorge)

    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    แหล่งท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่อไป ก็คือ เส้นทางหุบเขาที่ทอดยาวระหว่างเมือง Bingen และเมือง Bonn โดยที่ตรงกลางมีแม่น้ำไรน์ไหลผ่าน ซึ่งทางธรณีวิทยานั้นเรียกพื้นที่ตรงนี้ว่า ไรน์ฟยอร์ด ที่มีลักษณะโดดเด่นด้วยภูมิทัศน์ที่งดงาม และปราสาทยุคกลางกว่า 40 แห่ง นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านสุดแสนจะงดงามประกอบไปด้วยระเบียงไร่องุ่น ภูมิภาคในแถบนี้ที่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l

    4. เมืองโคโลญ (Cologne)

    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    โคโลญ (Cologne) เมืองที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำไรน์ในรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลีย ซึ่งที่นี่ถือเป็นหนึ่งในเมือง ที่เที่ยวเยอรมัน ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ใฝ่ฝันอยากมาท่องเที่ยวที่ประเทศเยอรมันดูสักครั้งในชีวิต ด้วยความเป็นเมืองเก่าแก่แต่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาจากสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง นอกจากนี้ เมืองโคโลญยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอรมัน ที่น่าประทับใจอีกมากมาย เช่น สัญลักษณ์อันเป็นทางการของเมืองอย่าง มหาวิหารโคโลญ คริสตจักรโกธิคที่สวยงาม ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 12 คริสตจักรโรมันอันงดงามของสถาปัตยกรรมยุคกลาง
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l

    5. เมืองเดรสเดน (Dresden)

    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    เมืองเดรสเดน (Dresden) รู้จักกันในนามของ กล่องอัญมณีแห่งเยอรมนี ด้วยความมั่งคั่ง เเละฟุ่มฟวยทางด้านศิลปะเนื่องจากเมืองนี้ ได้รับการฟื้นฟูจากสงครามเป็นอย่างมาก ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วยุโรปครั้งแรกได้เป็นอย่างดี
    จุดเด่นอยู่ที่ วิหารเฟราเอนเคียร์ชเชอ อันสวยงามนั่นเอง
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l

    6. เมืองลือเบกค์ (Lubeck)

    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    เมืองลือเบกค์ (Lubeck) มีฐานะเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในทะเลบอลติก ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเยอรมนี ในรัฐชเลสวิก-โฮลชไตน์ จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบความสงบและสถาปัตยกรรมในยุคกลาง โดยมีทัศนียภาพของแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เช่น มหาวิหารที่สวยงาม ศาลากลางจังหวัดที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 รวมไปถึง ประตูเมืองเก่า ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอย่าง Holstentor
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l
    ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com l

    📱 ไม่พลาดทุกโปรเด็ด ติดตามคลูกได้ทุกช่องทาง

    Facebook | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthfb
    Instagram | @klooktravel_th 👉🏼 bit.ly/kookthig
    Twitter | @klookth 👉🏼 bit.ly/klooktwitter
    TikTok | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthtt
    Youtube | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthyt

    👤 สอบถามรายละเอียดก่อนจอง

    Line Official Account | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthoa

    💬 ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าหลังการขาย